Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
23 กันยายน 2555
 
All Blogs
 
เขมาภิรตาราม

ประวัติโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม

โรงเรียนวัดเขมาภิรตารามเป็น โรงเรียนเก่าแก่โรงเรียนหนึ่งของจังหวัดนนทบุรี นับถึงปัจจุบันมีอายุ ครบ 102 ปี มีประวัติพอสังเขป ดังนี้

โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม แต่เดิมนั้นกำเนิดมาจากการที่บิดา มารดานำกุลบุตรมาฝากเป็นศิษย์วัด กิน อยู่หลับนอนที่วัด เพื่อศึกษาเล่าเรียนกับพระ ผู้เป็นอาจารย์มีเจ้าอาวาทเป็นผู้ดูแล คล้ายกับเป็นครูใหญ่ พระลูกวัด เป็นครูน้อย อาศัยกุฎิพระและศาลาการเปรียญหน้าโบสถ์ หน้าวิหารของวัดเขมาภิรตาราม เป็นสถานที่เล่าเรียนในสมัยนั้นวิชาที่สอนมี วิชาภาษาไทย ภาษาขอม การอ่าน การเขียน การคัดลายมือ ศีลธรรม พระพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์พงศาวดารไทย จากความรู้และประสบการณ์จากพระผู้สอน

ปี พ.ศ. 2543 ท่านเจ้าคุณ พระวินัยรักขิต (คง ปัญญาทีโป) เป็นเจ้าอาวาท วัดเขมาภิรตาราม ขึ้น ครองวัด ท่านมีความประสงค์จะส่งเสริมการศึกษา ของกุลบุตรให้เจริญยิ่งขึ้น ประจวบกับเป็นรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ขยายการศึกษาออกไปยังหัวเมืองมีการตั้งโรงเรียนหลวงหรือโรงเรียนรัฐบาลใน หัวเมืองหลายแห่ง โดยมีกรมศึกษาธิการในสมัยนั้น เป็นผู้ดำเนินการตามประราชประสงค์ ท่านเจ้าคุณพระวินัยรักขิตเห็นว่า กุลบุตรที่นิยมเข้ามาศึกษาเล่าเรียน ในโรงเรียนวัดเขมาภิรตารามมากขึ้นเรื่อย ๆ ควรจะดำเนินการ ขอจัดตั้งโรงเรียนหลวงขึ้น จึงได้ติดต่อกรมศึกษาธิการ ให้ตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นที่วัดเขมาภิรตาราม

ปี พ.ศ. 2449  พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯให้รื้อ พระที่นั่งมูลมณเทียร ซึ่งอยู่ในพระบรมมหาราชวังมาปลูกที่วัดเขมาภิรตารามและทรงพระราชทานให้ ใช้เป็นโรงเรียน นับว่าเป็นอาคารหลังแรกของโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม


ปี พ.ศ. 2450 กรมศึกษาธิการ จึงได้อนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนขึ้น ที่วัดเขมาภิรตาราม ให้ชื่อว่า “ โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม ” ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น โรงเรียนรัฐบาล สถานศึกษาเล่าเรียน ยังคงใช้พระที่นั่งมูลมณเฑียร ศาลาต่าง ๆ กุฎิพระ และใต้อาคารเรียนเรื่อยมา โดย มีท่านเจ้าคุณพระวินัยรักขิตเป็นผู้อุปการะโรงเรียน


ปี พ.ศ. 2482 โรงเรียนเริ่มมีอาคารไม้ 2ชั้น 1 หลังมี 12 ห้องเรียนและได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนใหม่เป็น “โรงเรียนกลาโหมอุทิศ” เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่กระทรวงกลาโหม ร่วมกับข้าราชการกระทรวงกลาโหม ที่บริจาคเงิน 6,000บาท และกระทรวงศึกษาธิการ ให้เงินสมทบอีก 3,840 บาท และ ใช้พระที่นั่ง มูลมณเฑียรเป็นอาคารเรียน


ปี พ.ศ. 2495 ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีขณะนั้นได้ให้กระทรวงศึกษาธิการ ติดต่อขอซื้อที่ดิน ของชาวบ้าน ทางทิศเหนือของวัดอีก 13 ไร่ 86 ตารางวา และรวมกับที่ดินของวัด 3 ไร่ 1งาน 80 ตารางวารวมเป็นที่ดิน 16 ไร่ 2 งาน 66 ตารางวาทำการปรับปรุงก่อสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น แบบ 242 จำนวน 22 ห้องเรียน ปัจจุบันคืออาคาร1 สิ้นเงินก่อสร้าง 6,966,900 บาท ใช้เป็นอาคารเรียนเมื่อ


25 มิถุนายน 2497 โดย ฯพฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม มาเป็นประธานพิธีเปิด และเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม”

ปี พ.ศ. 2498 กระทรวงศึกษาธิการอนุมัติเงินต่อเติมอาคาร 1 อีก 10 ห้องเรียนเป็นเงิน 1,500,000บาท รวมเป็น 32 ห้องเรียน

ปี พ.ศ. 2513 โรงเรียนได้รับอนุมัติให้สร้างอาคารเรียน3ชั้น 1หลัง จำนวน18 ห้องเรียน ปัจจุบันคือ อาคาร ในปี พ.ศ. 2515 สร้างเรือนกลาโหมเป็นอาคารไม้ ปัจจุบันรื้อถอนไปแล้วในปี พ.ศ. 2530 ในปี พ.ศ. 2516 ได้รับงบประมาณ 2,800,000 บาท สร้างอาคารเรียน 4 ชั้น อีก 1 หลัง ปัจจุบันคือ อาคาร 4

ปี พ.ศ. 2516-2518 ได้รับงบประมาณ 4,000,000 บาท ต่อเติมอาคาร 6 จำนวน  6 ห้องเรียน ปรับปรุงเป็นอาคารวิทยา ศาสตร์ ชั้นล่างเป็นห้องสมุดและสร้างโรงฝึกงานอุตสาหกรรมจำนวน 6 หน่วย

ปี พ.ศ. 2542 ได้รื้อชั้นล่างทำเป็นพื้นที่พักผ่อนและเล่นกีฬาของนักเรียน

ปี พ.ศ. 2523 โรงเรียนได้รับงบประมาณ 5,000,000 บาท สร้างอาคารพิเศษ 1 หลัง ปัจจุบัน คือ อาคาร 5

ปี พ.ศ. 2527 สมาคมศิษย์เก่าเขมาภิรตาราม จัดสร้าง “ศาลากตัญญูกตเวทิตานุสรณ์” ประดิษฐานรูปหล่อพระวินัยรักขิต ผู้ให้กำเนิดโรงเรียน บริเวณหน้าอาคาร 1

ปี พ.ศ. 2530 สมาคมศิษย์เก่า เขมาภิรตาราม สมาคมผู้ปกครองและครู เขมาภิรตาราม และผู้มีจิต ศรัทธาร่วมกันบริจาคเงินสร้างหอสมุด “ พระเทพญาณกวี “ แทนอาคาร 3 ที่รื้อไป

ปี พ.ศ. 2531 โรงเรียนได้รับงบประมาณ 3,500,000 บาท สร้างอาคารหอประชุมและโรงอาหารและตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ว่า “หอประชุม จอมพล ป. พิบูลสงคราม “

ปี พ.ศ. 2532 โรงเรียนได้รับอนุเคราะห์ จากสมาคมศิษย์เก่า เขมาภิรตาราม สร้างอนุสาวรีย์ ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นเงิน 1,114,000 บาท และทำพิธีเปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม2532

ปี พ.ศ. 2533 โรงเรียนได้รับงบประมาณ 5,850,400 บาท ก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ 2 ชั้น ปัจจุบัน คืออาคารพลศึกษาหรืออาคาร 3 ในปี พ.ศ. 2536 โรงเรียนได้รับคัดเลือกเข้ารับรางวัลพรราชทานโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ จากกระทรวงศึกษาธิการ

ปี พ.ศ.2539-2541 ได้รับงบประมาณจากกรมสามัญศึกษาจำนวน 3,800,000 บาท ก่อสร้างอาคารเรียนแบบพิเศษ 7 ชั้น ปัจจุบันคือ


อาคาร 6 ในปี พ.ศ. 2541 ได้รับเงินสนับสนุนจากสหกรณ์ร้านค้าโรงเรียน จำนวน 260,000 บาทสมาคมศิษย์เก่าเขมาภิรตาราม จำนวน 200000 บาท และเงินบริจาคอื่น ๆ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น1,000,000 บาทสร้างเสาธงพร้อมฐานเทพื้นสนามกีฬาเป็นคอนกรีต ปรับแต่งสนามโดยรอบให้สวยงามและจัดซ่อมประตู อัลลอยด์หน้าอาคารเรียน1

ปี พ.ศ. 2542 ได้รับงบประมาณทำระบบระบายน้ำ และบำบัดน้ำเสีย เป็นเงิน 1,600,000 บาท ได้รับการปรับปรุงและติดตั้งอุปกรณ์อนุรักษ์พลังงานของ ชาติ โดยการเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดในอาคารเรียนและอาคารประกอบ

ปี พ.ศ. 2543 ได้ปรับปรุงห้องน้ำชาย ทำประตูม้วน เหล็กดัดหน้าต่าง อาคารเรียนต่าง ๆ ต่อเติมหลังคาบริเวณระเบียงห้องประชุมจอมพล ป. พิบูลสงครามและห้องอาหารครู

ปี พ.ศ. 2544 ได้ปรับปรุงโรงอาหาร ปูพื้นโรงอาหารและจัดทำช่องกั้นทางเดินเข้าร้าน

ปี พ.ศ. 2545 ได้รับเงินสนับสนุนจากสมาคมผู้ปกครองและครูเขมาภิรตาราม จำนวน 98,000 บาทสร้าง ห้องน้ำชาย - หญิง

ปี พ.ศ. 2546 ทาสีหลังคา อาคาร 1 และอาคาร 5 ทาสีและปรับปรุงศาลาหลวงปู่คง ปัญญาทีโป

ปี พ.ศ. 2547 จัดทำ ห้อง ICT ห้อง Resources Center และห้อง Self Access ปรับปรุงห้องคอมพิวเตอร์ 2 ห้อง จัดทำเวทีหน้าเสาธง ป้ายชื่อหน้าโรงเรียน ซ่อมแซมอาคาร 1

ปี พ.ศ. 2548 จัดทำห้อง E-Learning ห้องปฏิบัติการ สอนวิทยาศาสตร์(ฟิสิกส์,เคมี และชีววิทยา)

ปี พ.ศ.2549 ปรับปรุงทาสีและปูพื้นกระเบื้องห้องเรียน อาคาร 5

ปี พ.ศ. 2552 ทอดผ้าป่าสามัคคี รับรางวัลพระราชทานฯ สวนพฤกษศาสตร์

ปี พ.ศ. 2553 ปรับปรุงทาสีอาคาร 4

ปี พ.ศ. 2554 ก่อสร้างศาลาทรงไทย 3 หลัง บริเวณหน้าอาคาร 5 ซ่อมแซมบ้านพักครูและสร้างศูนย์การเรียนรู้ อาจารย์สง่า ดีมาก

ข้อมูลจาก //www.kma.ac.th




Create Date : 23 กันยายน 2555
Last Update : 14 ตุลาคม 2555 20:37:21 น. 1 comments
Counter : 4021 Pageviews.

 
ภาษาโคราชจะว่า นานครัน ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 23 กันยายน 2555 เวลา:15:41:01 น.  

Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.