ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2561
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
17 สิงหาคม 2561
 
All Blogs
 

นักวิทยาศาสตร์รัสเซียยอมอดตายท่ามกลางอาหารรอบตัว





Vavilov Institute of Plant Industry (clobrda on Flickr)




900 วันของการล้อมปราบเพื่อบุกโจมตี Leningrad ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
อาจจะเป็นหนึ่งในการบุกโจมตีที่น่าสยดสยองที่สุดในประวัติศาสตร์โลกยุคใหม่
แผนการที่โฉดชั่วและโหดร้ายของ Adolf Hitler
คือ การตัดเส้นทางลำเลียง/ขนส่งอาหารทั้งหมด
ไม่ให้เข้าไปส่งยังเมืองที่มีประชากรมากกว่า 2 ล้านคน
และปล่อยให้ภัยธรรมชาติทำลายชีวิตผู้คนอย่างย่อยยับ

" Leningrad จะต้องต้องตายด้วยความอดอยาก "
Adolf Hitler กล่าวปลุกระดมทหารใน Munich เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 1941

ในช่วงฤดูหนาวที่แสนยาวนาน
ผู้คนหลายแสนคนต่างต้องหิวโหยตาย
หลายคนพยายามอย่างไร้ผลที่จะแก้หิว
และมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยการกินขี้เลื่อย
อีกหลายคนตายทั้งเป็นเพราะถูกแช่แข็งอยู่บนท้องถนน
ขณะพยายามเดินไปยังซุ้มแจกจ่ายอาหาร
ภายใต้อุณหภูมิติดลบ 30 องศาเซลเซียส
และเมื่อกองทัพนาซีเยอรมันนี้ได้บุกเข้ามาในเมืองได้แล้ว
ก็ทำการปล้นสะดมและทำลายข้าวของที่มีค่าต่าง ๆ


ในขณะที่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซีย
ที่หลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้องเก็บของ
Vavilov Institute of Plant Industry
ที่ได้เก็บรวบรวมเมล็ดพืชที่มีค่าและพืชที่กินได้
โดยเก็บสะสมเมล็ดพืชไว้เกือบ 200,000 ชนิดที่กินได้
คิดเป็นประมาณ 1/4 ของเมล็ดพันธุ์พืชเกือบทั่วโลก
ที่จัดว่าเป็นแหล่งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ในด้านความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืชอาหาร
ในห้องดังกล่าวยังพอมีข้าว ข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่วและมันฝรั่ง
เพียงพอที่จะช่วยให้พวกนักพฤกษศาสตร์ยังชีพ
และช่วยให้ผ่านพ้นคืนวันที่เลวร้ายที่สุด
จากการถูกปิดล้อมโดยทหารนาซีเยอรมันนี

แต่บรรดานักวิทยาศาสตร์ไม่ได้กักขังพวกตนเอง
ไว้ภายในห้องเก็บของที่เต็มด้วยธัญพืชเพื่อต่อชีวิตของตนเอง
แต่เพื่อปกป้องเมล็ดพันธุ์เหล่านี้จากพวกนาซีเยอรมันนี
และจากประชาชนที่หิวโหยที่ปล้นสะดมผ่านตามท้องถนนเพื่อหาอะไรกินรองท้อง


ห้องสะสมเมล็ดพันธุ์พืชเต็มไปด้วยเมล็ดพืชถึง 16 ห้อง
ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้อยู่ตามลำพังเพียงคนเดียว
มีการเฝ้าห้องเก็บรักษาตามกะ(ชั่วโมง)
หมุนเวียนเปลี่ยนเวรยามตามเวลาที่กำหนดไว้
หลายคนต่างหนาวเหน็บตัวชาเย็น
และผอมแห้งแรงน้อยจากความหิวโหย
ทั้งนี้ด้วยความซื่อสัตย์และรับผิดชอบต่อหน้าที่
แบบยอมตายดีกว่าทำบาป/ลักขโมยกินเมล็ดพันธุ์พืช
ที่เป็นการทรยศต่อวิชาชีพและจรรยาบรรณนักพฤกษศาสตร์


เมื่อการปิดล้อมกินเวลายาวนานยิ่งขึ้น
เหล่าวีรชนคนกล้าเหล่านี้เริ่มอดตายไปทีละคน ๆ
แต่ทุกคนก็ไม่ยอมกินเมล็ดพันธุ์ที่เก็บรักษาไว้แม้แต่เมล็ดเดียว


ในเดือนมกราคม 1942
Alexander Stchukin ผู้เชี่ยวชาญเรื่องถั่ว ตายขณะกำลังเขียนหนังสือ

Dmitri Ivanov นักพฤกษศาสตร์อดตายขณะที่รอบตัวเต็มไปด้วย
ข้าวหลายพันกล่องที่ตนดูแลและปกป้องสายพันธุ์เมล็ดข้าว


ในฤดูใบไม้ผลิปี 1944 หลังสิ้นสุดการปิดล้อมของนาซีเยอรมันนี
นักวิทยาศาสตร์ 9 คนอดตายอย่างหิวโหย
ขณะที่ดูแลปกป้องเมล็ดพันธุ์พืชทั้งหมด
พืชหลายชนิดที่พวกเรารับประทานกันในทุกวันนี้
มาจากการผสมข้ามสายพันธุ์ต่าง ๆ จากความหลากหลายทางชีวภาพ
ที่บรรดานักวิทยาศาสตร์ที่รอดตายจากการทำลายล้างธนาคารเมล็ดพันธุ์
เพราะนักวิทยาศาสตร์รัสเซียยอมอดตาย เพื่อปกป้องและคุ้มครองพวกมัน


ในปี 1926 มีการก่อตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์
โดย Nikolai Vavilov นักพฤกษศาสตร์และพันธุศาสตร์
ที่มีชื่อเสียงที่สุดของรัสเซีย และเป็น นักสำรวจพืชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ที่ได้รับการยอมรับกันว่า ท่านได้ทำการเก็บรวบรวมเมล็ดพืช หัว และผลไม้จากทั่วโลก
มากกว่าบุคคลใด ๆ ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ




Nikolai Vavilov ในปี 1933




Nikolai Vavilov เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์คนแรก
ที่ตระหนักว่าการหายไปของความหลากหลายทางชีวภาพของพืช
จะนำมาถึงผลกระทบที่อาจเป็นภัยพิบัติ
ที่เกิดขึ้นได้กับการผลิตอาหารของมนุษย์
ท่านเติบโตขึ้นมาในหมู่บ้านชนบทที่ยากจน
พื้นที่เพาะปลูกที่ล้มเหลวจากพืชผลพ่อพันธุ์แม่พันธุ์
และการต้องรับการปันส่วนอาหารจากทางการ
Nikolai Vavilov จึงมีความคิดในใจที่หมกมุ่นอยู่กับ
ชีวิตลำบากในวัยเด็ก การอดอยากอาหารของชาวโลกรวมทั้งรัสเซีย


ในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 กับในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
Nikolai Vavilov ได้เดินทางไกลและไปหลายแห่งทั่วทั้ง 5 ทวีป
ได้ไปเยี่ยมชมในประเทศต่าง ๆ ถึง 64 ประเทศ
ท่านยังได้รรวบรวมพันธุ์พืชและตัวอย่างพืชอาหารชนิดต่าง ๆ
ท่านเรียนรู้ด้วยตนเองถึง 15 ภาษา
ทั้งเพื่อที่จะได้พูดคุยกับชาวพื้นเมืองอย่างเข้าใจ
ทำให้ง่ายต่อการติดต่อสอบถามและขอเมล็ดพันธุ์


หลังจากผ่านไปเป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปีของการเดินทาง
และยังมีการเดินทางไกลอีกหลายร้อยครั้งหลังจากนั้น
Nikolai Vavilov จึงได้ก่อตั้งสถานีทดลองพืช Pavlovsk Experimental Station
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันอุตสาหกรรมพืช Institute of Plant Industry
ที่ตั้งอยู่ใน Leningrad ซึ่งในทุกวันนี้คือ St. Petersburg




เมล็ดพันธุ์พืชที่รวบรวมโดย Nikolai Vavilov
จัดแสดงที่ Vavilov Institute of Plant Industry. Photo credit: Petr Kosina/Flickr




ในขณะที่ Nikolai Vavilov กำลังเก็บรวบรวมเมล็ดพันธุ์พืช
และสร้างธนาคารเมล็ดพันธุ์เพื่อรักษาความหลากหลาย
ทางชีวพันธุ์ด้านอาหารสำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต


นักปฐพีวิทยาที่ชื่อ Trofim Lysenko
ซึ่งเป็นเด็กหนุ่มและไม่มีใครรู้จักมาก่อนหน้านี้
ได้ทำการโฆษณาชวนเชื่อโดยกระบอกเสียงของสหภาพโซเวียตรัสเซียว่า
Trofim Lysenko เป็นอัจฉริยะที่พัฒนาเทคนิคการเกษตรแผนใหม่
ที่ปฏิวัติชาติให้พ้นจากความหิวโหยได้


ทั้งที่ความจริงแล้ว เทคนิคของ Trofim Lysenko
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปลูกพืชในพื้นที่หนาวจัด
เพื่อบังคับให้พวกพืชออกดอกในฤดูใบไม้ผลิ
เป็นที่รู้จักกันนับตั้งแต่ยุค 1850
และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ การใช้ความเย็นกระตุ้นให้ออกดอก
Vernalization ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า
Vernalization ให้ผลผลิตอาหารที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
ไม่ใช่ 3 หรือ 4 เท่าตามที่ Trofim Lysenko กล่าวอ้าง
และยังโฆษณาชวนเชื่อว่า
รัฐที่มีผลผลิตจากพวกพืชแบบการใช้ความเย็นกระตุ้นให้ออกดอก
จะสืบทอดยั่งยืนไปชั่วลูกชั่วหลาน (ประชาชนจะกินดีอยู่ดีไม่อดตาย)


Trofim Lysenko เป็นนักฉวยโอกาสทางการเมือง
ทำให้ได้รับการสนับสนุนอย่างรวดเร็วจาก Joseph Stalin
พร้อมกับกระบอกเสียงโฆษณาชวนเชื่อของสื่อโซเวียตรัสเซีย
ซึ่งโฆษณาเกินจริงกับความสำเร็จของ Trofim Lysenko
ทั้งยังพยายามปกปิดความล้มเหลวของ Trofim Lysenko
โดยการริเริ่มสร้างข้อมูลการทดลอง
เพื่อสนับสนุนทฤษฎีที่ล้มเหลวของ Trofim Lysenko
และประณามทุกคนผู้ที่พยายามต่อต้านวิธีการของ Trofim Lysenko
ในช่วงปี 1934-1940 แม้ว่าจะมีการเตือนให้ระวังข้อผิดพลาด
จากบรรดานักวิทยาศาสตร์ นักชีววิทยาและนักพันธุศาสตร์


แต่ Trofim Lysenko ได้รับการสนับสนุนจาก Joseph Stalin
Joseph Stalin จึงมีคำสั่งให้จับกุมคุมขังหรือประหารชีวิต
นักวิทยาศาสตร์ นักชีววิทยาและนักพันธุศาสตร์ กว่า 3,000 คน
ข้อหาพยายาม/กระทำการต่อต้าน Trofim Lysenko
เท่ากับการต่อต้านแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ
ที่วางแผนจากส่วนกลางโดยพลพรรคคอมมิวนิสต์




Trofim Lysenko





ในเดือนสิงหาคม 1940
Nikolai Vavilov ขณะที่ท่านกำลังเก็บเมล็ดพันธุ์
ที่บริเวณชายแดนของรัสเซียและยุโรปตะวันออก
มีรถยนต์ของตำรวจสายลับ KGB ไปหาท่านที่นั่น
จับตัวท่านขึ้นรถยนต์และลากตัวท่านไปติดคุก
ท่านถูกตัดสินจำคุก 20 ปีที่คุกใช้แรงงานหนัก Soviet gulag


หลังจากที่ท่านกินแต่กะหล่ำปลีตัมเปื่อย
ที่มีแต่วิญญานเนื้อสัตว์กับน้ำต้มกระดูกสัตว์
และแป้งที่ขึ้นราเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่ง


Nikolai Vavilov ผู้ที่สอนพวกเราเกี่ยวกับ
ความหลากหลายทางชีวภาพและการเกษตร
และแหล่งต้นกำเนิดของพืชนานาพันธุ์
ท่านผู้ที่ใช้เวลากว่า 50 ปีตลอดชีวิต
ที่พยายามจะยุติความอดอยากชาวโลกกับชาวรัสเซีย
ท่านตายเพราะความอดอยาก


" จนกระทั่งทุกวันนี้ Nikolai Vavilov คือ เสาหลักผู้เป็นศูนย์กลาง
ผู้ริเริ่มเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพของพืช
ที่ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์รายใดที่จะมีความรู้ความเข้าใจ
รูปแบบความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลกได้ทั้งหมด

ความสามารถและความอดทนในการเดินทางของท่าน
โดยทางรถไฟ เรือ เครื่องบิน รถยนต์ ม้า ลา ล่อ และการเดินเท้า
Nikolai Vavilov ไม่เพียงแต่เห็นวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติ
แต่ยังเห็นเรื่องราวและวัฒนธรรมต่าง ๆ
ที่ไม่เคยมีนักวิทยาศาสตร์รายใดเจริญรอยตามได้
แต่ท่านมักจะหมกมุ่นเกี่ยวกับทฤษฎีชีวภูมิศาสตร์
ที่ยังคงตกทอดและอยู่กับพวกเราจนถึงทุกวันนี้ ”
Gary Paul Nabhan นักเขียนเรื่อง
Where Our Food Comes From: Retracing Nikolay Vavilov’s Quest to End Famine


ทุกวันนี้ สถานีทดลอง Pavlovsk Pavlovsk Experimental Station
มีตัวอย่างเมล็ดพันธุ์พืชมากกว่า 325,000 ตัวอย่าง
ซึ่งรวมทั้งผลไม้และเมล็ดแห้งของผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มีสตรอเบอร์รี่สายพันธุ์ต่าง ๆ เกือบพันชนิด
แอปเปิ้ลประมาณ 600 ชนิด
Gooseberries ต้นไม้เตี้ยชนิดหนึ่งที่มีผลเล็ก ๆ กินได้มากกว่า 100 สายพันธุ์
Cherries, Plums, Red currants, และ Raspberries อีกมากมาย
ประมาณ 90% ของที่สะสมในที่นี้ที่รัสเซีย
ยังไม่มีธนาคารเมล็ดพันธุ์พืชแห่งใด
ที่จะเก็บรวบรวมสะสมได้เทียบเท่าแห่งนี้


ทุกวันนี้ มีธนาคารเมล็ดพันธุ์มากกว่า 1,400 แห่งทั่วโลก
ในปัจจุบันนี้ ธนาคารเมล็ดพันธุ์ที่มีความทะเยอทะยานมากที่สุด
ในการเก็บรวบรวมเมล็ดพันธุ์พืชชนิดต่าง ๆ ให้มากที่สุด คือ
Svalbard Global Seed Vault ตั้งอยู่บนเกาะ Spitsbergen
ของ Norway ห่างจากขั้วโลกเหนือเพียง 700 ไมล์


เรียบเรียง/ที่มา


https://goo.gl/JvvjQg
https://goo.gl/65Wh4m
https://goo.gl/eQHMvX
https://goo.gl/LC1YCu








Nikolai Vavilov ถ่ายด้านข้างในฐานะนักโทษ มีรอยแผลบาดลึกแก้มขวาของท่าน
เป็นรอยถูกโบยตีจากนักโทษที่เป็นนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งในคุก



ตัวอย่างเมล็ดพันธุ์พืชที่เก็บรวบรวมโดย Nikolai Vavilov
จัดแสดงที่ Vavilov Institute of Plant Industry. Photo credit: Petr Kosina/Flickr



เมล็ดพันธุ์พืชที่รวบรวมไว้ที่ Vavilov Institute of Plant Industry ในปี 2002
Photo credit: Dag Terje Filip Endresen/Flickr

Svalbard Global Seed Vault
ตั้งอยู่บนเกาะ Spitsbergen ของนอร์เวย์
ห่างจากขั้วโลกเหนือเพียง 700 ไมล์
ธนาคารเมล็ดพันธุ์พืช
1.


2.


3.


4.


5.


6.


7.


8.


9.


10.


11.


12.


13.


14.


ที่มาของภาพที่ 1-14 Credit : https://goo.gl/FsFUq7

















เรื่องเล่าไร้สาระ


สงครามปิดล้อมเลนินกราดเป็นสงครามที่ยาวนานยืดเยื้อร่วม 900 วัน
ทางนาซีเยอรมันนีต้องการบุกยึดเมืองนี้ให้ได้
เพราะเดิมเคยเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของรัสเซีย
ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นชื่อเลนิน
เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์คนแรกของรัสเซีย
ทำให้เมืองนี้คือ สัญญลักษณ์ที่สำคัญของรัสเซีย
และใช้เป็นที่โฆษณาชวนเชื่อของพวกคอมมิวนิสต์


สตาลินจึงมีคำสั่งให้นายพลซูคอฟบัญชาการรบ
เพราะนายพลซูคอฟมีความบ้าระห่ำในสายเลือด
ทหารที่สั่งให้บุกจะถอยหลังไม่ได้โดยเด็ดขาด
เพราะจะมีทหารกองหนุนที่ตามหลังยิงทิ้งได้ทันที
หนุนหลังตามเข้าไปเป็นระลอก ๆ ทุกครั้ง
ทำให้ทหารรัสเซียไม่กล้าหนีทัพต้องเดินหน้าลูกเดียว
แบบยอมตายกับทหารนาซีเยอรมันนี
โดยมีบาดแผลด้านหน้าดีกว่าถูกยิงตายทางข้างหลัง

หลังจากรัสเซียมีชัยชนะต่อพวกนาซีเยอรมันนีแล้ว
มีการแก้แค้นทหารนาซีเยอรมันนี เด็กชายและผู้ชายจำนวนมาก
ด้วยการยิงทิ้งยิงขว้างก่อนที่ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรจะเข้ามาควบคุม
และมีการกระทำชำเราข่มขืนสตรีเยอรมันนีไม่จำกัดเพศวัย
เพราะความแค้นและความอดหยากจากการถูกปิดล้อมที่รัสเซีย
จนมีคำกล่าวว่าเป็นเชลยอยู่ใต้การดูแลฝ่ายสัมพันธมิตร
เลวร้ายน้อยกว่าอยู่ใต้รองเท้าทหารโซเวียตรัสเซีย


แต่เรื่องเหตุการ์เลวร้ายต่าง ๆ นี้รัสเซียไม่ยอมรับ
และคนเยอรมันนีที่เป็นเหยื่อชะตากรรมมักจะปิดปากเงียบ
ทั้งนี้เพราะอับอายขายหน้าส่วนหนึ่ง
กับยอมรับความโง่เขลาของพวกตนที่หลงเชื่อผู้นำ
ทั้งที่แต่เดิมปรัชญาและวิทยาการต่าง ๆ ในเยอรมันนี
สอนให้ประชาชนเป็นคนมีเหตุมีผล


ฮิตเลอร์เป็นชาวออสเตรียไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
แต่ใช้พลพรรคนาซีเยอรมันบุกรัฐสภา
ทำการกดดันจนได้เลือกเป็นผู้นำประเทศ
และชาวบ้านต่างยินยอมพร้อมใจกันหลงเชื่อผู้นำว่า
จะนำพาชาติตนไปสู่อารยะและเป็นผู้นำยุโรปได้





นักประวัติศาสตร์โซเวียตรัสเซียที่พยายามชำระประวัติศาสตร์(ฝ่ายขวา)ระบุว่า
โจเซฟ สตาลิน เป็นคนโรคจิตวิตถารเลวร้ายตัวหนึ่ง
เป็นคนชาวจอร์เจียไม่ใช่ชาวรัสเซียแต่อย่างใด
ร่วมงานกับพรรคบอลเชวิคด้วยการล้มล้าง เลออน ทรอตสกี
พร้อมกับส่งคนไปฆ่าทรอตสกีที่ลี้ภัยไปที่เม็กซิโกในภายหลัง

สตาลินเป็นคนเกลียดเสียงเด็กมากอย่างแรง
ครั้งหนึ่ง ที่บ้านพักส่วนตัวนอกเมืองมอสโคว
มีเสียงเด็กวิ่งเล่นกันเจี้ยวจ้าวเข้าหู
วันรุ่งขึ้นครอบครัวและเด็กละแวกนั้นหายไปทั้งหมด

สตาลินประหารชีวิตนักโทษ จำคุกนักโทษ
เนรเทศนักโทษไปใช้แรงงานหนักไซบีเรีย
ทำให้คนรัสเซียตายมากกว่าทำการสู้รบกับนาซีเยอรมันนี
ประมาณการกันว่าคนรัสเซียตายมากกว่า 10 ล้านคน

สตาลินหย่าขาดภริยาคนแรก กดดันภริยาคนที่ 2 ฆ่าตัวตาย
บางคนว่าเป็นการจัดฉากให้ตายโดยการเขียนบทของสตาลิน
ลูกชายคนแรกของสตาลิน
ถูกนาซีเยอรมันจับเป็นตัวประกัน/ย้ายไปมาหลายค่ายมาก
แต่สตาลินไม่ยอมสนใจต่อรองและแลกเปลี่ยนเชลย
สุดท้ายลูกชายจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายสมอยากสตาลิน
เพราะสตาลินไม่เคยสนใจและดูแลลูกชายคนนึ้แต่อย่างใดมาก่อน
บางคนบอกว่า สตาลินมักคิดว่าลูกชายคนนี้เป็นลูกชู้
เลยเกลียดชังฝังใจมาตั้งแต่ลูกชายยังเล็ก ๆ อยู่

ส่วน ลูกสาวคนเดียวของสตาลินก็ลี้ภัยไปสหรัฐอเมริกา

จนทุกวันนี้ ยังมีคนรัสเซียพยายามขับไล่ไสส่ง
ไม่ให้ฝังศพจอมโหดสตาลินไว้ในดินแดนรัสเซีย





ในวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมาได้มีผู้ลักลอบบุกเข้าไปใน
สุสานของปีเตอร์ เออร์มาคอฟ (Peter Ermakov)
หนึ่งในมือสังหารครอบครัวซาร์
และเป็นผู้ที่แทงแกรนด์ดัชเชสทั้งสี่
อย่างโหดเหี้ยมและป่าเถื่อน
ป้ายปักสุสานของเขาในเมืองเอกาเตรินเบิร์ก
ถูกละเลงไปด้วยสีแดง เพื่อเป็นการแก้แค้นต่อสิ่งที่เขาทำไว้ 





เออร์มาคอฟผู้นี้เคยพบกับกอร์กี้ ชูคอฟ
แม่ทัพใหญ่และฮีโร่แห่งโซเวียต
ชูคอฟ ผู้ที่เคยเป็นนายทหาร
และได้รับเหรียญกล้าหาญ
ตอนที่อยู่ในกองทัพของพระเจ้าซาร์มาก่อน
กลับปฏิเสธที่จะจับมือกับเออร์มาคอฟ
ชูคอฟจัองหน้าและมองตาของเออร์มาคอฟ แล้วพูดขึ้นว่า

"กูไม่จับมือกับพวกฆาตกร "

Cr: Royal Russia







การไม่ยอมสนใจการต่อรองโดยมีตัวประกัน
มีผลทำให้รัสเซีย จีน ยิว เป็นชาติที่ไม่สนใจชีวิตตัวประกัน
โดยให้เวลากับฝ่ายโจรที่จับตัวประกันไว้ต่อรอง
พอถึงเวลาก็บุกโจมตีเลยทันที
เช่น การถล่มด้วยรถถัง ยิงปืนใหญ่ใส่รัฐสภา
ตอนที่มีกลุ่มทหารพยายามก่อการกบฎ
ด้วยการจับสมาชิกรัฐสภาเป็นตัวประกัน
การโจมตีโรงละครที่มีตัวประกันร่วม 800 คน
ผลคือ ตัวประกันตายร่วม 200 คน
กลุ่มก่อการร้ายตายร่วม 50 คนในที่เกิดเหตุ
เพราะบางรายตีเนียนแฝงตัวปะปนกับชาวบ้าน
ผู้ก่อการร้ายจะไม่มีการรักษาปล่อยให้ตายไปเลย


รวมทั้งใช้ยุทธวิธีนี้ปราบกลุ่มก่อการร้ายมุสลิมเชสเนีย
จนตอนที่มีการเจรจาสันติภาพเพื่อสงบศึก
ตัวแทนฝ่ายก่อการร้ายมุสลิมเชสเนีย
ถึงกับแช่งชักหักกระดูกตัวแทนรัสเซียอย่างรุนแรง
ก่อนยอมนั่งลงเจรจาเพราะแพ้อย่างหมดหนทางสู้แล้ว


ในไทยเคยมีเหตุการณ์ปราบปราม
โจรกระเหรี่ยงพม่าที่บุกจับตัวประกันที่โรงพยาบาลราชบุรี
โจรก่อการร้ายถูกยิงตายหมดทุกคนไม่มีการจับเป็นมาสอบสวน
เป็นการส่งสัญญาณเตือนผู้ก่อการร้ายแถวพม่าให้ยุติอย่าได้คิดต่อรอง





ในการปราบกลุ่มมุสลิมสุดโต่ง ISIS ในซีเรีย
ที่ชอบใช้โล่ห์มนุษย์ที่เป็นเด็กและสตรี
เพื่อต้านทานและชะลอการบุกโจมตีของรัสเซีย
แต่ไม่มีผลแต่อย่างใด
เพราะรัสเซียโจมตีไม่เลือกหน้าเมื่อถึงเวลาขีดเส้นตาย
ผลคือ ทำให้กลยุทธ์นี้ใช้ไม่ได้ผลกับรัสเซีย
รวมทั้งยิวในการปราบปราบพวกปาเลสไตน์


รัสเซีย ยิว ชอบยิงปืนใหญ่เข้าใส่
ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดลงทุกที่ทุกแห่ง
ที่คาดว่าพวกก่อการร้ายหลบซ่อนอยู่
ไม่สนใจว่าจะเป็น มัสยิด โรงเรียน โรงพยาบาล ที่อยู่ชาวบ้าน
โดยข้ออ้างว่า พวกโจรใช้สถานที่เหล่านี้เป็นที่กำบัง
แบบโบสถ์ มัสยิด เป็นสถานที่ดีทางศาสนา
แต่พวกคนชั่วแฝงตัวเข้าไปอยู่ซ่องสุมกำลัง
จึงตัองเผาทิ้ง/ทำลายทิ้งทั้งหมด

เลียนแบบคำสั่งมหาโจรมองโกล
ที่ปล้นสะดมรุกรานไปหลายประเทศ
ไม่เคยสร้างความอยู่ดีมีสุขแบบนักวิทยาศาสตร์
ตามการวิพากษ์นักประวัติศาสตร์ฝ่ายซ้ายละตินอเมริกา
ตามบันทึกประวัติความเลวอหังการ์แม่ทัพมองโกลตัวหนึ่ง
“ พวกกูจะะฆ่าผู้ชายทุกคนที่ใช้งานไม่ได้
พวกกูจะควบขี่ลูกสาวกับเมียพวกมันเหมือนควบขี่ม้า “




 

Create Date : 17 สิงหาคม 2561
0 comments
Last Update : 25 สิงหาคม 2561 22:08:24 น.
Counter : 1427 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.