น้ำเงินแท้

17 ธันวาคม 2558

เวลาที่มีคนถามผมว่า “ใครคือนักเขียนในดวงใจของคุณ?” ผมมักจะตอบโดยไม่ลังเลเลยว่า “วินทร์ เลียววาริณ คือนักเขียนในดวงใจของผม” สาเหตุก็เพราะว่าผมชื่นชอบงานเขียนของคุณวินทร์ เลียววาริณ ผมจะอ่านงานเขียนของเขาเป็นประจำ โดยพยายามที่จะยึดเอาไว้สำหรับเป็นแม่แบบในการเขียนของผม แต่ว่าฝีมือการเขียนของผมนั้นยังห่างไกลจากนักเขียนรางวัลซีไรต์และศิลปินแห่งขาติท่านนี้มาก ดังนั้นผมจึงต้องหางานเขียนซึ่งเป็นวรรณกรรมชั้นเยี่ยมของยอดนักเขียนประจำดวงใจมาอ่านเสมอ เผื่อว่าสักวันมันจะซึมซับเข้าไปในวิธีการเขียนของผมบ้าง

แน่นอนว่าหนังสือเล่มที่ผมอ่านในวันนี้ก็เป็นของคุณวินทร์ เลียววาริณ ชื่อเรื่อง “น้ำเงินแท้” เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เช่นแนวกับแนวเรื่อง “ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน” และ “ปีกแดง” ถ้าท่านใดเคยอ่านทั้งสองนี้มาแล้วก็น่าจะชอบ “น้ำเงินแท้” เล่มนี้เช่นกัน โดยหนังสือเล่มนี้ผมเห็นเป็นครั้งแรกในงานสัปดาห์หนังสือฯ เมื่อตอนต้นปี 2558 ดังนั้นจึงถือว่าเป็นหนังสือนวนิยายเล่มใหม่ล่าสุดของคุณวินทร์ เลียววาริณ เพราะว่าในงานมหกรรมหนังสือฯ ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีหนังสือใหม่เป็นรวมเรื่องสั้นชุด “อุโมงค์” และสารคดีเกี่ยวกับการเขียนหนังสือชื่อ “เขียนให้สุดฝัน” ซึ่งผมก็ซื้อมาอ่านและได้รับดินสอนักเขียนแถมมาด้วย

สำหรับนวนิยายเรื่อง “น้ำเงินแท้” เล่มนี้ที่บอกว่าเป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ก็เพราะว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงหลังจากประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 โดยในปีถัดมาเกิดเหตุการณ์กบฏบวรเดชขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องราวทั้งหมดที่นวนิยาย โดยผู้เขียน(คุณวินทร์ เลียววาริณ)ได้เขียนบอกไว้ในคำนำว่า

“อย่างไรก็ตาม “น้ำเงินแท้” แตกต่างจาก “ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน” ตรงที่ “ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน” เล่าเหตุการณ์ประวัติศาสตร์การเมืองอย่างเป็นกลาง ขณะที่ “น้ำเงินแท้” เป็นนวนิยายที่เล่าผลกระทบต่อปัจเจกจากสงครามกลางเมืองปี 2476 จากมุมมองของผู้แพ้หรือฝ่ายกบฏบวรเดช ดังนั้นความเป็นกลางจึงอาจเคลื่อนหายไปบ้างอย่างเลี่ยงไม่พ้น ซึ่งมิได้แปลว่าผู้เขียนเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแต่อย่างไร”
(จากคำนำในหน้า 7)

ที่ผ่านมาผมต้องเป็นคนที่รู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์น้อยมาก เพราะผมคิดว่าเหตุการณ์กบฏบวรเดชนั้นคือการทำรัฐประหารครั้งหนึ่งที่ทำไม่สำเร็จ แต่ผมคงไม่ทราบรายละเอียดมาก่อนว่ามันกลายเป็นสงครามกลางเมืองที่คนไทยสู้กันเอง ที่ผ่านมาในชีวิตของผมก็เจอเหตุการณ์ที่เกือบจะกลายเป็นสงครามกลางเมืองหลายครั้ง ซึ่งผมทราบดึงหายนะที่จะเกิดขึ้นถ้ามีสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นจริง ดังนั้นเมื่อได้มาอ่าน “น้ำเงินแท้” แล้วทำให้ความเข้าใจในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของผมชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งได้รู้ด้วยว่าการเมืองนั้นมีความพลิกผันมากน้อยขนาดไหน? และอีกประการที่ผมได้รู้ก็คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคุก คุกอันเป็นสถานที่คุมขังนักโทษนั้น นอกจากจะปิดกั้นไม่ให้นักโทษหลบหนีได้แล้ว ยังปิดกั้นไม่ให้คนข้างนอกรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังกำแพงคุกนั้นด้วย ดังนั้นเมื่อได้อ่านเรื่องราวที่เขียนดัดแปลงมาจากบันทึกเหตุการณ์จริงของชีวิตคนคุก จึงทำให้ผมมีมุมมองที่เพิ่มเติมมากขึ้น

ในเนื้อเรื่องนั้นมีการพูดถึงเรื่องการเมืองในยุคก่อร่างสร้างประชาธิปไตยของบ้านเราเยอะมาก หลายประเด็นทำให้ผมเข้าใจถึงข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์การเมืองมากขึ้นด้วย ผมได้รู้ว่าในทางการเมืองนั้นมีทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ ซึ่งผู้ชนะนั้นจะกวาดตามองซากปรักหักพังต่าง ๆ เพื่อหาเหตุยัดเหยียดให้กับผู้แพ้ ในขณะที่ผู้แพ้นั้นสามารถมองเห็นความงดงามเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หลงเหลืออยู่ได้ เพื่อหาเหตุอันเป็นกำลังใจให้แก่ชีวิตของเขา แรงปะทะกันระหว่างเรื่องราวของทั้งสองฝ่ายนี้ก่อให้เกิดความสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้เขียนสะท้อนออกมาให้ผู้อ่านรับทราบได้เป็นอย่างดี เรียกว่าในบางช่วงบางตอนผู้อ่านอาจจะมีน้ำตาซึมออกมาได้

“ลำแสงสุดท้ายของสายัณห์สดสวยเมื่อกระทบริ้วเมฆอมสีทอง ม่วง ส้ม ชมพู งดงามเหมือนแดนสวรรค์

 บางครั้งคนเราก็ต้องลงนรกเพื่อให้เห็นสวรรค์

 บางคราวข้าพเจ้าครุ่นคิด ทุกความเคราะห์ร้ายมีความโชคดีแฝงอยู่เสมอ ในสถานที่ซึ่งคนส่วนใหญ่เรียกว่านรก ก็มีสิ่งสวยงาม โชคหรือเคราะห์อาจต่างกันแค่ที่มุมมองเท่านั้น ...”
(หน้า 311)

เมื่อผมอ่าน “น้ำเงินแท้” แล้วคิดในเชิงวรรณกรรม ผมสามารถเห็นกลวิธีการเขียนแปลกใหม่อีกมากมาย ซึ่งเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับผม การเล่าเรื่องผ่านมุมมองต้นแสง (มุมมองบุรุษที่ 1) ซึ่งเป็นตัวละครเอกนั้น ทำให้เรา(ผู้อ่าน)รู้สึกมีส่วนรวมกับเนื้อเรื่องเป็นอย่างมาก เรารับรู้ได้ถึงความโหดร้ายต่าง ๆ นานาที่ตัวละครได้รับ เราคอยเอาใจช่วยตัวละครไปตลอดเพื่อให้เขาช่วงวิกฤตของชีวิตไปให้ได้ ซึ่งสิ่งนี้เองที่เป็นตัวสะกดผมไว้ให้อยู่กับเรื่องราวโดยตลอด รวมทั้งสัญลักษณ์ในเชิงวรรณกรรมต่าง ๆ ที่แฝงอยู่ในเนื้อเรื่องที่ทำให้ผมต้องฉุกคิดตามเสมอ

สำหรับท่านที่สนใจอยากจะได้หนังสือวรรณกรรมชั้นดีมาอ่านผมก็ขอแนะนำให้ท่านอ่าน “น้ำเงินแท้” เล่มนี้ จริง ๆ แล้วบางท่านอาจจะคิดว่ามันเป็นนวนิยายของผู้แพ้ แต่ตัวผมคิดว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมคิดว่ามันเป็นนวนิยายที่เปิดเผยชัยชนะของผู้พ่ายแพ้มากกว่าครับ สำหรับหนังสือ “น้ำเงินแท้” ฉบับที่อยู่ในมือของผมนี้เป็นฉบับที่พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2558 จัดพิมพ์โดย บริษัท ๑๑๓ จำกัด ขนาดความหนา 447 หน้า ราคา 375 บาท เล่มนี้ควรค่าแก่การหามาอ่านเป็นอย่างยิ่งครับ

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกนี้ ขอให้ท่านมีความสุขกับการอ่านหนังสือนะครับ

Create Date : 17 ธันวาคม 2558		5 comments
Last Update : 17 ธันวาคม 2558 13:57:06 น.
Counter : 4956 Pageviews.
Share Tweet