Secret of a happy life. Eat as if you are a horse. Drink as if you are a whale.

Flipped (2010)







Flipped (2010)


**เขียนจากมุมมองส่วนตัวและมี spoil หมดทุกเม็ด**


Flipped เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของเด็กม.ต้น 2 คน คือ สาวน้อยนิสัยฮิปสเตอร์ Juli Baker กับไอ้เด็กตื้นเขินหนึ่งคนชื่อ Bryce Loski

ตอนป.2 Juli หลงรักลูกชายบ้านอีกฟากถนน = Bryce ด้วยสาเหตุที่ไม่ค่อยมีน้ำหนัก คือ twinkle in his eyes กับ Or may be his smile พ่อของน้อง Juli บอกว่า ลูกควรชอบใครที่มีมากกว่าแค่ยิ้มสวยหรือประกายตางดงาม สิ่งสำคัญคือคนเราควรเป็นมากกว่า sum of his parts น้อง Juli ยังไม่เข้าใจความหมายในปรัชญาอัน rich และ mellow ของคุณพ่อหัวใจศิลปิน และJuli ยังคงไล่ตามตื้อ Bryce ฝ่ายเดียวจนขึ้นม.ต้น ส่วน Bryce ขยาดแขยง Juli และพยายามหนีหน้าตลอดเวลา

บ้าน Juli ไม่ร่ำรวย แต่มีความสุข เป็นครอบครัวอารมณ์ศิลปิน พ่อของ Juli เป็นนักวาดภาพ landscapes พี่ชาย Juli 2 คนพบพรสวรรค์ด้าน A cappella จึงตัดสินใจไม่เรียนต่อมหาลัยแต่ทำงานด้านดนตรีและเป็นที่ชื่นชอบเด็กม.ปลายทั้งเมือง ตัวJuli เองก็ใช่ย่อย พอขึ้นม.ต้นก็ขออนญาตพ่อแม่ทำฟาร์มไข่ไก่ในสวนหลังบ้าน เพื่อขายไข่ไก่ให้คนหมู่บ้านเอารายได้มาซ่อมแซมรั้วบ้าน/ปรับปรุงสนามหญ้าหน้าบ้านตัวเอง ไม่นานเท่าไรสนามหน้าบ้านที่น้อง Juli ซ่อมแซมกลายเป็นสวนที่สวยในที่สุดในหมู่บ้าน

ในทางกลับกับบ้าน Bryce ฐานะการเงินดีกว่า แต่ขี้อิจฉาและดูแคลนคนอื่น พ่อของBryce เหยียดหยามพี่ชาย Juli 2 คนว่าเป็นเด็กล่องลอยไปวันๆไม่หางานการ (ทั้งนี้เพราะพ่อของBryce มีปมความหลังที่เคยทิ้งความฝันอยากเป็นนักดนตรีJazzแล้วมาทำงานออฟฟิศ) แม่ของBryce ดูถูกไข่ไก่ที่ Juli เอามาให้ฟรีๆเพื่อผูกมิตรว่าน่าจะติดโรคอะไรสักอย่างและไม่ยอมเอามาทำกับข้าว ลงท้ายด้วยการใช้ให้ Bryce ไปบอกJuli ว่าไม่ต้องเอาไข่ไก่มาให้อีก ซึ่งไอ้เด็ก Bryce ก็ใจเสาะเกินกว่าจะไปบอกตรงๆเลยแอบเอาไข่ไก่ที่ Juli เอามาให้ไปเททิ้งทุกวัน ตอนหลัง Juli ค้นพบว่าไข่ไก่จากฟาร์มตัวเองโดยเททิ้งแบบเสียเปล่าทุกวันจึงไม่ไปบ้านของ Bryce อีก

วันหนึ่ง Juli ปีนต้น sycamore ในหมู่บ้านแล้วพบว่าวิวที่มองจากมุมสูงช่างน่ารื่นรมย์ และรู้สึกว่าเข้าใจความหมาย คำสอนของพ่อที่ว่า sum of its parts มากขึ้น เมื่อมองออกไปไกลสายตาเริ่มมองอะไรกว้างขึ้น น้องJuli เริ่มไม่แน่ใจว่าBryce เป็นอะไรมากกว่า sum of his parts รึเปล่า รู้ตัวอีกทีJuli ก็ไม่ได้ชอบ Bryce แล้ว

วันที่ทางการตัดสินใจโค่นต้น sycamore น้อง Juli ปีนขึ้นไปเกาะต้นไม้แน่น ดื้อแพ่งไม่ยอมลงมาเพราะไม่อยากให้ต้นไม้ถูกโค่น ความพยายามไม่เป็นผล ต้นไม้ถูกโค่นอยู่ดี แต่ทำให้หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นสนใจในตัว Juli และมาทำข่าวscoopพิเศษเกี่ยวกับน้องน้อง Juli ส่งผลให้กลายเป็นคนดังในละแวกนั้นด้วยความเป็นตัวของตัวเอง ปณิธานแรงกล้าต่อสิ่งที่รัก และความสามารถในการหาเงินจุนเจือครอบครัวตั้งแต่ยังเล็ก ไอ้เด็กミーハー Bryce อ่านข่าวแล้วกลายเป็นฝ่ายตกหลุมรัก Juli

Bryce ไม่ยอมรับว่าตัวเองชอบ Juli และยังคงเออออห่อหมกเวลามีคนดูถูก Juli และครอบครัวอีกหลายหน เพื่อนสนิทของBryce พบว่า เหตุที่บ้านของ Juli ยากจน ก็เพราะพ่อของ Juli ต้องส่งค่าใช้จ่ายให้แก่น้องชายที่อยู่ในรพ.โรคประสาท เพื่อนสนิทของBryceยิ้มเยาะแล้วฟันธงว่า the apple doesn't fall far from the tree ในเมื่ออาของ Juli บ้า Juli ก็บ้าไม่ต่างจากอาเท่าไร Bryce ไม่มีกึ๋นพอจะลุกขึ้นปกป้อง Juli ทำได้แค่เห็นด้วยกับเพื่อน 'Yeah, right' และหัวเราะเยาะJuli ต่อหน้าเจ้าตัว

ตอนจบ Bryce ยอมรับต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนว่าตัวเองชอบ Juli และเอาต้น sycamore เล็กๆไปปลูกในสวนหน้าบ้านของ Juli เป็นการขอโทษ น้อง Juli เป็นผู้ใหญ่พอจะให้อภัยไอ้ Bryce เรื่องเลยจบลงอย่าง happy ending โดยปราศจากความเห็นชอบจากข้าพเจ้า ด้วยข้าพเจ้าเห็นว่าน้อง Juli ดีเกินกว่าจะลดตัวไปคบกับ Bryce หวังว่าน้อง Juli จะตาสว่างในเร็ววัน และความสัมพันธ์ของทั้งสองจะไม่ยืนยาวนัก

ด้วยรักและเสียดาย

ปล. ด้วยความสัตย์จริง ข้าพเจ้าไม่ได้เป็น lolicon แต่อย่างใด




 

Create Date : 07 มิถุนายน 2558   
Last Update : 7 มิถุนายน 2558 10:20:32 น.   
Counter : 1353 Pageviews.  

Big Night (1996)




"Can I talk with my brother just one second?"

ประโยคนี้ปรากฏออกมาหลายครั้งในเรื่อง และเพียงประโยค
เดียวนี้ก็ช่วยบอกเล่าอุปนิสัยของ 2 พี่น้องตัวละครหลักให้คนดูเข้าใจได้เกือบสมบูรณ์แบบ มันคือประโยคที่ Secondo ผู้จัดการร้านต้องพูดเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วนระหว่างเรื่อง สาเหตุเพราะ Primo พี่ชายผู้เป็นเชฟใหญ่เลือดร้อนประจำร้านมักก่อปัญหาอยูร่ำไป เหนื่อยน้องชายต้องคอยตามเกลี้ยกล่อม

สถานะทางเศรษฐกิจของร้านอาหารอิตาเลียนนาม Paradise อยู่ในสภาพง่อนแง่น Secondo ผู้จัดการร้านเชื่อว่าสาเหตุหลักๆอยู่ทีเชฟ Primo ไม่ยอมปรับอาหารให้เข้ากับความชอบของคนอเมริกัน แถมเวลาเจอลูกค้าขอปรับโน่นนิดนี่หน่อย เฮียเชฟก็เอะอะโวยวายตะเพิดลูกค้าไปทุกที

มีคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นที่สามารถให้นิยามลักษณะ Primo ได้สั้นกระชับและชัดเจนชัดเจน คือ 職人 แปล+อธิบายเป็นไทยได้ยาวๆว่า เป็นคนเก่งในอาชีพเฉพาะทางของตัวเอง แต่มักสนใจแต่หลักการของงานที่ตัวเองทำไม่คิดถึงคนรอบข้าง ยอมหักไม่ยอมงอ เดือดร้อนถึงน้องชายผู้เป็นผู้จัดการร้านและมีความเป็นbusiness man มากกว่าต้องทำหน้าที่ compromise อยู่ร่ำไป

ทางออกที่ Secondo เตรียมไว้กอบกู้ร้านคือ ไหว้วานให้เจ้านายเก่าช่วยใช้เส้นสายเชิ้อเชิญนักดนตรีjazzชื่อดังมาทานอาหารที่ร้าน
Paradise พร้อมเชิญสื่อมาด้วย หวังว่าจะสามารถโปรโมทร้านตนให้โด่งดัง ขณะเดียวกัน Primo กลับคิดว่าการย้ายถิ่นฐานกลับไปอิตาลีประเทศบ้านเกิด ทำร้านอาหารให้คนกินที่เข้าใจอาหารอิตาเลียนอย่างแท้จริงต่างหากจึงเป็นทางออกที่ถูกต้อง

แผนการของ Secondo ดำเนินรุดหน้าเร็วกว่า Big Night จึงถือกำเนิด ทุกคนผนึกกำลังกันตระเตรียมอาหารมื้อสำคัญและฝากชะตาของร้านไว้กับมื้อค่ำมื้อนี้

สิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของ Secondo ก็คือ Big Night ไม่ได้เป็นโอกาสอันหอมหวานโอชะ แต่เป็นบททดสอบหนักหนาสำหรับตัวเขาเองและพี่ชาย ต้องพิสูจน์ทั้งทักษะอาชีพและสายสัมพันธ์ที่มีต่อคนรอบข้างทั้งครอบครัว คนรัก และเพื่อน

หนังจบแบบไม่เอาใจคนดู เพราะเจ้านายเก่าของ
Secondo โกหกคำโต ไม่ได้ช่วยเชิญคนดังที่ไหนมาทานที่ร้าน เพราะอยากให้ร้านParadise ปิดกิจการ วันงาน  Big Night จึงกลายเป็นว่าทางร้านเตรียมงานเก้อ  Secondo อาละวาดและทะเลาะกับคนรอบข้างใหญ่โต วันรุ่งขึ้นพออารมณ์สงบ คงไม่ยากจะคาดเดาว่าใครที่กลับมาคืนดีกับ Secondo ก่อนใครเพื่อน Primo พี่ชายหัวแข็งซึ่งแท้จริงในใจแล้วนึกขอบคุณน้องชายตลอดมานั่นเอง

โทนเรื่องสนุกนานและอบอุ่น เพลงอิตาเลียนฟังความหมายไม่ออกแต่เข้ากับบรรยากาศเรื่องดีมาก สองพี่น้องทะเลาะกันเกือบตลอดเรื่อง แต่เกือบทุก conflict มีวิธีนำเสนอให้เราขำได้ ไม่เครียดตามสองพี่น้อง ที่สำคัญต่อให้ทะเลาะกันหนักแค่ไหน ถึงขั้นควงกำปั้นชกต่อยกัน ประกาศสิ้นสุดความสัมพันธ์ ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็เห็นกลับมาทำงานด้วยกัน กอดคอกินข้าวด้วยกันอยู่ดี โดยทั้งนี้ไม่ได้มีความจำเป็นที่ใครจะต้องเอ่ยเอื้อนคำขอโทษแต่อย่างใด สำหรับชาวอิตาเลียนสายสัมพันธ์ครอบครัวช่างเหนียวแน่น ตัดไม่ตายขาดไม่ขายจริงๆ

ขอเสริมว่าข้าพเจ้าเข้าข้าง Primo ตลอดเรื่อง ตั้งแต่เปิดเรื่องมามีลูกค้าสั่ง risotto เป็นอาหารจานหลักจานแรก แล้วสั่ง spaghetti เป็นอาหารจานสอง -*- อเมริกันจ๋า จะชอบ carbo ไปไหน (กว่าครึ่งของสิ่งที่ Primo โมโหเราเห็นด้วยทุกประการว่ามันก็น่าโมโหจริงๆ ไม่รู้ไอ้ Secondo จะมาห้ามทำไม)




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2558   
Last Update : 1 มิถุนายน 2558 12:30:58 น.   
Counter : 1076 Pageviews.  

Like Father, Like Son (2013)



ผมไม่ใคร่นิยมชมชอบ Early stage of Personhood ของ Homosapien Sapien เท่าไร

...พูดง่ายๆว่าเกลียดเด็ก? เปล่าครับ เปล่า ผมไม่ได้เกลียดเด็ก แค่ไม่ได้ชอบเฉยๆ ...แล้วก็อยากอยู่ห่างๆ ...เท่านั้นแหละ

ไม่เคยเจอหน้าค่าตาและไม่รู้เรื่องชีวิตส่วนตัวผกก.Hirokazu Koreeda มาก่อน แต่เดาว่าเฮียคงจะชอบเด็กเป็นชีวิตจิตใจ ผลงานสร้างชื่อแต่ละชิ้นมีเด็กเป็น theme ทั้งนั้น นับแต่ Nobody knows (ซึ่งผมไม่ชอบเท่าไร) หรือ Kiseki (I wish) เรื่องหลังนี่เรียกได้่ว่าเฮียKoreeda กำราบผมได้หมอบราบคาบแก้ว เด็กๆในเรื่องน่ารักน่าเอ็นดูอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนในหนังเรื่องไหน (ทั้งนี้เพราะผมชื่นชมในพัฒนาการและการเติบโตก้าวหน้าของมนุษย์ทุกวัยไม่ว่าจะแก่หรือเด็ก)

ก่อนจะได้ดู Like Father, Like Son คิดว่าหนังเฮียก็คงจะยึดเด็กเป็นตัวหลักอีก แต่ผิดถนัด คราวนี้เฮียKoreeda แกจับปมของผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ดูแลเด็ก หรือ"พ่อคน"นั่นเอง ไม่นึกว่าแกจะมาแนว mass แบบนี้ ผู้ชายหนึ่งคนหน้าที่การงานก้าวหน้า แต่ไม่มีเวลาให้ครอบครัว ลูกเมียสุขกายสบายดีมีเงินใช้ไม่ขัดสน แต่ผู้ชายคนนี้จะเรียกว่าเป็นพ่อที่ดีได้หรือเปล่า

สิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้การแสดงของ Masaharu Fukuyama (ระดับเล่นละครไทงะมาแล้วผมคงไม่กล้าบังอาจไปติอะไรเฮียเขา)คือการแสดงของสองดาราสาวรุ่นเกือบใหญ่ที่มาประชันกันอีกครั้งของ Machiko Ono กับ Yoko Maki ใครเคยดูละครสุดฮิตติดชาร์จประจำปี 2013 เรื่อง Saikou no Rikon แล้วชอบก็คงจะดีใจเนื้อเต้นไม่น้อยที่ได้เห็นสองนางมาประชันกันอีกในเรื่องนี้ อย่างผมก็คนนึงล่ะดูไปหางกระดิกไปตลอดเรื่อง นี่ถ้าเอา Lily Franky ออก แล้วเอาEita มาเล่นแทนจะดีมาก 555




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2558   
Last Update : 1 มิถุนายน 2558 12:25:19 น.   
Counter : 372 Pageviews.  

The Shawshank Redemption (1994)

The Shawshank Redemption (1994)



รู้จักหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนประถม ตอนนั้นอ่านเรื่องย่อใน monthly TV program guide ของ cable TVที่บ้าน

เรื่องย่อมันเขียนได้ฟังดูน่าเบื่อ(และหลงประเด็นอย่าง)มาก ประมาณว่าพระเอกถูกใส่ความจนติดคุก แต่ได้เจอเพื่อนแท้ผิวสีจึงสามารถค้นพบความสุขของวิถีชีวิตในคุกได้ภายหลัง (WTF?!)เลยไม่คิดจะดูหนังเรื่องนี้แม้จะชอบ Morgan Freeman ก็ตาม

หลงเชื่อมา 19 ปีเต็ม(บังเอิญเหลือเกิน เท่ากับจำนวนปีที่ Andyติดคุกพอดี)ว่า The Shawshank Redemptionเป็นหนังโลกสวยสูตรสำเร็จน่าเบื่อ ความเข้าใจผิดมหันต์ถูกลบล้างหลังได้ดูตัวหนังจริงๆ ซึ่งก็อาจจะเป็นจังหวะเหมาะ ถ้าดูหนังเรื่องนี้ตอนเด็กกว่านี้อาจจะไม่ชอบเท่านี้ก็ได้

Andy Dufresne เป็น Banker ติดคุกข้อหาฆาตรกรรมเมียที่สวมเขาให้ตัวเอง (แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ) ชีวิตช่วงแรกในคุกโหดร้ายกับ Andyไม่น้อย ไหนจะโดนคนคุกทั่วไปเหม็นขี้หน้า โดนอันธพาล Sistersข่มแหงรังแก จน Andy พิสูจน์ได้ว่าตนเองสามารถทำประโยชน์ให้ผู้คุมและพัศดีได้ เขากลายเป็นคนทำบัญชีให้พัศดี ช่วยหาทางลดหลบเลี่ยงภาษีและยังฟอกเงินสกปรกของพัศดีให้บริสุทธิ์ผุดผ่อง Andy จึงได้รับความคุ้มครองเป็นพิเศษจากผุ้คุม ได้รับการโยกย้ายไปทำงานในห้องสมุดซึ่งถือเป็นงานสบายและเหมาะกับปัญญาชนอย่างเขามากกว่า แล้วยังได้รับอภิสิทธิ์ให้ทำงานอดิเรกแกะสลักเล็กน้อยๆในห้องขังอีกด้วย

หลังโดนย้ายไปอยู่ห้องสมุด Andyก็ไม่ได้ใช้ชีวิตเอ้อระเหยอยู่เฉยๆ เขาเขียนจดหมายหารัฐบาลอาทิตย์ละฉบับ เพื่อของบประมาณและหนังสือเพิ่ม ความเพียรพยายามประสบผลสำเร็จ ห้องสมุดของคุกได้รับงบประมาณมากขึ้น ได้หนังสือใหม่ ได้แผ่นเสียงเพลงคลาสสิคมาเปิดกล่อมเกลานักโทษ ขยายใหญ่จนเป็นห้องสมุดคุกที่ดีที่สุดใน New England

เรื่องมาเริ่มมืดมนเอาอีกครั้ง เมื่อAndy ได้เบาะแสจากนักโทษใหม่ เกี่ยวกับฆาตรกรตัวจริงที่ฆ่าภรรยาเขา เมื่อเขาเอาไปปรึกษาพัศดี สิ่งที่เขาได้รับคือโทษขังเดี่ยว 2 เดือนโทษฐานพูดจาเลื่อนลอย แถมพัศดียังจัดการฆ่านักโทษใหม่เจ้าของเบาะแสทิ้งอีกด้วย
Andyถูกถอดสิทธิ์พิเศษและความคุ้มครอง แต่ยังต้องทำหน้าที่ฟอกเงินให้พัศดีต่อไป ชีวิตในคุกเริ่มกลับมามืดมนจนเพื่อนนักโทษห่วงว่าAndyจะฆ่าตัวตาย

(จากตรงนี้ไปมี spoilerยังไม่ได้ดูหนังอย่าอ่าน) ความจริงแล้ว Andy เป็นจอมวางแผนใจเด็ดและร้ายกาจกว่าที่ใครคาดคิด 19ปีเต็มในคุกเขาใช้อุปกรณ์แกะสลักขูดผนังคุกจนเป็นอุโมงค์ทะลุออกไปข้างนอกได้ สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากออกไปได้คือไปเบิกเงินจากบัญชีที่เขาโยกเงินสกปรกของพัศดีไปเก็บไว้ แล้วส่งหลังฐานทุจริตของพัศดีไปให้สื่อมวลชน ในวันเดียวกันเขาขับรถหนีออกนอกประเทศพร้อมเงิน 370,000ปอนด์

Additional Information จากลูกชายคือหนังเรื่องนี้ได้รับ ranking อับดับ 1 ของ IMDB
ในโลกนี้มีหนังจำนวนนับไม่ถ้วนที่productionดี castingยอดการแสดงเยี่ยม แต่หนังที่จะชนะใจมนุษย์เรื่องมากซากอ้อยใน IMDB ต้องมีอะไรมากกว่านั้น

The Shawshank Redemption ตอบโจทย์ได้ถูกเผง เป็นหนัง American Drama ที่เต็มอิ่ม แต่แหวกคอกและ Indy มากสำหรับหนังเก่าปี 1994 สูตรสำเร็จของหนังทั่วไปถ้าพระเอกติดคุกโดยบาปที่ตนไม่ได้ก่อ โลกสวยหน่อยเรื่องก็จบโดยพระเอกพิสูจน์ตนเองได้ว่าบริสุทธิ์ เอาแบบโลกมืดก็ฆ่าตัวตายในคุก

The Shawshank Redemption นำเสนอสิ่งที่แปลกใหม่กว่านั้น Andy พระเอกวางตัวเป็นสุนัขเลี้ยงแสนเชื่องของพัศดีในคุก แต่แหกคุกออกมาฮุบเงินพัศดีทีหลัง แล้วหลบหนีออกนอกประเทศลอยนวล เป็นสิ่งที่พระเอกหนัง American Drama ไม่ทำ ความเท่ห์ของหนังเรื่องนี้คือมันไม่แบ่ง Black/White ประเภทว่าอำนาจกฏหมายถูก คนร้ายผิด

กระบวนการยุติธรรมถูกตั้งคำถามตั้งแต่เริ่มเรื่องมาแล้ว เพราะ Andy ถูกจับเข้าคุกทั้งที่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ฆ่า แถมพัศดีก็ดันกลายเป็นวายร้ายฟอกเงิน+ฆ่านักโทษอีกต่างหาก
ทุกอย่างเป็น Grey Zone ไปหมด กระทั่งตัว Andy เอง พอได้เห็นแผนการและความเด็ดเดี่ยวจากสิ่งที่เขาทำ ก็อดตั้งคำถามได้ไม่ได้ว่าความจริงแล้วเขาฆ่าเมียตัวเองจริงๆหรือเปล่า

ทั้งนี้แค่เพราะหนังไม่แบ่ง Black/White ไม่ได้แปลว่า Crime & Punishment ไม่มีอยู่จริง
พวกนักโทษที่ซ้อมAndy ตอนเข้าไปใหม่ๆ โดนผู้คุมดักเล่นงานจนพิการตลอดชีวิต
พัศดีโดนพอจับได้ว่าฟอกเงินก็ฆ่าตัวตายตอนตำรวจมาบุกถึงที่ทำงาน
ที่น่าสังเกตคือในหนังเรื่องนี้ Punishment ที่สาสมและช่วยให้ชีวิตผู้คนดีขึ้นไม่ได้อยู่ในมือกฏหมายสักครั้ง

ความอิ่มใจแบบหนังdrama ก็มีอยู่สอดแทรกตลอดเรื่อง ไม่ว่าห้องสมุดที่ขยายใหญ่เพราะจดมายวิงวอนที่ขยันเขียนหารัฐบาลทุกอาทิตย์ หรือในมิตรภาพของ Andy กับเพื่อนนักโทษ แล้วยังจบ Happy Ending ได้แหวกแนวสุดๆ ไม่น่าแปลกใจที่หนังได้อันดับ 1 ใน IMDB




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2558   
Last Update : 1 มิถุนายน 2558 12:11:29 น.   
Counter : 1363 Pageviews.  


amenochikara
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




[Add amenochikara's blog to your web]

MY VIP Friend