bloggang.com mainmenu search






"ภาพภายนอกสุสานโจโฉ"





"หน้ากากโจโฉ"




โจโฉ (อังกฤษ: Cao Cao ; จีนตัวเต็ม: 曹操; จีนตัวย่อ: 曹操; พินอิน: Cáo Cāo; เวด-ไจลส์: Ts'ao² Ts'ao¹) หรือ สมเด็จพระจักรพรรดิเว่ยอู่ตี้ เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊ก ที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊ก

มีชีวิตอยู่ระหว่าง พ.ศ. 698 - พ.ศ. 763 เกิดที่เมืองโป๋โจว มณฑลอันฮุย มีชื่อรองว่าเมิ่งเต๋อ เป็นบุตรบุญธรรมของโจโก๋ อดีตหัวหน้าขันทีในวังหลวง

ในวัยเด็กเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นรองเจ้าเมืองเมื่ออายุได้ 20 ปี เป็นขุนศึก แม่ทัพและผู้สำเร็จราชการแผ่นดินคนสุดท้าย ในราชวงศ์ฮั่นตะวันออกของประเทศจีน ในภายหลังโจโฉได้ก่อตั้งวุยก๊ก ซึ่งเป็นหนึ่งในสามอาณาจักรของยุคสามก๊ก

สามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ได้บรรยายลักษณะนิสัยของโจโฉไว้ว่า เป็นผู้ที่มีนิสัยโหดเหี้ยมและทะเยอทยาน เจ้าเล่ห์เพทุบายในการวางแผน มีเหตุผลในบางครั้ง ผูกใจคนเก่ง มีศิลปะในการเลือกใช้คนสูง บริหารจัดการเก่ง มีความเป็นผู้นำ

ซึ่งหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้กล่าวว่า ยิ่งอ่าน ยิ่งรักน้ำใจโจโฉ และกลายเป็นที่มาของหนังสือชื่อโจโฉ นายกฯ ตลอดกาล ด้วยลักษณะของมุมมองโจโฉในอีกแง่หนึ่ง และให้บุคคลฝ่ายจ๊กก๊กเช่นเล่าปี่ กวนอูและเตียวหุย มีลักษณะนิสัยตรงข้ามโจโฉแทน


พระราชประวัติ

โจโฉเริ่มต้นชีวิตทางทหารด้วยการเป็นหนึ่ง ในแม่ทัพของฝ่ายราชวงศ์ฮั่น ที่ออกปราบกบฏโจรโพกผ้าเหลือง ซึ่งมีเตียวก๊กเป็นหัวหน้า ซึ่งมี พระเจ้าเลนเต้เป็นจักรพรรดิ แซ่เดิมคือหัว ภายหลังได้เปลี่ยนเป็นโจหลังจากได้เป็นบุตรบุญธรรมของโจโก๋

เป็นคนรูปร่างเล็ก นิสัยฉลาดแกมโกง เอาตัวรอดเก่ง เชี่ยวชาญตำราพิชัยสงคราม ชื่นชอบศิลปะ นิสัยรอบคอบ ภายหลังจากปราบโจรโพกผ้าเหลืองได้สำเร็จ และได้รับความดีความชอบเป็นอย่างมาก

แต่ถูกตั๋งโต๊ะหักหลังและตั้งตนเป็นใหญ่ โจโฉจึงร่วมมือกับเจ้าเมือง 18 หัวเมือง ตั้งเป็นกองทัพสิบแปดหัวเมือง โดยมี อ้วนเสี้ยวเป็นแม่ทัพใหญ่ในการปราบตั๋งโต๊ะ

ต่อมาภายหลังโจโฉเริ่มเบื่อหน่าย กับความแตกแยกในกองทัพ รวมทั้งไม่ประสบความสำเร็จในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ จึงรวบรวมกองกำลังทหารที่เห็นด้วยกับตนหลบหนีไป

ระหว่างหลบหนีโจโฉได้ถูกจับตัวและพบกับตันก๋งเจ้าเมืองจงพวน ซึ่งชื่นชมในลักษณะนิสัยใจคอจึงขอร่วมเดินทางไปด้วย โดยที่โจโฉมุ่งหน้าไปหาแปะเฉีย ซึ่งเป็นพี่น้องร่วมสาบานของโจโก๋

ด้วยความหวาดระแวงในการหลบหนี ทำให้โจโฉสังหารแป๊ะเฉียและคนในครอบครัว ด้วยความเข้าใจผิด ที่คิดว่าแปะเฉียสั่งให้คนใช้จับตนเพื่อส่งกลับยังเมืองหลวง ความโหดเหี้ยมของโจโฉทำให้ตันก๋งขอแยกทาง ซึ่งโจโฉได้กล่าวกับตันก๋งว่า

"ข้ายอมทรยศคนทั้งโลก แต่ไม่ยอมให้ใครทรยศข้า"

ภายหลังจากรวมรวมกองกำลังทหารและปราบตั๋งโต๊ะได้สำเร็จ โจโฉเกิดความทะเยอทะยานในอำนาจของตน ลอบปลอมแปลงราชโองการเพื่อกำจัดฝ่ายตรงข้าม จนได้รับการสถาปนาเป็นสมุหนายก และมหาอุปราชตามลำดับ เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระเจ้าเหี้ยนเต้

สร้างความคับแค้นใจให้พระเจ้าเหี้ยนเต้ จนต้องแอบเขียนหนังสือด้วยโลหิตถึงเล่าปี่ เพื่อช่วยปราบโจโฉ ต่อมาได้ครองเมืองลกเอี๋ยง ซึ่งมีฐานะเป็นเมืองหลวง

และสถาปนาวุยก๊กซึ่งมั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์มากที่สุด แต่ด้วยนิสัยหวาดระแวงของโจโฉ ทำให้สั่งประหารบุคคลสำคัญของวุยก๊กจำนวนมากโดยที่ไม่มีความผิด

โจโฉมีบุตรชายทั้งหมด 5 คน คนแรกชื่อโจงั่ง ซึ่งเกิดจากภรรยาคนที่สอง แต่เสียชีวิตเมื่อครั้งเกิดศึกสงครามกับเตียวสิ้ว พร้อมกับภรรยาคนที่สามคือเอียนสี และอีก 4 คนคือโจผี โจเจียง โจสิด และ โจหิม

ในบั้นปลายชีวิตโจโฉป่วยเป็นโรคประสาท มักปวดหัวเป็นประจำ ต่อมาฮัวโต๋ได้ทำการรักษาอาการของโจโฉด้วยการเสนอให้ผ่าศีรษะ โจโฉกลับคิดว่าฮัวโต๋จะฆ่าตนจึงสั่งประหาร และเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 66 ปี

ภายหลังจากโจโฉเสียชีวิต โจผีบุตรชายคนรองได้ถอดพระเจ้าเหี้ยนเต้ออกจากตำแหน่ง และสถาปนาตนเองเป็นพระเจ้าโจผีแห่งราชวงศ์วุย รวมทั้งยกย่องโจโฉ ขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์แรงแห่งราชวงศ์วุย


สุสานโจโฉ

ในวันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 2009 ทางการจีนประกาศว่าได้ขุดค้นพบสุสานที่เชื่อว่าน่าจะเป็นของ โจโฉ ที่เมืองอันหยาง มณฑลเหอหนาน ตอนกลางของประเทศจีน

โดยสุสานมีอาณาบริเวณ 740 ตารางเมตร มีโครงกระดูกของชายที่น่าจะเสียชีวิตในอายุราว 60 ปี ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นโจโฉ และโครงกระดูกของผู้หญิงอีก 2 ซึ่งน่าจะเป็นมเหสี และป้ายศิลาจารึกพระนามของโจโฉ


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


สิริสวัสดิ์ศุกรวาร สิริมานปรีดิ์เขษมค่ะ
Create Date :05 พฤศจิกายน 2553 Last Update :5 พฤศจิกายน 2553 12:19:26 น. Counter : Pageviews. Comments :0