Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
5 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
วัดโพธิ์แมน ถนนสาธุประดิษฐ์ ซอย19


เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2455 ที่ผ่านมา ย่าพาคุณแม่ไปไหว้พระที่วัดนี้มา เนื่องจากพี่น้องได้ลงขันกันสร้าง

องค์พระถวายวัดที่นครสวรรค์ คุณแม่ไม่สะดวกไปที่วัดต่างจังหวัด จึงนัดรวมพลกันที่นี่แทน มีถ่ายรูปมานิด

หน่อยค่ะ นำภาพมาฝาก


วัดโพธิ์แมนคุณาราม เลขที่ 323 ถนนสาธุประดิษฐ์ ซอย19 (ซอยวัดโพธิ์แมน)

เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120





พระศรีอริยเมตไตรยมหาโพธิสัตว์ คือ พระอชิตเถระ ในสมัยพุทธกาล พระองค์จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ในอนาคตกาลแห่งภัทรกัปล์นี้ (หลังจากพระศากยมุนีพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานล่วงแล้ว ๕,๐๐๐ ปี)ในขณะ

นี้พระองค์ประทับอยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นดุสิต เตรียมการมาประสูติในโลกมนุษย์ เพื่อจะได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมา

สัมพุทธเจ้าโปรดเหล่าเวไนยสัตว์ และสืบต่อพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองต่อไป


พระโพธิสัตว์พระองค์นี้ มีรูปประดิษฐานอยู่บนแท่นบูชาตามวัดวาอารามทั่วๆไป เป็นรูปพระสงฆ์จีนครองจีวรแบบจีน

เปิดส่วนท้องทำให้เห็นพุงพลุ้ยใหญ่ๆ รูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ ใบหน้าหัวเราะร่าเริง มือขวาถือลูกประคำ มือซ้ายถือ

ถุงย่ามใหญ่ จะไปไหนมาไหนมักจะมีถุงย่ามใบใหญ่ติดตัวไปด้วยเสมอ จนได้รับการขนานนามเรียกขานจากผู้พบ

เห็นว่า “หลวงพ่อถุงย่ามใหญ่”


ตำนานเรื่องราวของพระองค์ได้มีเสียงเล่าขานต่อ ๆ กันมาว่า เมื่อพระองค์ออกบวชถือครองเพศบรรพชิตอยู่นั้น

พระองค์มีลักษณะรูปโฉมโดดเด่น คมสัน สง่างาม ต้องลักษณะ ๓๒ แห่งมหาบุรุษทุกประการ เสียงร่ำลือถึงความ

มีรูปงามของพระองค์ได้แพร่สะพัดไปทั่ว จึงเป็นเหตุทำให้เหล่าสตรีเพศพากันตรึงตาต้องใจในพระองค์ และเพียร

พยายามแวะเวียนมาเจรจาพาทีอย่างมิได้ขาด จึงนับเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งในการบำเพ็ญธรรม และจะเป็นภัยอย่าง

ใหญ่หลวงต่อการประพฤติเพศพรหมจรรย์แห่งพระองค์ ด้วยพระทัยที่ตั้งมั่นเด็ดเดี่ยวในทางธรรม พระองค์ทรงตั้ง

มหาปณิธานไว้ว่า “จะพากเพียรถึงบรรลุธรรมให้ได้” เพื่อฉุดช่วยสรรพสัตว์อันมากมายเหลือคณานับให้พ้น

จากทุกข์เข็ญ พระองค์ทรงแก้ไขอุปสรรคเหล่านี้ด้วยการ ตั้งจิตอธิษฐานขอเนรมิตรูปลักษณ์ของพระองค์เอง ให้แปร

เปลี่ยนไปจากเดิมเป็นตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง โดยเนรมิตให้มีใบหน้ากลมอูม มือ-เท้าใหญ่ รูปกายมีขนาดอ้วนใหญ่

พุงพลุ้ย ให้เป็นเช่นนี้เพื่อจะได้ไม่เป็นที่ต้องตาต้องใจของเหล่ามาตุคามที่ได้พบเห็นพระองค์อีกต่อไป


การตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวในการกระทำครั้งนี้ หมายถึง พระองค์ได้มอบกายถวายชีวิตให้กับพระธรรมแล้ว

ทรงขจัดอุปสรรคเครื่องติดข้องทั้งปวงที่จะมาบดบังทางแห่งธรรมอย่างมิได้ลังเลใด ๆ กับการเสียสละรูปลักษณ์

แห่งพระองค์เอง จึงเป็นที่กล่าวขวัญสรรเสริญถึงความอาจหาญในธรรมของพระองค์ยิ่งนัก จนเป็นตำนานให้ได้

เล่าขานต่อ ๆ กันมาอย่างยาวนาน


รูปลักษณ์ใหม่ของพระศรีอริยเมตไตรย แสดงความเบิกบานเป็นสุขตลอดเวลา พระองค์พูดสิ่งใดมักจะเป็นอรรถ

ธรรมเสมอ จวบจนสมัยแห่งรัชกาลเจงเม้ง ปีที่ ๓ ( พ.ศ.๑๔๖๐ ) พระองค์ได้นั่งเข้าฌาณสมาธิและดับ

ขันธ์ไปที่แท่นหินอัคนี ณ วัดงักลิ้ม ก่อนดับขันธ์พระองค์ได้เขียนกลอนเป็นโศลกธรรมบทหนึ่งว่า



พระเมตไตรย แบ่งกายเป็นพันเป็นหมื่นโกฎิ

ให้คนได้เห็นทุกเวลา แต่คนไม่รู้จักท่าน



ในยุคปัจจุบันตามวัดวาอาราม หรือสถานธรรมต่าง ๆ มักจะประดิษฐานรูปเคารพของพระองค์ไว้ในวิหารด้าน

หน้าวัด เพื่อให้ผู้ที่เข้าไปกราบนมัสการก็จะได้เห็นรอยยิ้มที่เป็นสุข เปี่ยมด้วยมหาเมตตากรุณาของพระองค์

ที่มอบให้กับสาธุชนทั้งหลายอย่างทั่วถึงกัน


อนึ่งในหมู่เหล่าแห่งพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย มักจะมีคำกล่าวถึงพระองค์อย่างติดปากด้วยความมุ่งหวังว่า

“ขอให้ได้เกิดในยุคพระศรีอารย์” ด้วยความเชื่อถือกันว่า “ ในยุคกาลแห่งพระศรีอริยเมตไตรย

พระองค์นี้ พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด ผู้ใดได้เกิดในโลกแห่งพระองค์จะมีแต่ความร่มเย็น

สมบูรณ์พูนสุข ปราศจากภัยใดๆ อายุยืนยาวนาน ด้วยเหตุนี้พุทธศาสนิกชนที่ได้ตั้งความปรารถนาไว้เช่นนี้

จงเร่งทำคุณความดีประพฤติปฏิบัติบำเพ็ญธรรม ละอกุศลที่เป็นการก่อบาปกรรม สร้างกุศลให้ถึงพร้อม

เพื่อจะส่งผลให้ได้ไปเกิดภายใต้พระบรมโพธิแห่งพระศรีอริยเมตไตรยพระองค์นี้ ให้สมเจตนารมณ์ในอนาคตกาล ”


สาธุ สาธ


//www.watpoyen.com/prasre.html





ท้าวธตรัฐ(ถี่กกเทียงอ้วง)

พระองค์ปกครองทางทิศบูรพา(ตะวันออก)ของภูเขาพระสุเมร เป็นเจ้าแห่งพวกคนธรรพ์ และปีศาจ

ตามพุทธประวัติกล่าวว่า ท่านมาดีดพิณสามสายถวายพระพุทธองค์ ขณะบำเพ็ญทุกกรกิริยา

พระปฏิมาของพระองค์มีเครื่องทรงแบบขุนพลจีนโบราณ สวมเกราะทอง และมงกุฎทอง พระหัตถ์ถือพิณ





ท้าววิรุฬหก(เจงเชียงเทียงอ้วง)

พระองค์ปกครองทางทิศทักษิณ(ใต้)ของภูเขาพระสุเมร เป็นเจ้าแห่งกุมภัณฑ์ และเปรต

พระปฏิมาของพระองค์มีเครื่องทรงแบบขุนพลจีนโบราณ สวมเกราะทอง และมงกุฎทอง พระหัตถ์ถือร่ม





พระเวทโพธิสัตว์ หรือ พระสกันทโพธิสัตว์ ชาวจีนเรียกว่า อุ่ยท้อผู่สัก แปลว่า ผู้มีอานุภาพการสนองคุณ

] พระองค์มีหน้าที่รักษาพระศาสนา


ตามประวัติกล่าวว่า ในสมัยพระกัสสปพุทธเจ้าเป็นต้นมา ท่านได้บำเพ็ญพรตพรหมจรรย์ ทรงเคารพนอบน้อม

ต่อพระธรรมวินัย พร้อมที่จะปกป้องรักษาพระธรรมวินัย และมีเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์


ท่านปรากฏตัวในสมัยราชวงศ์ถัง ที่ภูเขาหนานซาน ต่อหน้าพระคณาจารย์เต้าซวงฮวบซือ ผู้ปฏิบัติประพฤติ

เคร่งครัดต่อพระธรรมวินัยยิ่ง มหาเทพองค์นี้มีหน้าที่คุ้มครองปกปักรักษาวัดวาอาราม ตลอดถึงพุทธบริษัททั้งหลาย


รูปปฏิมาของพระองค์ โดยปกติจะสวมสุวรรณเกราะและมหามงกุฎ หัตถ์หนึ่งประคองวัชรคฑาวุธวิเศษ วัชรคฑาวุธนี้

ใช้ปราบปรามพวกปีศาจมารร้ายทั้งหลายที่มารังควานพระพุทธศาสนา อีกหัตถ์หนึ่งอยู่ในท่าประณมมือ ลักษณะกล้าหาญ

สง่าผ่าเผย และดูท่าทีสำรวมน่าเลื่อมใส


โดยปกติแล้ว รูปปฏิมาของพระสกันทโพธิสัตว์จะตั้งอยู่ด้านหลังของพระศรีอาริยเมตไตรยมหาโพธิสัตว์

พระองค์หันหน้าเข้าสู่วิหารหรือพระอุโบสถเป็นลักษณะเฝ้าระแวดระวังภยันตรายมิให้มากล้ำกรายต่อสิ่ง

ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย การได้กราบบูชาพระองค์ก็จะพ้นจากภัยพิบัติ มั่งคั่ง ราบรื่น ร่มเย็น ทุกประการ


//www.watpoyen.com/pravat.html





ที่ผนังด้านข้างภายในวิหารท้าวจตุโลกบาล





อีกภาพ





ไหว้พระแล้วใส่ซองทำบุญ





จากนั้นก็ไหว้ท้าวจตุโลกบาล





วิหารท้าวจุโลกบาล


ท้าวจตุโลกบาล คือ ท้าวจาตุมหาราช ตามพระสูตรมหายาน กล่าวกันว่าเป็นมหาเทพผู้ดูแลรักษา

โลกและพระพุทธศาสนา นิยมสร้างรูปเคารพอยู่ในวิหารด้านหน้าวัด ข้างละ ๒ องค์ เชื่อกันว่า

พระพุทธองค์ทรงมอบพระธรรมไว้แก่ท้าวมหาราชทั้ง๔พระองค์ได้พิทักษ์รักษา ท้าวจตุโลกบาล

เป็นผู้คุ้มครองปกป้องพระพุทธศาสนา ประเทศชาติและพุทธบริษัทอีกด้วย ถ้าประเทศชาติใด

ละเลยหรือหมิ่นดูแคลนพระธรรม ก็จะเพิกถอนการพิทักษ์นั้นเสีย หากประเทศชาติและ

ประชาชนตั้งมั่นอยู่ในพระธรรม ก็จะอำนวยความสุขสวัสดิ์


ท้าวจตุโลกบาล มีวิมานสถิตอยู่ ๔ ทิศ เชิงเขาพระสุเมร เรียกว่า สวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา

แต่ละองค์มีมหาขุนพล ๘ ตน ขุนพลชั้นรอง ๓๒ ตน และเหล่าบริวารมากมาย บริวารของ

ท้าวจตุโลกบาลมีหน้าที่คอยตรวจตราดูแลทุกข์สุขของประชาโลก และกำจัดปราบปรามเหล่า

สัตว์ที่ทำบาปและที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม


พระนามของท้าวจตุโลกบาล มีดังต่อไปนี้ คือ

๑. ท้าวธตรัฐมหาราช

๒. ท้าววิรุฬหกมหาราช

๓. ท้าววิรุณปักษ์มหาราช

๔. ท้าวเวสสุวรรณมหาราช


//www.watpoyen.com/tawjatu.html





เนื่องจากรอบๆวัดเป็นลานจอดรถกว้างขวางทำให้ทัศนียภาพโดยรอบวัดไม่แออัดจะเห็น

เป็นอาคารสูงอยู่ด้านหลังไกลออกไป





ภาพวาดจีนสวยๆมีประดับอยู่ทุกที่





ด้านข้างพระอุโบสถพื้นหินอ่อนเป็นลวดลายจำลองเป็นพื้นน้ำ มีดอกบัวและใบบัวอยู่ดารดาษ





กวางเหลียวหลังที่ด้านหน้าพระอุโบสถ





ภายในอุโบสถมีพระพุทธวัชรโพธิคุณตั้งเป็นพระธานอยู่ตรงกลาง





ฝาผนัง 2 ข้าง เป็นจิตรกรรมกระเบื้องโมเสครูปพระอรหันต์ 500 องค์





ถ่ายเจาะให้เห็นจิตรกรรมกระเบื้องโมเสครูปพระอรหันต์ 500 องค์ จะเป็นเป็นกระเบื้องโมเสค

ชิ้นเล็กๆเรียงเป็นรูปองค์พระละเอียดสวยงามมาก





ปฎิบัติธรรม





สักการะพระพุทธวัชรโพธิคุณ





เสาเป็นลวดลายตัวมังกร





เก็บลายละเิอียดภาพวาดสวยๆด้านนอกอาคาร





สวดมนต์พร้อมเดินวนขวาสามรอบพระอุโบสถ





สิงห์โลหะที่ด้านหน้าพระอุโบสถ





ด้านข้าง





ลวดลายหินอ่อนที่พื้นวิหารท้าวจตุโลกบาล





แลรอด ..ถ่ายจากฝั่งวิหารท้าวจตุโลกบาลไปยังฝั่งพระอุโบสถ





พระศรีอารยเมตตรัยโพธิสัตว์





ป้ายทอง

วันนั้นไม่ได้เก็บรายละเอียดมากนักเพราะมากับคุณแม่ หากมีโอกาสจะไปถ่ายเก็บราย

ละเอียดอีกครั้ง วัดนี้สวยงาม,สงบ,สะอาด และบรรยากาศดีมากค่ะผู้คนไม่พลุกพล่าน





หลังคาวิหารมีสัญญลักษณ์ธรรมจักรและกวางหมอบ





กระุถางธูปภายในพระอุโบสถ





ระเบียงหินอ่อน ,หน้าต่าง งดงามมาก





เสารับหลังคางามแปลกตา





ประตูไม้ปิดทองลายโบราณ






ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังไม่ได้เอามานำเสนอ เพราะเวลามีน้อยหากสนใจเชิญไปชมของจริงได้ค่ะ





คลิ๊กชมเวบของวัดโพธิ์แมนได้ที่


//www.pumenbaoensi.com/main/bhoman.html


Create Date : 05 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2555 13:40:23 น. 5 comments
Counter : 6335 Pageviews.

 
มุมถ่ายสวยครับย่าดา .. ขอชื่นชม


โดย: yyswim วันที่: 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา:13:49:31 น.  

 
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาตามไหว้พระที่วัดโพธิ์แมนแห่งนี้ด้วยครับ วัดนี้ผมเคยผ่านบ่อย ๆ แต่ยังไม่เคยเข้าไปไหว้พระข้างในวัดนี้เลยครับ เวลานั่งรถผ่านบนทางด่วน พอใกล้ ๆ จะถึงห้างเซ็นทรัลพระราม 3 จะเห็นวัดนี้โดดเด่นเลยครับ

ไว้ถ้ามีโอกาสผมจะเข้าไปไหว้พระในวัดนี้ดูบ้างครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา:14:34:25 น.  

 
วันนี้ผมอัพบล๊อกใหม่ เที่ยวภาคเหนือต่อ ดูร่มรื่น
เย็นสบายตา.

เข้าผ่าน IE หรือ ไฟว์ฟอกซ์ สบาย แต่ถ้าผ่านอากู๋
โครม ไม่ได้ครับ มีป้ายห้ามไว้...เพื่อนหลายคนว่า
มันไม่ติดใคร เพียงแต่มีป้ายหลอกไว้ครับ

ถ้าว่างเชิญนะครับ

เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ แกงค์พวกเราอยู่ นครนายก ไปกิน นอน แหะ ๆ ส่วนใหญ่กิน
กันมากกว่า หนุก นั่งนอนเม้าส์กันอร่อยพอ ๆ กับอาหารที่ บ่งบ๊ง กะ คุณโอ เนินน้ำทำให้กิน

ข่าวล่าสุด Rinsa เข้าเช็คบล๊อกผม เข้าผ่าน
อากู๋โครม ก็ผ่านหมดไม่มีอะไรแล้วครับ

ได้ยินชื่อวัดนี้มานาน ชื่อแปลกดี พอมาอ่านเลย
รู้ความเป็นมาของวัด ของพระพุทธเจ้าเยอะมาก
ครับ...ของผมก็พาไปวัดเหมือนกัน แต่วัดป่าครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:54:09 น.  

 



More Flowers Greetings Comments

-------------------------------------
อัฟเอนทรี่ใหม่ตั้งแต่เมื่อวาน เพิ่งจะมีเวลาจริงๆก็ตอนนี้ที่จะแวะมาทักทาย ใกล้ลอยกระทงเข้าทุกทีงานรุมหน้ารุมหลังอยู่ค่ะ ขอให้มีความสุขนะคะคุณดา


โดย: เกศสุริยง วันที่: 6 พฤศจิกายน 2555 เวลา:10:08:53 น.  

 
วัดนี้ยังไม่เคยไปเลย ต้องตามรอยล่ะ


โดย: ดอกจานบ้านนา วันที่: 29 ธันวาคม 2558 เวลา:21:43:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดา ดา
Location :
1 Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดา ดา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.