Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
7 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
สัมผัส2สุดยอดมรดกโลก..เมืองอู่หลง&เมืองต้าจู๋ ตอนที่ 1ฉงชิ่ง Chongqing

ไปจีนมาเมื่อวันที่ 1-4 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา กับกรุ๊ปทัวร์ของสมาคมเครื่องเหล็กไฮไลท์

ของโปรแกรม มี อุทยานแห่งชาติหลุมบ่อลอยฟ้า ,พระแกะสลักริมหน้าผาต้าจู๋ ถ้ำฟูหยงต้ง
ฉงชิ่ง Chongqing(คลิ๊กเพื่อดูแผนที่)

เดินทางไปสนามบินดอนเมืองโดยนัดรวมพลกันตั้งแต่ตี4





โดยสายการบินแอร์เอเซีย แต่ไม่ใช่ลำนี้นะ เห็นมันจอดอยู่ตรงปากทางเด่นเป็นสง่าทีเดียว ให้สงสัย

ว่าทำไม่ลำนี้ถึงเป็นคาราบาว ใครทราบรายละเอียดช่วยบอกที





ส่วนลำนี้ตกแต่งเป็นลวดลายมังกรพ่นไฟ สวยดี





sunrise รุ่งอรุณอันโชติช่วงชัชวาล





ระยะเวลาการเดินทาง ประมาณสองชั่วโมงครึ่ง ทางจีนเวลาเร็วกว่าเรา 1 ชั่วโมง จึงเ้หมือนกับว่า

เราเดินทางกัน 3 ชั่วโมงครึ่ง ทัวร์สั่งอาหารเป็นพิเศษให้พวกเรา ต้องการอะไรสั่งได้โดยไม่ต้อง

จ่ายเพิ่มเพราะรวมอยู่ในค่าทัวร์ของพวกเราแล้ว


ทานอาหาร,อ่านหนังสือ พร้อมงีบหลับเป็นระยะ ก็ใกล้เวลาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว เครื่องบินลดระดับ

ลง ทำให้เห็นขุนเขาโอบล้อมด้วยปุยเมฆ งดงามทีเดียว





ลดระดับลงมาอีกทำให้เห็นตึกสูงเสียดฟ้าเรียงตัวกันแน่นขนัด เต็มพื้นที่กันเลยทีเดียว





เมืองฉงชิ่งเป็นเขตเทศบาลนคร ตั้งอยู่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีพื้นที่ติดกับมณฑลหูเป่ย หูหนัน กุ้ยโจว

ซื่อซวน และ ฉ่านซี ภายในตัวเมืองมีแม่น้ำไหลพาดผ่านหลายสายเป็นเมื่องขนาดใหญ่อันดับ 8

ของจีน มีเนื่อที่ 82,300 ตร.ก.ม. มีประชากร (พ.ศ. 2548) 31,442,300คน

ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวฮั่น





เศรษฐกิจ

นครฉงชิ่งมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ 266,539 ล้านหยวน (ปี 2004)

เพิ่มขึ้น 12.2%


เกษตรกรรม


มีผลผลิตอุดมสมบูรณ์ และเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ได้แก่ วัตถุดิบข้าว หมู รังไหม ส้ม ส้มจีน และใบ

ยาสูบ ปี 2003 พื้นที่การเกษตรลดลง 5.3% แต่ผลผลิตเพิ่มขึ้น 0.5%





อุตสาหกรรม


ฉงชิ่งเป็นหนึ่งในสามของแหล่งสินแร่ที่สำคัญของประเทศ เท่าที่สำรวจพบ ได้แก่ ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ

สตรอนเตียม อะลูมิเนียม แมงกานีส หินปูน ยิปซั่ม ปรอท หินเขี้ยวหนุมาน หินเกลือ และอื่นๆกว่า 38

ชนิด ในจำนวนนี้แร่สตรอนเตียมมีมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และเป็นอันดับสองของโลก ฉงชิ่ง

เป็นหนึ่งในเขตอุตสาหกรรมเก่าแก่ของจีน ในปี 2003 มีมูลค่าการเติบโตทางการผลิตในภาคอุตสาห

กรรมสูงถึง 76,836 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 16.4% อุตสาหกรรมหลัก 3 ประเภทที่ก่อรูปก่อร่างขึ้น

ได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตเครื่องจักรกล


การค้าระหว่างประเทศ ปี 2003 มูลค่าการนำเข้าส่งออก 2,595 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 44.6%

ในจำนวนนี้เป็นมูลค่าส่งออก 1,585 ล้านเหรียญและมูลค่านำสินค้านำเข้า1,010 ล้านเหรียญฯ








ภูมิอากาศ


มีอุณหภูมิระหว่าง 24-25 องศาเซลเซียส สำหรับอุณหภูมิสูงสุดโดย เฉลี่ย 29-29.7 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุดโดยเฉลี่ย 20.6-21 องศาเซลเซียส





หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว เดินทางต่อโดยรถบัสขนาดใหญ่เข้าสู่เมืองอู่หลง ซึ่งตั้งอยู่ทาง

ตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฉงชิ่ง





แวะรับประทานอาหาร





ทานเบียร์ ที่นี่จะเสริฟอาหารแบบทะยอยมาจนเต็มโต๊ะ ต้องซ้อนกันแบบนี้ ปลาที่หนังสีดำๆคือเมนูขึ้นชื่อของที่นี่





อู่หลงเป็นเมืองที่มีอากาศดี ช่วงที่หนาวที่สุดมีอุณหมิ 3 องศา แต่ในช่วงที่ร้อนที่สุดอุณหภูมิสูงถึง

41 องศา เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่งดงาม ส่วนจะเป็นอะไรบ้างนั้นจะเฉลย

ในตอนถัดไปค่ะ





การออกแบบผังเมืองถูกแพลนไว้อย่างเป็นระบบ





คุณหนุ่ม(เฉิน)ไกด์จีนเล่าให้ฟังว่าการที่จะให้คนมาเที่ยวต้องมีระบบการขนส่งมวลชนที่ดี

คือต้องมีถนน และสะพานเชื่อมต่อกันทำให้การเดินทางสะดวก ต้องยอมรับว่าที่นี่สะพานเยอะจริงๆ

ถนนกว้างเรียบเดินทางสบาย





ระหว่างทางวิวสวยมาก จะเห็นภูเขาโอบล้อมลดหลั่นเป็นชั้น บ้านเรือนปลูกสร้างด้วยสีขาวเป็นสีหลัก





ชมกันเพลินไปเลยทีเดียว ช่วงที่เดินทางอากาศเย็นกำลังดี ไม่หนาวมาก





ทัศนียภาพเป็นนาขั้นบันได เสียแต่ไม่ใช่ช่วงปลูก เลยไม่ค่อยสวย





แวะเข้าห้องน้ำ





จากนั้นก็เดินทางกันต่อ วิวระหว่างทางย่าเซทสปีตชัตเตอร์ให้ไวหน่อย โดยการเพิ่ม iso และ

เปิดหน้ากล้องให้กว้างหน่อย จับจังหวะถ่ายบนรถค่ะ





จีนนี่รุ่มรวยภูเขาจริงๆ





จะเห็นสะพานทอดยาวจากภูเขาลูกหนึ่งไปอีกลูกหนึ่ง





ตรงนี้น่าจะเป็นเขตอุตสาหกรรม





บรรยากาศตรงจุดนี้เห็นแล้วนึกถึงเมืองเวนิส





ชมวิวระหว่างทางไปเรื่อยๆ





ริมหน้าผาเห็นดอกไม้สีเหลืองจิ๋วๆกระจายตัวอยู่เต็มไปหมด วิเคราะห์ไม่ได้ว่าเป็นดอกอะไรเนื่องจากไกลมาก





โดมสวยท่ามกลางตึกระฟ้า





สะพานข้ามเกาะ





รถของเรากำลังไต่ระดับขึ้นไปบนยอดเขา ฝีมือคนขับที่นี่เขาเฉียบมากแล่นไวทาง

จะมีหักโค้งตลอดเวลา ช่วงไหนทางฝั่งที่ย่านั่งอยู่เป็นขุนเขา จะเสียวไม่น้อยเลย





ไฟฟ้าไปทั่วทั้งหุบเขา รถเราไต่ระดับขึ้นมาถึงจุดสูงสุดแล้ว





ร้านอาหารระหว่างทาง แต่ก่อนคนจีนที่อาศัยอยู่บนหุบเขาจะตัดไม้เพื่อใช้ทำฟืน

เมื่อรัฐบาลเปิดประเทศแล้วจึงมีนโยบายสนับสนุนให้พวกเขาเปิดร้านอาหาร โดยทางรัฐบาล

จะออกทุนสร้างร้านให้ก่อน และสั่งห้ามการตัดไม้ทำลายป่า จึงมีร้านอาหารอยู่มากมายในขุนเขา

สอดคล้องการท่องเที่ยวที่บูมมากในช่วงนี้


หมายเหตุ รูปปลาสีเขียว คือปลาที่ขึ้นชื่อของที่นี่ แต่ละร้านจะต้องมีรูปปลานี้โชว์อยู่ทุกร้านเลยทีเดียว





อาคารแถวนั้น





ถึงจุดหมายแล้ว บล๊อกหน้าจะพาไปพิสูจน์ตำนานหมู่บ้านลี้ลับท่ามกลางอุทยานบ่อลอยฟ้าสวรรค์ ค่ะ





Create Date : 07 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 21 พฤษภาคม 2560 19:08:30 น. 4 comments
Counter : 3571 Pageviews.

 

แหล่มเลยค่ะย่าดา...อุ้มแวะมาตามย่าดาเที่ยวด้วยคนค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 7 พฤศจิกายน 2555 เวลา:22:42:31 น.  

 

อุ้มแวะมาโหวต
ในหมวดท่องเที่ยวและการเดินทางให้ย่าดาเลยค่ะ
แหล่ม


โดย: อุ้มสี วันที่: 8 พฤศจิกายน 2555 เวลา:1:18:13 น.  

 
ขอบคุณจ้าหนูอุ้ม อีกสักเดี๋ยวย่าจะอับตอนใหม่แล้วนะคะ


โดย: ดา ดา วันที่: 8 พฤศจิกายน 2555 เวลา:15:33:38 น.  

 


โดย: ดา ดา วันที่: 21 พฤษภาคม 2560 เวลา:18:44:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดา ดา
Location :
1 Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดา ดา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.