Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
22 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
มิตติ้งที่สวนสราญรมย์ ตอนที่ 1







นัดเพื่อนๆไว้ว่าเราจะมากระชับความรู้เกี่ยวกับสวนสราญรมย์กัน

โดยมีวิทยากร คือ คุณนุ( คนช่างเล่า) ผู้ซึ่งมีความรู้มากมายเกี่ยวกับ

ประวัติศาสตร์ของไทยเรา คราวนี้คุณนุมีข้อมูลทั้งแบบพื้นฐานและ

แบบเจาะลึก มาให้เราได้ฟังกันเพลินๆ


เมื่อถึงประตูหน้าของสวนแล้วเดินเข้าไปเลยค่ะ

ขอเอาประวัติความเป็นมาโดยสังเขปมาให้ท่านได้รู้จักสถานที่แห่งนี้ก่อนนะคะ

---


ที่ตั้ง : ระหว่างถนนเจริญกรุง ตัดกับ ถนนราชินี แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม.

ขนาดพื้นที่ : 23 ไร่

เวลาทำการ : 05.00 -21.00 น. ทุกวัน

ประเภทของสวน : สวนหมู่บ้าน หรือ สวนละแวกบ้าน

รถประจำทาง : ถนนเจริญกรุง สาย 1, 6, 12, 25, 43, 48, 75, 86


: ถนนราชินี ปอ. 1, ปอ. 12

: ถนนสนามไชย สาย 3, 9, 91, ปอ. 6, ปอ. 7


ประวัติความเป็นมา

พระราชอุทยานเก่าแก่คู่พระนครมานับศตวรรษ คือนิยามของสวนสราญรมย์ในอดีต ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของ

พระราชวังสราญรมย์ ที่ตั้งอยู่นอกกำแพงพระบรมมหาราชวังด้านทิศตะวันออก พระราชวังแห่งนี้รัชกาลที่ 4

ทรงโปรดให้สร้างใน พ.ศ. 2409 ตรงบริเวณตึกดินเก่า เพื่อเป็นที่ประทับหลังทรงสละราชสมบัติให้พระราชโอรส

แล้ว แต่ยังสร้างไม่เสร็จก็ทรงเสด็จสวรรคตเสียก่อน จนมาแล้วเสร็จในรัชกาลที่ 5 ซึ่งพระราชทานให้ใช้เป็นที่

ประทับของ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอหลายพระองค์ เมื่อแรกเสด็จจากวังหลวง ก่อนที่วังส่วนพระองค์จะสร้าง

เสร็จ ต่อมาใช้เป็นสถานที่รับพระราชอาคันตุกะจากต่างแดน เช่น เจ้าชายออสคาร์ พระราชโอรสแห่งกษัตริย์

สวีเดนในปี พ.ศ. 2427 ซึ่งเจ้าชายพระองค์นี้ทรงบันทึกไว้ถึงความงดงามของพระราชอุทยานสราญรมย์ว่า

" งดงามแปลกตา มีสถานที่เลี้ยงสัตว์และนก" รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้ตกแต่งราชอุทยานให้สวยงามร่มรื่น

โดยให้นายเฮนรี่ อาลาบาสเตอร์ ซึ่งรอบรู้ด้านพฤกษศาสตร์ เป็นผู้ดูแลจัดการสวนหลวง จนพระราชอุทยาน

สราญรมย์เป็นที่ร่ำลือว่า " งามน่าชมมากเป็นที่เสด็จประพาสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเจ้านาย

ฝ่ายในเสมอๆ " มีการตกแต่งด้วย สระน้ำพุ สวนไม้ดอกไม้ประดับ กล้วยไม้ ไม้ยืนต้น โดยเฉพาะ "กุหลาบแดง"

ไม้ดอกที่ทรงโปรดปราน มีกรงสัตว์ กรงนก สระจระเข้ เลี้ยงไว้ดูเล่น


ต่อมาในปี 2447 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช (รัชกาลที่ 6) ทรงโปรดใช้พระราชอุทยานเป็นที่ฝึกซ้อมวิชาทหาร

แก่มหาดเล็กรักษาพระองค ์และเป็นศูนย์กลางขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และแนวความคิดใหม่ ๆ ในนาม

"ทวีปัญญาสโมสร" และเมื่อทรงขึ้นครองราชย์ทรงใช้เป็นที่จัดงานฤดูหนาวประจำปี


ในรัชกาลที่ 7 หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองได้เป็นที่ตั้งของสโมสรคณะราษฎร์สราญรมย์ ต่อมาสมาคมนักเรียน

เก่าวชิราวุธวิทยาลัย และกรมประชาสงเคราะห์เคยใช้เป็นที่ทำการ รวมถึงใช้สถานที่จัดประกวดนางสาวไทย

จัดงานวชิราวุธ ทั้งยังเคยเป็นตลาดนัด ตลาดขายสุนัขอัลเซเชี่ยนในยามบ่ายเมื่อครั้งอดีต ซึ่งต่อมาวันที่ 3

มิถุนายน 2503 รัฐบาลได้มอบให้กรุงเทพมหาครดูแลและ ประปรุงเป็นสวนสาธารณะตั้งแต่นั้นมา


ลักษณะเด่นและจุดที่น่าสนใจในสวน


ความมีชีวิตชีวาของสวนสราญรมย์ดูจะเริ่มแต่เช้ามืดของทุกวัน ภาพกระแสผู้คนในย่านเกาะรัตนโกสินทร์

หลั่งไหลกันมาออกกำลังกายตามความพึงพอใจ แม้แต่รูปแบบที่แฝงด้วยศิลปวัฒนธรรมอย่างเช่น รำมวยจีน

รำกระบี่ ควงกระบอง ลีลาศ ก็มีให้เห็นทั้งเช้าและเย็น ส่วนสถานที่พบปะสังสรรค์ทำกิจกรรมกลางแจ้ง

ห้องเรียนธรรมชาติแห่งวิชาศิลปะและนิเวศวิทยาของเด็ก คือบทบาทในเวลากลางวันของสวนสราญรมย์เช่นกัน

ภาพดังกล่าวสะท้อนคุณค่า และบทบาทต่อชุมชนของสวนสาธารณะใจกลางเมืองได้เป็นอย่างดี และด้วย

ประวัติศาสตร์อันยาวนานผ่านกาลเวลามา นับศตวรรษ ทำให้ทุกหนแห่งในสวนสามารถสะท้อนลักษณะสวนไทย

สมัยรัตนโกสินทร์ ที่ได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมตะวันตก เห็นได้ชัดจากโบราณวัตถุสถานประกอบสวน และ

แฝงไว้ด้วยตำนานแห่งความรักความอาลัย ของพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ในอดีตและพระอัครมเหสี เหล่านี้ล้วน

เป็นเสน่ห์ที่สร้างให้พระราชอุทยานในอดีตกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ในรูป "สวนศิลปวัฒนธรรม"


อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ฯ รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระบรมราชโองการให้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2426

เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรัก อาลัยที่พระองค์มีต่อพระอัครมเหสี และพระราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า

กรรณาภรณ์เพชรรัตน์ผู้สิ้นพระชนม์ในอุบัติเหตุเรือพระที่นั่งล่ม สร้าง ณ บริเวณที่พระนางเคยทรงพระสำราญ

เมื่อครั้งทรงมีพระชนม์ชีพ มีพื้นที่ 176079 ตารางเมตร อนุสาวรีย์ทำด้วยหินอ่อนบอกเล่า คำจารึกแสดงความ

ทุกข์โทมนัสของพระองค์จากการสูญเสียในครั้งนั้น


ศาลาเรือนกระจก ตึกโถงชั้นเดียวกรุกระจก มีดาดฟ้าตกแต่งด้วยไม้ฉลุลวดลาย วิจิตร ใน พ.ศ. 2447 เป็นที่ตั้ง

ของทวีปัญญาสโมสร และโรงละครทวีปัญญา เป็นสโมสรแบบตะวันตกของเจ้านายและข้าราชกาชั้นสูง มีการ

ออกหนังสือทวีปัญญารายเดือน การเล่นกีฬาในร่มและกลางแจ้ง ละครพูด และห้องอ่านหนังสือ ปัจจุบันเป็น

ที่ตั้งโรเรียน ต้นไม้กทม. ตั้งแต่ พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา


ศาลากระโจมแตร งดงามด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรม ใช้บรรเลงแตรวงทหารเรือ และดนตรีอื่น เวลามีงานเลี้ยง

บริเวณพระราชอุทยาน สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 ครั้งทรงดำรงพระอิสริยายศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช

เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธสยามมกุฎราชกุมาร


ศาลาแปดเหลี่ยม เป็นศาลาพักผ่อน แสดงลักษณะสถาปัตย- กรรมที่นิยมในสมัยรัชกาลที่ 5


ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง คือ เก๋งจีนในอดีตเมื่อครั้งสร้างสวน


ศาลากระโจมแตร งดงามด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรม ใช้บรรเลงแตรวงทหารเรือ และดนตรีอื่น เวลามีงานเลี้ยง

บริเวณพระราชอุทยาน สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 ครั้งทรงดำรงพระอิสริยายศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช

เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธสยามมกุฎราชกุมาร


ศาลาแปดเหลี่ยม เป็นศาลาพักผ่อน แสดงลักษณะสถาปัตย- กรรมที่นิยมในสมัยรัชกาลที่ 5


ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง คือ เก๋งจีนในอดีตเมื่อครั้งสร้างสวน


ประตูลายพันธุ์พฤกษาพร้อมซุ้มประตู ได้รับการ อนุรักษ์ขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากร เช่นสิ่งก่อสร้างอื่นในสวน

มีลวดลายที่ประณีตอ่อนช้อย


น้ำพุพานโลหะ น้ำพุสไตล์ยุโรป โบราณวัตถุอายุนับศตวรรษ เป็นองค์ประกอบตกแต่งพระราชอุทยานในอดีต


ต้นจำปาเทศ ( Pterospermum acerifolium ) พันธุ์ไม้ หายากของไทยที่อนุรักษ์ไว้ ปลูกอยู่ข้างอาคารเรือนกระจก ดอกมี

ลักษณะแปลกสวยสะดุดตามีกลิ่นหอม ออกดอกราวเดือน ม.ค.-ก.พ.


ดนตรีในสวน การแสดงดนตรีไทย สากล สลับหมุนเวียนกับสวน สาธารณ อื่นของกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะแสดง

ในช่วงเวลาเย็น


นันทนาการในสวน จัดให้มีการนำเต้นแอโรบิคทุกวันตอนเย็น ซึ่งมีประชาชนสนใจมาก


//www.yourhealthyguide.com/parks/park-saranrom.htm





เดินเข้าประตู สิ่งแรกที่พบคือ

น้ำพุพานโลหะ น้ำพุสไตล์ยุโรป โบราณวัตถุอายุนับศตวรรษ





เป็นองค์ประกอบตกแต่งพระราชอุทยานในอดีต


ครั้งก่อนโน้นที่ย่ามาชมมีการทาทับด้วยสีขาว

แต่วันนี้เราจะเห็นเป็นสีออกทองแดงสวยไปอีกแบบ





ป้ายประวัติพระราชอุทยานสราญรมย์

น่าเสียดายตัวหนังสือเลือนๆซะหมดแล้ว





คุณนุบอกว่าให้ย่าเลี้ยวซ้าย เพื่อที่จะเดินไปจุดนัดพบ

ต้นไม้ที่นี่สูงใหญ่ร่มรื่นมาก ระหว่างเดินไปจึงไม่รู้สึกร้อนเลย





จากประตูทางเข้าด้านหน้าเลี้ยวซ้ายจะพบกับกลุ่มหมู่บ้านไทย5ภูมิภาค





บ้านไทย มีชื่อเสียงในด้านความงดงามของรูปทรง ที่ถูกออกแบบหลังคาให้ระบายความร้อนได้ดี

โอบล้อมด้วยไม้ใหญ่เขียวชอุ่ม





สาละลังกา cannon ball ต้นลูกปืนใหญ่ในภาษาอังกฤษ ที่ได้ชื่อนี้เพราะ ลูกของมัน กลมใหญ่สีน้ำตาลขนาด

ใกล้เคียงกับลูกปืนใหญ่ ดอกจะออกเป็นช่อ และทะยอยบานตั้งแต่ปลายช่อมาจนถึงยอด

ดอกนี้ออกจนจะสุดปลายช่อแล้วค่ะ ที่เห็นเป็นก้านๆออกมาคือก้านดอกที่ร่วงแล้วค่ะ กลิ่นหอมฉุน


ต้นนี้นิยมปลูกตามวัด ต่อมาก็มีการนำมาปลูกตามสวน จัดเป็นไม้แปลก เพิ่มความน่าสนใจให้กับสวน




มีเครื่องสีข้าว ตั้งประดับอยู่ด้านหน้าเรือนไทย





เกวียนพาหนะเดินทางของคนสมัยโบราณ





เดี๋ยวนี้ถูกปลดระวางเป็นโบราณวัตถุจัดแสดงให้ลูกหลานได้ชม





เก็บภาพด้านหลัง ถ่ายหลายๆมุม เก็บไว้เป็นที่ระลึก





เครื่องปั้นดินเผาที่นอกชานเรือน เข้าใจว่าเป็นเสาโคมไฟประดับตามพื้นรอบๆบริเวณบ้าน


หลังนี้ต้องเป็นเรือนไทยภาคใต้แน่นอน เพราะมีเรือกอแระวางประดับอยู่ด้านข้างเรือน





เป็นเรือที่รูปทรงและ ลวดลาย สวยงามอ่อนช้อย

ชมลายที่หัวเรือใกล้ๆ





ดูรูปทรงทั้งลำ แม้แต่ด้านท้ายก็มีการเขียนลวดลาย

สวยมากจริงๆค่ะ





แดดแรงจริงๆ





มีกรงนกแขวนอยู่ด้วย ทำให้นึกถึงการประกวดนก





ต้นไม้ด้านข้างลำต้นเป็นปุ่มปม แปลกดีค่ะ





ถัดมาเป็นโซนออกกำลังกาย

เครื่องออกกำลังกายสีสันสดใสทีเดียว





มีหลายแบบให้เลือก





หรือจะตีปิงปอง ก็มีโต๊ะปิงปองเอาไว้บริการ





มาถึงจุดนัดพบ ที่ศาลาแปดเหลี่ยมพื้นหินอ่อน หลังใหญ่กว้างขวาง

น่านั่งเล่นเป็นที่สุด คุณนุบังเอิญพบเพื่อนเก่า นั่งคุยกันอย่างออกรส


และมีตั้งธงกันว่าต่อไปเราจะไปเที่ยววังวรดิส อาจารย์ท่านนี้จะพาเราชม แหมดีเลยโปรแกรมดีๆ

อย่างนี้น่าสนใจมาก





ข้างๆศาลามีต้นไม้ใหญ่ค่นล้มอยู่ เป็นไม้อายุเก่าแก่

ยังมีการเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ อยากรู้จังมันมีอายุสักกี่ปีนะ





ขาวพวง(ลั่นทม) ร่วงหล่น เต็มพื้นหญ้า





ท่านหัวหน้าให้เกียรติมาร่วมงานด้วยค่ะ





มาพร้อมกับสาวน้อยวัยใส ผลิตผลของคุณไก่และท่านหัวหน้า

น่ารักเนอะ





อิอิ อันนี้เป็นของรางวัลของย่าเอง จากป้ารุ มอบให้ เพราะตอบปัญหาที่ป้ารุทายไว้ในบล๊อกได้ค่ะ

ขอบคุณป้ารุมากค่ะ เพ้นท์ลายกระจุ๋มกระจิ๋มน่ารักดี





ช่างภาพตัวกลั่น หนูสุ่ยเริ่มบันทึกเมื่อคุณนุ เล่าเรื่องเกี่ยวกับสวนสราญรมย์ ที่นี่เป็นที่ประกวดนางงามรุ่นแรกๆ

นางงามคนแรกของประเทศไทย ก็คือคุณกันยา เทียนสว่าง

ซึ่งจัดขึ้นในปี พ.ศ. 2477





ขณะที่กำลังฟังคุณนุเล่าอย่างออกรส ลุงกิ๊ก็เดินทางมาถึง

ว่าจะแฉความหล่อของลุงซะหน่อย ไม่สำเร็จ อิอิ





และแล้วก็ได้เวลาที่น้ำพุประกอบดนตรีในสวน ก็เริ่มบรรเลงเพราะพริ้งตื่นตาตื่นใจ

เป็นน้ำพุพานโลหะ น้ำพุสไตล์ยุโรป โบราณวัตถุอายุนับศตวรรษ


เสียงเพลงเพราะๆ หลากหลายเพลง พร้อมชมน้ำพุริงระบำ

เพลินตา เพลินใจ





ขอบโค้งน้ำมีเรือพาย





ร่มเงา





หลังจากฟังเรื่องราวจบแล้ว ก่อนจะพากันเดินไปชมจุดต่างๆภายในสวน ชักรูปร่วมกันก่อนออกสตาร์ท





ตอไม้ใหญ่อีกภาพ ใครคำนวนวงปีไม้นี้ให้ย่าที อยากรู้จังว่าเก่าแก่ขนาดไหน





ศาลาที่เป็นจุดนัดพบของพวกเรา





ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง คือ เก๋งจีนในอดีตเมื่อครั้งสร้างสวน





เข้าไปสำรวจด้านในกัน





ตอต้นตะเคียนปิดทองผูกผ้าหลากสี

มีคนมากราบไหว้บูชา





ด้านข้างมีรูปหญิงสาวตั้งอยู่ ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับเธอเลยค่ะ





ตะเพียนแขวนประดับอยู่ที่หน้าประตูใกล้ๆกับโคมแดง





ตะเกียงน้ำมันหน้าศาล





ลวดลายประดับด้านบน





คุณชัยลาซาล บล๊อกเกอร์คนหนึ่งของโอ.เค ติดภาระกิจ ขอตัวกลับก่อน ขอบคุณสำหรับเป๊ปซี่ที่ติดมาบริการ

1 ขวดใหญ่ หวังว่าคงได้พบกันอีกในครั้งหน้านะคะ ป้ารูเล็งๆไว้เป็นวิทยากรท่านหนึ่ง





ใบของต้นจำปาเทศ (Pterospermum-acerifolium)

พันธุ์ไม้ หายากของไทยที่อนุรักษ์ไว้ ปลูกอยู่ข้างอาคารเรือนกระจก ดอกมี ลักษณะแปลกสวยสะดุดตามีกลิ่นหอม

ออกดอกราวเดือน ม.ค.-ก.พ.





ภาพวาดที่ซุ้มประตูศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง

ไม่ทราบว่าเป็นนกชนิดไหน ใครทราบช่วยบอกด้วยค่ะ


ต่อบล๊อกสองนะคะ ภาพเยอะค่ะ





Create Date : 22 มิถุนายน 2553
Last Update : 22 มิถุนายน 2553 18:17:47 น. 6 comments
Counter : 5619 Pageviews.

 
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ... เมื่อก่อนเดินทางผ่านแถวนั้นบ่อยๆ ชอบเข้าไปนั่งเล่นดูอริยาบทของแต่ละคนค่ะ... ตอนเย็นก็นั่งดูเค้าเต้นแอโรบิคกันด้วย แล้วก็เดินไปขึ้น ปอ.12 กลับบ้านค่ะ


โดย: namfaseefoon วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:20:28:30 น.  

 
สวัสดีค่ะ..

คืนนี้อย่าลืมเชียร์อาร์เจนติน่านะค่ะ..

อ้อมแอ้มนะขอนอนเอาแรงก่อนค่ะ..

ได้เจิมคนแรกเลย..ย่าดาup blogแล้ว รูปเยอะจังค่ะ

สวยๆทั้งนั้น..





โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:20:35:06 น.  

 
ตามมาสูดอากาศหายใจ


โดย: คนขับช้า วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:0:31:32 น.  

 
เข้า กทม. เมื่อไหร่ต้องหาโอกาสไปเที่ยวบ้าง


โดย: อานิด IP: 202.29.75.6 วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:12:09:23 น.  

 
สวัสดีค่ะอานิด สวนนี้ประวัติน่าสนใจค่ะ


โดย: ดา ดา วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:12:28:25 น.  

 


โดย: blog..ชั้นเอง วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:18:49:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดา ดา
Location :
1 Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดา ดา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.