|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เตือน ปวดข้อศอก อย่านิ่งนอนใจ
อาการ ปวดบริเวณข้อศอกเป็นอาการที่นำผู้ป่วยมาพบแพทย์บ่อยๆ ท่านเคยมีอาการเช่นนี้หรือไม่? ปวดข้อศอกเวลาออกแรงทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น ยกของหนัก ทำงานบ้าน บิดผ้า เป็นต้น และกดเจ็บบริเวณตุ่มกระดูกข้อศอกด้านนอก เราเรียกอาการเช่นนี้ว่า Tennis elbow แต่ถ้าอาการเจ็บอยู่ที่ตุ่มกระดูกข้อศอกทางด้านใน เราเรียกอาการนี้ว่า Golfer elbow โดยพบว่าผู้ป่วยส่วนมากมีอาการของ Tennis elbow มากกว่า Golfer elbow ถึงประมาณ 7 เท่า และพบโรคนี้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเล็กน้อย อายุที่พบบ่อยประมาณ 40-50 ปี และพบเกิดอาการในแขนข้างที่ถนัดมากกว่าประมาณ 2 เท่า
อาการของโรค Tennis elbow นี้แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มที่ 1 เกิดจากการเล่นกีฬาจริงๆ ส่วนมากในกลุ่มนี้จะมีอายุน้อย กลุ่มที่ 2 เกิดจากการทำงานที่เป็นลักษณะใช้งานซ้ำๆ หรือใช้งานหนักๆ เช่น คนทำงานบ้าน ช่างไม้ เป็นต้น ซึ่งในกลุ่มนี้ส่วนมากมีอายุมากกว่ากลุ่มแรก
ปัจจุบัน นี้พบว่าผู้ป่วยที่มาพบแพทย์ส่วนมากเป็นคนทำงานมากกว่านักกีฬา ส่วนสาเหตุของการเกิดโรคยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดในปัจจุบัน แต่เชื่อกันว่าน่าจะเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ 1. มีการฉีกขาดของจุดเกาะกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกระดกข้อมือ (extensor carpi radialis brevis) โดยเป็นการฉีกขาดระดับที่เล็กมากๆ ซึ่งเกิดจากการทำงานซ้ำๆ หรือเกิดจากการทำงานหนักดังที่ได้กล่าวแล้ว 2. เกิดจากความเสื่อมที่บริเวณจุดเกาะของกล้ามเนื้อดังกล่าวข้างต้น เมื่อมีการใช้งานหรือเล่นกีฬาจึงกระตุ้นให้เกิดอาการเจ็บปวดขึ้น
แนวทางในการรักษาสำหรับโรคนี้แบ่งใหญ่ๆ เป็น 2 แนวทาง คือ 1.การรักษาโดยวิธีประคับประคอง (conservative treatment) 2.การรักษาโดยวิธีผ่าตัด (operative treatment)
ผู้ป่วยส่วนมาก (มากกว่า 90%) อาการจะดีขึ้นได้ด้วยวิธีประคับประคอง โดยการรักษาวิธีนี้ยังแบ่งออกเป็น การพักการใช้งานและพักการออกแรงหนักๆ ในแขนข้างที่ปวด (rest)
การให้ยารับประทาน โดยยาที่ใช้เป็นยากลุ่มลดการอักเสบลดอาการปวด อาจเสริมด้วยยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาแก้ปวดกลุ่มอื่นๆ
การใส่สนับข้อศอกเฉพาะโรคนี้ (tennis elbow brace) โดยใส่เพื่อลดแรงที่มากระทบต่อจุดเกาะของกล้ามเนื้อเวลาออกแรงทำงานหรือเล่นกีฬา
การออกกำลังกาย เป็น การออกกำลังกายแบบยืดกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น (stretching exercise) โดยเริ่มออกกำลังกายวิธีนี้หลังจากอาการปวดลดลงแล้วจากการรักษาสองวิธีแรก ประมาณ 3-6 สัปดาห์
การฉีดยากลุ่มลดการอักเสบสเตียรอยด์ ใช้ เมื่อปวดมากหรือรักษาด้วยวิธีต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นแล้วมากกว่า 3 เดือนอาการยังไม่ดีขึ้น โดยฉีดยาเข้าตรงบริเวณข้อศอกตำแหน่งที่เจ็บ ผู้ป่วยส่วนมากอาการจะดีขึ้นหลังฉีดยา
แพทย์ จะพิจารณาผ่าตัดเมื่อให้การรักษาด้วยวิธีประคับประคองแล้วอย่างน้อย 6-9 เดือน แต่ยังปวดมากและอาการไม่ดีขึ้น หรือในกรณีที่ฉีดยาไปแล้วหลายครั้งก็ยังกลับมีอาการอีก (ไม่ควรฉีดยาเกิน 3 ครั้ง) ดังนั้น ถ้าท่านมีอาการดังกล่าวข้างต้นไม่ควรนิ่งนอนใจรีบปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมกระดูก และข้อ เพราะถ้ามีอาการในระยะต้นๆ หรือยังไม่รุนแรงมากสามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีพัก รับประทานยา ใส่สนับข้อศอก และการออกกำลังกาย แต่หากปล่อยไว้หรือมีอาการปวดมากอาจต้องรักษาด้วยวิธีฉีดยาหรืออาจถึงขั้น ผ่าตัดก็ได้
ขอบคุณ ข้อมูลจาก ชุมชนการเรียนรู้ ผ่านทาง teenee.com
Create Date : 11 ธันวาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 11 ธันวาคม 2552 10:52:27 น. |
Counter : 1400 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
เชียงใหม่ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
|
|
|
|
|
|
|