สัตว์เล็กในป่าใหญ่ - บทที่ 9



บทที่เก้า


เสียงนกยามเย็นประสานเสียงร้องเพลงฟังไพเราะเสนาะหูสำหรับมาร์ติน ขณะเดินเรื่อยๆไปตามเขตป่ากับสกิปเปอร์และกอนฟฟ์ อย่างมีความสุขกับอิสระภาพที่เพิ่งได้รับมาหมาดๆ หลังฤดูหนาวที่ทารุณในคุกที่ปราสาทโกตีร์ พวกนากทั้งหลายไม่อยู่นิ่งได้เลย พวกมันเล่นกันเหมือนลูกสุนัขเล็กๆ ไต่ขึ้นไต่ลงและเต้นจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปอีกต้นหนึ่งและจากพุ่มไม้หนึ่งไปอีกพุ่มไม้หนึ่ง สกิปเปอร์สอนมาร์ตินถึงวิธีใช้หนังสะติ๊กอย่างมีประสิทธิผล เขารู้สึกยินดีที่มีลูกศิษย์ที่เฉลียวฉลาดและทำให้นักรบหนูทึ่งกับความชำนิชำนาญในการใช้หนังสะติ๊กของเขา เขาโยนกรวดก้อนหนึ่งขึ้นไปในอากาศแล้วบรรจุกรวดอีกก้อนหนึ่งเข้ากับหนังสะติ๊กอย่างรวดเร็ว โก่งหนังสะติ๊กให้ดีดก้อนกรวดนั้น ออกไปโดนกรวดที่ลอยอยู่ในอากาศก่อนที่มันจะตกลงสู่พื้นดิน สกิปเปอร์ยักไหล่อย่างถ่อมตัว

“มันต้องอาศัยเทคนิคบางอย่าง ไว้วันหลังข้าจะสอนให้ ฮ่า ข้าพนันว่าก่อนจะจบหน้าร้อนท่านก็คงจะสามารถยิงก้อนกรวดเข้าสกัดธนูของศัตรูได้แม่นยำแล้วละ”

กอนฟฟ์เข้ากับพวกนากได้อย่างดี มันสนุกสนานอย่างเต็มที่กับความห้าวหาญและอารมณ์แบบบ้าดีเดือดของพวกนาก เจ้ากอนฟฟ์เลียนเสียงพูดแบบพวกนากได้อย่างไม่มีที่ติ มันบอกมาร์ตินว่า “เหมือนกับพวกเจ้าโง่ที่คุกโกตีร์เลยแหละ”

มาร์ตินก็สนุกสนานเหมือนกัน จากที่เคยเป็นนักรบที่โดดเดี่ยวมาเป็นเวลานานตอนนี้เขาดีใจที่ได้อยู่ในหมู่เพื่อนฝูง สกิปเปอรืให้หนังสะติ๊กและกรวดสำหรับใช้ยิงถุงหนึ่งซึ่งมาร์ตินรับไว้อย่างดีใจ พวกนากสนใจดาบหักที่มาร์ตินห้อยไว้ที่คอ เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พวกมันฟัง และได้รู้ว่าพวกมันก็เกลียดชังนางทซาร์มีน่าเหมือนกัน

สกิปเปอร์บอกว่า “พวกแมวป่าไม่เคยมาวุ่นวายกับพวกเรา ถ้าพวกเรารวมกลุ่มกันก็ไม่มีอะไรไม่ว่าบนพื้นดินหรือในน้ำ จะกล้าทำอันตรายพวกนาก”

เมื่อมองไปรอบๆมาร์ตินก็ค่อนข้างเชื่อว่าเป็นไปได้ เจ้ากอนฟฟืเต้นรำไปข้างหน้าพร้อมกับนากสองตัว ซึ่งซึ่งทำเสียงเหมือนเป่าเขาสัตวืคลอไปกับเสียงร้องเพลงของเจ้าจอมขโมย

ข้าเป็นหนูผู้มีหางยาว
มีหัวใจและเสียงเพลงที่สอดคล้องกัน
ข้าหลบหนีมาจากคุกของนางแมวป่า
มันคงรู้ว่าจับข้าได้ยากนัก
ผ่านไปตามลานหญ้าดอกไม้และใบไม้
ราวกับหมอกควันในสายลม เจ้าชายแห่งหนูหัวขโมย
มาร่วมกันอวยพรเพื่อวันที่เราจะได้เห็น
ป่ามอสฟลาวเวอร์ปลอดภัยและเสรี

ขณะที่มาร์ตินกำลังใช้อุ้งมือเคาะจังหวะตามเสียงเพลงอยู่เขาสังเกตเห็นว่าสกิปเปอร์ฃะลอฝีเท้าลง หัวหน้าตัวนากยืนด้วยท่าทางรวบรวมสมาธิอย่างเต็มที่ เอียงตัวไปทางซ้ายทีขวาทีสูดดมสายลมที่พัดผ่านมา เมื่อเห็นดังนั้นกอนฟฟ์หยุดร้องเพลงและทั้งกลุ่มก็เงียบเสียงลง

สกิปเปอร์กล่าวด้วยเสียงห้าวๆว่า “มีสัตว์กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ไม่ได้มาจากทางด้านหลัง ไกลออกไปทางด้านโน้น พวกนกทางโน้นเงียบเสียงก่อนเพื่อน ข้าคิดว่าน่าจะเป็นพวกแมวป่า” สกิปเปอร์ให้ความเห็น

ตอนนี้มองเห็นร่างหลายร่างที่กำลังเคลื่อนตัวจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่งได้ เมื่อใกล้เข้ามาก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นพวกทหารจากโกตีร์ในชุดทำสงครามเต็มยศนำโดยนางทซาร์มีน่า นางแต่งกายด้วยเสื้อคลุมที่สวยงามและหมวกเหล็กซึ่งปกคลุมหน้าจนหมด ยกเว้นบริเวณดวงตาที่เฉียง หูและปากที่เจาะเป็นช่อง

ทันทีที่สกิบเปอร์คำรามออกคำสั่ง พวกทหารนากทั้งหมดก็กระจายตัวออกตามแบบแผนการต่อสู้ ทุกตัวมีสีหน้าเอาจริงเอาจัง อาวุธพร้อม สกิปเปอร์ยืนตระหง่านอยู่ในที่โล่งที่นางทซาร์มีน่าเห็นเขาได้อย่างชัดเจน อุ้งมือทั้งสองประสานกันอยู่ที่หน้าอก หนังสะติ๊กห้อยอยู่ที่ไหล่ขวาบรรจุกระสุนไว้เรียบร้อย

นางทซาร์มีน่าหยุดอยู่ไม่ห่าง นางยื่นอุ้งมือออกมาแล้วสะบัดเล็บให้เกิดเสียงดังน่ากลัว หันไปทางมาร์ตินและกอนฟฟ์

“เจ้าหนูสองตัวนี่เป็นของข้า ข้าจะเอามันไปจากเจ้า”
เสียงของสกิปเปอร์แข็งกร้าวเมื่อโต้ว่า “ถอยไป นังแมวป่า เจ้าล้ำเข้ามาในถิ่นของข้าแล้ว ที่นี่คือป่ามอสฟลาวเวอร์ ไม่ใช่โกตีร์”
“ดินแดนทั้งหมดนี่เป็นของข้า” นางทซาร์มีน่าทำเสียงข่ม “ข้าคือทซาร์มีน่า ราชีนีแห่งโกตีร์และป่ามอสฟลาวเวอร์ เจ้าหนูพวกนี้เป็นเชลยของข้าที่หลบหนีมา ส่งพวกมันมาให้ข้าเดี๋ยวนี้แล้วข้าจะไม่ลงโทษพวกเจ้า ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปโดยไม่ทำอันตราย”
รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของสกิปเปอร์ “วิ่งหางจุกตูดกลับไปไป๊ นางแมวป่า”

ทซาร์มีน่าพ่นลมหายใจร้อนๆผ่านฟันที่ขบกันออกมาด้วยความโกรธ ในคำพูดที่ไม่เกรงกลัวของเจ้านาก นางชูอุ้งมือให้พวกทหารซึ่งรีบบรรจุลูกธนูเข้ากับคันธนูทันที แต่ทันใดนั้นสัญชาติญาณทำให้นางแมวป่าเงยหน้าขึ้นและทันเห็นเลดี้แอมเบอร์ยืนอยู่บนต้นเอล์มสูงใหญ่ มีหอกด้ามบางๆด้ามหนึ่งในมือในท่าเตรียมพุ่งออกมา ทซาร์มีน่ากระชากร่างทหารพังพอนตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดเข้ามาเป็นเกราะกำบังให้ตัวเองอย่างรวดเร็ว มีเสียงดังเฟี้ยวและเสียงผลุ นางทซาร์มีน่ารับรู้ได้ถึงผลแห่งเสียงนั้นจากร่างของเจ้าพังพอนโชคร้าย ที่โดนหอกที่เล็งมาที่นางเข้าเต็มแรง

ราชินีกระรอกแก้ตัวกับความผิดพลาดนั้นอย่างรวดเร็ว ด้วยการเล็งหอกมาอีกด้ามหนึ่งพร้อมกับร้องตะโกนว่า “วางธนูลงให้หมดเดี๋ยวนี้ เจ้านายของพวกเจ้าจะใช้เจ้าพังพอนนั่นเป็นเกราะได้อีกไม่นาน หอกด้ามนี้ของข้าจะปักเข้าไประหว่างตาสองข้างของนางพอดีถ้าพวกเจ้าไม่วางอาวุธ!”

ทซาร์มีน่าซึ่งยังยึดร่างไร้ชีวิตของเจ้าทหารพังพอนซึ่งมีหอกปักทะลุอยู่ที่หว่างอกไว้มั่น ตะโกนสั่งสมุนว่า “ทำตามที่นางกระรอกบอก”

พวกทหารทำตามคำสั่งโดยพร้อมเพรียงกัน ทซาร์มีน่าปล่อยร่างไร้ชีวิตของเจ้าพังพอนลง สกิปเปอร์ถอยกลับเข้าไปในพุ่มไม้พร้อมกับทหารนากของเขา เขาโบกมือให้แอมเบอร์ “ขอบคุณมากนะคุณหญิง ช่วยตรึงพวกมันไว้ก่อนได้ไหมตอนที่พวกข้าถอยออกจากตรงนี้?”

ทันใดนั้นนางแมวป่ากระโดดเข้ากระชากหอกออกจากศพของเจ้าพังพอนแล้วขว้างตรงไปที่แอมเบอร์

“พวกเราวิ่งออกไปเดี๋ยวนี้เลย!” สกิปเปอร์ร้องสั่งทหารของเขาขณะเดียวกันก็วิ่งตามไปด้วย เลดี้แอมเบอร์มีเวลาเพียงแวบเดียวที่จะโยนหอกในมือทิ้งไปแล้วกระโดดหลบหอกของตัวเองที่นางทซาร์มีน่าพุ่งมาได้อย่างจวนเจียน ทซาร์มีน่าไม่ได้รอดูผลของหอกที่พุ่งไปแต่วิ่งติดตามสกิปเปอร์ไปพร้อมกับพวกทหารของนางพลางตะโกนลั่นว่า “ทางนี้! ไปดักพวกมันตรงพุ่มไม้โน่น!!”

มาร์ตินและกอนฟฟ์วิ่งไปกับพวกทหารนาก สกิปเปอร์เร่งทหารของเขาให้รีบวิ่งผ่านไปตามต้นไม้ต้นเล็กๆ “เร็วเข้า เลดี้แอมเบอร์คงตรึงพวกมันไว้ไม่ได้นาน พวกมันมีจำนวนมากเกินไป ฮ๊าค..พวกมันตามเรามาแล้ว”

ทซาร์มีน่าไม่โง่ นางรู้ว่าพวกเขาจะมุ่งหน้าไปทางใด นางถอยหลังกลับมายังจุดเดิมเพื่อหาทางลัดไปตัดขบวนของสกิปเปอร์ และทันใดนั้นมาร์ตินและกอนฟฟ์ก็พบว่าตัวเองอยู่ริมฝังแม่น้ำสายกว้างที่น้ำไหลแรงและเร็ว สองฝั่งแม่น้ำมีทุ่งหญ้าสูง สกิปเปอร์สบัดอุ้งมือพลางถอนใจยาว “เกือบสำเร็จแล้ว อ้าว..ช้าไปแล้ว พวกมันมานี่แล้ว!”

ทซาร์มีน่ากับพวกทหารบุกฝ่าต้นไม้ออกมาถึงริมฝั่งแม่น้ำและมุ่งตรงมาที่พวกนาก มาร์ตินเห็นได้ชัดว่าคราวนี้คงไม่มีการเจรจาใดๆอีกแล้ว เขาโก่งหนังสะติ๊กเตรียมพร้อมเช่นเดียวกับพวกตัวนากทั้งหมด ก้อนหินปลิวว่อนเป็นห่าฝนไปยังพวกของนางแมวป่าก่อนที่พวกมันจะทันตั้งตัวยิงธนูหรือซัดหอกมา ก้อนกรวดกระทบเป้าพวกศัตรูอย่างจัง บางลูกแล่นไปกระทบโล่ห์ของทซาร์มีน่า ซึ่งทิ้งตัวลงแนบพื้นพลางตะโกนสั่งทหารของนางว่า “หมอบลง หมอบลงแล้วยิงต่อสู้กับพวกมัน!!”

นากสองตัวโดนหอกพุ่งใส่อย่างแรงจนล้มลง ตอนนี้ทหารของสกิปเปอร์ตกอยู่ในวงล้อมระหว่างฝั่งแม่น้ำซึ่งเป็นที่โล่งและตัวแม่น้ำเอง พวกนากส่งกระสุนหนังสะติ๊กอีกระลอกหนึ่งไปให้ฝ่ายศัตรู

คราวนี้ทซาร์มีน่าคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว นางสั่งให้ทหารแถวหน้าใช้โล่ห์กันกระสุนจากฝ่ายตัวนากเอาไว้ในขณะที่ทหารแถวหลังๆซัดหอกผ่านข้ามโล่ห์ของทหารแถวหน้าไปยังข้าศึก หอกส่วนใหญ่พุ่งไกลเกินไป แต่หอกเล่มหนึ่งโดนเป้าหมายคือตัวนากที่กำลังยืนยิงหนังสะติ๊กเข้าอย่างจังจนมันล้มลงตาย

กำลังเสริมมาถึงแล้ว เลดี้แอมเบอร์นำพลธนูกระรอกผ่านต้นไม้เข้ามาและระดมยิงทหารจากโกตีร์ทางด้านหลัง

สกิปเปอร์ฉวยโอกาสตอนที่ทหารของนางทซาร์มีน่าต้องหันกลับไปรับมือกับพวกกระรอก เขาลากมาร์ตินติดมือไปพร้อมๆกับที่รู๊ธ ทหารนากตัวอ้วนคว้าเจ้ากอนฟฟืให้วิ่งตามไป “หายใจเข้าให้เต็มปอด สหาย เราจะลงไปว่ายน้ำเล่นกัน!”

ทหารนากทั้งหมดกระโดดลงไปในแม่น้ำเสียงดังตูมๆแล้วดำลึกลงไป

ทซาร์มีน่ากำลังเผชิญหน้ากับพวกกระรอกที่มีธนูเป็นอาวุธ นางหมุนตัวไปกระชากลูกศรจากคันธนูที่กำลังโก่งอยู่แล้วใช้ฟาดลงไปที่หลังของทหารนากตัวสุดท้ายที่กำลังกระโดดลงน้ำ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้านากก็ยังไปถึงน้ำและดำหายไปได้

เลดี้แอมเบอร์เสียทหารไปมาก นางตัดสินใจถอยอย่างรวดเร็วเพราะตอนนี้พวกนากก็หนีไปได้หมดแล้ว พวกกระรอกก้มตัวหลบหอกและธนูขณะวิ่งลัดเลาะหนีไปตามต้นไม้

ทซาร์มีน่าโห่ร้องก้องฟ้าประกาศชัยชนะ นางวิ่งไปที่ริมฝั่งแม่น้ำร้องสั่งทหารที่กำลังระดมยิงลงไปในแม่น้ำให้หยุด “พอแล้ว! หยุดยิง! พวกมันหนีไปหมดแล้ว อยู่เฉยๆทุกคน”

พวกทหารยืนนิ่งขณะที่นางแมวป่าจ้องมองลงไปที่ก้นแม่น้ำแล้วเดินกลับออกมาจากฝั่ง นางเกาขนไปมาราวกับพยายามทำให้มันแห้ง “เอิ๊ก! ดำปิ๊ดปี๋ แฉะ เปียก---มีแต่น้ำทั้งนั้น น้ำวน น้ำวน อ้อกส์!!”

เมื่อออกมาห่างจากแม่น้ำแล้วนางแมวก็ควบคุมอารมณ์ได้ นางถอดหมวกเหล็กและเสื้อคลุมโยนทิ้งไปแล้วลงนั่งอย่างอารมณ์เสียที่โคนต้นบีช ความมืดย่างกรายเข้ามาเงียบๆ พวกทหารจ้องมองอย่างประหลาดใจกับพฤติกรรมที่แปลกประหลาดของนาง

ทซาร์มีน่าจ้องกลับไปแล้วแผดเสียงว่า “พวกเจ้าจ้องหาอะไร? บร๊อคกับสแครทช์ ฟังข้าให้ดี เจ้าจงกลับไปที่ปราสาทโกตีร์ ไปหานางฟอร์จูนาต้า บอกนางว่าข้าสั่งให้พากลูมเมอร์มาหาข้า พวกเจ้าต้องกลับมาที่นี่ก่อนสว่าง รีบไปเดี๋ยวนี้เลย!”

บร๊อคและสแครทช์ต่างยืนตัวแข็งไม่กระดุกกระดิก ความกลัวทำให้พวกมันกล้าค้านโดยพร้อมเพรียงกัน

“กลูมเมอร์หรือขอรับ คุณหญิง? ท่านคงไม่ได้หมายความว่า…”
“คุณหญิงขอรับ กลูมเมอร์เป็นบ้านะขอรับ!”

นางแมวป่าหยิบเสื้อคลุมมาคลุมตัวแล้วลงนั่งอย่างสบายใต้ต้นไม้ “ข้ารู้ ไอ้พวกโง่ แต่ข้าจะบ้าได้มากกว่ามันถ้าพวกเจ้าไม่รีบกระดิกตัว ไปเดี๋ยวนี้เลย! ทหาร จัดเวรยามเฝ้าดูแม่น้ำด้วย ถ้าพบเห็นอะไรผิดปกติรายงานข้าทันที ถ้าไม่มีอะไรก็อย่ารบกวนข้าเป็นอันขาด จนกว่านางหมาจิ้งจอกจะพากลูมเมอร์มา ถ้าเจ้าบร๊อคและสแครทช์ยังอ้อยอิ่งอยู่ที่นี่ ก็โบยมันด้วยเชือกธนูเลยโทษฐานเกียจคร้าน” ว่าแล้วนางก็ล้มตัวลงนอน ขับกล่อมด้วยเสียงฝีเท้าของทหารพังพอนสองตัวที่เดินทางซอกซอนไประหว่างต้นไม้ต้นเตี้ยๆ

ไม่มีอะไรที่อยู่ในน้ำจะรอดพ้นฝีมือเจ้ากลูมเมอร์ไปได้ วันนี้นางได้ลิ้มรสชาติแห่งชัยชนะแล้ว ดังนั้นนางจะไม่ยอมให้พวกทหารที่ไร้ประสิทธิภาพมาทำให้ชัยชนะนั้นหลุดลอยไปได้เป็นอันขาด เจ้ากลูมเมอร์จะต้องมาช่วยเสริมชัยชนะของนางให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น






















Create Date : 26 กรกฎาคม 2555
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2556 12:57:27 น.
Counter : 1694 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอยสะเก็ด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]



New Comments
Group Blog
กรกฏาคม 2555

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add ดอยสะเก็ด's blog to your weblog]
  •  Bloggang.com