สัตว์เล็กในป่าใหญ่ - บทที่ 11



ดวงอาทิตย์อยู่กึ่งกลางท้องฟ้าพอดี ฝูงผึ้งส่งเสียงหึ่งๆไต่ตอมอยู่รอบดอกไม้ในตอนต้นฤดูร้อนที่เพิ่งมาถึง ต้นโอ๊คสง่างามที่มีขนาดรอบลำต้นมหึมาและสูงเหมือนหอคอย แผ่กิ่งก้านสาขาออกปกคลุมต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นอยู่ในบริเวณนั้น ต่ำลงไปภายใต้กิ่งก้านที่ประกอบด้วยใบไม้เล็กๆสีเขียวและใต้ลำต้นที่เก่าแก่เป็นที่ตั้งของบร๊อคฮอลล์ บ้านของบรรพบุรุษของพวกตัวแบดเจอร์

รากที่ใหญ่โตแข็งแรงและก่ายพันกันไปมาจนหนาทึบของต้นโอ๊คทำหน้าที่เป็นทั้งคานเพดาน เสาค้ำกำแพง ชั้นวางของ และในบางจุดก็เป็นพื้นห้องซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยที่งดงาม ระหว่างรากที่ห้อยย้อยลงมาสองรากเป็นที่ตั้งของประตู ซึ่งอยู่ในระดับพื้นดินและมีทางเดินผ่านห้องต่างๆลงไปข้างล่างซึ่งเป็นห้องทำงานส่วนตัวของเบลล่า ห้องเลี้ยงเด็กและห้องปฐมพยาบาลเล็กๆ สุดห้องเหล่านี้มีทางเดินอีกสายหนึ่งซึ่งเปิดออกไปสู่ห้องโถงขนาดมโหฬาร ตกแต่งไว้อย่างดีด้วยเตาไฟ เตาผิง ที่รับประทานอาหาร และเวิ้งที่จัดเป็นที่นั่งรอบๆผนังห้อง มีประตูอีกหลายบานจากหอ้งโถงนี้ออกไปสู่ภายนอกซึ่งด้านซ้ายเป้นห้องนอนใหญ่และหอพัก ส่วนประตูทางขวาเปิดออกไปสู่ห้องเก็บอาหาร ครัวและห้องเก็บของ ด้านหลังของห้องโถงใหญ่มีประตูลั่นดาลสำหรับหลบภัยและก่อสร้างโดยอาศัยสัญชาติญาณของพวกสัตว์ในป่า

พวกแบดเจอร์เป็นผู้สร้างบร็อคฮอลล์นี้ขึ้นมาในสมัยก่อน และใช้ความวิริยะอุตสาหะอย่างสุดแสน ที่จะทำให้มันมีทุกสิ่งทุกอย่างแบบที่พวกแบดเจอร์ต้องการ ความตั้งอกตั้งใจและทักษะของสัตว์ที่เป็นช่างฝีมือหลายตัวช่วยนำสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายมาให้สถานที่แห่งนี้ ทั้งคบไฟตามกำแพงและเครื่องเรือนแกะสลักสวยๆงามๆ (ซึ่งแน่นอนติดตั้งไว้กับรากไม้เพื่อให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมของมัน) กำแพงห้องฉาบด้วยดินเหนียวสีเหลืองแกมชมพู ซึ่งผ่านการเผาให้ดูขรุขระเป็นธรรมชาติ มีเก้าอี้นวมตัวใหญ่พร้อมโต๊ะกลมบุกำมะหยี่สำหรับวางเท้าในสไตล์ที่พวกแบดเจอร์หลงไหล ตั้งกระจายอยู่ตามมุมต่างๆทั่วห้อง เก้าอี้พวกนี้เป็นที่โปรดปรานของพวกแบดเจอร์หนุ่มสาวมากกว่าเก้าอี้ไม้เมเปิลขัดมันตัวเล็กๆ ที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อพวกมันโดยเฉพาะ นอกจากนั้นก็มีเก้าอี้แบบชนบทที่หน้าตาขึงขังมากมายเพียงพอสำหรับสมาชิกคอริมทุกคน

บรรดาสัตว์ในป่าต่างมาร่วมชุมนุมกันเพื่อพบปะกับพวกหนูที่เดินทางมาจากลอมเฮดจ์ เป็นโอกาสเหมาะที่จะได้รับประทานอาหารเด้วยกัน หัวหน้าสมัชชาคอริมนั่งร่วมกันอยู่ในห้องโถงใหญ่ พวกเด็กทารกถูกนำไปที่ห้องเลี้ยงเด็ก ส่วนพวกเพื่อนๆเข้าไปช่วยกันเตรียมอาหารในครัวที่สวยงามของเบลล่า ทุกคนที่มาทำงานกันอย่างชุลมุน เพราะเบลล่าอยากลองชิมอาหารแปลกๆโดยฝีมือผู้อื่นบ้างหลังจากกินแต่อาหารฝีมือตนเองมานาน

กอนฟฟ์พามาร์ตินเข้าไปแนะนำต่อเบลล่าซึ่งให้การต้อนรับเขาอย่างดี

“ยินดีต้อนรับ มาร์ตินเพื่อนยาก เบน สติคเกิลพูดถึงท่านมากมาย ข้าแน่ใจว่าท่านคงฝากฝีมือนักรบไว้ให้พวกที่โกตีร์ก่อนที่พวกมันจะจับท่านได้ พวกเราจะดีใจมากถ้าท่านจะแบ่งปันพรสวรรค์ของท่านให้พวกเราบ้างในอนาคตข้างหน้า ท่านมาจากแผ่นดินทางเหนือหรือ?”

มาร์ตินพยักหน้ารับขณะจับมือกับนางแบดเจอร์ เบลล่ายิ้มตอบอย่างเข้าใจ

“อ้า ข้าคิดแล้วเชียว แล้วข้าก็เดาว่าท่านคงฝากเขี้ยวเล็บไว้ให้เจ้าพวกหนูและหมาจิ้งจอกพวกนั้นมากทีเดียว ข้าได้ยินมาเยอะเรื่องนักรบจากทางเหนือ มารู้จักกับพวกเพื่อนๆจากทางใต้ของข้ากันถอะ”

เบลล่าพามาร์ตินกับกอนฟฟ์เข้าไปในครัวแล้วแนะนำให้รู้จักกับแม่อธิการจอร์เมนซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเตรียมอาหาร ต่อจากนั้นกอนฟฟ์รับหน้าที่พามาร์ตินไปรู้จักกับเบนและกู๊ดดี้ สติคเกิล

ครอบครัวเม่นสติคเกิลดีใจมากที่เห็นกอนฟฟ์กลับมาได้อย่างปลอดภัย พวกเขาตบหัวเจ้ากอนฟฟ์อย่างแรง การจะกอดรัดแสดงความยินดีไม่สามารถทำได้เนื่องจากอุปสรรคจากขนแหลมๆบนร่างกาย

นางกู๊ดดี้ทั้งตบหัวเจ้ากอนฟฟ์และบ่นว่ามันไปพร้อมๆกัน “โอ้ ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่เจ้ารอดกลับมาได้ เจ้าตัวซุกซน อย่าไปทำอะไรที่จะต้องถูกจับใส่คุกแบบนั้นอีกล่ะ เบนเป็นห่วงเจ้ามากรู้ไหม?”

เบนตบหัวเจ้าหนูจอมขโมยอย่างกระตือรือร้น “เจ้าได้ยินที่กู๊ดดี้บอกแล้วใช่ไหม เจ้าควรทำตัวเหมือนหนุ่มน้อยมาร์ติน แต่ถ้าไม่มีอะไรที่ดีกว่าถูกจับไปขังคุกก็ทำไปเถอะ”

นางกู๊ดดี้พยักเพยิดอย่างเห็นด้วยพร้อมกับทำหน้าเคร่ง กอนฟฟ์จับมือนางไว้แล้วพาเต้นรำไปรอบๆ

ท่านเป็นยิ่งกว่าแม่ของข้า
ท่านเลี้ยงดูข้ามาอย่างดี
ข้าเป็นเหมือนลูกเม่นน้อยๆของท่าน
ไม่มีข้อความใดที่ข้าเอ่ยได้
เมื่อได้เห็นหน้าที่เต็มไปด้วยหนามของท่าน

“เลิกเล่นเสียทีเจ้าหนูน้อย!” กู๊ดดี้ร้องพร้อมกับใช้ผ้ากันเปื้อนลายดอกไม้ผืนเก่าของนางเช็ดนัยน์ตา
กอนฟฟ์โอบไหล่มาร์ตินแล้วพากันเดินจากไป เบนสูดจมูกฟุดฟิด “เกลียดเจ้าตัวโกงนี่ไม่ลงเลย”
“เงียบหน่อย พวกสัตว์ในป่าทั้งหลาย” เบลล่าร้องออกมา “พวกท่านได้ที่นั่งกันครบหรือยัง? อาหารจะเสิร์ฟหลังจากข้าพูดอะไรเล็กน้อยจบแล้ว”

ห้องโถงเต็มไปด้วยพวกสัตว์ในป่าซึ่งนั่งอยู่ตามเก้าอี้ ชั้นวางของ พื้นหน้าเตาผิงและบนพื้นห้อง สกิปเปอร์ฟาดหางดังโครมทำให้เสียงอึกทึกครึกโครมเงียบลง เขาพยักเพยิดให้เบลล่าพูดต่อ

“ขอบใจมาก ข้าขอต้อนรับทุกท่าน พวกท่านคงสังเกตเห็นว่าเรามีเพื่อนใหม่ๆมาร่วมด้วยหลายคน เช่นนักรบมาร์ติน เขาและกอนฟฟ์เพิ่งจะหนีรอดมาได้จากคุกที่ปราสาทโกตีร์ พวกเขาเก่งและกล้าหาญมาก”

หัวหลายหัวหันไปมองมาร์ติน สัตว์บางตัวหลิ่วตา พยักเพยิดและจับมือกับเขา

“และข้าก็ยินดีที่จะแนะนำพวกหนูที่ท่านอาจจะยังไม่เคยรู้จัก” เบลล่ากล่าวต่อ “แม่อธิการเจอร์เมนกับพวกบาทหลวงและแม่ชีของเธอจากลอมเฮ็ดจ์ ข้าคิดว่าแม่อธิการคงอยากกล่าวอะไรสักเล็กน้อย”

มีเสียงปรบมือดังก้องเมื่อนางชีเจอร์เมนลุกขึ้นยืน

“ข้าและสมาชิกขอขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ที่อนุญาตให้พวกเรามาพักที่เขตมอสฟลาวเวอร์ที่สวยงามนี้ เราเป็นผู้สร้างและผู้รักษาที่รักสงบ เรารอบรู้เรื่องการรักษาพยาบาลตามวิถีทางแห่งธรรมชาติ พวกที่เจ็บไข้ได้ป่วย ได้รับบาดเจ็บหรือท่านที่มีลูกเล็กๆที่ร้องไห้โยเย มาให้เรารักษาได้ เราจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยพวกท่าน ท่านเพียงแต่ตอบแทนโดยให้ความเป็นมิตรกับพวกเราเท่านั้น วันหนึ่งข้างหน้าเมื่อพวกทรราชย์ที่ปกครองเราอยู่หมดสิ้นอำนาจไป เราอาจจะมาช่วยกันสร้างชุมชนบ้านเรือน ที่พักอาศัย ที่ทุกคนจะอาศัยอยู่ร่วมกันโดยสันติและปลอดภัยอยู่ในวงล้อมของกำแพง”

เจอร์เมนทรุดกายลงนั่งท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับอย่างเอิกเกริก และเสียงเซ็งแซ่ปวารณาตัวเข้าช่วยเหลือของพวกสัตว์ต่างๆที่มาร่วมชุมนุม ก่อนที่จะมีการห้ามปรามให้เงียบเสียงลงกระรอกหนุ่มตัวหนึ่งก็พูดขึ้นว่า “มีลูกเกาลัดย่างใส่ครีมกับน้ำผึ้งใช่ไหม ข้าได้กลิ่น?”

“ใช่แล้วละ ทำจากตำหรับของพวกลอมเฮดช์ด้วยนะ” เจอร์เมนตะโกนตอบ “เราพูดกันจบหรือยังล่ะ เบลล่า?”
“จบแล้วละ แม่อธิการ ข้าไม่ได้กินเกาลัดย่างตำหรับของท่านมานานแล้ว ทุกคนโปรดนั่งอยู่กับที่ อาหารพร้อมแล้ว”
ทันใดนั้นหนูต้นไม้ตัวอ้วนตัวหนึ่งกระโดดขึ้นสูงด้วยความตกใจ “อู๊วว์ พื้นสั่น!!!”
“ไม่ต้องตกใจ” สกิปเปอร์หัวเราะ “คงเป็นพวกตัวตุ่นน่ะ พวกมันคงได้กลิ่นอาหารของเรา”

อุ้งมือทรงพลังช่วยกันยกพื้นหินออก ในห้องโถงมีแต่ความเงียบ พื้นดินสั่นเล็กน้อยแล้วต่อมาก็มีอุ้งมือคู่มหึมา โผล่ขึ้นมาจากพื้นตามด้วยหัวที่มีขนกำมะหยี่สีเข้มพร้อมนัยน์ตาคู่เล็กๆสีดำสดใส จมูกชื้นๆและปากที่รายล้อมด้วยหนวดหยาบกระด้าง

“แหะ แหะ สวัสดีทุกท่าน ขอโทษนะที่ต้องมาทางอุโมงค์ กลิ่นอาหารไปไกลเหลือเกิน” เจ้าฟอร์โมลโผล่พรวดออกมาอย่างรวดเร็วราวกับกระสุนปืนใหญ่ที่มีขนปกปุยสีดำ ตามหลังมาเป็นพรวนคือฝูงตัวตุ่นที่ยิ้มเผล่ พวกมันส่งเสียงคุยกันด้วยภาษาตุ่นที่ออกเสียงเหน่อๆและกระโชกกระชาก

“โฮ่ เฮลโล่ คุณเบลล่า”
“เยอออออ ได้กลิ่นลูกเกาลัดนั่นไหม?”
“ฮู อาร์ร์ร์ กลิ่นนั่นทำให้พวกใต้อุโมงค์อย่างเราหิวจัง”
“สวัสดี สกิป สบายดีหรือ?”

พวกสัตว์ในป่าชอบพวกตัวตุ่นที่ขยันขันแข็งเหล่านี้มาก พวกเด็กเล็กๆส่งเสียงหัวเราะกันกรีดกราดสนุกสนานกับสำนวนโบราณของตัวตุ่น ซึ่งทำให้พวกมันพากันยิ้มร่าแล้วยิ่งส่งเสียงพูดกันดังขึ้นไปอีก

เมื่ออาหารถูกนำมาเสิร์ฟก็มีเสียงร้องอุทานอย่างตื่นเต้นและเสียงชมเชยดังเซ็งแซ่ ใครบ้างล่ะจะปฏิเสธลูกเกาลัดย่างราดครีมและน้ำผึ้ง หรือขนมเค้กข้าวโอ๊ตผสมถั่วพร้อมซ๊อสลูกเคอแรนท์สีแดงร้อนๆ หรือเนยแข็งทำจากสมุนไพรผสมผักชีวางบนขนมปังลูกโอ๊คพร้อมหัวผักกาดสับ หรือขนมเค้กข้าวบาร์เลย์หอมหวานก้อนใหญ่โรยหน้าด้วยน้ำตาล รวมทั้งเหล้าหมักเดือนตุลาคม น้ำลูกแพร์ น้ำสตรอเบอร์รี่ หรือนมสด

มาร์ตินพูดขณะที่ปากเต็มไปด้วยขนมเค้กและนมสดว่า “ข้าคงเลือกเป็นพ่อครัวมากกว่าเป็นนักรบถ้ารู้ว่าอาหารจะมีรสชาติอร่อยขนาดนี้”

กอนฟฟืยิ้มกว้างและพยายามตอบทั้งๆที่หน้าตาเลอะเทอะไปด้วยลูกเกาลัด น้ำผึ้งและน้ำสตรอเบอร์รี่ “มมมฟฟฟ ท่านไม่ควรพูดเมื่อมีอาหารอยู่เต็มปาก”

เบลล่านั่งรวมกลุ่มอยู่กับพวกระดับหัวหน้าของคอริม พวกเขาพูดคุยกันไปเรื่อยๆระหว่างกินอาหาร “ข้าคิดว่าในอนาคตพวกเราควรจะอยู่ร่วมกันที่บร๊อคฮอลล์นี้---โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ไม่สามารถปีนป่ายต้นไม้หรือพวกที่ว่ายน้ำไม่เป็น เพราะอาจจะถูกนางทซาร์มีน่าหรือพรรคพวกของมันจับเอาตัวไปได้ไม่ช้าก็เร็ว”

“อืมม์ เป็นความคิดที่ดี” สกิปเปอร์เห็นด้วย “ถ้าอยู่ที่นี่ก็ปลอดภัย เพราะพวกแมวไม่รู้จักบร๊อคฮอลล์ แต่นั่นไม่รวมถึงพวกของข้าและพวกของเบลล่า พวกเราไม่หวาดกลัวจนต้องเผ่นหนีทันทีที่ได้กลิ่นอันตรายที่ใกล้เข้ามา”

“ใครๆก็รู้ว่าเจ้ากล้าหาญ สกิปเปอร์” แม่อธิการเจอร์เมนเอ่ยขัดขึ้น “พวกเราอาจจะตื่นตระหนกล่วงหน้าไปหน่อย ถ้าพวกสัตว์ในป่าทั้งหมดมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่นางแมวป่าตัวนั้นก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งเฉยๆ ทำไมเราไม่ส่งสายสืบของเราไปดูล่ะว่ามันมีแผนการอย่างไรต่อไปจะได้ตั้งรับหรือตอบโต้ได้ทันท่วงที ท่านคิดว่าอย่างไรล่ะ มาร์ติน? ท่านเป็นนักรบไม่ใช่หรือ?”

มาร์ตินซึ่งนั่งฟังอยู่ด้วยรีบกลืนอาหารลงไปในคอ “ข้าคิดว่าความเห็นของพวกท่านเข้าทีและมีเหตุมีผลดี เราน่าจะลอง แต่สันติภาพไม่ใช่ลูกนัทหรือลูกแอปเปิลที่จะตกเรี่ยราดรอให้เราเก็บเอามากิน นางแมวป่ายังอยู่ ปราสาทโกร์ตีก็ยังไม่หายไปไหนไม่ว่าเราจะหลับตาหรือลืมตา เราจะต้องต่อสู้ขับไล่พวกมันออกไปจากดินแดนนี้ไม่ช้าก็เร็ว เมื่อถึงตอนนั้นเราจึงค่อยพูดกันถึงการก่อสร้างบ้านเมืองและสันติภาพ”

ทั้งสกิปเปอร์และเลดี้แอมเบอร์พร้อมใจกันตบไหล่มาร์ติน

“เอาทีละเรื่องแล้วกัน” เบลล่าแนะนำ “เรื่องแรกเราต้องมีสายสืบเก่งๆเพื่อหาข้อมูลให้เรา ถ้าเรารู้จักศัตรูของเราดีขึ้นเราก็จะรู้จุดอ่อนของพวกมันได้ไม่ยาก”

เจ้าเฟอร์ดีกับเจ้าคอกส์เดินอย่างผึ่งผายเข้ามาพยายามทำท่าเลียนแบบพวกนักรบพร้อมๆกับทำท่าลึกลับไปด้วย “ได้ยินว่าพวกท่านกำลังต้องการสายสืบเก่งๆสักสองคน คุณเบลล่า”

ก่อนที่จะมีใครทันหัวเราะออกมาสกิปเปอร์ก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปรอบๆเจ้าตัวน้อยทั้งสองพลางพินิจพิจารณาพวกมันซึ่งยืนตัวตรงแหนวเตรียมพร้อมราวกับเป็นพวกนายทหาร สกิปเปอร์มองพวกมันตั้งแต่หัวจรดเท้า

“โฮ้ว ตกลง ข้าจำเจ้าเด็กน้อยสองตัวนี่ได้--- เจ้ายามที่เข้มแข็งดุร้ายที่สุดที่ยืนยามที่บ้านของพวกสติคเกิล ข้าได้ยินว่าพวกตัววีเซอร์กับพังพอนพากันตัวสั่นงันงกเมื่อคิดว่าเจ้าจะเข้าโจมตีโกร์ตี เลดี้แอมเบอร์ เราควรจะให้พวกมันเป็นสายสืบให้เราไหม?”

นางกระรอกทำหน้าตาเอาจริงเอาจังพร้อมกับส่ายศรีษะไปมา “สายสืบเป็นงานที่ง่ายเกินไปสำหรับนักรบเช่นเจ้าสองตัวนี่ ดูจากงานยืนยามที่เข้มแข็งของพวกมันที่บ้านของพวกสติคเกิลแล้วข้าคิดว่าเราควรจะเลื่อนตำแหน่งเจ้าเม่นน้อยสองตัวนี่ให้เป็นกัปตันดูแลความปลอดภัยที่บร๊อคฮอลล์นี่จะเข้าทีกว่านะ”

เจ้าเม่นน้อยทั้งสองตัวพองด้วยความภูมิใจ มันรีบออกไปหาเหรียญตราประจำตำแหน่งให่ทันที

กอนฟฟ์เสนอว่า “สายสืบที่เก่งที่สุดที่ข้ารู้จักคือเจ้าชิบบ์”
มีเสียงคัดค้านดังขึ้นทั่วไป
“ชิบบ์ไม่ใช่พวกเรา”
“มันเป็นนก”
“เราต้องจ่ายเงินค่าจ้างให้มันนะ”
“ข้าไม่มีวันไว้ใจนกโรบิน”
“ทำไมไม่เลือกพวกเรากันเองล่ะ?”

เบลล่าทุบมือลงบนโต๊ะจนฝุ่นที่จับอยู่ฟุ้งกระจายและเสียงเซ็งแซ่เงียบลง

“กอนฟฟ์พูดถูกแล้ว ไม่มีใครนอกจากชิบบ์ที่จะเข้าไปใกล้ปราสาทโกร์ตีได้ ถ้าเจ้าชิบบ์ต้องการค่าจ้างเราก็จะจ่ายให้มัน ข้าคิดว่าเป็นความคิดที่เข้าท่า”
“เฮอะ นก! ให้มันเป็นสายสืบก็ดีเหมือนกัน เราจะได้ไม่ต้องไปทำเอง แล้วเราก็ไม่มีปีกสำหรับบินด้วย”

ไม่มีใครสามารถปฏิเสธเหตุผลของฟอร์โมลได้ สัตว์ทุกตัวลงมติเป็นเอกฉันท์โดยการชูอุ้งมือขึ้นเลือกเจ้าชิบบ์เป็นสายสืบ

เบน สติคเกิล ผู้ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่อพยพออกจากดินแดนของพวกโกร์ตีพูดให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่เขาประสบมา

“ข้าไม่สันทัดเรื่องการสู้รบหรือการสืบหาข่าวแต่ข้ารู้ว่าการมีสายสืบเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ข้าและครอบครัวของข้าจะไม่มีวันกลับไปเป็นทาสของเจ้าพวกแมวป่าอีกแล้ว ข้ายอมตายเสียดีกว่า แต่เราควรปรึกษาแม่อธิการเจอร์เมนด้วย อย่าเพิ่งด่วนสรุป สงครามมีแต่จะทำให้พวกสัตว์ต้องล้มตาย แต่เมื่อจำเป็นเราก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งผลีผลาม เราควรมุ่งเรื่องความปลอดภัยของพวกเราเอาไว้ก่อน พวกเราต้องปกป้องตัวเองและครอบครัวไม่ให้มีอันตราย ข้ายังอยากมีชีวิตอยู่จนเห็นเจ้าตัวเล็กของข้าเติบโตจนเลี้ยงตัวเองได้ ข้าไม่ต้องการให้พวกทหารมาอ้างว่าไร่นาของเราเป็นของพวกมัน แล้วเก็บภาษีจากเราครึ่งหนึ่งของผลผลิตที่เราทำได้ มันไม่ถูกต้อง ไม่ยุติธรรม ข้ารู้ว่าพวกหัวหน้าที่โกร์ตีต้องลำบากแน่ตั้งแต่พวกเราหนีออกมา นางแมวป่าและทหารของมันอาจจะเดินทัพได้ทั้งปี แต่พวกมันไม่มีข้าทาสที่จะรับใช้ทำไร่ทำนาให้แล้ว และพวกมันก็ทำไร่ทำนาไม่เป็น ในที่สุดพวกมันก็จะต้องอดตายไปเอง"

เบนสรุปอย่างมีเหตุมีผล




Create Date : 05 สิงหาคม 2555
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2556 11:03:57 น.
Counter : 1836 Pageviews.

1 comments
  
อ่านแล้วงง แต่ก็ขอบคุณ

Espressione Classic Espresso, 150-Count Pods
Frieling Brushed Stainless Steel French Press, 36-Ounce
Caffe D'arte Firenze Northern Italian Blend Expresso, 45mm-Hard Espresso Pods (Pack of 120)
Cuisinox Milano 6 cup Espresso Coffeemaker
Chef's Choice 695 Electric French Press, Black
BUNN BXW Velocity Brew 10-Cup Home Coffee Brewer, White
Chemex Six Cup Handblown Glass Coffee Maker - 6 Cup Coffee Maker
Gracie Bone China 11-Piece Tea Set, Purple Pansy
BonJour French Press Triomphe 8-Cup Double Wall Insulated Stainless Steel
Keurig B145 OfficePRO Brewing System
Espro Press 8 Oz Stainless Steel Coffee Brewer
DeLonghi Kmix 5-Cup Drip Coffee Maker, Stainless Steel
Eva Solo Cafe Solo Coffee Maker with Neoprene Cover, 1-Liter, Black
Bodum Chambord 8-Cup French Press Coffee Maker, Gold
Lucaffe' Classic 150 Espresso Pods
Gracie China Butterfly 11-Piece Porcelain Tea Set, 4-Cup Teapot Sugar Creamer and Four 6-Ounce Cups and Saucers
Gracie Bone China 11-Piece Tea Set, Pink Grace's Rose
Eva Solo Cafe Solo Coffee Maker with Neoprene Cover, 1.4-Liter, Black
Capresso CM200 10-Cup Programmable Coffee Maker, Black
Aloha Island Coffee KONA-POD, Private Reserve Diamond, 100% Kona Coffee,, 36 - 10g pods
BUNN NHBBD Velocity Brew High Altitude 10-Cup Home Coffee Brewer, Black
Cuisinox Liberta 6 cup Espresso Coffeemaker
Chemex 1 to 3 Cup Hand blown Glass Coffee Maker - One to Three Cup Coffee Maker
Cuisinox Liberta 3-cup Stainless Steel Stovetop Espresso Maker
Chemex Eight Cup Handblown Glass Coffeemaker - 8 Cup Coffee Maker
Caffe D'arte Decaf Italian Espresso Blend, 0.25-Ounce Single Serve Espresso Pods (Pack of 120)
Bodum Columbia 32-Ounce Thermal Tea Press, Stainless Steel
CBTL Kaldi S04 Single Cup Brewer, Gold/Silver
Alessi Moka Stovetop Espresso Maker - 3 Cups
Hario CafePresso French Press
โดย: Homevakim วันที่: 5 สิงหาคม 2555 เวลา:11:04:17 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอยสะเก็ด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]



New Comments
Group Blog
สิงหาคม 2555

 
 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add ดอยสะเก็ด's blog to your weblog]
  •  Bloggang.com