Aston : Dining Room & Bar @Sukhumvit 31
ชื่อร้าน : Aston : Dining Room & Bar @Sukhumvit 31 รายการอาหาร : chef table ที่ตั้งร้าน : Sukhumvit 31, กรุงเทพมหานคร วัฒนา Thailand พิกัด GPS : 13° 44' 26.79" N 100° 34' 3.35" E
หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ Gastro Bar ที่ตั้งอยู่ใน CDC นาม Aston นะครับ ตอนนี้ร้าน Aston ย้ายทำเลมาอยู่ใจกลางเมือง คือ สุขุมวิท 31 เปลี่ยน concept ของอาหารให้ refined มากขึ้น คือกลายเป็น Aston : Dining Room & Bar นำเสนอประสบการณ์การทานอาหารแบบ chef table มีเชฟมาปรุงอาหารในครัวเปิดให้ดูตรงหน้าเลย ตอนเสิร์ฟอาหารก็จะเดินมาอธิบายลักษณะและแนวคิดของอาหารแต่ละจานให้เราได้ความรู้เรื่องอาหารด้วยครับ
ตัวร้านตกแต่งข้างนอกด้วยโครงปูนเปลือยแบบดิบๆ เปิดพื้นที่ให้พืชตระกูลเถาเจริญงอกงาม จนเหมือน fortress ในหนังยังไงยังงั้น
ภายในตัวร้าน ห้องครัวกินพื้นที่ขนาดค่อนข้างกว้าง มีเคาท์เตอร์ประกบข้างห้องครัวให้ได้ชมลีลาการปรุงอาหารของเชฟแบบชิดขอบสนาม
อาหารเป็นคอร์ส ราคา 2800B บวก wine pairing ก็เพิ่มเข้าไปอีก 1700B ตัวเมนูจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวัตถุดิบของแต่ละฤดูกาล เมนูในรีวิวฉบับนี้เป็นของวันที่ 23 ธค. 2014ครับ
อาวุธสำหรับมื้อนี้ หนึ่งชุดต่อหนึ่งคน เพราะอาหารจะมีหลายจาน เลยต้องมีช้อน/ส้อม/มีดไว้หลายๆชุด
จานแรก (บวกเพิ่มอีก 120บาท) Oyster - Cucumber, Ponzu, Seagrape หอยนางรมสดๆจาก Ireland ราดด้วยเจลลี่ Ponzu ซอสเปรี้ยวของญี่ปุ่น มาพร้อม Seagrape หรือ Umibudou สาหร่ายพวงองุ่นกรุบกรอบ ตัวหอยหวานสดอร่อยมากเลยครับ
Baby Prawn - Capellini, Seaweed pesto Cold pasta จัดเสิร์ฟได้เท่ห์มาก คือ จานเป็นขวดไวน์เอามาผ่าครึ่ง Capellini เส้นเรียวกรุบกรอบ กุ้งทอดกรอบเค็มๆมันๆตัดรสด้วยซอส Seaweed pesto รสเปรี้ยว แปลกใหม่มากๆ
Bread - Freshly Baked, French Butter 2 จานแรกเหมือนจะเป็นแค่ amuse bouche ตอนนี้ก็เลยเป็นจังหวะเสิร์ฟขนมปังอบใหม่ๆ เนยจากฝรั่งเศสที้สิร์ฟมากด้วยหอมมาก(เหมือนเค้าจะ whip มาหน่อยๆด้วย ให้มีอากาศจะได้ปาดเนยง่าย) โรยด้วยเกลือ Himalayan Black Salt
Bellota Ham - Green Asparagus, Aged vinegar, Truffle Mayonaise คำว่า Bellota เป็นภาษาสเปนแปลตรงๆตัวว่า Acorn หรือลูกโอ๊ค Iberico (หมูดำ) ที่เลี้ยงด้วยลูกโอ๊คจัดเป็นหมูคุณภาพดีมีรสชาติเข้มข้นและไขมันแทรกเยอะ เมื่อนำหมูที่เลี้ยงด้วยลูกโอ๊คมาทำเป็นแฮมจะเรียกว่า Jamon Iberico de bellota จัดเป็นแฮมจากหมู Ibericoชั้นดีและราคาแพงที่สุด จานนี้เชฟจับคู่ Jamon Iberico de bellotaให้ทานกับ Asparagus ต้นอวบๆรสหวานจากออสเตรเลีย ปรุงด้วยน้ำส้มสายชูและมายองเนสใส่ทรัฟเฟิล เป็นสลัดที่อร่อยลงตัว
Foie Gras Pineapple, Gingerbread, Coconut, Cashew Nut ตับห่านทอดกรอบนอกฉ่ำใน มาพร้อมคุกกี้ Gingerbread ป่นอบกรอบ และ pineapple confit ทานแล้วเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ จานนี้ผมชอบไอเดียของ Gingerbread มากกว่าตัวตับห่านซะอีกครับ
Hiramasa Green Curry, Coconut, Cashew Nut ปลา Hiramasa คออาหารญี่ปุ่นอาจคุ้นเคยกว่าในชื่อของปลา Buri หรือ Yellowtail amberjack เชฟทำจานนี้ออกมาเพราะอยากใส่ความเป็นไทยลงไปในอาหารด้วย เนื้อปลา cook มาสุกฉ่ำกำลังดี ทานคู่กับซอสแกงเขียวหวานรสละมุนไม่จัดจ้าน พร้อมดอก zucchini ชุบแป้งทอด มี risotto (คิดว่าน่าจะใส่ coconut milk)มาด้วยครับ
Beetroot Horseradish Ice cream, Wood Sorrel มาถึง sorbet ให้ทานล้างปากก่อนจะเข้าสู่อาหารจานเนื้อ ไอศครีม Horseradish แฝงรสเผ็ดฉุนนิดๆของ Horseradish ราดด้วย Beetroot consume รสเปรี้ยวหวานสดชื่น ช่วยล้างรสชาติที่ตกค้างบนลิ้น
Wagyu Beef - Flat Iron, Cheek, Celeriac ถึงอาหารจานเนื้อ Flat Iron (บางคนอาจจะคุ้นเคยคำว่า butlers' steak หรือ oyster bladeมากกว่า) หรือ เนื้อส่วนสันไหล่ เชฟอธิบายว่าเป็นไม่ใช่ส่วนที่นุ่มที่สุดของวัว เพราะเป็นกล้ามเนื้อที่ทำงานค่อนข้างเยอะ แต่ทำให้มีจุดเด่นคือรสชาติเข้มข้น เนื้ออกจะสู้ฟันหน่อยแต่ไม่เหนียว แก้มวัวตุ๋นมาได้นิ่มมาก เคลือบด้วยซอสไวน์แดงรสเปรี้ยวหวาน
Sweet Corn - Blackberry, Burnt Butter กว่าจะเดินทางมาถึงของหวานที่จริงผมเริ่มอิ่มได้สักพักแล้วครับ จานนี้เป็นไอเดีย หนึ่งวัตถุดิบหลายกรรมวิธีการปรุง คือนำSweet Corn มาทำไอศกรีมข้าวโพด, ข้าวโพดคั่ว และข้าวโพดปิ้ง ช่วยส่งเสริมรสชาติของกันและกันได้ลงตัว
Petit Four ขนม confectioner 4 อย่างปิดท้ายมื้อ มี Gingerbread ด้วยเพราะเป็นช่วงใกล้วันคริสมาสต์ อันขวาสุดที่เป็น sea salt Caramel อร่อยมาก รสเข้มข้นและหอมมัน
เป็นอันสิ้นสุดรีวิวฉบับนี้ สรุปโดยรวมประสบการณ์มาเยือนร้าน Aston Dining Room & Bar ครั้งนี้นอกจากจะประทับใจรสชาติอาหารแล้ว ยังได้ความรู้เรื่องอาหารมากขึ้นเยอะเลยครับเป็นข้อดีของการทานอาหารแบบ chef table คือเราจะได้รู้แนวคิดของอาหารแต่ละจาน เป็นประสบการณ์ทานอาหารที่เต็มอิ่มจริงๆครับ
Aston : Dining Room & Bar @Sukhumvit 31 68 Sukhumvit 31, Bangkok
084-551-5559 6:30pm - 1:00am
Create Date : 29 ธันวาคม 2557 |
Last Update : 29 ธันวาคม 2557 21:53:41 น. |
|
2 comments
|
Counter : 5136 Pageviews. |
|
|
|
|