No. 410 ปีนเขาน้อย
บล๊อกประจำวัน จันทร์ / ศุกร์ ที่คลิ๊กตามมา...ครับ | | ไปเที่ยวเกาะ ในไทยหลายเกาะ แต่ละแห่งภูมิประเทศต่างกัน | บางแห่งมีต้นมะพร้าว พื้นที่ราบ พื้นที่เป็นทราย เป็นป่าละเมาะสลับกับ ต้นไม้ยืนต้น | ขึ้นเขียว บางเกาะ เป็นเขาสูง มีหมูป่า ไก่ป่า บางแห่งมีกวาง | แน่นอน มีน้ำตก ป่าไม้ แต่นั่นต้องนั่งเรือสปีดโบ๊ต ที่ใช้ความเร็วสูงมาก แต่ต้องใช้ | เวลานับเป็นชั่วโมง | | แต่เกาะสีชัง เป็นเกาะที่อยู่ใกล้กรุงเทพ นั่งเรือธรรมดาใช้เวลาประมาณ 40 นาที | ค่าเรือก็ถูกแสนถูก 50 บาทต่อเที่ยว | เกาะแห่งนี้แม้จะไม่ได้ไปบ่อยนัก แต่ก็ไปหลายครั้ง ไปค้างคืน หรือไม่ก็ไปกลับแบบ สบาย ๆ | ครั้งหลังสุดนี่ เจอ หมูป่าด้วย จริง ๆ นะครับ 555 | | จากมุมมอง ทั้งตัวเองไป และเพื่อน ๆ ถ่ายภาพมา ที่เกาะมีแต่ หิน แห้งแล้ง | น้ำจืดหายาก ชายทะเลบางแห่งมีแต่หินโสโครก ดำ... ที่พักเหรอ ราคาแพง... เพื่อนบาง | คนถามว่า ที่พักแบบคนรับประทานเงินเดือน มีบ้างไหม ? มีครับ... ตามมาเลย | | ไปคราวนี้ ควบมอเตอร์ไซค์หมายเลย 1 สีชมภูหวานเชียว 555 เรียกว่าควบเอวอ่อน | เอวดุ้ง เบรครถหัวทิ่มบ้าง ลัดเลาะไปดูวิธีชีวิตชาวบ้าน | เขาอยู่กันอย่างสงบ ไม่เร่งร้อน แต่ก็ไปเจอที่พัก รีสอร์ท โอ้โห.. สี..เจ็บจริง ๆ | | ผมเห็นรีสอร์ท สีเจ็บ ๆ แบบข้างบนนี้หลายหลัง แหะ ๆ มัวตะลึงเลยไม่ได้ถ่ายภาพ อาศัย ภาพจากกูเกิ้ล มาให้ดูเปรียบเทียบ ว่าสีเจ็บเพียงใด | | เป็นภาพบางส่วนนะครับ มีเยอะกว่านี้ อยู่ที่รสนิยมของแต่ละคน บางคนนั่งทำงาน | ที่กรุงเทพ เห็นแต่กองเอกสาร ทึม ๆ พอไปเห็น บ้านพัก รีสอร์ท สีเจ็บ แบบนี้ | ชอบ.... เขาบอกว่า น่า รักจัง... โห...ตาสว่าง หายง่วงเลย | | ไวน์เอง มิได้เข้าไปดูข้างในห้องพักนะครับ เลยไม่รู้ว่าข้างในสี โทนอ่อนนุ่ม หรือ | สีเจ็บแบบข้างบน..วันนี้จะไม่พูดถึง ปฏิกิริยา มานุษย์ เมื่อเห็นสีต่าง ๆ | มันเป็นวิชาการเกินไป ........ | | | | หลังจากขี่มอเตอร์ไซค์สีชมพูหวานแหว๋ว เข้าวัง ที่เคยเห็นเฉพาะส่วนริมทะเล | แต่คราวนี้เดินดูทั่ว หลบร้อนผ่านร้านกาแฟและอาหารสองชั้น | ไปอาคารสวยแบบนี้ ถอดรองเท้าเข้าไปดู | | | | ต้องบอกว่า ร่ม เย็น สบายตา..ในการมองผนัง หน้าต่าง | | | | อยู่ข้างบนเรือน มองลงไปเห็น ใบไม้สีเขียว คนเดินไปมา ดูมีความสุข จากการได้มาเยือน พระจุฑาธุชราชสถาน | ....... | ข้างบนเป็นความ งดงาม การเข้าไม้ได้เนียน ให้สีขาวตัดกับสีน่ำตาลเข้ม | | เข้าไปดูข้างใน เรียกว่า สวย เรียบกริ๊บ ก็ว่าได้ | | | ภาพข้างบนเป็น เรือนพัก ที่ใช้สีขาว กับสีเขียว เหมาะสำหรับภูมิประเทศ ร้อนชื้น แต่คงจะไม่เหมาะ ถ้าละแวกนี้มีหิมะลง หรือหนาวจัด ถ้าเห็นสีขาวกับสีเขียว คงทำให้จิตใจ หนาวไปอีก ต้องมีการใช้ สีแดง เหลือง ส้ม ตัดเพื่อให้จิต เกิดความอบอุ่นเนาะ ผมว่านะ | นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มักจะไม่เดินขึ้นเนินข้างบน เพราะไม่คิดว่าจะมีของสวยงาม งั้นเดินไปดู ใกล้ขึ้นเนิน มีต้นมะขาม ยืนรอผู้มาเยือน ต้นมะขามอายุมากแล้ว กิ่งสาขาของต้น ทอดยาวออกไปทางขวา สันนิษฐานไว้ก่อน ว่า สมัยก่อนพื้นที่ด้านขวานี้โล่ง มีแดด เขาเลยยื่นกิ่งออกมา รับแสงแดดเพื่อปรุง แร่ธาตุในดินให้เป็นอาหาร ทางเดินไม่สูง เป็นเพียงเนินดิน เดินได้สบาย ร่ม รื่น เย็นสบาย มีต้นไม้อายุเยอะ มาก ทอดกิ่งต้อนรับผู้มาเยือน หรือ เหนื่อยล้าไม่รู้ซินะ ระยะทางเดินเพียง 100 กว่าเมตรสั้น ๆ ก็ถึง อาคารชั้นเดียว เป็นที่ต้อนรับ นักท่องเที่ยว มีเจ้าหน้าที่นั่งคอยต้อนรับอยู่ ข้าง ๆ เรือนพัก มีต้นไม้ ขึ้น แสงแดดส่องเป็นลำ สู่ดิน สวย | | กลางเรือนพัก ด้านบน เป็นโดม กลมสวย | ได้พูดคุยกับ เจ้าหน้าที่หญิง เธอตอบคำถามที่ เราสงสัย ได้ชัดเจน มองไปด้านขวามือ สู่ทะเล เห็นต้นไม้ใหญ่ น่าสนใจ | | เดินไปไม่ถึง 50 ก้าว ก็ถึงแล้ว มองไปอีกทาง ถ้านักเล่นต้นไม้ เขาคงใช้คำว่า ฟอร์ม มั้ง ดูซิครับ มองลอดทะลุ ไปจะเป็นทะเล กั้นระหว่างเกาะสีชัง กับ ตัวอำเภอ ศรีราชา เ | ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ ถึง อายุ แหะ ๆ ไม่ใช่อายุสาวล่ำบึก คนเดินนะครับ ไม่รู้จักกันด้วย ผมถามอายุต้นไม้ ต้นลั่นทม อายุประมาณ 130 ปี | | | ........ | | ใกล้กันมีเรือน รับรองโบราณ ที่ทางการ ได้เก็บรักษา ทนุบำรุงสวย เวลาเดินเข้าไป ร่มรื่น เย็นสบาย | | ......... | เรือนรับรองนี้ เป็นเรือนชั้นเดียว ยกสูงจากพื้นประมาณ 80 เซ็นติเมตร | | ยืนถ่ายภาพ แล้วมองไปข้างบน ที่ระเบียบ เห็นการออกแบบ การเข้าไม้ สวย เรียบร้อยมาก ด้านหลัง มีเรือนทาสีขาว ปนเขียว ไม่ได้เดินไปดูเพราะเขาปิดไว้ สันนิษฐานก่อนว่า เป็นห้องครัว หรือไม่ก็ห้องน้ำ แต่ก็สงสัยอีกแหละ ทำไม ไม่มีช่องลม ระบายควัน หรืออากาศ | ระหว่างที่อยู่บริเวณเรือนรับรอง ร่มเย็น แม้จะไม่มีลมพัดก็ตาม แต่มองทะเลไม่เห็น ต้นไม้บัง เลยอยากจะดูให้ไกลสุดลูกหูลูกตา ดูป้ายชี้ทางว่า ไปดูจุดชมวิว ประมาณ ครึ่ง กม. เดินไหวอยู่แล้ว จิบ ๆ เป็นถนน ที่ น่าเดิน แต่ถ้ามีรถกอล์ฟให้นั่งก็น่าจะดีเนาะ 555 ไม่มีหรอกครับ เดินไปเรื่อย ๆ ดีกว่า ดูจะเปลี่ยวไปสักนิด.... เดินพอเหงื่อซึม พอเลี้ยวโค้งก็เห็น บันใดขึ้น เขาน้อย จุดชมวิว เดินขึ้นสบาย ๆ ดูวิวไป 360 องศา คือ รอบกายได้เลย นั่น เห็นหนุ่มปั่น จักรยาน มาคนเดียว ปั่นได้ค่อนข้างช้า มันสูงชัน เปลี่ยนเกียร์หลายครั้ง คุยกัน ทั้งผมและหนุ่ม ปรากฏว่า หนุ่มเขาเป็นนักศึกษา ม.บูรพา ปั่นจากบางแสนมาคนเดียว พอถึงศรีราชา ก็นำจักรยานลงเรือมาด้วย เสียค่าโดยสารตัวเอง 50 บาท จักรยานเสีย 30 บาท จากทางเดินที่เปลี่ยว ไม่นาน ก็มีหนุ่มสาว และ ส.ว. เดินมาเป็นกลุ่มกว่า 30 คน เขาเดิน กันมาเงียบ ๆ คงเหนื่อยแหละ 555 | | ต่างคน ต่างถ่ายภาพ ทางทะเล หรือ ทางเขาอีกด้าน เรียกว่า ต้องคอยหลีกทางให้เกิดช่องว่าง สำหรับถ่ายภาพ | | | อยู่บนเขาน้อยนั่นเกือบ 45 นาที อากาศเหรอ ไม่ร้อนไม่เย็น พอไหว ดูนาฬิกาแล้วเกือบ เที่ยงครึ่ง เริ่มหิว เลยเดินลงมาข้างล่าง ไม่ไกลหรอกครับ ครึ่ง กม. กว่าเอง ขี่รถมอเตอร์ไซค์ สีชมพู ไปแถวร้าน ลุงวิด ลุงแกเป็นชาวต่างชาติ ได้ภรรเมียคนไทย ชื่อลุง เดวิด แต่เราไมได้แวะไปกินที่นั่น คนเยอะขี้เกียจรอ เลยขี่เลยไปอีก 100 เมตร เป็นร้านอาหารธรรมดา ดูน่าจะสบาย ด้านหลังร้านมี บ้านพักตากอากาศสี แสบ เช่น แดง ชมพู น้ำเงิน ปลูกอยู่บนเนิน ไม่รู้เป็นไง เห็นบ้านสีแสบ ไม่ถ่ายภาพมาเฉยเลย สั่งอาหาร มากินกัน 2 คน ผมสั่งผัดสิ้นคิด หมูสับ ใส่พริกติ๊ดเดียว คนร้บออเดอร์ ตะโกนบอก ใส่พริกเม็ดเดียว 555 ลูกสาวแม่ยายสั่งข้าวผัด รอไม่นานอาหารก็มา รสชาดหรือ งั้น ๆ แหละครับ พอไหว.... เห็นไอติมแบบหวานเย็น อยู่ในตู้ น่าจะอร่อย | | เป็นไอติมแบบชาวบ้าน กัดกินไป อืม อร่อยดี คงจะแพงกว่า กท.หน่อย น่าจะแท่งละ 15 บาท ต่างคนต่างกินแล้วติดใจ เลยกินไปคนละ 2 แท่ง เจ้าของร้านเห็นก็อมยิ้ม... พอเรียกคิดเงิน ค่าข้าว 2 จาน 100 บาทค่าเป๊บซี่ 15 บาท ส่วนไอติม อุแม่เจ้าแท่งละ 25 บาท จ่ายค่าอาหารกลางวัน 215 บาท... | ร้านนี้แหละครับ ข้างหลังมีเรือนพัก สีเจ็บ ๆ อยู่บนเนินหลายหลัง เสร็จแล้ว ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ ไปเที่ยว หาดทราย ถ่ำเขาพัง ลำบากตอนขี่ลงเนินเขา มันหัก ศอกลง เสียว...มาก แต่เห็นหาด แล้ว โอเคเลย.... ชมวิว แล้วค่อย ๆ เร่งเครื่องมอเตอร์ไซค์ ไปต่อทางไป ปารีฮัท แต่ถนนทางเข้าปารีฮัทเป็น ดินไม่ค่อยเรียบ เลยไม่ได้เข้าไป เลยขี่ไปเที่ยว ท่ายายทิม กะว่าจะเห็น ของสวยงาม แปลกตา จะได้ชักชวนไปเที่ยวภายหลัง ตามภาพถ่ายข้างบน สีขาว ๆ ท้าย ๆ ภาพนั่นแหละ พอเห็นแล้ว เอื๊อกเลย 5555 แถวนั้น มีกองขยะของเกาะ เขานำไปทิ้ง และเป็นที่เผาขยะ เพื่อน ๆ ถ้าไปเที่ยว อย่าได้หลงไป นะครับ แต่ระหว่างที่ขี่ลงไป ข้างล่าง เห็นรถขนน้ำขาย ขับลงไป สูบน้ำในบ่อข้างล้าง ดู รก ๆ ไงพิกล ผมว่าไม่สะอาด ภาพข้างล่าง นี้อีกแห่งนะครับ ไกลจากนั่นหลาย กม. อยู่เหนือศาลเจ้าพ่อเกาะสีชัง แล้ว ชาวบ้านเกาะสีชัง นำน้ำจากไหนมาใช้.... ใช้จากน้ำฝนที่เก็บไว้ แต่ไม่เพียงพอ ภาพข้างบนเป็นแหล่งน้ำค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ไม่พอแก่การบริโภค... ขี่มอเตอร์ ไซค์ไปช้า ๆ ดูบ้านเรือนแถวนั้น มีป้ายปัก เตือนว่า ที่ดินหรือน้ำดังกล่าว ยังเป็นปัญหา ด้านกรรมสิทธิ์ อยู่ระหว่างการฟ้องร้อง ท่านใด สนใจจะซื้อ ระวังจะสูญเสียเงิน.. กลับจากเที่ยวเลย เข้าไปหาข้อมูล ในอินเตอร์เน็ต เมื่อปี 2543 มีบริษัทผลิต น้ำทะเล ขึ้นมาแยกเกลือ ออกแล้วจึงได้ น้ำจืด โดยทำเป็นระบบ RO ในปี 2549 บริษัทดังกล่าวผลิต แล้วขายให้ การประปาของเกาะ และ ได้ประกาศว่า น้ำประปาดังกล่าวใช้ดื่มได้ เขาใช้สูบน้ำทะเล เช่นสูบขึ้นมา 1,000 ลิตร จะแยกเกลือ เชื้อโรค หรือสิ่งอื่น จะได้น้ำจืดผ่านระบบ RO เพียง 400 ลิตร อีก 600 ลิตร ต้องทิ้งเป็นน้ำเกลือเข้มข้นลงทะเล แต่ระยะหลังเขานำ มาผลิตเป็นเกลือแทน..... โห ค้นหาข้อมูลแล้ว เหนื่อย พูดถึง การเที่ยวเกาะสีชัง ถ้าไปเป็นหมู่คณะ น่าจะดี ไปพักตามรีสอร์ท หรือ เรือนพัก จะไปพัำแบบ รีสอร์ท แพง ก็ได้ หรือไปพัก รีสอร์ท เรือนพักแบบชาวบ้านก็ได้ มีตั้งแต่ 500 - 3,000 บาท มีเยอะครับ ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ
end visit บล๊อก 553,308 st
=
งานเขียนประเภท Diarist
เพื่อน ๆ สนใจบล๊อกก่อน ๆ ดูซ้ายมือ(บนสุด) ที่ กรุ๊ป "รวมมิตร" เรื่องที่ 1 - 304 จะอยู่ที่นั่น
Create Date : 17 สิงหาคม 2558 |
Last Update : 17 สิงหาคม 2558 5:59:21 น. |
|
30 comments
|
Counter : 1471 Pageviews. |
|
|
"สุดยอดค่ะพี่"