Group Blog
 
All Blogs
 
ขอบคุณครับ...คุณครู

ด้วยอาชีพประจำของผมคือ อาจารย์มหาวิทยาลัย เพราะฉะนั้นในหนึ่งปีจะมีวันสำคัญอยู่วันหนึ่งที่ผมเฝ้ารอคอย

นั่นคือ “วันรับปริญญาของลูกศิษย์”

วันนั้นนอกจากจะเป็นวันแห่งความสุขของบัณฑิต มหาบัณฑิตและครอบครัวแล้ว มันยังเป็นวันแห่งความเปี่ยมสุขของผู้เป็นครูบาอาจารย์อย่างผมด้วย ความรู้สึกเช่นนี้ผมไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยครับ จนกระทั่งมีอาชีพที่ถูกเปรียบเปรยว่าเป็น “คนแจวเรือจ้าง”

วันนั้น...ลูกศิษย์ผู้เรียนจบการศึกษาต่างแย้มยิ้มร่าเริงแจ่มใส สวมใส่ชุดครุยดูสวยสง่าแปลกตาจากความคุ้นชินที่เคยเห็นแต่งกายในชุดนักศึกษา

ภายใต้วงหน้าอาบเคลือบด้วยเครื่องสำอางสีสดหรือเปรอะเยิ้มด้วยเม็ดเหงื่อ ผมเห็นภาพซ้อนหน้าใสซื่อของพวกเขาในห้องเรียน ผ่านการพร่ำสอน ผ่านความเคร่งเครียดในการสอบ จนถึงวันแห่งความน่าภาคภูมิใจของพวกเขาและครอบครัว

วันนั้น...บัณฑิตและมหาบัณฑิต ผู้เป็นลูกศิษย์มักขอให้ผมและอาจารย์อีกหลายๆคนร่วมถ่ายรูปคู่ หรือรูปหมู่เป็นที่ระลึกกับพวกเขา เมื่อถ่ายรูปเสร็จพวกเขายกมือไหว้ แล้วกล่าวคำว่า

“ขอบคุณครับ / คะ อาจารย์ที่สอนพวกผม/หนูจนได้วันนี้”

ครับ มันช่างเป็นประโยคสั้นๆแต่สร้างเสริมกำลังใจ ทำให้ความเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้าจากการสอนมลายไปสิ้น วันนั้นจึงถือเป็นวัน“ชาร์ทแบต”ในการทำงานของผมเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ผมอดคิดไม่ได้ว่า จะมีบัณฑิตหรือมหาบัณฑิตสักกี่คนเดินไปหาครูบาอาจารย์ในรั้วโรงเรียนระดับมัธยม หรือระดับประถมเพื่อกล่าวคำขอบคุณเช่นที่ผมและเพื่อนอาจารย์มหาวิทยาลัยได้รับ

ยิ่งไม่ต้องคิดไกลไปว่า จะมีบัณฑิตหรือมหาบัณฑิตสักกี่คน ระลึกถึงบุญคุณของคุณครูระดับอนุบาล ซึ่งถือว่าเป็นครูคนแรกๆ ผู้วางรากฐานการศึกษาของพวกเขา

จะว่าไปแล้ว ผมคิดว่า คนเป็นครูอนุบาล เป็นผู้เสียสละ อดทน และทำงานหนักยิ่งกว่าพวกผมซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเสียอีก เพราะพวกผมสอนเด็กนักศึกษาตอนโต พอจะพูดคุยกันรู้เรื่อง แต่คุณครูอนุบาลต้องผจญกับวายร้ายตัวน้อยๆวัยไม่ถึง 5 ขวบทีเดียวพร้อมกันหลายสิบคน

เดี๋ยวคนนี้จะร้องไห้ เดี๋ยวคนนี้จะนอน คนนั้นจะฉี่ คนโน้นกำลังทะเลาะแย่งของเล่นกัน วุ่นวายกระจองอแงไปหมด

ครูอนุบาลนอกจากจะมีหน้าที่สอนและดูแลเด็กตัวน้อยๆแล้ว ยังต้องสวมบทบาทอีกหลายอย่าง บางคนมีเวรต้องมาถึงโรงเรียนแต่เช้ามืด เพื่อมารอรับเด็กตัวเล็กๆอยู่หน้าโรงเรียน ครูบางคนต้องช่วยโรงเรียนจัดกิจกรรม ฯลฯ

ตัวอย่างการเสียสละอันยิ่งใหญ่ของคุณครูอนุบาล ได้พิสูจน์ให้ผมเห็นประจักษ์เมื่อโรงเรียนของเจ้าลูกชายแสนซน...“โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ” จัดงานนิทรรศการ “ถักทอความคิด ผลิตความรู้” งานนี้เป็นฝีมือของคณะครูระดับชั้นอนุบาล 3 ร่วมกับลูกศิษย์ตัวน้อยๆ

ก่อนถึงวันงานนิทรรศการ คุณครูปฐมวัยรวมทั้งนักศึกษาฝึกสอนได้ทุ่มเทพลังความคิด พลังกายออกแบบการเรียนการสอนแบบบูรณาการ ให้เด็กๆได้เรียนรู้ผ่านหน่วยการเรียนเรื่อง “ผ้า”

ตอนแรกๆ ผมงงครับ เมื่อเจ้าลูกชายคนโตบอกว่า ช่วงนี้เขาจะเรียนเรื่อง “ผ้า” อืม...มันยังไงกันละเนี่ย เพราะตอนผมเป็นเด็กอนุบาลเราเรียนการอ่าน ท่อง กอ อะ กะ กอ อา กา เราฝึกเขียน ฝึกสะกดคำ ไม่เคยเรียนหน่วยการเรียนแบบนี้เลย

แต่การเรียนของลูกขายผมไม่ได้เป็นเช่นนั้นครับ เจ้าหนูขอให้ผมช่วยหาเศษผ้าหลากหลายชนิดให้เขาหยิบ จับสัมผัส ขยี้ ดม แล้วจดบันทึก เขาให้ผมเล่าเรื่องที่มาของผ้า เขารบเร้าให้แม่สอนเย็บผ้า รีดผ้า ฯลฯ

ผมมารู้ในภายหลังว่า คุณครูให้เด็กทำกิจกรรมหลากหลายในห้องเรียน และให้ทำกิจกรรมร่วมกับพ่อแม่ เช่น กิจกรรมผ้าคืออะไร ผ้าที่ฉันรู้จัก ผ้ามาจากไหน ลักษณะเด่นของผ้า สิ่งที่เกี่ยวข้องกับผ้า ผ้าแปลงร่าง ผ้าในชีวิตประจำวัน การทำความสะอาดผ้า พับผ้า รีดผ้า ปัก ทอ เพ้นท์ พิมพ์ และการย้อมผ้า

แน่นอนครับว่า เด็กๆสนุกสนานกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ของตนเอง เป็นการสร้างกระบวนการคิดผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย

หลังจากเรียนรู้หน่วยการเรียนนี้ เหล่าคุณครูปฐมวัยได้ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ กำลังทรัพย์จัดนิทรรศการขึ้น ด้วยการใช้เวลาหลังเลิกเรียนของเด็กๆ นั่งตกแต่ง ตัดแปะกระดาษสี ทำป้าย ทำบอร์ด ทำหุ่นโชว์ ครูบางคนสอนเด็กตัวน้อยๆเต้นประกอบเพลง เพื่อแสดงโชว์ในวันงาน

ช่วงเย็นๆ ตลอดหนึ่งอาทิตย์ก่อนถึงงานนิทรรศการ ผมเห็นคุณครูหลายคนนั่งทำนิทรรศการอย่างจริงจัง ด้วยหวังจะนำผลงานของเด็กๆอวดสายตาของพ่อแม่ผู้ปกครอง ให้เด็กๆรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง

เย็นก่อนวันงานนิทรรศการก็เหมือนกันครับ ผมเห็นครูทุกคน ทุ่มเท จริงใจกับงานครั้งนี้มากความเหนื่อยล้าจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ปรากฏให้เห็นอย่างมิอาจหลบเลี่ยง นิทรรศการเริ่มเป็นรูปร่างสมบูรณ์อวดผลงานเจ้าตัวน้อยอยู่กลางโถงกว้างใต้ตึกเรียน

วันรุ่งขึ้น ผมลางานเพื่อมาร่วมนิทรรศการครั้งนี้ด้วยความเต็มใจยิ่ง แต่ไม่มีงานนิทรรศการในวันนั้นครับ ?!?

เหตุเพราะเมื่อคืนก่อนวันงาน พายุฝนขนาดหนักได้พัดกระหน่ำทำลายป้ายบอร์ดนิทรรศการ และพัดผลงานของนักเรียนอนุบาลตัวน้อยปลิวเปียกกระจายไปทั่ว

โชคดีว่าคืนนั้นคุณครูยังอยู่กันดึกดื่นเพื่อเตรียมงาน จึงช่วยกันโยกย้ายข้าวของบางส่วนหลบฝน บางคนวิ่งไล่เก็บผลงานเด็กเปียกปอนไปทั้งตัว

คุณครูไม่ปล่อยให้น้ำตาแห่งความเสียใจไหลอย่างสูญเปล่า ต่างรวบรวมกำลังใจทำนิทรรศการขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

คืนนั้นไม่มีใครได้นอนพัก ต่างช่วยกันถักทอความฝันของตนเองอีกครั้ง ข้ามคืนผลงานที่ถูกทำลายด้วยภัยธรรมชาติยังไม่สามารถเก็บกู้ได้อย่างสมบูรณ์ คุณครูจึงขอทำต่อให้เสร็จและโยกย้ายนิทรรศการไปแสดงบนชั้นเรียนแทนโถงใต้ตึก ทำให้นิทรรศการต้องเลื่อนไปอีกหนึ่งวัน

ผมและหญิงสาวคู่ชีวิตไปร่วมงานนิทรรศการในวันรุ่งขึ้น อดทึ่งกับความพยายาม และความตั้งใจจริงของคณะครูปฐมวัยเหล่านี้ไม่ได้

นิทรรศการ “ถักทอความคิด ผลิตความรู้” นอกจากจะโชว์ผลงานของเด็กอนุบาล 3 แล้ว มันยังสะท้อนถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของครูอนุบาล

หลังจากใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมงดูนิทรรศการ ผมเดินออกมา หยิบปากกาเขียนบนผืนผ้าแสดงความคิดเห็น แทนความรู้สึกจากใจส่วนลึกที่อยากบอกคุณครูอนุบาลทุกคนว่า

“ขอบคุณครับ..คุณครู”

.......................................................................................................................................................................
บทความนี้ผมเขียนลง ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Mother & Care ฉบับที่ 59 เดือน พฤศจิกายน 2552



Create Date : 11 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2552 23:14:54 น. 1 comments
Counter : 819 Pageviews.

 
เป็นเรื่องดี ที่ผู้มีวิชาความรู้ถ่ายทอดวิชาให้กับผู้ขาดความรู้เพื่อต่อยอดความรู้ ดั่งที่ครูบาอาจารย์ประพฤติกัน


อ.เป็นครูสอนผู้ใหญ่ที่เหนื่อยล้าในด้านกำลังคิด...ในขณะเดียวกัน คุณครูสอนอนุบาลเหนื่อยล้ากับการจัดการเด็ก แต่แล้วความสำคัญก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เพราะทั้ง คุณครู 2 ฐานะ ต่างรับศึกในการเพิ่มพูนความรู้เช่นเดียวกัน...อย่างที่อ.บอกไว้ข้างต้น


ขอบคุณคะคุณครูที่เพิ่มพูนความรู้ให้พวกหนู...


โดย: ต้าหมิ๋น ลูกศิษย์อ.มานะ IP: 58.8.100.142 วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:12:08:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สายน้ำกับสายเมฆ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Locations of visitors to this page

Tracked by Histats.com
Friends' blogs
[Add สายน้ำกับสายเมฆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.