Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
17 กันยายน 2555
 
All Blogs
 
มนต์เสน่ห์ ลับแล ชมงานประเพณีค้างบูยา สัมผัสวิถีชาวบ้าน ตอนที่ 2 วิธีทำค้างบูยา



ขออภัยที่กว่าจะมาโพสตอนที่สองก็เนิ่นนานพอสมควร มีธุระปะปังที่จะต้องจัดการผัดผ่อนไม่ได้อีกแล้ว

มาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่านะคะ

-----

จากตอนที่แล้วหลังจากทานอาหารค่ำกันเสร็จเรียบร้อย คุณรัศมี เสือน้อย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ฝายหลวง

ไกด์กิตติมศักดิ์ของเรา นำทางเราไปยังบ้านที่มีเตรียมทำค้างบูยา เราไปชมกันค่ะว่าค้างที่เขาจัดเตรียมมีอะไรกันบ้าง


การทำค้างบูยา


1. นำกระถังมา 1 ใบ จะเป็นกระเบื้องหรือพลาสติกก็ได้

2. ตัดไม้ไผ่ลำเล็ก ๆ สูงตั้งแต่ 1 – 2 เมตร มาปักลงในกระถังแล้วนำสิ่งของที่หนัก ใส่ลงไป เช่น ข้าวสาร

น้ำตาลทราย นม ผลไม้ เพื่อที่จะทับไม้ไม่ให้ล้มไปข้างใดข้างหนึ่ง

3. นำไม้ไผ่มาเหลา ขูดเปลือกสีเขียวออกทำค้างจะทำเป็นค้างวงกลม คล้ายฉัตรเป็นชั้น ๆ หรือทำเป็นรูปอื่น ๆ

เช่น รูปหงส์สำหรับประดับค้างบูยา

4. แล้วนำใบตาวหรือใบลานมาสานเป็นรูปดาวติดกับไม้ไผ่เป็นชั้น มีทั้ง 3 ชั้น 7 ชั้น แล้วแต่

ความสวยงาม จากดาวใหญ่ไปหาดาวเล็ก

5. นำยาสูบพื้นเมือง (ยาเส้น) มามวนด้วยกระดาษอย่างดี ห้อยไว้ตามค้างที่เป็น วงกลม

6. แล้วนำของที่เตรียมไว้ เช่น สมุด ดินสอขนม พริก ไม้ขีดไฟ ยาสีฟัน ปัจจัย

(เงิน) และเครื่องใช้อื่น ๆ ไปแขวนไว้ที่ ค้าง (ต้น) จึงเรียกว่า ค้างบูยา

7. นำกระดาษสีมาประดับตกแต่ง รอบๆ กระถางและค้างอย่างสวยงาม


หมายเหตุ ค้าง คือกิ่งไม้ บูยา คือ ยาสูบพื้นเมือง (ยาเส้น)


//etourguide.fix.gs/index.php?topic=85.0





ตกแต่งด้วยพวงมะโหด (กระดาษสีตัดเป็นตาข่ายสำหรับห้อยประดับเพื่อความสวยงาม)

ส่วนกระบะมีคานหาม ที่ใส่ค้างเรียกว่าแฮ





กลุ่มนี้เขาตกแต่งกันไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณรัศมีจึงนำพวกเราไปชมที่บ้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1

ผู้ใหญ่สวัสดิ์ ถายา กำลังล้อมวงจัดทำกันอยู่ ไปชมกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง





พร้อมทั้งนำขนมแหนบมาให้พวกเราชิม เป็นขนมที่ใช้เป็นส่วนประกอบของค้างบูยา

หน้าตาคล้ายขนมเทียนของทางจีน ส่วนในกรอบเล็กคือขนมแหนบที่ผสมดอกดินลงไปด้วย

ย่าลองชิมทั้งสองแบบ อร่อยดีค่ะ ย่าสอบถามว่าดอกดินนี่หายากไหมตอนนี้ คุณป้าบอกว่าก็ไม่ยาก

และก็ไม่ง่าย เพราะต้องขึ้นไปเอาบนภูเขาสูง ต้องเสาะหาเอาอยู่เหมือนกันค่ะ

ย่าเคยเห็นเจ้าดอกดินนี้ครั้งหนึ่งนานแล้วสมัยไปเที่ยวภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ ยังรู้สึกตื่นเต้น

เพราะเป็นการเห็นครั้งแรกและครั้งเดียว ความพิเศษของมันคือเป็นต้นไม้ที่ไม่มีลำต้นมีเพียง

ก้านดอกและดอกโผล่มาจากใต้ตินเท่านั้น





สลากชะลอม ซึ่งเป็นประเพณีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ และเจ้ากรรมนายเวร

แต่ละบ้านจะจัดชะลอมขนาดเล็กๆ เท่ากับจำนวนคนในบ้าน บ้านไหนมีเยอะคน ก็จะมีชะลอมเยอะ

บ้านไหนมีคนน้อย ก็จะมีชะลอมน้อย ภายในชะลอมซึ่งจะกรุด้วยใบตองเพื่อไม่ให้มองเห็นของข้างใน

ซึ่งจะใส่ข้าวปลาอาหารแห้ง ผลไม้ ขนม หมากพลู อย่างละนิดละหน่อยแต่มีครบทุกอย่าง การสาน

ชะลอมก็จะต่างจากชะลอมทั่วไป โดยสลากชะลอมจะใช้ตอกคู่ แต่ชะลอมทั่วไปจะใช้ตอกเส้นเดียว




สตางค์ตกแต่งด้วยข้าวเปลือกที่มัดล้อมรอบเหรียญด้วยไหมพรมสีสด สำหรับไหว้พระ

วิธีทำนำเอาไหมพรมสองเส้นขึงกับไม้ไผ่โค้งลักษณะเหมืองคันธนู ใส่เมล็ดข้าวเปลือกลงที่ช่องกลางแล้ว

นำไหมพรมอีกเส้นสอดสลับชายดึงให้ตึงทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนได้ความยาว พอดีกับรอบเหรียญ จากนั้น

ก็ผูกติดโดยรอบตกแต่งด้วยไหมพรมเป็นอันเสร็จ

ขอบคุณคุณป้าใจดีมอบให้พวกเราคนละเหรียญกลับไปเป็นที่ระลึก





เงินที่ชาวบ้านนำมาร่วมทำบุญมาติดที่ค้าง คุณป้าบอกว่าเสียดายพวกเรามาไม่ทันตอนเงินเต็มขัน





ในถาดมีไม้สีเสียด น้ำยาทาใบพลู(ในขวดสีขาว) ใบพลู,พริก ,หอม และกระเทียม นำมา

บรรจุลงในฉลากชะลอม อันนี้แล้วแต่ค่ะว่าเราจะใส่อะไรลงไป บางบ้านใส่ขาวเหนียวหนึ่ง

พร้อมหมูคลั่วกลิ้ง แถมมีน้ำปลาร้า ด้วย ถุงเล็กๆพอคำ (จากชะลมอที่ย่าได้รับเป็นของฝากกลับบ้าน)

เรียกว่าแล้วแต่เราจะใส่ค่ะ




ระหว่างเหล่าบรรดาเด็กๆ และแม่บ้านจัดเตรียมสลากชะลอม และค้างบูยา เหล่าพ่อบ้านก็ตั้งวง

สนทนากันอย่างครื้นเครง





ขันรับเงินทำบุญมีธูปและดอกไม้ ในที่นี้ใช้เป็นดอกทองดอกบวบ เข้าใจว่าคงใช้เป็นดอกอะไรก็ได้

ที่มีปลูกอยู่รอบบ้านตัวเอง นำมาใช้ประกอบพิธีได้ทั้งนั้น





พริก,มะเขือ พืชผักสวนครัวสามัญประจำบ้านก็เป็นของตกแต่งค้างได้เหมือนกัน





โชคดีมีลูกบ้านนำเงินมาทำบุญ ย่าจึงได้เก็บช๊อตมาฝาก อธิฐานก่อน...




ลงขันทำบุญ(ขวาผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ผู้ใหญ่สวัสดิ์ ถายา)

ย่าเพิ่งถึงบางอ้อ อย่างงี้นี่เองเขาถึงเรียกการทำบุญว่าลงขัน อิอิ





พวกเราได้ชิมทุเรียนพันธุ์หลงลับแล พันธุ์ที่มีชื่อเสียงของที่นี่ ลูกเล็กกำลังทานลูกละประมาณ 2 กิโล

ย่าจับคุณนิดมาเป็นพรีเซนต์เตอร์ซะเลย 555





แป้งพันนุ่มอร่อย อาหารขึ้นชื่อของที่นี่





นอกจากพวกเราจะได้ทานลางสาด,ทุเรียนมังคุดแล้ว ยังมีขนมแหนบ,ทุเรียนทอด แป้งพัน ลำเลียงมาให้พวกเรา

ลองทานกัน แถมมีเมนูพิเศษแป้งพันสุกี้ (ขวามือบน)ทริปนี้เล่นเอาน้ำหนักย่าขึ้นเป็นกิโลเลย





คุณป้าใจดีบอกว่าลูกสาวกำลังทำอยู่ไปดูวิธีทำกันไหม พวกเรามีหรือจะขัดกระวีกระวาดพุ่งไปทันที

นี่ค่ะหม้อที่สำหรับทำแป้งพัน หน้าตาคล้ายหม้อข้าวเกรียบปากหม้อ





ขั้นตอนแรก ตั้งแป้งเทลงแล้วไล้รอบๆเป็นแผ่น





ถ้าจะทำแป้งพันเฉยๆ ก็ครอบฝากรอแป้งสุขแล้วใช้ไม้กรีตตลบเป็นม้วนเส้นยาวๆก็เป็นอันเสร็จ

หากจะทำแป้งพันสุกี้ ก็เริ่มขั้นตอนต่อไปโดยตอกไข่ใส่ลงบนแป้งที่เริ่มสุข





จากนั้นก็ใส่ผัก ต่างๆลงบนแผ่นแป้ง





ใส่หมู





จากนั้นก็ครอบฝารอสุก





สุกแล้วเปิดฝากรีดแป้งด้านริมโดยรอบจากนั้นตักเข้าไปลึกหน่อยเตรียมจานมารอไว้ดึงแผ่นแป้งลงจาน





แซะใส่จานที่รอไว้





ใส่ซอสสุกี้สูตรพิเศษแสนอร่อยที่ปรุงเอง สูตรลับเฉพาะเหมือนกับแป้งพันที่นี่ก็เป็นสูตรลับเฉพาะเหมือนกันค่ะ

จะอร่่อยนุ่มกว่าของที่อื่น





เสร็จแล้วค่ะ อร่อยล้ำ ทั้งแป้งพัน และแป้งพันสุกี้





อยากกลับไปทานอีกจัง ..





มัวทำหน้าที่ย่าดาพาชิมไปซะแล้ว กระทู้นี้จึงยังไม่ถึงขบวนแห่ค้างบูยาสักที ขออภัยจริงๆค่ะ

ตอนหน้าคงพาชมตลาดก่อน ไหนๆมาลับแลทั้งทีพาเที่ยวให้ทั่วๆหน่อย หมายถึงในตลาดหน่ะนะ

ส่วนตามป่าตามเขาที่นี่มอบหน้าที่ให้คุณชาลี แห่งโอเค.เนชั่นเป็นผู้นำเที่ยวก็แล้วกัน

----

ขอบคุณ คุณกัญญาวีร์ ศิริกาญจนารักษ์ คุณธีรภาพ โลหิตกุล และ คุณรัศ เสือน้อย เป็นอย่างยิ่งที่เปิดโลกทัศน์ให้ได้เห็นแง่มุมงามๆ ณที่แห่งนี้




ลิ้งก์ที่เกี่ยวข้อง


//www.oknation.net/blog/pasalarksee/2012/09/13/entry-1



//www.bloggang.com/mainblog.php?id=dada&month=13-09-2012&group=3&gblog=181



//www.oknation.net/blog/pasalarksee/2012/09/14/entry-1




Create Date : 17 กันยายน 2555
Last Update : 20 กันยายน 2555 16:26:19 น. 0 comments
Counter : 4539 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดา ดา
Location :
1 Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดา ดา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.