Group Blog
ผู้ชายชื่อพ่อ
Media Sphere
สะดุดจิงโจ้
All Blogs
ลูกคือกระจกส่องพ่อแม่
ชัยชนะอันแสนภูมิใจ..ถึงพ่ายแพ้ก็ไม่เป็นไร
โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร
ไวรัลวีดีโอ เด็ก
เมื่อหนูหัดว่ายน้ำ
ทำไมหนูต้องเรียนเหมือนใคร
บทเรียนจากงานศพ
เรียนรู้เรื่องสิทธิ
ประชาธิปไตยของหนู
สวรรค์ของเด็ก
สอนลูก แพ้ ให้เป็น
อ่านออก เขียนได้แล้วครับ
บทเรียนจากจักรยาน 2 ล้อ
พลังด้านบวก
เพราะ“ทำ” หนูจึง“เข้าใจ”
ไชโย...ฟันหลอแล้วครับ
ผมแหว่งกับความคิดสร้างสรรค์
หลับเถอะ...พ่อจะกล่อม
เสี่ยงตายรายวัน
ขอเจ็บแทนลูกได้ไหม
เด็กพิเศษกับพ่อแม่แสนวิเศษ
สัมผัสแห่งรัก
กุ๊กตัวน้อย
แฟชั่นโกงเกมส์...นิสัยโกงชาติ
เรียนรู้ข้างเตาขนมครก
อยากให้ลูกเป็นอัจฉริยะหรือ
เรียนรู้ผ่าน ข่าว
ลงโทษอย่างสร้างสรรค์
จากใจ...คุณพ่อวัยทีน
ขอบคุณครับ...คุณครู
เมื่อลูกเริ่มเล่นคอมฯ
สอนลูกเป็น...ผู้ให้
เมื่อลูกเรียนภาษาที่สอง
ลูก...อย่ามักง่ายนะครับ
พาลูกตะลุยสวนสนุก
สอบแข่งขัน
สิทธิเด็ก...หนูมีด้วยหรือ
พี่รักน้องนะ
เหตุเกิดที่สนามเด็กเล่น
วันที่พ่อ...หายไป
เหตุเกิดเมื่อลูกป่วย
อนุบาลแนวไหนดี
เมื่อลูกถูกรังแก
ฟ.ฟัน...Fun Fun
เวบพ่อแม่ลูกยุค 2.0
ทัวร์ท้องไร่ ปลายนา
ตะลุยโลกการเรียนรู้
ครู...อย่าทำร้ายหนู
ปิดทีวีกันเถอะ
เมื่อก้าวพลาด
แกล้งเด็ก
สังคมศรีธนชัย
รักลูก...สุดหัวใจ
พกถุงหน่อยลูก
ร่วมด้วยช่วยลูกเรียน
ขอคุยเรื่องสื่ออีกครั้ง
สาวเอย...จะบอกให้
ศูนย์เลี้ยงเด็กในออฟฟิต
เมื่อเจ้าตัวเล็กไปโรงเรียน
The ugly parent syndrome
สนามเด็กเล่นอันตราย
อึ๊...สิครับลูก อึ๊......
ความแตกต่าง
ห้องดูดนมแม่
คุณพ่อยุคดิจิตอล
ความกลัวของคุณพ่อ
ใช่ว่าไม่รัก
เจ้าแสบน้อย
เจ้าตัวเล็กกับโจรบ้ากาม
เมืองเด็กอ้วน
สอนลูกหลานให้ทันสื่อ
วันนี้ รู้ทันสื่อหรือยัง ?
เลี้ยงลูกแบบ คิดเชิงบวก
ฝากเลี้ยงลูกหน่อย
ช่วยด้วย...หนูหลง
หนอนหนังสือ
วันนี้คุณทารุณเด็กหรือเปล่า?
Toy Library...ของเล่นเพื่อมวลชน
ชีวิตราคาถูก ?!?
แก็งค์รถเข็นเด็ก
คุณพ่อ Full Time
คุยเรื่องนมแม่
Birth Story เหตุเกิดในห้องคลอด
กองหนุนวันคลอด
Birth Plan วางแผนคลอด
ตรวจพันธุกรรมสไตล์ออสซี่
Made in Australia
เป็นพ่อแล้วครับ!
ศูนย์เลี้ยงเด็กในออฟฟิต
น้องอ้อย หวานเจี๊ยบ เป็นเพื่อนรุ่นน้องสมัยผมเรียนปริญญาโทที่ซิดนีย์ เธอเป็นสาวมั่น แกร่งและเก่งไม่แพ้ใคร พอเรียนจบอ้อยบินกลับมาเมืองไทยทำงานในองค์กรธุรกิจการสื่อสารระดับยักษ์ เธอตกหลุมรักและแต่งงานกับหนุ่มวิศวกรร่วมบริษัท
ล่าสุด...น้องอ้อยโทรศัพท์มาแจ้งข่าวดีว่า ตอนนี้เธอกลายเป็นคุณแม่ป้ายแดงเพราะเพิ่งคลอดลูกสาวตัวน้อยๆได้เดือนเศษ หลังจากพูดคุยแสดงความยินดีและซักถามเกี่ยวกับแม่เทพธิดาตัวเล็ก อ้อยได้ปรึกษากึ่งบ่นให้ผมฟังว่า
...พี่ ช่วงนี้อ้อยเครียดมากเลย ไม่ได้เครียดเรื่องของยายหนูนะคะ แกกินง่าย นอนง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะ หนูเครียดเพราะวันหยุดลาคลอดกำลังจะหมด ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอายายหนูไปฝากเลี้ยงที่ไหนดี แฟนอ้อยเขาอยากให้อ้อยลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกอย่างเดียว แต่อ้อยยังสนุกกับงาน ยังอยากทำงาน อีกอย่างลำพังอาศัยแค่เงินเดือนแฟนอ้อยคนเดียวไม่พอเลี้ยงยายหนูแน่...
อ้าว...ทำไมไม่เอาลูกไปฝากให้คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยายเขาช่วยเลี้ยงละ หรือไม่ก็ให้ญาติพี่น้องช่วยเลี้ยงดีกว่าฝากให้คนอื่นเขาดูแลลูกเรานะ ผมเอ่ยถามขึ้นพร้อมแสดงความเห็นไปในตัว
พ่อแม่ของแฟนหนูเขาอยู่ต่างจังหวัดคะ หนูไม่อยากทิ้งลูกไปไกลหรอกคะ ส่วนพ่อแม่ของหนูท่านแก่มากแล้ว ท่านบอกว่าช่วยเลี้ยงหลานให้แป๊บๆไม่เป็นไร แต่จะให้เลี้ยงยาวๆนานๆคงไม่ไหว หนูเข้าใจนะคะ เพราะสุขภาพของท่านไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน ญาติคนอื่นๆไม่มีใครว่างพอจะมาช่วยเลี้ยงหรอกคะ แต่ละคนก็มีภาระของตัวเอง...
...ตอนแรกอ้อยคิดจ้างพี่เลี้ยงมาช่วยเลี้ยงลูกที่บ้าน แต่คิดไปคิดมา รู้สึกไม่ไว้ใจที่จะปล่อยลูกไว้กับใครที่ไม่รู้จัก ยิ่งปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียวด้วยยิ่งกังวลใหญ่ ตอนนี้เลยมองหาเนิร์สเซอรี่ เลี้ยงเด็กอ่อนอยู่ แต่เท่าที่เจอมันไกลจากที่ทำงานหนูมาก
เออ...ทำไมไม่หาใกล้บ้านละ ไปหาใกล้ที่ทำงานทำไม ผมสงสัย
อ้อยอธิบายว่า ปกติหนูกับแฟนทำงานเสร็จประมาณห้าหกโมงเย็น ถ้าให้ลูกอยู่เนิร์สเซอรี่ใกล้บ้าน กว่าจะฝ่าการจราจรไปรับลูกได้คงทุ่มสองทุ่มพอดี
ครับ...ปัญหาหนักอกของอ้อย คงเป็นประสบการณ์ร่วมของ Working Mom จำนวนไม่น้อยในสังคมไทย ประเภทพอคลอดลูกไม่ทันไรก็ต้องวิ่งวุ่นหาศูนย์เลี้ยงเด็กอ่อนทันที
เรื่องนี้ทำให้ผมนึกย้อนกลับไปถึงสมัยเรียนปริญญาตรีที่ธรรมศาสตร์ ตอนนั้นเรามีกิจกรรมลงพื้นที่สัมผัสพบปะพูดคุยกับกรรมกรในย่านอุตสาหกรรมหลักๆในกรุงเทพและปริมณฑล ปัญหาร่วมอย่างหนึ่งของคนงานหญิงคือ ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงลูกอ่อนของเธอที่ไหนดี
คนงานหลายคนจำใจเอาลูกกลับไปฝากให้พ่อแม่เลี้ยงที่ต่างจังหวัด เรียกว่าลูกห่างอกพ่อแม่ตั้งแต่เป็นเบบี๊เลย ส่วนคนงานก่อสร้างตามไซด์งานต่างๆ มักจะปล่อยให้ลูกเล็กเด็กแดง คืบคลาน วิ่งเล่นอยู่บริเวณก่อสร้าง ทำให้หลายครั้งเกิดอุบัติเหตุอันน่าสลดใจยิ่ง
ดังนั้นหนึ่งในข้อเรียกร้องของกรรมกรหญิงคือ อยากให้สถานประกอบการมีศูนย์เลี้ยงเด็กอ่อนในสถานประกอบการหรือในชุมชนของตนเอง
ข้อเรียกร้องนี้ในที่สุดได้รับการขานรับจากกระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กเพื่อผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบกิจการและชุมชนขึ้น นัยว่าโครงการนี้จะมุ่งรณรงค์ให้สถานประกอบการทั่วประเทศกว่า 300,000 แห่ง จัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กด้วยความสมัครใจ
แน่นอนครับว่า สถานประกอบการที่จะจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กย่อมต้องมีความพร้อมด้านสถานที่ บุลากร และอุปกรณ์ต่างๆก่อน ไม่ใช่ว่าคิดอยากจะจัดตั้งก็ทำได้เลย
เรื่องการจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กในที่ทำงาน โดยส่วนตัวผมคิดว่าเป็นเรื่องควรสนับสนุนและควรรณรงค์ให้กว้างขวางมากขึ้น เนื่องจากการจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กในที่ทำงานทำให้พ่อหรือแม่สามารถใกล้ชิดลูกได้มากขึ้น
ช่วงว่างจากการทำงาน หรือช่วงพักกลางวัน แม่อาจจะแวะมาให้นมแม่กับลูกน้อยด้วยตนเอง หรืออาจจะแวะเข้ามากอด มาหอม มาพูดคุย ฟัดลูกน้อยเล่นก่อนกลับไปทำงาน เป็นการชาร์ทแบต เติมพลังในการทำงานที่ดีเยี่ยม
ทารกที่ใกล้ชิดพ่อแม่ ได้รับการส่งเสริมการพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสติปัญญาอย่างถูกต้องจากพี่เลี้ยงเด็กที่มีมาตรฐาน ย่อมมีโอกาสพัฒนาเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพได้ในอนาคต
หากมองในแง่ของสถานประกอบการเอง การสร้างศูนย์เลี้ยงเด็กขึ้นในสถานประกอบการนอกจากจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานให้กับพนักงาน เพื่อนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรเองอีกด้วย
ปัจจุบันองค์กรธุรกิจหลายแห่งพยายามจะสร้างภาพลักษณ์ของตนเองโดยอิงกับหลักการตลาดแนวเพื่อสังคม หรือที่รู้จักกันดีในนามของ Corporate Social Responsibility (CSR) ผมคิดว่า การทำ CSR ที่ใกล้ตัวที่สุดน่าจะเริ่มได้จากการทำประโยชน์ให้กับพนักงานในองค์กรตนเอง เช่นโครงการนี้
แต่แน่นอนครับ ลำพังถ้าจะให้สถานประกอบการเอกชน ดำเนินการจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กเองคงมีเถ้าแก่ใหญ่ เจ้าของกิจการ หรือ ซีอีโอ หลายคนคิดว่าเป็นการกระทำที่สิ้นเปลือง ไม่ได้ผลตอบแทนอย่างเห็นรูปธรรม
ดังนั้น หากฝ่ายรัฐคิดจะรณรงค์โครงการนี้อย่างจริงจัง ควรจะจับมือร่วมกับหลายภาคส่วน ทั้งในองค์กรของรัฐเอง รวมถึงองค์กรธุรกิจเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน และในส่วนของกรรมกร พนักงาน ลูกจ้าง ร่วมกันสนับสนุน ผลักดัน สร้างความเข้าใจและความตระหนักร่วมกันในการก่อตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กให้เกิดขึ้นในสถานประกอบกิจการและชุมชน
ในส่วนของภาคการเมืองไหนๆก็ใกล้เลือกตั้งเข้ามาแล้ว พรรคการเมืองควรจะตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ ควรมีนโยบายสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม เช่นอาจจะใช้เงื่อนไขการลดหย่อนทางภาษี หรืออื่นๆ มาช่วยกระตุ้นให้โครงการนี้ขยายผลจากการจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็ก 67 แห่งเช่นในปัจจุบัน เป็น 300,000 แห่ง ตามเป้าหมาย
แต่ถ้านักการเมืองไทยไม่อยากให้ประชากรในอนาคตเป็นคนมีคุณภาพ ก็ลืมเรื่องนี้ไปเถอะครับ !
........................................................................................................
บทความนี้ผมเขียนลง ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Mother & Care ฉบับที่ 31 เดือน กรกฏาคม 2550
Create Date : 07 เมษายน 2551
Last Update : 7 เมษายน 2551 12:51:37 น.
8 comments
Counter : 855 Pageviews.
Share
Tweet
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ ควรจะมีเพราะตอนนี้ก็ส่งลูกไปอยู่เนอสเซอรี่เหมือนกัน แต่ก็ดีหน่อยที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน ไปรับลุกได้เร็วค่ะ แต่ก็คิดถึงเหมือนกันช่วงกลางวัน นี่ถ้าได้เจอกลางวันก็จะดีไม่น้อย
โดย:
นู๋จ๋ายเจ้าขา
วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:14:46:51 น.
โดย: หนังสือมือสอง (
AngelTomorrow
) วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:22:39:11 น.
อาจารย์ขา แนะให้ไปทำที่รักลูกคะ เค้าอนุญาติให้เอาลูกมาเลี้ยงที่ออฟฟิศได้คะ อิอิ
โดย:
ลูกสมุน
วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:22:49:21 น.
ทุกอย่างจะเป็นจริงได้แน่นอนค่ะ ถ้าทุกส่วน หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนให้ความสำคัญ และตั้งใจจริง
แต่ในความเป็นจริง ทุกส่วน ทุกหน่วยงาน ห่วงแต่ผลประโยชน์
กรรมจึงตกอยู่กับอนาคตของชาติ... เห็นภาพเลยค่ะ ว่าอนาคตต่อ ๆ ไปจะเป็นเช่นไร ถ้ายังไม่มีใครให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม
โดย: viji (
viji
) วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:11:56:24 น.
เมื่อไหร่ที่ ม. เราจะมีครับ?
ไม่ใช่สำหรับอาจารย์นะ
สำหรับนักศึกษา!!!
ผมมองโลกแง่ร้ายเกินไปรึเปล่านะ
คิคิ
โดย:
Dinner31
วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:9:45:53 น.
สวัสดีปีใหม่ไทย คร้าบบบบบบ....
โดย: friendlymitt IP: 58.147.56.134 วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:18:14:59 น.
สวัสดีปีใหม่ไทยครับคุณ friendlymitt ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ
โดย:
สายน้ำกับสายเมฆ
วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:10:28:45 น.
กระทรวงแรงงานดูแลคนทำงานทั่วประเทศ อยากให้ดูแลเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานบ้างจังเลย น่าจะเปิดศูนย์เลี้ยงเด็กในกระทรวงแรงงานบ้าง เพราะเจ้าหน้าที่ก็มีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกัน เห็นให้กรอกแบบสอบถามหลายรอบแล้ว
โดย: mom IP: 172.16.10.31, 115.31.138.2, 117.121.208.2 วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:58:07 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สายน้ำกับสายเมฆ
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [
?
]
Tracked by Histats.com
Friends' blogs
พ่อพเยีย
pumorg
KMS&หมาป่าสำราญ
Prachies
รำเพย
kipkipkip
ลูกสมุน
pecochan
สมันน้อย เบอร์ 14
ลักกี้
Plin, :-p
กุ้งน้ำเค็ม
ge-or-ge
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
aey_tara
viji
พนบ.
เชษฐา
Dinner31
swin
ajarnmodabac
IcyRose
โสดในซอย
Warabimochi
digimontamer
Guzzie
ชานไม้ชายเขา
ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
กะว่าก๋า
อู๋ปังจู้
tiara
แม่สลิ่ม
iTiMiTi
AngelTomorrow
หลั่มหมั่นเหม่ง
cookiecompany
ชบาฉาย
krich_krub_pom
ต้าหมิ๋น
Webmaster - BlogGang
[Add สายน้ำกับสายเมฆ's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.