ตำนานเรื่องราวของ Sir Isaac Newton คือ เกร็ดประวัติศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังมาก ที่ในช่วงวัยรุ่น Isaac Newton กำลังนั่งอยู่ใต้ต้นแอปเปิลต้นหนึ่งที่สวนหลังบ้าน แล้วผลแอปเปิ้ลลูกหนึ่งได้หล่นใส่ศีรษะของท่าน และแล้วในบัดดลได้จุดประกายความคิดที่แสนชาญฉลาดของท่าน ทำให้ท่านค้นพบทฤษฏีแรงโน้มถ่วง ตำนานเรื่องราวนี้มักจะบอกเล่าสืบต่อกันมา แต่อย่างน้อยก็มีข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้
มีการจดบันทึกครั้งแรกเกี่ยวกับเหตุการณ์เรื่องนี้ ในปี ค.ศ. 1726 ซึ่งเป็นปีที่ Sir Issac Newton ถึงแก่กรรม ลูกแอปเปิ้ลหล่นใส่ มีในบันทึกส่วนตัวของ John Conduitt ที่เคยทำงานเป็นผู้ช่วย Sir Issac Newton ที่ Royal Mint และท่านยังได้สมรสกับ Catherine Barton หลานสาวของ Sir Issac Newton หลานสาวที่ดูแล Sir Issac Newton ตั้งแต่วัยหนุ่มจนตราบวาระสุดท้ายของชีวิต
John Conduitt ได้บันทึกว่า " ท่านคิดเกี่ยวกับระบบของแรงโน้มถ่วงโดยเหตุบังเอิญ ตอนที่ท่านสังเกตเห็นผลแอปเปิ้ลลูกหนึ่งหล่นจากต้นแอปเปิ้ล "
ดูเหมือนว่า Sir Issac Newton ประทับใจเกี่ยวกับต้นแอปเปิ้ลมาก เพราะท่านมักจะพูดเรื่องการค้นพบของท่านกับต้นแอปเปิ้ล ให้เพื่อนผองน้องพี่ของท่านหลายคนได้ฟัง เช่น Voltaire (นักปรัชญาและนักคิดนักเขียนชาวฝรั่งเศส) John Conduitt (ผู้ช่วยของท่านที่ Royal Mint) Catherine Barton (หลานสาว) William Stewkeley (เพื่อนและนักสะสมของเก่า) Christopher Dawson (นักศึกษาที่ Cambridge)
ความทรงจำเกี่ยวกับชีวิตของ Sir Issac Newton ที่เขียนขึ้นโดย William Stukeley ซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ในปี ค.ศ. 1752 ได้เขียนเล่าเรื่องราวที่ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ Sir Issac Newton ว่า " เราเดินเข้าไปในสวน นั่งดื่มน้ำชากันใต้ร่มเงาหมู่ต้นแอปเปิ้ล ซึ่งมีพวกเราเพียงสองคนเท่านั้น ระหว่างการสนทนา ท่านได้บอกกับผมว่า ท่านเคยอยู่ภายใต้สถานะการณ์แบบเดียวกัน ตอนที่เหตุการณ์ครั้งแรก ที่ความคิดเกี่ยวกับเรื่องแรงโน้มถ่วง ปรากฎขึ้นในใจของท่านว่า " ทำไมลูกแอปเปิ้ลจึงหล่นลงตั้งฉากกับพื้นดิน " ท่านคิดกับตนเองถึงสาเหตุที่ลูกแอปเปิ้ลหล่นลงมา ตอนที่ท่านนั่งลงแล้วอยู่ในอารมณ์ครุ่นคิดและวิเคราะห์
ในปีค.ศ. 1816 พายุได้พัดจนต้นแอปเปิ้ลโค่นลงมา แต่ลำต้นหลักและรากยังไม่เสียหายมากนัก จึงฟื้นตัวและเติบโตได้อีกครั้ง แอปเปิ้ลต้นนี้ตอนนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ National Trust
มีการตอนกิ่งต้นแอปเปิ้ล Newton เพื่อแจกจ่ายไปปลูกกันหลายแห่ง/หลายประเทศ เช่น ที่สวน Physics Department ใน University of York ด้านนอกประตูใหญ่ของ Trinity College มหาวิทยาลัย Cambridge ด้านล่างห้องพักที่ Issac Newton เคยพักตอนยังเรียนอยู่ที่นั่น ที่ Massachusetts Institute of Technology สหรัฐอเมริกา ที่ Bariloche Institute ใน Bariloche อาร์เจนติน่า ที่ East Malling Research Station, UK ที่ The Botanical Gardens in Kew, UK ที่ The gardens of Hatfield House, UK ที่ Hertfordshire, UK (21 miles north of London) ที่ The Cambridge Botanical Gardens, UK ที่ The Fellows Garden at Queens College, Cambridge, UK ที่ The National Physical Laboratory, Teddington, UK ที่ National Institute of Standards and Technology, Washington DC, USA ที่ The Dominion Physical Laboratory, New Zealand
สายพันธุ์ต้นแอปเปิ้ล Newton ที่ Trinity College Cambridge Photo credit: Sam Rae/Flickr
ป้ายสายพันธุ์ต้นแอปเปิ้ล Newton ที่ Massachusetts Institute of Technology USA Photo credit: Mathieu Thouvenin/Flickr
สายพันธุ์ต้นแอปเปิ้ล Newton ที่ Goobang New South Wales Australia Photo credit: Corrie Barklimore/Flickr
Photo credit: Andrew Fogg/Flickr
สายพันธุ์ต้นแอปเปิ้ล Newton ที่ Teddington London England Photo credit: John Blower/Flickr
สายพันธุ์ต้นแอปเปิ้ล Newton ที่ Bariloche Institute ใน Bariloche Argentina
Charles Turnor เป็นเจ้าของ Woolsthorpe Manor และได้บริจาคภาพสะสม Collectanea Newtoniana (compiled 1837-) ให้กับชุมชน Society เป็นภาพสเก็ตการหักโค่นลงของต้นแอปเปิ้ลโดย Thomas Howison คาดว่าเขียนขึ้นในช่วงปีค.ศ. 1820 ซึ่งเจ้าของบ้านในตอนนั้นคือ George Rowe (1796-1864) สังเกตจะเห็นว่ามีต้นแอปเปิ้ลอยู่ที่ข้างบ้าน และภาพต้นแอปเปิ้ลที่หักโค่นลง แต่ฟื้นตัวและเติบโตขึ้นในเวลาต่อมาที่ใช้เวลาร่วม 20 ปี
ต้นแอปเปิ้ลที่สวน Botanic Gardens ใน Cambridge ตอนกิ่งมาจากต้นแอปเปิ้ล ในสวนของ Isaac Newton ที่ Woolsthorpe Manor คนมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นสายพันธุ์แอปเปิ้ลแดง
Flower of Kent คือ แอปเปิ้ลเขียวลูกเล็กเนื้อแน่น ที่มีตำนานเรื่องราวเกี่ยวกับ Sir Isaac Newton ได้เห็นลูกแอปเปิ้ลหล่นลงจากต้นนี้ สร้างแรงบันดาลใจให้ท่านสร้างทฤษฏีแรงโน้มถ่วง แอปเปิ้ลพันธุ์นี้ผลคล้าย ลูกแพร์ มีนวลแป้ง และเปรี้ยว รสชาติและคุณภาพจัดว่าไม่เป็นที่ต้องการของตลาดในทุกวันนี้ คาดว่ามีต้นกำเนิดจาก Kent England
มีการพัฒนาสายพันธุ์จนปลูกกันเป็นเชิงพาณิชย์ แต่ไม่ใช่มาจากต้นตอแอปเปิ้ล Newton ขยายสายพันธุ์จากต้นตอ East Malling ใน Kent เพียงต้นเดียว ยังมีต้นพันธุ์แอปเปิ้ลนี้ปลูกอยู่ที่ President's Garden ใน MIT ซึ่งมีคนนิยมปลูกและขายกันมากที่ Antique Apple Orchard Inc ใน Sweet Home รัฐ Oregon สหรัฐอเมริกา
แน่นอนทุกคนคาดหวังว่าอัจฉริยะอย่าง Sir Issac Newton จะต้องสามารถคำนวณทุกความผันผวน อ่านเกมขาด และโกยเงินได้มหาศาล ขอเพียงหุ้นทะยานขึ้นไม่หยุด รับรองยังไงก็รวยเละแน่ วิธีจะรวยเร็วเท่านี้แทบไม่มีอีกแล้ว ซึ่งตอนนั้นท่านได้เข้าไปถือหุ้นของ South Sea Company ซึ่งเป็นบรรษัทข้ามชาติ กองเรือพาณิชย์นำเข้าส่งออกสินค้า ที่ถือว่าเป็นหุ้นที่ร้อนแรงที่สุดในประเทศอังกฤษในเวลานั้น
แต่แล้วตลาดก็ผันผวนหนัก และท่านก็ต้องสูญเงินไปกว่า 7,000 ปอนด์ ถือเป็นเงินมหาศาลในสมัยนั้น แต่แทนที่จะเข็ดหลาบ Sir Issac Newton ก็โดนความโลภ อยากรวยทางลัด เล่นงานอีกครั้ง พร้อมกับเทหน้าตักเป็นเงินกว่า 20,000 ปอนด์ ลงในตลาดหุ้นเพื่อช้อนซื้อหุ้นเฉลี่ยต้นทุนจนช้อนหัก
ซึ่งหลังจากผ่านความโลภที่แสนเจ็บช้ำน้ำใจ Sir Issac Newton ได้โกรธจัดถึงขั้นสั่งห้ามเด็ดขาดว่า ใครที่จะมาคุยกับท่าน ห้ามพูดคำว่า South Sea ให้ได้ยินเป็นอันขาดตราบที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งความเจ็บปวดครั้งนั้นได้ทำให้สร้างวาทกรรมข้างต้น
บทเรียนเล็กๆ นี้แสดงให้เห็นว่า Sir Issac Newton ก็ไม่ใช่นักลงทุนที่ฉลาด เพราะท่านปล่อยให้อารมณ์นำและถูกชักนำด้วยความไม่มีเหตุผลของฝูงชน
หรืออย่างที่ Benjamin Graham เคยกล่าวไว้ว่า จริง ๆ แล้วปัญหาใหญ่ของนักลงทุน และศัตรูที่ร้ายกาจคือตัวของนักลงทุนเอง
Benjamin Graham คือ อาจารย์และนักลงทุนที่สอน Warren Buffett ในการเล่นหุ้นแบบ VI (Value Investor)