ภปร. ราชวิทยาลัย
ข้อมูลทั่วไป
อักษรย่อ ราชวิทย์ ชื่อภาษาอังกฤษ King's College วันสถาปนา 1 มิถุนายน พ.ศ. 2507 ประเภท โรงเรียนรัฐบาล เพลงสถาบัน เพลงเราเป็นข้าในหลวง สีประจำสถาบัน สีฟ้า-สีทอง ต้นไม้ประจำโรงเรียน ต้นราชพกษ์
ประวัติโรงเรียน
ล่วงมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งได้เสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติ เป็นรัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี ขั้นตอนการจัดตั้งโรงเรียนราชวิทยาลัยก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ที่โรงเรียนเตรียมอุดมสามพราน ที่ดินแปลงในขณะนั้นมีพื้นที่ 51ไร่ 1งาน 68 ตารางวา มีตึกทำเนียบพร้อมห้องครัวหนึ่งหลัง อาคารเรียนกึ่งถาวร 8 ห้องเรียนฝาไม้ พื้นเทปูน 1 หลัง หอนอนบรรจุนักเรียนหอละ 105 คน 2 หลัง โรงอาหารมีเวทีใช้เป็นห้องประชุม 1 หลัง โรงเก็บเรือ1หลัง บ้านพักริมน้ำ 5 หลัง บ้านพักคนงาน 2 แถว พร้อมบ่อน้ำบาดาล เครื่องสูบน้ำ ซึ่งได้ใช้สถานที่ทำเนียบสามพรานหรือบ้านพักตากอากาศเดิมของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น จะย้ายนักเรียนกลับไปเรียนต่อที่กรุงเทพ พื้นที่ของโรงเรียนจึงว่างลง ทางกองบังคับการกองการศึกษาของกรมตำรวจ(ซึ่งขณะนั้นอาศัยตึกกองอำนวยการของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ)จึงได้ติดต่อขอเข้ามาใช้ที่ตั้งของโรงเรียนเป็นกองบัญชาการแห่งใหม่ แต่ด้วย Esprit de Corps ของนักเรียนโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว นักเรียนเก่ามหาดเล็กหลวง หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล (บุตรของเจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (ม.ร.ว. เปีย มาลากุล) ซึ่งเมื่อครั้งท่านยังมีบรรดาศักดิ์เป็นพระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ ได้เคยเป็นผู้ตรวจการศึกษาและคอยควบคุมดูแลโรงเรียนราชวิทยาลัย และเป็นผู้กราบบังคมทูลรายงานพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในขณะนั้น ได้ตระหนักถึงปณิธานอันแรงกล้าของชาวราชวิทย์ที่จักจัดตั้งโรงเรียนที่ตนเองรักและเทิดทูนกลับมาให้ได้ ม.ล.ปิ่น ท่านเลือกที่จะให้สมาคมราชวิทยาลัยเข้ามาใช้พื้นแผ่นดินแห่งนี้เพื่อเป็นโรงเรียนราชวิทยาลัย
ในที่สุดความปรารถนาอันแรงกล้าของบรรดาครู และนักเรียนเก่าราชวิทยาลัย ก็บรรลุจุดหมายปลายทาง โดยได้รับความช่วยเหลือจากกระทรวงศึกษาธิการ (ม.ล.ปิ่น มาลากุล) และประธานกรรมการ ราชวิทยาลัยมูลนิธิเพื่อการศึกษาพลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ได้ร่วมกันวางโครงการจัดตั้ง และดำเนินกิจการ โรงเรียนราชวิทยาลัย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายกสมาคมราชวิทยาลัย นำผู้แทนของสมาคมอันประกอบด้วย, พระยามานวราชเสวี (ปลอดวิเชียร ณ สงขลา) องคมนตรี และนายนาค เทพหัสดิน ณ อยุธยา (ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสมาคมราชวิทยาลัย ) เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2505 เวลา 11.00 น. เพื่อกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอรับพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย เกี่ยวกับการจัดตั้ง โรงเรียนราชวิทยาลัยขึ้นใหม่
เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระมหากรุณารับโรงเรียนไว้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กับได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ประกอบกับในนามโรงเรียน นับแต่นั้นมาโรงเรียนราชวิทยาลัย สมัยที่4 หรือสมัยสามพรานจึงได้ใช้นามอันเป็นมหามงคลยิ่งว่า โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย นับเป็นศุภนิมิตมิ่งมงคลอันมหัศจรรย์ โดยที่ได้ถือกำเนิด ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ แห่งสามมหาราชของชาติไทย คือ พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช พระผู้พระราชทานกำเนิด สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า พระผู้ทรงเสริมสร้างและพัฒนา และสมเด็จพระภัทรมหาราช พระพระราชทานกำเนิดใหม่ นับจากนั้นอีก 2 ปี สมาคมราชวิทยาลัยก็ได้ดำเนินขั้นตอนการตั้งโรงเรียนไปตามลำดับ
ภาพนี้จาก จขบ. kimmybangkok
16 มีนาคม 2507 ถึง 23 เมษายน 2507โรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัยฯ เปิดรับสมัครนักเรียนเป็นครั้งแรกที่กระทรวงศึกษาธิการ มีนักเรียนสมัครเข้าเรียน 79 คน ครั้งที่2 รับสมัครเพิ่มเติมจนถึงวันเปิดเรียนอีก 38 คน รวมนักเรียนทั้งหมด 117 คน
18 มีนาคม 2507 หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีหนังสือถึงนายสนั่น สุมิตร อธิบดีกรมวิสามัญศึกษา (บุตรของนาย เออร์เนสต์ สเปนซ์ สมิธ หนึ่งในนักฟุตบอลทีมศึกษาธิการที่ลงเล่นนัดเดียวกันในปี2443 เป็นชาวยอร์กเชียร์ (Yorkshire) ประเทศอังกฤษ อดีตนักฟุตบอลทีม Aston villa XI จบการศึกษาจากวิทยาลัยเบอร์โรโรด เข้ามารับราชการกรมศึกษาธิการในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้รับพระราชทานนามสกุล "สุมิตร" และตำแหน่งสุดท้ายเป็นผู้ช่วยอธิบดีกรมศึกษาธิการ ถึงแก่กรรมวันที่ 21 กรกฎาคม 2463) กำหนดให้ใช้สีประจำวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอทั้ง 4 พระองค์ เป็นสีประจำบ้านของนักเรียนทั้ง 4 บ้าน 18 พฤษภาคม2507 โรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัยฯ เปิดทำการสอนเป็นวันแรก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกดปุ่มเปิดโรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัยฯ
1 มิถุนายน2507 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเปิดโรงเรียนโรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
21 กุมภาพันธ์ 2511 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคารเรียนมัธยมศึกษา ทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเข้าประจำกองลูกเสือสามัญ
18 สิงหาคม 2511 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานถ้วยรางวัลระเบียบแถวระหว่างบ้าน
1 ธันวาคม 2517 กระทรวงศึกษาธิการรับมอบ โรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มาเป็นของกระทรวงศึกษาธิการ
13 มกราคม 2518 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายเกรียง กีรติกร ) ได้มารับมอบโรงเรียน จาก หม่อมหลวงเดช สนิทวงศ์ ประธานองคมนตรีและประธานราชวิทยาลัยมูลนิธิเพื่อการศึกษา นับแต่นั้น โรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้แปรสภาพจากโรงเรียนเอกชนมาเป็นโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เช่นเดียวกับเมื่อแรกสถาปนา
ที่มาของข้อมูล : วิกิพีเดีย
Create Date : 01 ตุลาคม 2554 |
|
2 comments |
Last Update : 23 กันยายน 2555 12:47:50 น. |
Counter : 6038 Pageviews. |
|
|
|
เข็มที่พี่นำมาลงในบล๊อก น่าจะเป็นเข็มรุ่นเก่า เข็มสีนี้หนูไม่เคยเห็น รูปร่างของเข็ม ดูเข็งแรงแน่นหนาดี พี่้เก็บมานานแล้วใช่ไหมคะ
โรงเรียนมีประวิติศาสตร์ที่ยาวนาน และน่าภูมิใจค่ะ
ลูกชายหนูเข้าเรียน ตั้งแต่ ป.5 - ม.3 รับ-ส่ง กันทุก 2 สัปดาห์ รับออกวันศุกร์ อาทิตย์บ่ายก็ส่งกลับหอ เรียกได้ว่า โรงเรียนเลี้ยงจนเป็นหนุ่มน่ะค่ะ แถมได้ความสูง ถึง 187 เซนติเมตร
การอยู่โรงเรียนประจำ ก็ดีเหมือนกัน
เพื่อน ๆ ที่โตมาด้วยกัน ก็ยังคบหากันเหนียวแน่นค่ะ
ขอขอบพระคุณพี่อินที่นำรูปมาแปะให้นะคะ