bloggang.com mainmenu search






รูปปั้นตั๊กม้อ บริเวณหน้าวัดเส้าหลิน






พระและเณรวัดเส้าหลิน
ผู้ฝึกวิทยายุทธและศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว




วิทยายุทธวัดเส้าหลิน

วิทยายุทธวัดเส้าหลิน เป็นการฝึกฝนและเสริมสร้างสมรรถภาพของร่างกายที่ดีที่สุดทางหนึ่งของหลวงจีน

เป็นการฝึกฝนเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย เสริมสร้างสมาธิ สติปัญญา ความมีระเบียบวินัยและคุณธรรม

มีความรุนแรงในการปะทะเป็นอย่างมาก เกิดจากลมปราณภายในร่างกายที่ผ่านการฝึกมาเป็นเวลานาน สามารถเจาะทะลวงพื้นอิฐให้เป็นรอยยุบได้อย่างง่ายดาย

สามารถเพิ่มความรุนแรงในการต่อสู้ ด้วยกำลังภายในหรือลมปราณที่หมั่นฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา

จุดเริ่มต้นจากรากฐานของวิทยายุทธ มีความแตกต่างจากสำนักอื่น โดยเฉพาะศิลปะการต่อด้วยสู้มือเปล่า เป็นที่เลื่องลือมากที่สุดในกระบวนท่าทั้งหมด

เกิดจากการประยุกต์ขึ้นจากธรรมชาติแวดล้อม ผนวกกับวิทยายุทธลมปราณ ที่เกิดจากการนั่งสมาธิวิปัสสนา กลายเป็นกำลังภายในที่มีองค์ประกอบพื้นฐานอยู่หลายอย่าง อันเป็นเอกลักษณ์ ได้แก่

เพลงหมัดอรุโณทัย (First Strike) เป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่มีความรวดเร็วในการโจมตี ซึ่งเร็วกว่าศัตรูเมื่อปล่อยหมัดออกพร้อมกัน

วิทยายุทธตัวเบาเส้าหลิน (Flying) เป็นพื้นฐานเพื่อใช้สำหรับหลบหนีสัตว์ร้ายในป่าเช่น เสือ หมาป่า ที่วิ่งได้เร็วกว่า เมื่อใช้วิทยายุทธตัวเบา ทำให้สามารถลอยตัวกลางอากาศได้ในระยะหนึ่ง

วิทยายุทธคงกระพันเส้าหลิน (Protection) หลวงจีนวัดเส้าหลินมักใช้ว่านชนิดหนึ่งผสมน้ำอาบชำระล้างร่างกายทุกวัน ซึ่งว่านที่ใช้ผสมน้ำอาบนั้นมีสรรพคุณทางป้องกันร่างกาย จากอาวุธทุกประเภทได้เป็นอย่างดี

วิทยายุทธลมปราณ (Trample) เกิดจากการกำหนดจิตและกายรวมเป็นหนึ่ง ลมปราณจากการกำหนดพลังแฝงภายในร่างกาย จะแสดงออกมาในรูปของเพลงหมัดและเพลงเตะที่มีความหนักแน่นและดุดัน


รากฐานกังฟูเส้าหลิน

รากฐานกังฟูเส้าหลินได้แก่ พลังลมปราณและวิทยายุทธ ถือกำเนิดขึ้นโดยตั๊กม้อ สาเหตุสำคัญของการฝึกกังฟูนอกเหนือจากการเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกายให้แข็งแรงแล้ว เหตุผลสำคัญอีกประการในการฝึกกังฟู มาจากสถานที่ตั้งของวัดเส้าหลิน ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาซงซาน รายล้อมด้วยป่าไม้จำนวนมาก

รวมทั้งในป่ารอบ ๆ วัดเส้าหลินมีสัตว์ร้ายนานาชนิด หลวงจีนวัดเส้าหลินจึงจำเป็นที่จะต้องมีการฝึกวิทยายุทธไว้สำหรับต่อสู้ป้องกันตัว และได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมาโดยตลอด

ซึ่งรากฐานกังฟูวัดเส้าหลินแต่โบราณ มีที่มาจากท่วงท่าการเคลื่อนไหวและพฤติกรรมของสัตว์เช่น หงเฉวี๋ยน หรือเพลงหมัดตระกูลหงส์ เป็นการเลียนแบบท่าทางของหงส์ เป็นต้น

เพลงมวยหมัดเมา เป็นหนึ่งในเพลงหมัดมวยและกังฟูที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก โดยกฎของทางวัดเส้าหลิน การดื่มสุราและของมึนเมาทุกชนิดเป็นเรื่องต้องห้าม แต่ท่วงท่าและลีลาของเพลงมวยหมัดเมาที่เดินไม่ตรงทาง เอียงซ้าย เอียงขวา ตัวโก่งงอ บิดเอวและแขนขาไปมา

ในขณะที่มือทำท่าราวกับจับไหเหล้าเอาไว้ตลอดเวลา นาน ๆ ครั้งจึงทำท่ายกขึ้นมาด้วยท่าทางราวกับกำลังดื่มกิน พร้อมกับเดินไม่ตรงทาง เซหน้าเซหลังไปมา ตีลังกาหน้าและหลัง

ซึ่งลักษณะของคนที่เมาสุราทั้งหมดนี้ รวมทั้งกระบวนท่าต่าง ๆ ที่หลวงจีนทำการฝึกฝน แทบจะไม่ต่างจากบุคลิกและลักษณะท่าทางของคนเมาแม้แต่น้อย เป็นการใช้จินตนาการในการเลียนแบบท่าทางและความรู้สึกของคนเมา

ซึ่งแท้จริงแล้วเพลงมวยหมัดเมาเป็นการฝึกกำลังช่วงขา และเอวให้มีความแข็งแรง


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


ศุภสวัสดิ์วุธวารบวร เพ็ญบูลย์ศตพรวรวารนะคะ
Create Date :27 ตุลาคม 2553 Last Update :27 ตุลาคม 2553 20:13:16 น. Counter : Pageviews. Comments :0