127 Hours อ่อนแอตามลำพัง
127 Hours อ่อนแอตามลำพังพล พะยาบ ดูหนังเรื่อง 127 Hours แล้วนึกถึงรายการสารคดีและหนัง 2-3 เรื่อง เรื่องแรกเป็นรายการสารคดีชุด Man vs. Wild ที่มีผู้ดำเนินเรื่องชื่อ แบร์ กริลส์ อดีตหน่วยรบพิเศษของอังกฤษ บุกป่าฝ่าดงแบบเรียลิตี้เพื่อสอนวิธีเอาตัวให้รอดในสภาพธรรมชาติอันหฤโหด ได้ทั้งความรู้และความสนุกจนอารมณ์อยากผจญภัยเต้นเร่าขึ้นมาทุกครั้งที่ได้ชม เรื่องต่อมาเป็นรายการสารคดีชุด I Shouldn't Be Alive จำลองเหตุการณ์ที่ใครคนหนึ่งหรือคนกลุ่มหนึ่งเผชิญหน้ากับเหตุอันตรายถึงชีวิตในสถานที่ธรรมชาติห่างไกลผู้คน ซึ่งสุดท้ายแล้วพวกเขาโชคดีเหลือเกินที่รอดมาได้ สุดท้ายเป็นหนังเรื่อง Into the Wild (2007) จากเรื่องจริงของชายหนุ่มผู้หันหลังให้โลก ใช้ชีวิตตามลำพังในป่าอลาสกา ในที่สุดต้องตายอย่างโดดเดี่ยว 127 Hours เป็นเรื่องจริงของชายหนุ่มผู้ไม่แยแสคนรอบตัวคล้ายกัน แต่ไม่ได้ทำตัวโรแมนติกแบบในเรื่อง Into the Wild ซึ่งในภาวะใกล้ตายพวกเขาต่างถวิลหาความสัมพันธ์ที่เคยทิ้งขว้างระหว่างทางเดินชีวิต ตัวเอกใน 127 Hours โชคดีเหลือเกินที่รอดมาได้เหมือนใครหลายคนใน I Shouldn't Be Alive เพื่อย้ำเตือนว่าความเก่งกล้าเรื่องการใช้ชีวิตกลางแจ้งอย่างใน Man vs. Wild ไม่เคยทำให้มนุษย์เป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมของธรรมชาติ จากหนังสืออัตชีวประวัติ Between a Rock and a Hard Place ของ แอรอน ราลสตัน แปรเป็นบทภาพยนตร์โดย แดนนี่ บอยล์ และไซมอน โบฟอย โดย แดนนี่ บอยล์ ลงมือกำกับด้วย อำนวยการสร้างโดย คริสเตียน โคลสัน และได้ เอ.อาร์. ราห์มัน ทำดนตรีประกอบ เรียกได้ว่าทีมเดิมจากความสำเร็จของ Slumdog Millionaire (2008) นั่นเอง ผลคือหนังกวาดคำชมมากมายและเฉิดฉายในทุกเวทีรางวัล โดยเฉพาะการเข้าชิงออสการ์ 6 สาขา รวมภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เริ่มต้นในค่ำคืนที่ แอรอน ตระเตรียมข้าวของเพื่อออกเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติแคนยอนแลนด์สในรัฐยูทาห์ซึ่งเขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี มีโทรศัพท์จากน้องสาวเข้ามาแต่เขาไม่ได้สนใจ เสร็จสรรพก็ขับรถไปตามลำพังโดยไม่ได้บอกใครไว้เลยว่าจะไปที่ใด เช้าวันต่อมาเขาขี่จักรยานและเดินต่อไปยังจุดที่ตั้งใจไว้ ระหว่างนั้นเจอนักท่องเที่ยวสาว 2 คน หลงทางอยู่จึงอาสานำทางไปให้ สองสาวชวนเขาไปร่วมปาร์ตี้ในคืนถัดไป แอรอนตอบรับคำชวนก่อนจะแยกย้ายกันเดินทางต่อ ทว่าไม่นานจากนั้นแอรอนที่กำลังไต่ช่องเขาอย่างชำนาญก็พลาดร่วงลงมาโดยมีหินก้อนเขื่องร่วงตามมาทับแขนข้างขวาติดแน่นกับผนังของช่องเขานั้น แอรอนพยายามดึงแขนและทั้งผลักทั้งยกให้ก้อนหินขยับเขยื้อนแต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายจึงต้องใช้อุปกรณ์ในมีดพับเอนกประสงค์ที่พกมาซึ่งทั้งเล็กและทื่อ (เขาลืม สวิสอาร์มี่ ไว้ที่บ้าน) สกัดหินเพื่อให้พอขยับแขนออกมาได้ แต่เมื่อใช้เวลาทั้งวันจนวันรุ่งขึ้นแอรอนก็รู้ว่าไม่มีทางสำเร็จ แม้กระทั่งการตัดแขนทิ้งก็เป็นไปไม่ได้ด้วยมีดทื่อๆ เล่มนี้อาหารหมดไป น้ำดื่มร่อยหรอ ความหวังเลือนหายลงเรื่อยๆ โดยมีความกลัวเข้าแทนที่ แอรอนเริ่มปล่อยความคิดล่องลอยไปไกล เขานึกถึงเบียร์เย็นๆ ในปาร์ตี้ของสองสาว นึกถึงโทรศัพท์ของแม่ที่เขาไม่ยอมรับสาย นึกถึงเพื่อนที่ทำงานซึ่งเขาไม่ได้เอ่ยปากบอกว่าไปไหน นึกถึงภาพในอดีต พ่อ แม่ น้องสาว คนรักที่เขาตัดสัมพันธ์อย่างไม่ไยดี เหล่านี้มีความหมายขึ้นมาในช่วงเวลาที่เขาโหยหาต้องการ แอรอนบันทึกวิดีโอเพื่อกล่าวลาพ่อกับแม่ รู้ว่าเขากำลังจะตายอย่างโดดเดี่ยว เมื่อร่างกายอ่อนแอลง จิตใจยิ่งอ่อนแอตามไปด้วย เขาเริ่มเห็นภาพหลอน ได้ยินเสียงแว่ว จินตนาการไปต่างๆ นานา แต่ถึงจุดหนึ่งแอรอนตระหนักถึงชีวิตที่เหลืออยู่ นึกถึงการได้อยู่กับคนมากมายที่เขาเคยหันหลังให้ และใครบางคนที่จะผ่านเข้ามาในช่วงชีวิตที่เหลือ ก่อนอื่นเขาต้องหลุดพ้นไปจากตรงนี้ให้ได้ ทางออกเดียวคือการตัดแขนทิ้งด้วยมีดทื่อๆ เล่มนั้น! เมื่อเรื่องราวว่าด้วยนักปีนเขาติดแหง็กอยู่กับที่รอคอยความตายในดินแดนรกร้างผู้คนมาอยู่ในมือ แดนนี่ บอยล์ การนำเสนอย่อมไม่มีทางเป็นแค่หนังผจญภัยลุ้นระทึกหรือมีบทสนทนาน้อยนิดด้วยมีตัวละครแค่หนึ่ง เทคนิคและความหวือหวาตามสไตล์ของบอยล์ถูกนำมาใช้ ทั้งการตัดต่ออย่างฉับไว มุมกล้องเปลี่ยนไปมา เทคนิคด้านภาพอย่างการแบ่งเฟรมภาพเป็น 3 ช่อง บอกภาวะจิตใจของตัวละคร เหล่านี้ช่วยให้หนังเดินหน้าอย่างมีสีสัน ดนตรีประกอบของ เอ.อาร์. ราห์มัน ซึ่งมีรูปแบบและสไตล์เพลงหลากหลายเติมรสชาติอย่างเหมาะเจาะ แม้บางฉากจะฟังรกไปบ้าง ขณะเดียวกัน เรื่องที่ให้ตัวละครตกอยู่ในภาวะโหยหาผู้คนจนมองเห็นภาพในอดีตมากมาย และการที่ตัวละครบันทึกภาพลงกล้องวิดีโอ นอกจากจะช่วยให้หนังไม่เงียบจนเกินไปแล้ว ยังเป็นการแนะนำและค่อยๆ บอกเล่าความเป็นมาของตัวละคร โดยไม่ต้องเสียเวลาปูเรื่องในช่วงเริ่มต้นแม้แต่น้อย อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าบทสรุปของตัวละครคือการถวิลหาความสัมพันธ์ที่เคยทิ้งขว้าง เป็นภาวะของคนใกล้ตายไม่ต่างจากตัวละครใน Into the Wild ซึ่งแม้จะปลีกวิเวกแบบโรแมนติกขนาดไหน หากต้องทุกข์ทนตามลำพังอย่างสิ้นหวัง สิ่งที่ผ่านเข้ามาในห้วงยามเช่นนี้ย่อมเป็นภาพความผูกพันใส่ใจจากใครบางคน เหนือกว่านั้น...ภาพที่บอยล์เลือกใส่แทรกเข้ามาตั้งแต่ต้นเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพฝูงชนบนท้องถนน ผู้คนในระบบขนส่งมวลชน ในเทศกาลรื่นเริง การแข่งขันกีฬา ศาสนพิธี เปรียบเทียบกับภาพภูมิประเทศไกลลิบที่เต็มไปด้วยเทือกเขา-แนวหินตั้งตระหง่าน ไร้สิ่งมีชีวิตนอกจากมนุษย์ตัวเล็กๆ ไร้หนทางต่อสู้คนหนึ่ง ประกอบกับภาพเขียนสีโบราณขนาดใหญ่บนแนวเขาซึ่งแอรอนพบเจอหลังจากรอดตายมาได้ ทั้งหมดแสดงถึงอารยธรรม สังคมมนุษย์ การรวมกลุ่มของสัตว์สังคมที่ไม่อาจอยู่ตามลำพังนับเนื่องมายาวนาน มนุษย์เอาชนะธรรมชาติด้วยอารยธรรมและจำนวนคน แต่เป็นเพียงเศษชีวิตต่ำต้อยหากอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางธรรมชาติ ที่สุดแล้วตัวละครจึงคิดได้ว่าถ้าไม่ตายแบบถูกธรรมชาติกลืนกิน ก็ต้องกลับไปยังที่ที่ตนจากมาที่ซึ่งทำให้มนุษย์คนหนึ่งอุ่นใจกว่าเมื่ออยู่ท่ามกลางธรรมชาติมากมายนัก
Create Date : 14 เมษายน 2554
4 comments
Last Update : 14 เมษายน 2554 2:45:25 น.
Counter : 2427 Pageviews.
โดย: อุ้มสี 15 เมษายน 2554 0:30:57 น.
โดย: beerled 16 พฤษภาคม 2554 23:55:50 น.
โดย: aomzon (aomzon ) 10 ตุลาคม 2554 19:19:53 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
ไม่เจ็บ ไม่ไข้ ไม่จน
แหล่มค่ะ
ว่าแล้วก็โหวตในสาขาภาพยนตร์ให้ค่ะ