ไวรัลวีดีโอ เด็ก
ทุกวันนี้ Social Media หรือสื่อสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Twitter YouTube ฯลฯ กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าเดินทางไปไหนจะกินอาหารอะไร หรือทำกิจกรรมใด ผู้คนยุคดิจิทัลมักถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวอักษรรูปภาพ คลิปวีดีโอสั้นๆเพื่อสื่อสาร บอกเล่า แชร์ข้อมูลแบ่งปันอารมณ์ความรู้สึกผ่านช่องทางสื่อใหม่ หลายครั้งเรื่องราวบอกเล่าแบ่งปันในโลกออนไลน์กลายเป็นประเด็น Talk of the town หรือที่มีศัพท์เรียกหรูหราว่านาครสนทนา เรื่องราวฮอทฮิตในโลกไซเบอร์เหล่านี้มีนักวิจัยเขาไปศึกษาค้นคว้าพบว่า คนนิยมมีปฏิสัมพันธ์ ตอบโต้ แสดงความคิดเห็นหรือแม้แต่แชร์รูปภาพ และคลิปวีดีโอ มากกว่าแชร์ตัวอักษรหรือถ้อยความต่างๆ โดยเฉพาะคลิปวีดีโอเด่นๆที่นิยมแชร์จนเหมือนไวรัสแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วนั้น จำนวนไม่น้อยเป็นคลิปเกี่ยวกับเด็ก ผมขอยกตัวอย่าง ไวรัลวีดีโอ เด็กบางคลิปมาคุยกันนะครับ หากใครยังไม่เคยดูคลิปเหล่านี้ สามารถค้นได้ใน YouTube โดยลอกชื่อคลิปที่ผมระบุถึงไปแปะไว้ในช่องค้นหาแล้วกดหาดูได้นะครับ คลิปแรกคือ David AfterDentist เป็นวีดีโอสั้นๆความยาว 1.59 นาทีถูกเปิดชมทั่วโลกไปแล้วกว่า100 ล้านครั้ง นี่ยังไม่นับรวมถึงการเปิดแชร์ในแพลทฟอร์มอื่นๆ หรือถูกนำไปล้อเลียนดัดแปลงใหม่นะครับ คลิปนี้ถ่ายและอัพโหลดขึ้น YouTube โดยคุณพ่อของDavid...พระเอกของเรื่องวัย 7 ขวบ (ในขณะนั้น) ผู้จำต้องไปถอนฟันผลของฤทธิ์ยาทำให้เจ้าหนู David รู้สึกไม่สบายตัวมีอาการแปลกผิดปกติ จนพูดและแสดงท่าทางแปลกๆ แต่น่ารักน่าเอ็นดู คลิปต่อไปคือ Charlie bitmy finger again ! วีดีโอสั้นเพียง 56 วินาที แต่มีผู้ชมมากกว่าคลิปแรกที่ผมแนะนำไปเสียอีกครับเพราะมีคนดูคลิปต้นฉบับไปแล้วเกือบ 400 ล้านครั้ง แถมยังมีคนทำคลิปล้อเลียนดัดแปลงมากมายทีเดียว มิหนำซ้ำหลายๆคลิปที่นำต้นฉบับไปล้อเลียนหรือดัดแปลงทำซ้ำก็มีคนเยี่ยมชมนับสิบล้านครั้ง ไวรัลวีดีโอชิ้นนี้เป็นเรื่องของพี่น้อง2 คน ผู้พี่ขื่อ Harryวัย 3 ขวบเศษ (ในขณะนั้น) กับน้องชาย Charlie วัย1 ขวบ (ในขณะนั้น) ขณะถ่ายคลิปนี้พี่ชายนั่งอยู่บนโซฟาโดยมีน้องนั่งบนตักอยู่ดีๆเจ้าหนู Charlie คงนึกมันเขี้ยวคว้านิ้วมือของพี่ชายมากัดแทะเล่น แต่กัดครั้งแรก Harry คงไม่เจ็บมากพี่ชายเลยเอานิ้วชี้แหย่เข้าปากน้องอีกครั้ง คราวนี้น้องกัดแบบเน้นๆ พี่คงเจ็บมากจนร้องเสียงลั่นแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรกับน้องชายแค่บ่นว่า น้องกัดนิ้วมือเขา ทำเขาเจ็บ ส่วนเจ้าตัวเล็กกลับหัวเราะ ชอบใจอย่างอารมณ์ดี หลายคนดูคลิปนี้แล้วอดที่จะขำหรืออมยิ้มกับความน่ารัก น่าเอ็นดู รวมถึงความไร้เดียงสาของเด็กน้อยไม่ได้นั่นคงเป็นมูลเหตุสำคัญทำให้คลิปประเภทนี้แพร่กระจายกลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน อย่างไรก็ตามยังมีคลิปวีดีโอเด็ก อีกประเภทที่ผู้คนในโลก Social Media นิยมนั่นคือคลิปแสดงความสามารถของเหล่า เด็กเทพ ประเภทเล่นกีตาร์พลิ้วยิ่งกว่ามือกีตาร์ผู้ใหญ่หรือพรมนิ้วบนเปียโนได้ไพเราะดังเสียงจากสวรรค์ หรือเต้นรำได้ลื่นไหลงดงามยิ่ง ฯลฯ โดยส่วนตัวผมชื่นชมความสามารถความอุตสาหะ พยายามในการฝึกซ้อมของเด็กเหล่านี้นะครับ แต่อีกเสี้ยวหนึ่งของความคิดผมอดสงสารเด็กบางคนซึ่งไม่ได้ชื่นชอบ หรือไม่อยากเป็นนักร้อง นักเต้น นักดนตรีแบบแสดงออกในคลิปวีดีโอหากแต่ถูกผู้ใหญ่...พ่อแม่ ผู้ปกครอง บังคับเคี่ยวเข็ญให้ฝึกซ้อม ให้แสดงเพื่อแลกกับเสียงปรบมือและคำชื่นชมจากคนรอบข้าง แต่นั่นยังไม่เท่าไหร่ครับคลิปไวรัลวีดีโอ เด็ก ที่ทำให้ผมหดหู่ใจมากคือ คลิป YouTubeChallenge I Told My Kids I Ate All Their Halloween Candy อันเป็นเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นหลังวันHalloween ไม่นานมานี้ ต้นเรื่องของไวรัลวีดีโอชุดแกล้งเด็กหลังวันHalloween เกิดขึ้นเมื่อ Jimmy Kimmel พิธีกรรายการทีวีชื่อดังของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศในรายการJimmy Kimmel Live ท้าให้ผู้ชมไปหลอกลูกๆที่ไปเล่น Trickor Treat ว่า พ่อแม่กินขนมหวานที่เด็กๆหามาได้จนเกลี้ยงแล้วให้ถ่ายวีดีโออัพขึ้น YouTube เพื่อดูปฏิกิริยาของเด็กๆ ปรากฏว่ามีพ่อแม่จำนวนมากยอมแกล้งลูกของตนเองเพื่อให้คลิปของตนออกรายการทีวี !?! เอาละครับก่อนที่ผมจะเล่าว่าผลของการแกล้งเด็กเป็นอย่างไร ผมขออธิบายเพิ่มเติมหน่อยนะครับว่าการเล่น Trickor Treat ในวัน Halloween ของฝรั่งเขานั้นเด็กๆตั้งตารอประเพณีนี้ เพราะพวกเขาได้สนุกกับการแต่งตัวชุดแฟนซีภูติผี-ปีศาจจากนั้นรวมกลุ่มเด็กเดินไปเคาะประตูบ้านคนที่มีโคมไฟฟักทองประดับไว้บริเวณบ้าน เมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตูเหล่าภูตผีตัวน้อยๆพร้อมใจตะโกนถามว่า Trick or Treat ซึ่งแปลตรงๆว่าหลอกหรือเลี้ยง ถ้าเจ้าของบ้านตอบว่า Treat นั่นหมายถึงยอมแพ้ ต้องมอบขนมหวาน ท็อฟฟี่ให้กับเด็กๆ แต่ถ้าตอบว่า Trick ภูตผีตัวน้อยก็จะหลอกหลอน ทำกิริยาน่ากลัวจนกว่าเจ้าของบ้านยอมบอกว่า Treat แล้วมอบขนมให้เด็ก หมายความว่าขนมหวานเหล่านั้นล้วนมาด้วยน้ำพัก น้ำแรง ตลอดคืนของเด็กๆนั่นเอง จึงไม่น่าแปลกใจครับว่าผลของการหลอกลวงครั้งนี้สามารถทำให้เด็กเกือบทุกคนร้องไห้ เสียใจ หนูน้อยหลายคนคร่ำครวญไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ถึงรังแก แกล้งกินขนมของหนูจนหมดเด็กบางคนโกรธจัดเตะข้าวของก็มี เด็กบางคนตะโกนด่าพ่อแม่ของตนเอง ครั้งแรกที่ผมดูคลิป YouTubeChallenge I Told My Kids I Ate All Their Halloween Candyผมอึ้งกับการแกล้งเด็กออกรายการทีวีของ Jimmy Kimmel ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อเรตติ้งรายการทีวีนักสื่อสารมวลชนในประเทศที่อ้างตัวว่ามีประชาธิปไตย รักและหวงแหนเสรีภาพ อิสรภาพความเสมอภาคยิ่งชีพจะรังแก แกล้งเด็ก เพื่อความสนุกสนาน และไม่น่าเชื่อยิ่งกว่านั้นคือมีผู้ชมจำนวนมากรวมถึงพ่อแม่ของเหยื่อ สามารถหัวเราะกับเสียงร้องไห้ของเด็กหัวเราะกับความทุกข์ของเจ้าหนูตัวเล็ก หลังจากชมคลิปไวรัลวีดีโอเด็กชุดนี้ผมอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ผู้ที่สามารถหัวเราะกับคลิปชุดนี้ พวกเขา รักเด็ก-เอ็นดูความไร้เดียงสาของเด็กจริงหรือ ....................................................................................................................................................................... บทความนี้ผมเขียนลง ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Mother & Care ฉบับที่ 85 เดือน มกราคม 2555
Create Date : 02 เมษายน 2557 |
Last Update : 2 เมษายน 2557 22:16:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 931 Pageviews. |
|
|