bloggang.com mainmenu search


โดย สุรัตน์ ปรีชาธรรม



กองกำลังแห่งไท่ผิงเทียนกั๋ว, ภาพซ้าย: รูปปั้นผู้นำ หง ซิ่วเฉวียน,
หง ซิ่วเฉวียนได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ซุน ยัตเซ็น
และเหมา เจ๋อตง ทั้งสองท่านได้เขียนแสดงความชื่นชม
และนับถือหัวหน้ากบฏไท่ผิงท่านนี้ไว้มากมายหลายครั้ง





ซุน จงซัน หรือซุน ยัตเซ็น(1866-1925) ผู้นำการปฏิวัติซินไฮ่
ที่โค่นล้มราชวงศ์ชิงในปี 1911 ซุน ยัตเซ็นชื่นชมหง ซิ่วเฉวียน
ในฐานะต้นแบบนักชาตินิยมจีนฮั่น และเปรียบการปฏิวัติจีน
เป็นการสานต่ออุดมการณ์การล้มล้างราชวงศ์ชิงที่หง
ได้ริเริ่มเมื่อเกือบ 100 ปีที่ผ่านมา





เหมา เจ๋อตง แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้สร้างความตื่นตะลึง
แก่ชาวโลก โดยยืนยันใช้แรงงานภาคเกษตรปฏิวัติสังคมนิยมจีน





ภาพแกะสลักการต่อสู้ของขบวนการไท่ผิง




ความสามารถอันน่าทึ่งของหง ซิ่วเฉวียน ในการนำเอาแนวคิดที่ดูแปลกแยกแตกต่างไปจากวิถีจีนอย่างที่สุด มาปรับใช้ให้เข้ากับจริตของสังคมจีนแบบดั้งเดิมได้อย่างน่าอัศจรรย์นี้ ได้กลายมาเป็นคุณสมบัติสำคัญอันจะขาดไม่ได้เลย ในผู้นำการปฏิวัติในประวัติศาสตร์จีนสมัยใหม่

ความสามารถที่ว่านี้ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นคล้อยตามไปด้วยว่าสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปนั้น นอกจากจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมธรรม ยังเป็นสิ่งที่มีอยู่ในวิถีวัฒนธรรมจีนด้วย เป็นสิ่งที่เป็นแก่นแท้เป็นรากเหง้าอันดีงามแห่งประชาชาติจีน ที่ถูกผู้ปกครองหยาบช้าสามานย์ละเลยและหลงลืมไป

ที่สำคัญที่สุดคือความสามารถ ในการนำเอาแนวคิดจากต่างชาติต่างวัฒนธรรมมาปรับเปลี่ยนดัดแปลง ให้กลายเป็นอุดมการณ์สำคัญผลักดันขบวนการชาตินิยม/ชาติพันธุ์นิยมในชนบทจีน หงจัดเป็นนักชาตินิยมต้นแบบ และยังเป็นนักสังคมนิยมพื้นถิ่น ที่จินตนาการวิธีการทำสังคมให้เท่าเทียมกันได้โดยขจัดกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตัวอย่างความสำเร็จสั้นๆ ของหง ซิ่วเฉวียนได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ซุน ยัตเซ็น และเหมา เจ๋อตง ทั้งสองท่านได้เขียนแสดงความชื่นชม และนับถือหัวหน้ากบฏไท่ผิงท่านนี้ไว้มากมายหลายครั้ง

ซุน ยัตเซ็นชื่นชมหง ซิ่วเฉวียน ในฐานะต้นแบบนักชาตินิยมจีนฮั่น และเปรียบการปฏิวัติจีนเป็นการสานต่ออุดมการณ์การ ล้มล้างราชวงศ์ชิงที่หงได้ริเริ่มเมื่อเกือบ 100 ปีที่ผ่านมา

เหมา เจ๋อตงเองก็มองขบวนการไท่ผิง ในฐานะรากเหง้าแห่งขบวนการสังคมนิยมของจีน และหนทางทางปฏิรูปที่ดินในสังคมเกษตรของหงนั้นมีอิทธิพลต่อแนวทางการสถาปนาแนวคิด สังคมนิยมเกษตรแบบเหมาอย่างมีนัยสำคัญ

แม้ท้ายที่สุดองค์กรการเมืองที่ซุน ยัตเซ็น และเหมา เจ๋อตงก่อตั้งขึ้นจะเติบโตในแนวทางที่ตรงข้ามกันอย่างแทบจะสิ้นเชิง และเป็นต้นตอการแบ่งแยกประชาชาติจีนที่สองฝากฝั่งช่องแคบไต้หวัน ณ ปัจจุบัน

อาจารย์วาสนาได้หยิบยกเปรียบเทียบ ลักษณะสำคัญหลายประการของนักปฏิวัติสองท่านนี้ กับหง ซิ่วเฉวียน และพบว่าหนทางสู่การเป็นนักปฏิวัติของซุน และเหมานั้น ต่างก็มีรากฐานมาจากแรงบันดาลใจเดียวกันนั่นเอง

หง ซิ่วเฉวียนกับการเป็นนักศึกษา นักวิชาการ และการรับราชการ
หง ซิ่วเฉวียน ซุน ยัตเซ็น และเหมา เจ๋อตง ต่างมีจุดร่วมในรากฐานการศึกษา มีความเป็นนักวิชาการ และมีความมุ่งหวังในการเข้ารับราชการ

ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของอารยธรรมจีน และวัฒนธรรมขงจื่อ ความมุ่งหวังในการเข้ารับราชการ มีส่วนสำคัญในการก่อร่างแนวคิดของนักปฏิวัตินามอุโฆษทั้งสามท่านนี้

หงมีความพยายามในการสอบเข้ารับราชการถึง 4 ครั้ง ส่วนซุน ยัตเซ็น ก่อนที่จะเข้าสู่เส้นทางปฏิวัติ ได้เดินทางไปพบขุนนางแมนจูนักพัฒนาคนสำคัญคือ หลี่ หงจาง ด้วยความมุ่งหวังจะเข้ารับราชการช่วยผลักดันการพัฒนาจีนให้ทันสมัยตามแนวทางของหลี่

สำหรับเหมา เจ๋อตงก็เริ่มปรากฏตัวท่ามกลางนักคิดหัวก้าวหน้าของจีนในต้นศตวรรษที่ 20 เข้าทำงานในห้องสมุดมหาวิทยาลัยปักกิ่ง

การศึกษาทำให้คนอย่างหง ซุน และเหมามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสังคมและวัฒนธรรมจีน แต่ที่สำคัญนักปฏวัติทั้งสามท่านมีการศึกษาที่ไม่ดีพอ ที่จะเข้าสู่ระบบราชการได้

การที่พวกเขาไม่ได้เข้าสู่ระบบราชการ ทำให้ต้องใช้ชีวิตอยู่ ณ ชายขอบ ได้สัมผัสกับความยากลำบากของชีวิต

ซึ่งทำให้ทั้งสามท่านตระหนักลึกซึ้งถึงความอยุติธรรม และความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่มีรากฐาน มาจากระบบการศึกษาและระบบราชการแบบประเพณี ซึ่งปิดกั้นความก้าวหน้าของพวกเขา และความคับข้องใจนี้ย่อมเป็นรากฐานสำคัญของความตั้งใจล้มล้างระบบอันไม่เป็นธรรมนี้

ผลพวงสำคัญของการได้รับการศึกษาไม่ดีพอ ที่จะเอาดีในระบบราชการ ทำให้พวกเขาไม่ถูกครอบงำทางความคิด โดยระบบการศึกษาแบบเก่า

ทำให้นักปฏิวัติทั้งสามท่าน มีพื้นที่ในการปรับเปลี่ยนผสมผสานจับแพะชนแกะแนวคิดต่างๆ เพื่อสร้างแนวทางใหม่ที่เห้นว่าเหมาะสมกับสังคมจีน

ลักษณะการจับแพะชนแกะทางความคิดนี้ เห็นได้ชัดในปรัชญาการเมืองของซุน ยัตเซ็น และเหมา เจ๋อตง ซึ่งเป็นปรัชญาการเมืองแบบที่นักปรัชญาตะวันตกที่ทั้งสองท่านอ้างถึง มองว่าเป็น “ลัทธิแก้”

นักปฏิวัติจีนที่ประสบความสำเร็จ ต้องสามารถนำแนวคิดตะวันตกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ความก้าวหน้าทันสมัย และแสนยานุภาพของโลก มาผสมผสานกับวัฒนธรรมดั้งเดิม ที่เป็นที่คุ้นเคยของสังคมจีนได้อย่างลงตัว จึงอาจชนะใจมหาชนชาวจีนได้

ความสามารถในการจับแพะชนแกะทางความคิด ได้ถูกถ่ายทอดในหมู่นักปฏิวัตจีนรุ่นหลัง จนปัจจุบันเราก็ได้เห็นประดิษฐ์กรรมทางอุดมการณ์ปฏิวัติจีน ไม่ว่าจะเป็น สังคมนิยมแบบจีน หนึ่งประเทศสองระบบ หลักทฤษฎีสามตัวแทน

การปฏิรูปที่ดินและการขับเคลื่อนแรงงานภาคเกษตร: ขุมพลังอันยั่งยืนของนักปฏวัติจีน

“ไม่มีนักปฏิวัติคนใดปลุกระดมมหาชนชาวจีนซึ่งเป็นส่วนใหญ่เป็นชาวนาโดยปราศจากนโยบายปฏิรูปที่ดินแบบใดแบบหนึ่ง ดังนั้น กบฏชาวนา จึงมักถูกนำมาตกแต่งยำรวมเข้ากับแนวคิดการเมืองตะวันตกสองสามอย่าง และจัดโครงสร้างให้มีระเบียบแลดูมีประสิทธิภาพ

นี่คือ เหตุผลสำคัญที่ลัทธิไตรราษฎร์ของซุน ยัตเซ็น ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงไม่จบจนถึงทุกวันนี้ ว่าเป็นคอมมิวนิสต์ หรือประชาธิปไตย หรือทั้งสองอย่าง

“และขณะที่มาร์กซ์และเลนินยึดถือการขับเคลื่อนการปฏิวัติ โดยชนชั้นกรรมาชีพในภาคอุตสาหกรรม เหมา เจ๋อตงได้สร้างความตื่นตะลึงแก่ชาวโลก โดยยืนยันใช้แรงงานภาคเกษตรปฏิวัติสังคมนิยมจีน

ถ้าเราหวนกลับไปศึกษาแนวนโยบายของกบฏไท่ผิง ก็จะพบว่านวัตกรรมสังคมนิยมเกษตรของเหมาไม่ใช่ความคิดใหม่ การปฏิรูปที่ดินคือการเอาใจชาวนายากจน ที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ

ซึ่งเป็นตัวตัดสินชัยชนะของการปฏิวัติ ซึ่งข้อนี้ ผู้นำการเมืองจีนรู้กันมานานตั้งแต่มาร์กซ์ เลนิน ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ”

แนวคิดทางการเมืองของทั้งซุน และเหมานั้น ยิ่งวิเคราะห์ ยิ่งเปรียบเทียบ ก็ยิ่งเห็นความย้อนแยงไม่ลงรอยกับแนวทางที่พากันอ้างว่าเป็นต้นแบบตะวันตก ทั้งประชาธิปไตย สังคมนิยม หรือแม้แต่ชาตินิยม และมักโดนนักปรัชญาการเมืองสายต้นตำรับ ของตะวันตกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น “ลัทธิแก้”

ด้านนักวิชาการจีนศึกษาจำนวนมาก ทั้งในประเทศจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ยังคงเพียรสืบค้นรากฐานความคิดปฏิวัติของซุน ยัตเซ็น และเหมา เจ๋อตง จากความคิดฝรั่งที่เขารับมาเมื่อเติบโตขึ้นแล้ว

โดยละเลยที่จะพิจารณาต้นเหตุภายในประวัติศาสตร์จีนเอง ซึ่งส่งอิทธิพลกับพวกเขามากกว่า ถ้าลองได้หันมาศึกษาหง ซิ่วเฉวียน และกบฏไท่ผิงอย่างจริงจัง อาจพบว่าสาวกของท่านประธานเหมาที่เพียรพากศึกษา ‘สรรนิพนธ์เหมา’ อยู่ทุกวันนี้

อันที่จริงแล้วไม่ได้สืบเชื้อสายทางความคิดจากมาร์กซ์หรือเลนิน แต่เป็นสาวกที่ไม่รู้ตัวของน้องชายพระเยซูต่างหาก!


ขอบคุณ
ผู้จัดการออนไลน์
คุณสุรัตน์ ปรีชาธรรม


สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ
Create Date :29 กุมภาพันธ์ 2555 Last Update :29 กุมภาพันธ์ 2555 21:57:36 น. Counter : Pageviews. Comments :0