จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ ... จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำความสุขมาให้ ... สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ ... การให้ธรรมะชนะการให้ทั้งปวง
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
8 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

วิธีสร้างบุญบารมี ๙




พระนิพนธ์ใน
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ ๑๙
วัดบวรนิเวศวิหาร




(๒) วิปัสสนาภาวนา (การเจริญปัญญา)


เมื่อจิตของผู้บำเพ็ญตั้งมั่นในสมาธิ จนมีกำลังดีแล้ว เช่น อยู่ในระดับฌานต่างๆ ซึ่งจะเป็นฌานระดับใดก็ได้ แม้แต่จะอยู่แค่เพียงอุปจารสมาธิ จิตของผู้บำเพ็ญเพียรก็ย่อมมีกำลัง และอยู่ในสภาพที่นิ่มนวล ควรแก่การเจริญวิปัสสนาต่อไปได้


อารมณ์ของวิปัสสนานั้น แตกต่างไปจากอารมณ์ของสมาธิ เพราะสมาธินั้น มุ่งให้จิตตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งแต่เพียงอารมณ์เดียว โดยแน่นิ่งอยู่เช่นนั้น ไม่นึกไม่คิดอะไร ๆ


แต่ วิปัสสนา ไม่ใช่การให้จิตตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียวนิ่งอยู่เช่นนั้น แต่เป็นจิตที่คิดใคร่ครวญ หาเหตุและผล ในสภาวธรรมทั้งหลาย และสิ่งที่เป็นอารมณ์ของวิปัสสนานั้น มีแต่เพียงอย่างเดียวก็คือ “ขันธ์ ๕” ซึ่งนิยมเรียกกันว่า “รูป – นาม” โดยรูป มี ๑ ส่วน นามนั้นมี ๔ คือ เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ


ขันธ์ ๕ ดังกล่าว เป็นเพียงอุปาทานขันธ์ เพราะแท้จริงแล้วก็เป็นเพียงสังขารธรรม ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการปรุงแต่ง แต่เพราะอวิชชา คือ ความไม่รู้เท่าทันสภาวธรรม จึงทำให้เกิดความยึดมั่นถือมั่น ด้วยอำนาจอุปาทานว่า เป็นตัวเป็นตนและของตน การเจริญวิปัสสนา ก็โดยมีจิตพิจารณา จนรู้แจ้งเห็นจริงว่า สภาวธรรมทั้งหลาย อันได้แก่ขันธ์ ๕ นั้น ล้วนมีอาการเป็นพระไตรลักษณ์ คือ เป็นอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา โดย...


(๑) อนิจจัง คือ ความไม่เที่ยง คือสรรพสิ่งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ สมบัติ เพชร หิน ดิน ทราย และรูปกายของเรา ล้วนแต่ไม่เที่ยงแท้แน่นอน เมื่อมีเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น ก็มาประชุมรวมกัน เป็นรูปร่างของคนและสัตว์ขึ้น ซึ่งหน่วยชีวิตเล็กๆ เหล่านั้นก็มีการเจริญเติบโต และแตกสลายไป แล้วก็เกิดของใหม่ขึ้นแทนที่อยู่ตลอดเวลา ล้วนแต่เป็นอนิจจังไม่เที่ยงแท้แน่นอน


(๒) ทุกขัง ได้แก่ “สภาพที่ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้” ทุกขัง ในที่นี้มิได้หมายความแต่เพียงว่า เป็นความทุกข์กายทุกข์ใจเท่านั้น แต่การทุกข์กายทุกข์ใจ ก็เป็นลักษณะส่วนหนึ่งของ ทุกขัง ในที่นี้ สรรพสิ่งทั้งหลายอันเป็นสังขารธรรม เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่อาจที่จะทรงตัวตั้งมั่นทนทานอยู่ในสภาพนั้นๆ ได้ตลอดไป แต่จะต้องเปลี่ยนแปลงไป เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น เมื่อได้เกิดมาเป็นเด็ก จะให้ทรงสภาพเป็นเด็กๆ เช่นนั้นตลอดไปหาได้ไม่ จะต้องเปลี่ยนแปลงไปเป็นหนุ่มและสาว แล้วก็เฒ่าแก่ จนในที่สุดก็ต้องตายไป แม้แต่ขันธ์ที่เป็นนามธรรม อันได้แก่ เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็ไม่มีสภาพทรงตัว เช่น ขันธ์ที่เรียกว่า เมื่อมีอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวเกิดขึ้น แล้วจะให้ทรงอารมณ์เช่นนั้นตลอดไปย่อมเป็นไปไม่ได้ นานไป อารมณ์เช่นนั้น หรือเวทนาเช่นนั้น ก็ค่อยๆ จางไป แล้วเกิดอารมณ์ใหม่ชนิดอื่นขึ้นมาแทน


(๓) อนัตตา ได้แก่ “ความไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่สิ่งของ” โดยสรรพสิ่งทั้งหลาย อันเนื่องมาจากการปรุงแต่งไม่ว่าจะเป็น “รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ” ล้วนแต่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย เช่น รูปขันธ์ ย่อมประกอบขึ้นด้วยแร่ธาตุต่างๆ มาประชุมรวมกันเป็นกลุ่มก้อน เป็นหน่วยชีวิตเล็กๆ ขึ้นก่อน เรียกในทางวิทยาศาสตร์ว่า “เซลล์” แล้วเซลล์เหล่านั้นก็ประชุมรวมกันเป็นรูปใหม่ขึ้น จนเป็นรูปกายของคนและสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งพระท่านรวมเรียกหยาบๆ ว่า เป็นธาตุ ๔ มาประชุมรวมกัน โดยส่วนที่เป็นของแข็ง มีความหนักแน่น เช่น เนื้อ กระดูก ฯลฯ เรียกว่า ธาตุดิน ส่วนที่เป็นของเหลว เช่น น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำดี น้ำปัสสาวะ น้ำไขข้อ น้ำมูก น้ำลาย ฯลฯ รวมเรียกว่า ธาตุน้ำ ส่วนสิ่งที่ให้พลังงาน และอุณหภูมิในร่างกาย เช่น ความร้อน ความเย็น เรียกว่า ธาตุไฟ


ส่วนธรรมชาติที่ทำให้เกิดความเคลื่อนไหว ความตั้งมั่น ความเคร่ง ความตึง และบรรดาสิ่งเคลื่อนไหวไปมาในร่างกาย เรียกว่า ธาตุลม (โดยธาตุ ๔ ดังกล่าวนี้ มิได้มีความหมายอย่างเดียวกับคำว่า “ธาตุ” อันหมายถึงแร่ธาตุในทางวิทยาศาสตร์) ธาตุ ๔ หยาบๆ เหล่านี้ ได้มาประชุมรวมกันขึ้น เป็นรูปกายของคน สัตว์ และสรรพสิ่งทั้งหลาย เพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อนานไปก็ย่อมเปลี่ยนแปลง แล้วแตกสลาย กลับคืนไปสู่สภาพเดิม โดยส่วนที่เป็นดิน ก็กลับไปสู่ดิน ส่วนที่เป็นน้ำ ก็กลับไปสู่น้ำ ส่วนที่เป็นไฟ ก็กลับไปสู่ไป ส่วนที่เป็นลม ก็กลับไปสู่ความเป็นลม ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของคนและสัตว์ที่ไหนแต่อย่างใด จึงไม่อาจจะยึดมั่นถือมั่นรูปกายนี้ว่า เป็นตัวเราของเรา ให้เป็นที่พึ่งอันถาวรได้


สมาธิ ย่อมมีกรรมฐาน ๔๐ เป็นอารมณ์ ซึ่งผู้บำเพ็ญอาจจะใช้กรรมฐานบทใดบทหนึ่ง ตามแต่ที่ถูกจริตนิสัยของตน ก็ย่อมได้

ส่วนวิปัสสนานั้น มีแต่เพียงอย่างเดียว คือ มีขันธ์ ๕ เป็นอารมณ์ เรียกสั้นๆ ว่า มีแต่รูปกับนามเท่านั้น ขันธ์ ๕ นั้นได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสภาวธรรม หรือสังขารธรรม อันเกิดขึ้นเนื่องจากการปรุงแต่ง เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ไม่เที่ยง ทนอยู่ในสภาพเช่นนั้นไม่ได้ และไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนแต่อย่างใด อารมณ์ของวิปัสสนานั้น เป็นอารมณ์จิตที่ใคร่ครวญหาเหตุและผล ในสังขารธรรมทั้งหลาย
จนรู้แจ้ง เห็นจริงว่า เป็นพระไตรลักษณ์ คือ เป็นอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา และเมื่อใดที่จิตยอมรับสภาพความเป็นจริงว่า เป็นอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา เรียกว่าจิตเข้าสู่กระแสธรรม ตัดกิเลสได้


ปัญญาที่จะเห็นสภาพความเป็นจริงดังกล่าว ไม่ใช่แต่เพียงปัญญาที่นึกคิดและคาดหมายเอาเท่านั้น แต่ย่อมมีตาวิเศษ หรือตาในอย่างที่พระท่านเรียกว่า “ญาณทัสสนะ” เห็นเป็นเช่นนั้นจริงๆ


ซึ่งจิตที่ได้ผ่านการอบรมสมาธิมา จนมีกำลังดีแล้ว ย่อมมีพลังให้เกิดญาณทัสสนะ หรือปัญญาที่รู้แจ้งเห็นจริงดังกล่าวได้ เรียกกันว่า “สมาธิอบรมปัญญา” คือ สมาธิ ทำให้เกิดวิปัสสนาญาณเกิดขึ้น และเมื่อวิปัสสนาญาณได้เกิดขึ้นแล้ว ย่อมถ่ายถอนกิเลสให้เบาบางลง จิตย่อมจะเบาและใสสะอาด บางจากกิเลสทั้งหลายไปตามลำดับ สมาธิจิตก็จะยิ่งก้าวหน้าและตั้งมั่นมากยิ่งๆ ขึ้นไปอีก เรียกว่าเป็น “ปัญญาอบรมสมาธิ”


ฉะนั้น ทั้งสมาธิและวิปัสสนา จึงเป็นทั้งเหตุและผลของกันและกัน และอุปการะซึ่งกันและกัน จะมีวิปัสสนาปัญญาเกิดขึ้น โดยขาดกำลังสมาธิสนับสนุนมิได้เลย อย่างน้อยที่สุดก็จะต้องใช้กำลังของขณิกสมาธิเป็นบาทฐานในระยะแรกเริ่ม สมาธิจึงเปรียบเหมือนกับหินลับมีด ส่วนวิปัสสนานั้น เหมือนกับมืดได้ลับกับหินคมดีแล้ว ย่อมมีอำนาจถากถางตัดฟัน บรรดากิเลสทั้งหลาย ให้ขาดและพังลงได้


อันสังขารธรรมทั้งหลายนั้น ล้วนแต่เป็นอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่ตัวเราของเราแต่อย่างใด ทุกสรรพสิ่งล้วนแล้วเป็นแค่ ดิน น้ำ ลม และไฟ มาประชุมรวมกันชั่วคราว ตามเหตุตามปัจจัยเท่านั้น ในเมื่อจิตได้เห็นความเป็นจริงเช่นนี้แล้ว จิตก็จะคลายจากอุปาทาน คือ ความยึดมั่นถือมั่น โดยคลายกำหนัดในลาภยศ สรรเสริญ สุขทั้งหลาย ความโลภ ความโกรธ และความหลง ก็จะเบาบางลงไปตามลำดับปัญญาญาณ จนหมดสิ้นจากกิเลสทั้งมวล บรรลุซึ่งพระอรหัตผล


ฉะนั้น การที่จะเจริญวิปัสสนาภาวนาได้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพยายามทำสมาธิให้ได้เสียก่อน หากทำสมาธิยังไม่ได้ (อย่างน้อยที่สุดจะต้องได้ขณิกสมาธิ) ก็ไม่มีทางที่จะเกิดวิปัสสนาปัญญาขึ้น สมาธิจึงเป็นเพียงบันไดขั้นต้น ที่จะก้าวไปสู่การเจริญวิปัสสนาปัญญาเท่านั้น ซึ่งพระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ว่า

“ผู้ใดแม้จะทำสมาธิ จนจิตเป็นฌานได้นานถึง ๑๐๐ ปี และไม่เสื่อม ก็ยังได้บุญน้อยกว่าผู้ที่มีดวงตามองเห็นความเป็นจริงที่ว่า สรรพสิ่งทั้งหลายอันเนื่องมาจากการปรุงแต่ง ล้วนแล้วแต่ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้จะเห็นเพียงชั่วขณะจิตเดียวก็ตาม”


ดังนี้จะเห็นได้ว่า วิปัสสนาภาวนา นั้นเป็นสุดยอดของการสร้างบุญบารมีโดยแท้จริง และการกระทำก็ไม่ได้เหนื่อยยากลำบาก ไม่ต้องแบกหาม ไม่ต้องลงทุนหรือเสียทรัพย์แต่อย่างใด แต่ก็ได้กำไรมากที่สุด
เมื่อเปรียบการให้ทานเช่นกับกรวดและทราย ก็เปรียบวิปัสสนาได้กับเพชรน้ำเอก ซึ่งทาน ย่อมไม่มีทางที่จะเทียบศีล ศีล ก็ไม่มีทางที่จะเทียบกับสมาธิ และสมาธิ ก็ไม่มีทางที่จะเทียบกับวิปัสสนา


แต่ตราบใดที่เราท่านทั้งหลาย ยังไม่ถึงฝั่งพระนิพพาน ก็ต้องเก็บเล็กผสมน้อย โดยทำทุกๆ ทาง เพื่อความไม่ประมาท โดยทำทั้งทาน ศีล และภาวนา สุดแต่โอกาสจะอำนวยให้ จะถือว่าการเจริญวิปัสสนาภาวนานั้นลงทุนน้อยที่สุด แต่ได้กำไรมากที่สุด ก็เลยทำแต่วิปัสสนาอย่างเดียว โดยไม่ยอมลงทุนทำบุญให้ทานใดๆ ไว้เลย เมื่อเกิดชาติหน้า เพราะเหตุที่ยังไม่ถึงฝั่งพระนิพพาน ก็เลยมีแต่ปัญญาอย่างเดียว ไม่มีจะกินจะใช้ ก็เห็นจะเจริญวิปัสสนาให้ถึงฝั่งพระนิพพานไปไม่ได้เหมือนกัน


อนึ่ง พระพุทธองค์ได้ตรัสเอาไว้ว่า “ผู้ใดมีปัญญา พิจารณาจนจิตเห็นความจริงว่า ร่างกายนี้เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน คน สัตว์ แม้จะนานเพียงชั่วช้างยกหูขึ้นกระดิก ก็ยังดีเสียกว่า ผู้ที่มีอายุยืนยาวถึง ๑๐๐ ปี แต่ไม่มีปัญญาเห็นความเป็นจริงดังกล่าว” กล่าวคือ แม้ว่าอายุของผู้นั้นจะยืนยาวมานานเพียงใด ก็ย่อมโมฆะเสียเปล่าไปอีกชาติหนึ่ง จัดว่าเป็น “โมฆะบุรุษ” คือ บุรุษผู้สูญเปล่า


-----------------------------

ครั้งหน้า จขบ.จะพาไปรู้จักกับ การเจริญสมถและวิปัสสนา อย่างง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน กันค่ะ ท่านใดสนใจ อย่าลืม..!! ติดตามกันนะคะ




 

Create Date : 08 มิถุนายน 2552
65 comments
Last Update : 8 มิถุนายน 2552 19:34:35 น.
Counter : 1788 Pageviews.

 

สวัสดีครับ พ่อระนาดแววไว
ขอโมทนาในบุญกุศลด้วยนะครับ

ต้องขอเข้ามาอ่านบ่อยๆ นะครับ
จะลองพิจารณาดูนะครับ รูป-นาม ขันธ์5
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา


วันนี้ ที่บล๊อกก็อัพเรื่อง ทางสายพระนิพพาน ตอนที่ 1 ด้วยนะครับ
ว่างๆ ขอเรียนเชิญเข้าไปอ่านได้นะครับ





..ขอให้พ่อระนาดแววไว มีความสุขเยอะๆนะครับ..

 

โดย: หมึกสีดำ 8 มิถุนายน 2552 19:27:06 น.  

 

แวะมาเยี่ยมด้วยความคิดถึงคะ

 

โดย: กัดหมอน 8 มิถุนายน 2552 19:36:50 น.  

 

เป็นบทความที่ดีมากเลยครับ

ขอบคุณที่ไปอวยพรวันเกิดด้วยครับ

 

โดย: cenyou 8 มิถุนายน 2552 20:15:20 น.  

 

อนุโมทนา ด้วยคะ


จนแล้วจนรอด บล๊อคข้าพเจ้าก็ยังมิได้เริ่ม

 

โดย: ปุ้ย IP: 58.11.74.70 8 มิถุนายน 2552 20:44:43 น.  

 

ก่อนอื่น พ่อระนาดจ๊ะ

อสงไขย เพลงโปรดค่ะ เพลงโปรดค่ะ
ขอบคุณๆๆๆ

มาอนุโมทนานะจ๊ะ

เจอกันที่เดิมจ้ะ น้องปุ๊ก

 

โดย: นายกุหลาบ 8 มิถุนายน 2552 20:51:31 น.  

 

ธรรมะ นี่คือ ธรรมชาติจริงๆ

 

โดย: Mermaid AI 8 มิถุนายน 2552 21:19:33 น.  

 

วิปัสสนา
เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ผมแค่สงสัยว่า
ทำไมเวลาสอนธรรมะ
เราถึงไปเน้่นที่สมาธิมากกว่าการวิปัสนา
แม้จะเข้าใจว่า
สมาธิเป็นเบื้องต้นหริือรากฐานของวิปัสสนาก็ตาม

แต่บางทีก็อดคิดไม่ไ่ด้่นะครับ...

ว่าเวลาฟ้าผ่า
ก็ไม่จำเป็นต้องรอฝนตกครับ

ิอิอิอิ


ฝันดีนะครับคุณปุ๊ก



 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 8 มิถุนายน 2552 21:33:43 น.  

 

สวัสดีจ๊ะนู๋ปุ๊กคนสวย

วิธีสร้างบุญบารมีเป็นงานเขียนที่ดีมากจ๊ะ
ฝันดีนะจ๊ะสาวน้อย


ปลพี่น่ะบอกน้องคนเดียวนะอายุ 26-29
จุ๊ๆเหมือนลูกฮอกกี้แหละจ้า55+เลือกได้ๆ หุหุ

emoemo

 

โดย: Nat-cherry 8 มิถุนายน 2552 22:30:06 น.  

 

ที่ยากที่สุดคือการฝึกสมาธินั่นแหละครับ เพราะอย่างที่เคยบอกว่าจิตเราซนเหมือนลิง พอเริ่มนั่งหลับตา จิตก็เริ่มว่อกแว่ก คิดโน่นคิดนี่ คิดสารพัด พรุ่งนี้งานจะยุ่งมั้ย ฝนจะตกมั้ย แดดจะร้อนหรือเปล่า ข้าวเช้าจะกินอะไรดี สารพัดสารเพ แต่ถ้าผ่านขั้นสมาธิได้ การทำวิปัสสนาก็น่าจะไปได้เร็วกว่าการฝึกสมาธิ เพราะมีดที่ลับจนคมแล้วย่อมถากถางตัดฟันกิเลสได้ง่ายกว่ามีดที่ไม่ได้ลับจนคม

จนป่านนี้พี่ก็ยังไม่ผ่านในเรื่องของการทำสมาธิเลยจ้ะน้องปุ๊ก อาจจะเป็นเพราะความเพียรพยายามยังไม่เต็มที่ และไม่ได้ฝึกจริงจัง ก็หวังไว้ว่าสักวันจะทำสำเร็จ และยังไงก็คงไม่ลืมในเรื่องของการทำทาน และถือศีล ไม่งั้นจะมีเสบียงและรูปสมบัติ รวมทั้งกายมนุษย์ ติดตัวไปใช้ในชาติภพต่อๆไปเพื่อสร้างบุญบารมีได้อย่างไร

ขอร่วมโมทนาบุญกับน้องปุ๊กด้วยนะจ๊ะ

 

โดย: JohnV IP: 125.26.111.241 8 มิถุนายน 2552 22:57:09 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะที่แวะไปทักทายกัน...แถมอัพบล๊อกเรื่องดีๆไว้ให้...มีความสุขมากๆนะค๊ะ

 

โดย: Why England 8 มิถุนายน 2552 23:21:50 น.  

 

ดีจ้าคุณปุ๊ก

แวะบ้านนี้ ต้องใช้เวลาในการอ่านกะทำความเข้าใจมากๆเลย สาระเพียบ บางทีนะคุณปุ๊ก หมูอ่านไปฟังเพลงไปหลายรอบเลย

ของหมูเน้นแต่เรื่องกิน ฮ่า ฮ่า

 

โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส 8 มิถุนายน 2552 23:24:16 น.  

 

- หวัดดียามดึกครับ

- ผมเคยเข้าใจมาตลอดครับว่า สมถะ คือ การเอาจิตไปไว้ภายนอกตัว หรือการเพ่งจิตอยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใด ส่วนวิปัสสนา คือ การเอาจิตไว้กับตัว (ไม่รู้ว่าเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือเปล่าครับ)

 

โดย: พี่รี่+ต๊อก 8 มิถุนายน 2552 23:51:58 น.  

 

23.26 น.

๏ คิดถึงน้อง จ้องจับ........ลองกอง
พ่อระนาด น้องจอง.........กี่ต้น
รอป้าย จากเจ้าของ.........มาผูก
พี่ราดมูลหมูข้น...............ลูกร้อยเต็มพวง

๏ ล่วงสิงหา จักได้...........หวานหอม
รอเก็บ เตรียมชะลอม.......ใส่ไว้
อ้ายรอง จะพาพยอม........มาเก็บ ไหมเอย
ฝนตกหนัก ระวังไข้..........หวัดบ้างน้องเอย

๏ เคยบอก'เนฯ หมุดโน้ต...นั่นแน
บอกหน่อย นั่งเทียนแล.....บ่ฮู้
อสงไขเพราะจัง แข..........ไขขับ
มาทักทาย นกรู้...............พี่ผู้เงียบเหงา-เฝ้าลองกองเจ้าเอย บารนี ๚ะ๛ (งุงิ)

00.08 น.

 

โดย: นกโก๊ก 9 มิถุนายน 2552 0:09:55 น.  

 

สวัสดีเจ้าค่ะ..

พระอาการของสมเด็จพระสังฆราชยังทรงๆอยู่ค่ะ

Admitอยู่ร.พ.จุฬาฯมานานมาก..

ทำสมาธิส่งจิตไปให้พระองค์ท่านหายประชวร

กันให้มากๆนะค่ะ..

อ้อมแอ้มเพิ่งกลับจากทำบุญที่วัดพระพุทธชินราช

เลยแวะเอาพระมาฝากค่ะ..


ขอให้มีความสุขมากๆในทุกๆวันนะค่ะ

 

โดย: อ้อมแอ้มเองเจ้าค่ะ (คนผ่านทางมาเจอ ) 9 มิถุนายน 2552 0:34:01 น.  

 

อนุโมทนาด้วยค่ะ

 

โดย: ความเจ็บปวด 9 มิถุนายน 2552 2:11:12 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณปุ๊ก..
มาอ่านธรรมะ ตอนดึก ๆ ค่ะ..
ขอบคุณสำหรับ ธรรมะดี ๆ นะค่ะ..
..
มีความสุขมาก ๆ จ๊ะ..

 

โดย: Prettymaew 9 มิถุนายน 2552 4:41:00 น.  

 

เพลงเพราะจังค่ะ..

 

โดย: Prettymaew 9 มิถุนายน 2552 4:43:58 น.  

 

อรุณสวัสดิ์คะ
เช้ามืด อากาศสบายๆ เพลงเพราะๆ สดชื่น
สามียาย(ตา) อยู่ในสวนคนเดียว ถือสันโดด
มีสุนัขเป็นเพื่อน 1 ฝูง 10 ตัวไม่นับตัวเล็ก เวลา
ยายไปเยี่ยม ตาเขาจะบรรยายธรรมะจากธรรมชาติ
เช่น ดูพฤติกรรมจากสุนัขนั่นแหละ ความรักความ
เมตตา สี่ตา(ชื่อสุนัข) เพศเมียอายุมาก ฟันหลุด
หมดปากแล้ว เป็นสุนัขอาน (ไม่มีลูก) ชอบคาบ
ลูกอ่อนของเพื่อนมาเลี้ยงเอง ครั้งละ ตัว 2 ตัว
เสมอมา การที่มันไม่มีฟัน มันคาบลูกหลุดจาก
ปาก กว่าจะถึงที่มันอยู่ก็เหนื่อยแทบแย่ และน้ำนมก็ไม่มี มันคงเจ็บน่าดูเวลาลูกดูดนม ความรัก ความอดทน ลูกดูดนมจนมีน้ำนมเลี้ยงลูก และอ้วนทุกตัว ตาเขาจะบรรยายเป็นเรื่องเกี่ยวโยงกับ
ธรรมะได้มากมายทีเดียวเชียวหละ.....

 

โดย: กัดหมอน 9 มิถุนายน 2552 5:37:41 น.  

 



สวัสดีค่ะ..คุณปุ๊ก

พี่ก็คิดถึงน้องจะแย่แล้วค่ะ
เหมือนเราไม่ได้คุยกันมานานมากเลยนะคะ
น้องมีภารกิจ พี่เองก็มีอะไรวุ่นวายมากมายค่ะ
แต่ตอนนี้ก็เริ่มจะมีเวลาแล้วค่ะ..แต่น้องคงไม่มีเท่าไร
ทั้งงาน ทั้งเรียน และงานบุญมากมาย...
...แต่ขอให้คิดถึงกันก็พอค่ะ...

คุณปุ๊กมีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: tanjira 9 มิถุนายน 2552 7:13:59 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีเช้าวันอังคาร
กับความสุขที่มีทุกวันนะค่ะคุณปุ๊ก

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 9 มิถุนายน 2552 7:28:02 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณปุ๊ก









 

โดย: กะว่าก๋า 9 มิถุนายน 2552 7:52:32 น.  

 






จากบล็อก... แต่งไว้แต่เมื่อราว ๆ ปี 2534 - 2535 ครับพ่อระนาด... แต่ก็เอามาเกลาเนื้อร้องและทำนองบ้าง

มีความสุขมาก ๆ รักษาสุขภาพ นะครับ

 

โดย: เซียน_กีตาร์ 9 มิถุนายน 2552 8:00:14 น.  

 

สวัสดีค่ะ
สบายดีนะคะ น้องปุ๊ก

 

โดย: redclick 9 มิถุนายน 2552 8:34:17 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณปุ๊ก
มาอ่านแล้วค่ะเหมือนเป็นการทบทวน
ตนเองด้วยค่ะ...
ใช้ขันธ์ 5เพื่อรู้ในขันธ์ 5
อนุโมทนาบุญ
เจริญในธรรมค่ะ

 

โดย: ชีวิตมีลีลา 9 มิถุนายน 2552 8:54:41 น.  

 



สวัสดีค่ะ คุณปุ๊ก
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
พูว่า เพียงมาอ่าน ใจก็เป็นสุข
เพราะว่า..ใจสงบค่ะ

 

โดย: พธู 9 มิถุนายน 2552 9:26:24 น.  

 

มาบ้านนี้ทีไรได้ธรรมะ กลับไปขัดเกลาจิตใจตลอดเลย ขอบคุณมากครับ

 

โดย: คนทุ่งบางเขน 9 มิถุนายน 2552 10:36:58 น.  

 

สวัดีครับ พ่อระนาดแววไว ขออนุญาตเสิร์ฟมื๊อเที่ยงนะครับ..

 

โดย: หมึกสีดำ 9 มิถุนายน 2552 11:25:10 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณปุ๊กที่คิดถึง
มาฟังเพลงเย็นๆใจค่ะ
คุณปุ๊กสะบายดีนะคะ
คิดถึงมักมั่กเลยอ่ะค่ะ

Happy Tuesday

 

โดย: busabap 9 มิถุนายน 2552 13:43:41 น.  

 




ทักทายกัน...วันสีชมพูจร้าคุณพ่อระนาดจ๋า...


ช่วงนี้ฝนตกบ่อย รักษาสุขภาพด้วยนะจ๊ะ...

จากบล๊อก ทำได้งัย ก็ทำไปแ๊ว๊ววววจร้า มิเป็งรัย นาน นาน ที ลูกมิว่า อิอิemo

มีความสุข มาก มาก นะจ๊ะ

 

โดย: หนุ่มน้อยแห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง 9 มิถุนายน 2552 14:04:25 น.  

 

สวัสดีครับ พ่อระนาดแววไว แวะมาเสิร์ฟกาแฟยามบ่ายครับ..

 

โดย: หมึกสีดำ 9 มิถุนายน 2552 14:32:30 น.  

 




มหาสมุทรไม่อิ่มด้วยน้ำฉันใด
มนุษย์ไม่อิ่มด้วยกิเลสฉันนั้น



มากับความคิดถึงค่ะ
สบายดีนะ ทำงานเหนื่อยมั๊ย


คมคำ : รู้สารพัดรู้ >>>ถ้าไม่รู้จักตัวเอง
ก็ไม่เรียกว่ารู้จริง


 

โดย: ร่มไม้เย็น 9 มิถุนายน 2552 15:08:37 น.  

 

มาเยี่ยมเยียนยามบ่ายวันอังคารจ๊ะปุ๊ก
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: sawkitty 9 มิถุนายน 2552 15:49:00 น.  

 

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ



ใช่ๆๆๆๆอยากให้ทุกๆ ทำให้ได้ แต่มันอาจต้องใช้ระยะเวลา

 

โดย: หนูดำจำมัย 9 มิถุนายน 2552 16:46:37 น.  

 

มาฟังเพลงก่อนกลับบ้านค่ะ
นั่งพักเหนื่อย ฟังเพลงเย็นๆ ชื่นใจ

 

โดย: redclick 9 มิถุนายน 2552 17:28:30 น.  

 

๐ โคลงผวน ครวญโพล่ง เพ้อ......พึำมพำ
ขอรับ ครับรอ คำ......................เคลื่อนคล้อย
ใส่จาร ซ่านใจ จำ......................เจียนจับ ใจเอย
คำหนึ่ง ครึ่งนำ น้อย...................หนึ่งนั้นเนานาน ฯ

๐ วารผัน วันผ่าน พ้น..................พบพาน
ภพรัก พักรบ ราน......................เรียกร้อง
ตรึงจิต ติดจึง จาร......................จำจาก จรนา
จึงใคร่ ใจขึง คล้อง.....................คิดค้นคำคน ฯ

๐ จนคิด จิตคน คล้อย..................คลาไคล
เยือนจาก ยากเจื่อน ใจ................จรดจ้อง
ฝังใย ใฝ่ยัง ใย...........................หยิบยื่น ยากแล
จักพบ จบพราก พ้อง...................เพื่อพ้นภัยพาล ฯ


แจมบล๊อก ๐ กลบทโคลงผวน ๐ "ญามี่"


 

โดย: พ่อระนาด 9 มิถุนายน 2552 19:00:16 น.  

 

1.อนิจจัง คือ ความไม่เที่ยง
2.ทุกขัง ได้แก่ “สภาพที่ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้”
3.อนัตตา ได้แก่ “ความไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่สิ่งของ”

มนุษย์เราหนีสามข้อนี้ได้เมื่อไร คงมีความสุขภายในจิตใจมากๆนะครับ
อ่านแล้วได้อะไรหลายๆอย่างที่ยังเข้าใจไม่ถูกต้องอยู่
ขอบคุณครับ

 

โดย: ลุงแอ๊ด 9 มิถุนายน 2552 20:03:24 น.  

 

สวัสดีจ๊ะน้องปุ๊ก

คิดถึงทุกวันมีความสุขมากๆนะจ๊ะ
ป่านนี้ทำอะไรอยู่นะ ฝันดีนะจ๊ะ

emoemoemo

 

โดย: Nat-cherry 9 มิถุนายน 2552 20:58:19 น.  

 

เพลงเพราะมากๆ ทำให้คิดถึงแม่นาค เอะเกียวกันมะ

ขอบคุณสำหรับกลอนวันพระจ้ะ คิดถึงมากมาย

 

โดย: แม่นาคตัวปลอม (Opey ) 9 มิถุนายน 2552 21:31:55 น.  

 

มารับศีลรับพรก่อนเข้านอนค่ะสวดมนต์เสร็จอย่าลืมดื่มช้าร้อนก่อนนอนนะค่ะ นอนหลับฝันดีนะค่ะ

 

โดย: นุ๋ดีค่ะ (kun_isara ) 9 มิถุนายน 2552 21:32:06 น.  

 

มาส่งพ่อระนาดเข้านอนค่ะ
..ยิ้มหวาน..

 

โดย: ปลิวตามลม 9 มิถุนายน 2552 21:34:09 น.  

 

๏ เพลงฝนพรำห่มฟ้า...........คลุมสวน
ครวญชุ่ม เพลินโชยหวน.......หล่นบ้าน
ลานบน หลั่งพรมพรวน.........พรางตก
ผกต่าง เปิงเปียกป้าน...........บ่มฟ้า คะนองฝน ๚ะ

๏ คนผอง คลายหม่นฟื้น.......สวนรับ
ซับร่วน ดินโลมนับ..............เก็บน้ำ
กรำ,เหน็บ เหนื่อยนอนพับ.....คืนหลั่ง ฝนแฮ
คลังรื่น เพลินสุขล้ำ.............เหนื่อยล้า คลายหมอง ๚ะ

..เยือนขอรับ.....สวัสดีราตรีอรุณสวัสดิ์จ้า...



 

โดย: คนสาธารณะ 10 มิถุนายน 2552 0:59:08 น.  

 

คิดถุง

 

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง 10 มิถุนายน 2552 3:43:40 น.  

 




อรุณสวัสดิ์ค่ะพ่อระนาดจ๋า




ดาวจ๋ามาหาเพราะความคิดถึง



มีความสุขมากๆค่ะ

 

โดย: satineesh 10 มิถุนายน 2552 6:59:16 น.  

 

หมิงหมิงรอรับพรดีดีจากป้าปุ๊กอยู่นะครับ อิอิอิ











 

โดย: กะว่าก๋า 10 มิถุนายน 2552 8:19:34 น.  

 

คิดถึงเหมือนกันค่ะ เน็ตที่บ้านยังซ่อมไม่เสร็จค่ะ
วันนี้ช่างจะมาตรวจสายใหม่ค่ะ ว่าผิดปกติตรงไหน นานมากค่ะ กว่าจะเรียบร้อย

 

โดย: redclick 10 มิถุนายน 2552 9:11:30 น.  

 



ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่ไปอวยพรวันเกิด และก็ขอให้คุณปุ๊กมีความสุขมาก ๆ สดใสทุกวันเลยค่ะ

 

โดย: I_sabai 10 มิถุนายน 2552 9:15:24 น.  

 




สวัสดีค่ะ...คุณปุ๊ก

พี่มาส่งความรักและความคิดถึงให้นะคะ
คุณปุ๊กมีความสุขและสดชื่นมากๆนะคะ

 

โดย: tanjira 10 มิถุนายน 2552 10:24:41 น.  

 



มาอ่านธรรมะค่ะ คุณพ่อระนาด

ชอบมากตรงนี้ค่ะ

“โมฆะบุรุษ” คือ บุรุษผู้สูญเปล่า

มีความสุขมากมากนะคะ


 

โดย: อิ่ม_Aim 10 มิถุนายน 2552 10:25:59 น.  

 








มีความสุขกับวันสีเขียวเช่นกันครับพ่อระนาด

รักษาสุขภาพ นะครับ

 

โดย: UDD (เซียน_กีตาร์ ) 10 มิถุนายน 2552 11:41:34 น.  

 

สวัสดีครับ พ่อระนาดแววไว
เที่ยงนี้ ขออนุญาตเสิร์ฟ แกงส้มชะอมไข่นะครับ
ไม่แน่ใจว่า ชอบมั๊ย



ขอให้พ่อระนาดแววไว มีความสุขนะครับ..

 

โดย: หมึกสีดำ 10 มิถุนายน 2552 12:01:24 น.  

 

แวะมาหาตามมนต์เสียงเพลงคะ

 

โดย: กัดหมอน 10 มิถุนายน 2552 13:33:06 น.  

 

แหะๆ พี่ปุ๊กขา มี่ยังหัดจริงจังมะถึง20วันมั้ง ยัง "มุดครัว มั่วขุด" อยู่เลยค่ะ
..........................
คานโล่ง โคลงร้าน เงียบ..........งำงม
ผละร่น ผลระ ทม....................ถ่อท้วง
ชวนพรำ ช่ำผวน คม................ขับคึก
สนุก สุข ณ ห้วง.......................ห่อห้อมเฮฮา


ลาเผย เลยพร่า กั้น..................กักกลัว
ทุนมั่ว ทั่วหมุน ตัว....................ต่อแต้ม
ผิดถูก ผูกพิศ นัว......................นึกเหนื่อย
ตามท่อง ตรองถาม แง้ม...........ง่วงง้างงัดงอก


กรอกฝน กลฟอก ถ้อย.................ทวงทำ
ผวนศัพท์ พับสวน จำ...................จ่อมจ้อง
พิศโคลง โพล่งคิด นำ....................นัยนั่น
ปนใส่ ไปซน ร้อง...........................รื่นริ้วลือเรือง

(พยัคฆ์ย่างสามขุม)

 

โดย: ญามี่ 10 มิถุนายน 2552 14:06:54 น.  

 




นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน…ยากที่จะเลื่อนขึ้นสู่ที่สูง


สวัสดีค่ะปุ๊ก

ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆค่ะ
ป้าได้รับซองสีเหลืองเรียบร้อยอแล้ววันนี่เอง

ป้ามีหนังสือจะให้ปุ๊กเช่นกัน
พร้อมส่งวันไหนจะแจ้งอีกที
จะใช้ที่อยู่ตามที่ปรากฎหน้าซองค่ะ

รักษาสุขภาพ และมีความสุขกับวันดีๆทุกทุกวันนะคะ


คมคำ : อย่าวางสุข - ทุกข์ของเราไว้ในมือผู้อื่น


 

โดย: ร่มไม้เย็น 10 มิถุนายน 2552 22:39:55 น.  

 

ราตรีสวัสดิ์ครับคุณปุ๊ก.....

 

โดย: Romancini 11 มิถุนายน 2552 1:36:01 น.  

 

เพลงนี้ฟังกี่หนก็ชอบ

เรื่องถุง เอาเป็นถุงดำก็ได้นะ

(งอนเล็ก ๆ คนคิดถึงยังไม่รู้ตัว)

 

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง 11 มิถุนายน 2552 1:53:40 น.  

 

สวัสดีค่ะ น้องปุ๊ก

กบนะจ๊ะ เอ...คิดว่าเป็นไรหนอ ...

 

โดย: redclick 11 มิถุนายน 2552 8:23:46 น.  

 

ขวัญข้าว ยังไม่มีเวลาเขียนอีกเลยจ้ะ
ช่วงนี้...ต้องช่วยงานคนใกล้ตัว...ตัวเป็นเกลียวเชียว
จะพยายามน๊ะ...

 

โดย: redclick 11 มิถุนายน 2552 8:27:05 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับ พ่อระนาดแววไว
วันนี้ อัพเรื่อง ทางสายพระนิพพาน ตอนที่ 2 นะครับ
ว่าด้วยเรื่อง สังโยชน์ของพระโสดาบันครับ
ว่างๆ ขอเรียนเชิญติดตามอ่านที่บล๊อกนะครับ
เมื่อเช้าโชคดีได้ปล่อยเต่าครับ


ขอให้พ่อระนาดแววไว มีความสุขนะครับ..

 

โดย: หมึกสีดำ 11 มิถุนายน 2552 9:38:13 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณปุ๊ก
คิดถึงจัง
มีความสุขกับการทำงานนะคะ

 

โดย: busabap 11 มิถุนายน 2552 12:02:57 น.  

 




ทักทายกัน...วันสีส้มจร้าพ่อระนาด...

ขอให้มีความสุขมาก มาก น๊า...

ขอบคุณสำหรับบทความดี ดี นะคะ อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะพ่อระนาด
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สังขารไม่เที่ยวค่ะ สาธุ

 

โดย: หนุ่มน้อยแห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง 11 มิถุนายน 2552 14:24:05 น.  

 

ระนาดประกาศไมตรี
ด้วยยินดีมีมอบให้
แด่มิตรถิ่นแดนไกล
ฝากส่งใจคิดถึงกัน..


.......

ไนล์ รอยเคียว ก็ยินดี
ครับประกาศนี้... ดั่งเหมือนฝัน
แค่มิตรถิ่นกันดาร
กลับได้รับ.. ความประทับใจ


วันนี้สนุกดีกับงาน กับชีวิตไหมครับ คิดถึง อุตส่าห์ฝ่าฝนมาร้านเน็ต ทานข้าวเยอะๆ และนอนฝันดีนะครับ

 

โดย: ไนล์ รอยเคียว 11 มิถุนายน 2552 17:40:13 น.  

 

เมื่อคืนพี่เปิดเพลงเย็นๆ ฟังสบายๆ แล้วหลับตานั่งสมาธิ ประมาณสักสิบนาทีก็เริ่มวูบๆๆๆๆๆ แล้วก็ตกเก้าอี้... ^_^

 

โดย: JohnV IP: 125.26.107.14 11 มิถุนายน 2552 17:47:01 น.  

 

ทานข้าวหรือยังคะน้องปุ๊ก เน็ตที่บ้านซ่อมเสร็จแล้วค่ะ ดีใจจังเลย

 

โดย: redclick 11 มิถุนายน 2552 19:51:46 น.  

 

แวะมาทักทายครับ น้องปุ๊กสบายดีนะครับ

 

โดย: อ้วนforest IP: 222.123.168.87 11 มิถุนายน 2552 20:48:04 น.  

 

สาธุกับธรรมะดีๆในวันนี้ค่ะ

 

โดย: กิ่งไม้ไทย 13 มิถุนายน 2552 1:34:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พ่อระนาด
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพียรฝึกตนใฝ่รู้ หลักธรรม

จิตเพ่งคิดจดจำ บ่มไว้

หมายเพียรมุ่งตัดกรรม วัฏฏะ

หวังสละจิตสุดท้าย ดิ่งเข้านิพพาน..

Friends' blogs
[Add พ่อระนาด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.