ในปีค.ศ.1286 มีบันทึกการใช้งาน Halifax Gibbet โดย Lord of the Manor ขุนนางศักดินาเจ้าที่ดิน ที่มีลำดับล่างสุดในพวก Lord แต่มีอำนาจตัดสินประหารชีวิตนักโทษ เช่น รายใดที่ขโมยข้าวของสินค้า ที่มีมูลค่ามากกว่า 3 เพนนีครึ่ง เรื่องนี้ทำให้กฎหมาย Halifax Gibbet Law เลื่องชื่อลือชาว่ามีบทลงโทษที่รุนแรงมากในยุคสมัยนั้น
นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า กฎหมาย Halifax Gibbet Law คือ ร่องรอยประเพณีดั้งเดิม Infangthief ของพวก Anglo-Saxon ซึ่งอนุญาตให้เจ้าที่ดินสามารถบังคับกฎหมายเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม รวมถึงการลงโทษประหารชีวิตพวกโจรที่ถูกจับได้ภายในเขตที่ดินของพวกเจ้าที่ดิน กฎหมายดังกล่าวเป็นมาตรฐานทั่วไปของเจ้าที่ดินท้องถิ่น/ขุนนางท้องถิ่น จนกระทั่งถูกยกเลิกไปในรัชสมัย พระเจ้า Edward III
การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ทำให้เมืองนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี John Taylor กวีชาวอังกฤษ ผู้ซึ่งเรียกตัวเองว่า The Water Poet ได้ร่ายบทกวีเรื่อง Beggar's Litany ในปีค.ศ.1622 ว่า
Oliver Cromwell (25 เมย.1599 3 กย.1658 Lord Protector of the Comonwealth of England, Scotland, and Ireland คือ ผู้ออกกฎหมายยกเลิกการประหารชีวิตด้วย Halifax Gibbet แต่ในที่สุด Oliver Cromwell ก็ถูกนำโครงกระดูก มาตัดศีรษะด้วยดาบในเวลาต่อมา 3 ปีหลังจากตายและฝังศพไปแล้ว
เรื่องแบบนี้ทำให้ไม่แน่ใจว่า Dr.Joseph-Ignace Guillotin จะคุ้นเคยหรือเคยเห็น Halifax Gibbet หรือไม่ แต่รูปลักษณ์และการออกแบบคล้ายกับไปคัดลอกจาก James Douglas 4th Earl of Morton ผู้ริเริ่มให้สร้างเครื่องจักรสังหารชื่อว่า Scottish Maiden ในปี ค.ศ.1564 เลียนแบบ Halifax Gibbet ด้วยนิยามว่า งานสะอาด แล้วต่อมาผู้ริเริ่มก็ถูกตัดหัวด้วยเครื่องจักรนี้ในปี 1581 ทำให้มักจะมีการมโน/สร้างตำนานว่า คนสร้าง Guillotine ถูกตัดหัวด้วยในภายหลัง ทุกวันนี้ Scottish Maiden วางแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ National Museum of Scotland
Scottish Maiden มีความสูงน้อยกว่า Halifax Gibbet มีความสูงเพียง 10 ฟุต(3.0 m) เท่ากับ French guillotine
ใบมีดคงคมมากเลยค่ะ
เจิม