เธอดูแก่กว่าอายุจริงหรือเปล่า?
มีใครเคยลองสังเกตดูบ้างไหมว่า เรื่องอะไรที่ถูกทัก จากคนรอบข้างมากเป็นพิเศษ ทั้งคนรอบข้างนอกบ้าน อันได้แก่เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกน้อง และคนรอบข้างที่อยู่ภายในบ้านน้อยที่น่ารักร่วมกัน อันได้แก่ สามี ภรรยา บุตร ธิดา เป็นต้น เรื่องที่ ถูกทักกันบ่อยมากๆ น่าจะได้แก่ เรื่องดูหนุ่มสาวกว่า อายุจริง กับเรื่องดูเหมือนเราจะแก่กว่าอายุจริง
ทักว่าหนุ่มสาวกว่าอายุจริง คงเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา แต่ถ้าถูกทักว่าแก่กว่าอายุจริง ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริง แต่เกือบทุกคนคงไม่อยากได้ยินเท่าไหร่ ส่วนมากอยากได้ยินในสิ่งที่ตัวเองอยากได้ยิน มากกว่า ได้ยินเรื่องจริง แต่ความจริงย่อมหนีความจริงไปไม่พ้น เราจึงควรมาค้นหากันดีกว่าว่า ทำยังไงไม่ให้ดูแก่กว่า อายุจริง ดีกว่าคอยวิ่งหนีความจริงกันร่ำไปนะคะ
การจะทำไม่ให้ดูแก่กว่าอายุจริง คงมีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ถูกแรงโฆษณาว่าทำได้สารพัด แต่ส่วนมากที่โฆษณา กันอยู่นั้น มักจะเน้นกันที่ใบหน้าให้ดูอ่อนกว่าวัย เพราะ ใบหน้าเป็นส่วนที่สายตาทุกคู่หันมามองดูกันเป็นส่วนแรก จึงไม่ต้องแปลกใจอันใดที่การโฆษณา จึงมุ่งไปที่ทำให้ ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยกันเยอะแยะ แต่ที่อยากจะแนะนำ ให้ทำกันในวันนี้ อยู่ที่จะทำยังไงไม่ให้ดูแก่กว่าวัย ที่ออกมาจากภายในจิตใจมากกว่า เพราะการฝึกหัดให้ เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือไม่เปลี่ยนแปลงของร่างกาย จากภายในจะช่วยให้คงสภาวะได้อย่างยั่งยืนมากกว่าค่ะ
สิ่งที่จะช่วยทำให้ดูแก่กว่าอายุจริง ประการแรก คือ คิดมาก
อุปสรรคสำคัญที่ผลักดันให้คนเราดูแก่กว่าอายุจริง เป็นอย่างมาก คือ เรื่องคิดมากนี่แหละ คิดสารพัดเรื่อง ที่เข้ามาในชีวิต และมักจะคิดไปในด้านลบ จิตใจจึงพบ แต่ความหดหู่ ดูไม่จืดกันเลยทีเดียว ใบหน้าจะเหี่ยวย่น ปนหมองคล้ำ บางที่จะออกดำๆ มากกว่าที่ควรจะเป็น เสียด้วยซ้ำ บางทีเรื่องเล็กนิดเดียว แต่เที่ยวคิดแล้วคิดอีก จนกลายเป็นคิดมาก สร้างความลำบากใจให้ตนเอง โดยใช่เหตุ เป็นเหตุให้เกิดอาการเครียดโดยไม่รู้ตัว บางคนมักชอบเถียงว่าถึงจะคิดมากแต่ก็ไม่เครียด แต่คิดมากเพื่อความรอบคอบ ขอตอบตรงไปตรงมาเลยว่า ถ้าเริ่มเป็นคนคิดมากเมื่อไหร่ ก็มักจะหนีไม่พ้น ความเครียดถามหา และจะดูแก่กว่าอายุจริงแน่นอน
ประการที่สอง คือ คิดเล็กคิดน้อย
คนคิดเล็กคิดน้อย มักจะเป็นคนประเภทหยุมหยิม ไม่รู้จักปล่อยวาง อะไรขวางหน้าจะเอามาคิดหมดทุกเรื่อง ทำให้เปลืองหัวสมองโดยใช่เหตุ เมื่อหัวสมองถูกสนองตัณหา เอาทุกเรื่องมาคิดเล็กคิดน้อยซะหมด ใบหน้าก็จะหดจะเหี่ยว เกินกว่าที่ควรจะเป็น มันไม่เป็นผลดีเลยเห็นมั๊ยหละคะ แต่เส้นแบ่งระหว่างคนที่ชอบคิดเล็กคิดน้อยกับ คนละเอียดรอบคอบ ก็หาคำตอบให้พอดีลำบากเหมือนกัน สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงจึงอยู่ที่ความพอดี และต้องมีความคิด ที่จะปล่อยวางซะบ้าง จะช่วยสร้างภูมิต้านทานไม่ให้ดูแก่กว่า อายุจริงได้มาก ขอฝากไว้อีกหน่อย คือ สิ่งที่ได้ยินบ่อยๆ คือ คนคิดเล็กคิดน้อย มักเป็น คนขี้บ่น และคนขี้บ่นมักจะจัดอยู่ใน ประเภทคนแก่ แม้อายุจะไม่มากก็ตาม ใครไม่อยากมีคำจำกัด ความเหมือนอย่างที่บรรยายมาก็อย่าคิดเล็กคิดน้อยก็แล้วกัน
ประการที่สาม คือ คิดคนเดียว
คนที่ชอบคิดคนเดียว ก็จัดอยู่ในประเภทที่หวาดเสียว จะเป็นคนที่ดูแก่กว่าอายุจริงได้ง่าย เพราะคนคิดคนเดียว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร มักจะไม่มีทางออกเวลาคับข้องใจ เมื่อหันไปทางไหนไม่เจอใครเลยทำให้เครียด คนประเภทนี้ มักไม่ค่อยมีเพื่อนหรือคนที่รู้ใจ ชอบทำอะไรคนเดียว และเป็นคนชอบโดดเดี่ยวตัวเองออกจากสังคม เมื่อคิดอะไรสะสมไว้คนเดียวนานๆ ประกอบกับไม่มี ความสนุกสนานอยู่ในหัวสมอง จึงมองออกได้ไม่ยากว่า คนประเภทนี้หนีไม่พ้นที่จะต้องเป็นคนที่ดูแก่กว่าอายุจริง
ประการที่สี่ คือ คิดทั้งคืน
ชีวิตคนเราไม่ว่าจะยากดีมีจนก็เป็นคนที่ต้องการพักผ่อน นอนหลับเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าคนรวยนอนน้อย คนจนนอนมาก แต่มีคนอยู่ประเภทหนึ่งซึ่งดูแก่กว่าอายุจริงมาก มักจะคิดทั้งคืน ไม่ยอมนอนหลับพักผ่อน เมื่อพักผ่อนไม่พอ หน้าตาก็จะดูอิดโรย ริ้วรอยบนใบหน้าก็จะถามหาเร็วกว่ากำหนด ใครที่รู้ตัวว่า ชอบคิดทั้งคืน ต้องรู้จักฝืนใจตนเอง เวลาล้มตัวลงนอน เมื่อหัวถึงหมอน ต้องคิดแต่เรื่องพักผ่อนอย่างเดียว อย่าเอาเรื่องต่างๆ มาคิดให้รกสมองเวลานอนเป็นอันขาด ถึงจะเป็นเรื่องสำคัญขนาดไหน ก็ต้องเก็บเข้าคลังสมองไว้ก่อน พอตื่นนอนแล้วค่อยชักออกมาคิดต่อ แต่ถ้าคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ จริงๆ ต้องคิดทันที ก็อย่าเพิ่งผลีผลามรีบนอนให้หัวถูกหมอน เป็นอันขาด ควรจะนั่งคิดไตร่ตรองเรื่องนั้นๆ จนพอใจแล้ว จึงหันไปนอน ถ้าสอนใจตัวเองไม่ให้คิดทั้งคืนได้เช่นนี้ โอกาสที่จะดูแก่กว่าอายุจริงก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้มาก
ของฝากทั้ง 4 ประการที่นำมา ฝากไว้ให้คิด และฝึกจิตปฏิบัติ ให้ได้ในวันนี้ เป็นเพียงการบังคับจิตใจให้อยู่ในกรอบที่ควรจะเป็น ไม่ใช่เรื่อง เร้นลับ อะไรที่เกินกว่าคนธรรมดาสามัญอย่างพวกเรา จะเอาไปปฏิบัติได้ จึงขอฝากไว้เป็นของขวัญให้ทุกๆ ท่านดูดี ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าแก่กว่าอายุจริง แต่ถ้าจะดูแก่เท่าอายุจริง ก็เป็นสิ่งที่ธรรมชาติกำหนด อย่าไปหดหู่ใจ ทำจิตใจให้ผ่องใส ย่อมช่วยทำให้ไม่ดูแก่กว่าอายุจริงอย่างแน่นอน ทั้งหมดนี้ เป็นข้อพึงสังวรสำหรับคนที่ไม่อยากแก่กว่าอายุจริงทั้งหลายก็แล้วกัน
ที่มา...เนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ 16 ฉบับที่ 5490 (361) วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 อ้างอิงใน //www.elib-online.com จ้า
Create Date : 30 มิถุนายน 2551 |
|
66 comments |
Last Update : 30 มิถุนายน 2551 8:22:57 น. |
Counter : 823 Pageviews. |
|
|
|
ที่หนึ่งคุณหอมก็ได้เนอะ