1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
คุณชายทรพีร์
ผมไม่รู้ว่าจะหาข้ออ้างอะไรดีที่จะไม่ต้องพาแม่ไปโรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การไปตรวจย่อยเพื่อติดตามผลการรักษาตามคุณหมอที่นัดเป็นประจำทุกเดือนก็ตาม แต่ผมก็ไม่อยากไปเลยช่วงนี้ผมแสนจะขี้เกียจจนตัวเป็นขนเหลือเกินครับ ในวันอาทิตย์ผมก็อยากจะหยุดพักผ่อนไปบันเทิงเริงรมย์หาความสุขตามประสาหนุ่มโสดมากกว่า ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่เป็นไรหรอกที่ผมจะปล่อยให้พี่สาวของผมทำหน้าที่เป็นลูกกตัญญูแทนผมดูสัก 1 วัน ไหน ๆ พรุ่งนี้ก็เป็นวันอาทิตย์ที่พี่สาวผมหยุดงานอยู่แล้วด้วย ก็ให้พี่สาวผมทำหน้าที่พาแม่ไปหาหมอตามนัดที่โรงพยาบาลแทนดีกว่า ว่าแต่ผมจะหาเหตุผลอะไรไปอ้างกับพี่สาวผมดีล่ะครับ ว่าแล้วความคิดอันชั่วร้ายในสมองผมก็ต้องหยุดชะงักลงทันทีเมื่อมีเสียงบุรุษไปรษณีย์มาตะโกนเรียกที่หน้าบ้าน จดหมายด่วนลงทะเบียน ช่วยเซ็นรับด้วยครับ เสียงพี่ไปรฯ ตะโกนเรียกดังลั่นในขณะที่ผมวิ่งออกไปรับจดหมายที่หน้าบ้าน เซ็นตรงนี้ครับ พี่ไปรฯ บอกผมพร้อมทั้งยื่นเครื่องแท็ปแล็ตขนาดเล็กและปากกาอิเล็คทรอนิสมาให้ผม ท่ามกลางแดดที่ร้อนเปรี้ยงของเที่ยงวันเสาร์ ผมต้องยื่นหน้าโผล่ไปนอกประตูบ้านพร้อมทั้งเซ็นชื่อรับจดหมายโดยเร็วที่สุดก่อนที่ผิวสีนวลผ่องแบบผู้ดีของผมจะโดนแดดเลียจนหมองหมด หลังจากเซ็นชื่อเสร็จพี่ไปรฯ ก็รีบยื่นจดหมายฉบับหนึ่งมาให้แก่ผม แล้วเขาก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ชีพหายจากไปอย่างรวดเร็ว มันคงสมแล้วที่เป็นจดหมายด่วนจริง ๆ ด้วย เมื่อผมวิ่งหลบแดดกลับเข้ามาถึงตัวบ้านได้ ผมก็หยิบจดหมายในมือขึ้นมาดูในทันที มันถูกจ่าหน้าซองถึงใครสักคนหนึ่งที่ผมไม่รู้จักมาก่อนเลย เรียนเชิญ คุณชายรัชดา ณ เมืองนนท์ บ้านเลขที่ 99/999 ... ผมอ่านออกเสียงดังตามที่เขียนไว้หน้าซองจดหมายเพื่อให้สมองของผมได้ทำหน้าที่คิดตาม แล้วสมองอันปราดเปรื่องของผมก็คิดออกได้ให้ทันทีว่า จดหมายฉบับนี้ต้องส่งผิดบ้านแน่ ๆ เพราะว่าบ้านเลขที่ 99/999 นั้นไม่ใช่บ้านของผม แต่มันเป็นบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ถัดจากซอยบ้านผมไปอีก 5 ซอย ทำไมบุรุษไปรษณีย์ถึงได้ส่งจดหมายผิดพลาดได้เยอะขนาดนี้ แล้วจะให้ผมทำอย่างไรกับจดหมายผิดที่ซองนี้ดีล่ะครับ? ป่านนี้พี่ไปรฯ คงขี่มอไซต์กลับไปถึงบ้านแล้วแน่ ๆ ยิ่งวันนี้เป็นวันเสาร์ด้วยไปรษณีย์ทำงานแค่ครึ่งวันเอง พอเลยเที่ยงวันปุ๊ปประตูที่ทำการก็ปิดแน่นสนิท แล้วผมจะเอาจดหมายไปส่งคืนได้อย่างไรล่ะ? ด้วยความฉลาดหลักแหลมของผมเลยทำให้ผมฉุกคิดได้ว่า ทำไมผมไม่เอาจดหมายฉบับนี้ไปส่งคืนให้แก่บ้านเลขที่ 99/999 เลยล่ะน่าจะดีกว่า ผมอาจจะได้รับคำชื่นชมโดยตรงจากเจ้าของบ้านหลังนั้นก็เป็นได้ แต่ในเวลานี้เพิ่งจะเที่ยงกว่า ๆ เอง แดดกำลังแรงเปรี้ยงพระอาทิตย์ขึ้นอยู่กลางหัวพอดีเลยด้วย เอาไว้รอให้แดดร่มลมตกก่อนแล้วผมค่อยเอาจดหมายไปส่งให้แก่เขาก็ได้ แล้วสมองส่วนท้ายปลายสุดของผมก็แสดงถึงสัญชาติญาณของความรับผิดชอบขึ้นมาในทันที เมื่อผมตั้งคำถามขึ้นมาถามตัวเองในใจว่า แล้วถ้ามันเป็นเรื่องด่วนล่ะ? เขาอาจะรอจดหมายสำคัญฉบับนี้อยู่ก็เป็นได้ มีหนทางเดียวเท่านั้นที่จะรู้ว่าจดหมายฉบับนี้มันสำคัญเร่งด่วนมากขนาดไหนก็คือ แกะดูเลยดีกว่า ไหน ๆ ก็ส่งผิดบ้านแล้วนิ ขอเปิดดูสักนิดนึงน่ะ ผมพยายามพูดขึ้นอย่างแผ่วเบาเพื่อปลอบใจตัวเอง ผมพยายามใช้สมบัติผู้ดีที่ผมมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในตัว ในการค่อย ๆ บรรจงฉีกซองจดหมายให้เปิดออกทีละน้อยอย่างแนบเนียนที่สุด เผื่อว่าในกรณีที่มันเป็นเรื่องสำคัญขนาดที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ผมจะได้ปิดซองจดหมายกลับไว้อย่างเดิมได้โดยที่ไม่มีใครรู้ แล้วผมก็ค่อย ๆ เบามือแกะลุ้นทีละนิดทีละหน่อยกว่าจะเปิดซองจดหมายออกได้ จนกระทั่งผมเห็นกระดาษข้อความที่สอดอยู่ในซองจดหมาย ซึ่งเป็นกระดาษแข็งสีม่วงอ่อน ๆ ที่สลักลายปรุไว้ที่ขอบทั้งสี่ด้านอย่างสวยงาม การ์ดเชิญเหรอเนี่ย? ปากของผมไวกว่าสมองเยอะ ปากของผมรีบพูดสรุปให้สมองได้รับทราบตามได้ทันที มันคือการ์ดเชิญจริง ๆ ด้วย ข้อความที่ปรากฏเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน หวนคิดถึงหลัง ณ วังสุราเทพ ที่จะจัดขึ้นที่สโมสรสันนิบาตลูกนก ข้าง ๆ วังเฉลิมไทย ในช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวันอาทิตย์พรุ่งนี้พอดีเลย ซึ่งท้ายสุดของบัตรเชิญใบนี้ได้ระบุข้อความไว้อย่างชัดเจนว่า ... สามารถใช้บัตรเชิญใบนี้เป็นบัตรผ่านประตูเข้าร่วมงานได้ สมองฉลาดระดับอัจฉริยะของผมไม่รอช้าที่จะรีบประมวลผลและรายงานให้ผมทราบในทันทีว่า แค่เพียงถือการ์ดเชิญใบนี้ก็สามารถเดินผ่านเจ้าหน้าที่ร่างโต ๆ ที่ดักตรวจอยู่หน้าประตู เพื่อเข้าไปร่วมในงานเลี้ยงหรูได้ งานเลี้ยงไฮโซที่มีเหล่าดาราเซเลปชื่อดังมากมาย งานสังสรรค์ที่คงเต็มไปด้วยอาหารเลิศรสนานาชนิด ร่วมทั้งที่ขาดไม่ได้ก็คือสุรายาเมาที่คงจะเลี้ยงอย่างไม่อัดแน่ ๆ เพราะว่าชื่องานก็บอกแล้วว่า ณ วังสุราเทพ ในงานนี้ต้องมีสุราดีกรีระดับเทพทุกยี่ห้อเสิร์ฟให้ลองลิ้มชิมฟรีตลอดงานแน่ ๆ งานเลี้ยงสุดหรูแบบนี้ เหล้าเพียบแน่ ๆ เลยวุ้ย แค่ผมคิดตามน้ำลายผมก็ไหลย้อยหยดลงพื้นไม่ต่างอะไรกับก๊อกน้ำที่ไม่มีวันปิดได้สนิท เกลียวของก๊อกน้ำคงเก่าหลวมจึงทำให้น้ำไหลหยดออกมาจากปากก๊อกได้อย่างต่อเนื่อง ผมต้องรีบเม้มปากเพื่อดูดน้ำลายซึ่งกำลังเยิ้มอยู่ที่มุมปาก พร้อมทั้งเอาฝ่ามือปาดทับให้ริมฝีปากแห้งสนิทก่อนที่มันจะอุบาทว์มากไปกว่านี้ ในขณะที่สมองส่วนร้ายที่มีอยู่เพียงน้อยนิดในหัวผมบอกผมว่า ควรจะเอาบัตรเชิญไปคืนเขา แต่สมองส่วนดีที่เป็นเซลสมองก้อนใหญ่ในหัวกลับบอกผมว่า สวมรอยไปเองเลยดีกว่า แล้วตอนนี้เองที่สามัญสำนึกจะต้องทำหน้าที่เป็นตุลาการในการตัดสิน ความรับผิดชอบชั่วดีเป็นเหมือนทนายฝ่ายโจทก์ที่คอยแก้ต่างให้แก่ผู้กระทำความผิดซึ่งคอยแย้งบอกว่า เอาไปคืนเขาเถอะ แต่อัยการฝ่ายที่ถูกต้องซึ่งเป็นอารมณ์ความรู้สึกกลับทำหน้าที่ตอกย้ำอย่างถี่ ๆ ตลอดเวลาว่า เหล้าฟรี หญิงเพียบ ... เหล้าฟรี หญิงเพียบ แล้วบนบัลลังก์แห่งการตัดสินก็ต้องมีบทสรุปสุดท้ายออกมา มันทำให้จิตใต้สำนึกผมต้องสั่งการให้ปากพูดออกมาอย่างดัง ๆ ว่า ... เย้ ๆ ... พรุ่งนี้ได้ไปงานเลี้ยงแล้ววุ้ย(ทำไมตรูชั่วขนาดนี้ฟ่ะ?) ดีเลยจะได้ไม่ต้องพาแม่ไปโรงพยาบาลด้วย ผมไม่ได้เผลอแต่จงใจพูดออกมาให้สมองได้รับรู้ ผมคงได้ข้ออ้างสำหรับการที่ไม่ต้องพาแม่ไปโรงพยาบาลแล้ว เพราะว่าในวันพรุ่งนี้ผมมีนัดสำคัญ ผมจะต้องไปร่วมงานเลี้ยงสุดหรูที่ปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้นพรุ่งนี้ผมต้องสละหน้าที่อันใหญ่หลวงในการเป็นอภิชาตบุตรให้แก่พี่สาวผมแทน ผมยอมเป็นลูกที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือคดข้าวแทนก็ได้ครับ ซึ่งภาษาไทยมันอาจเพี้ยนเนื่องจากภาษามันดิ้นได้ คำมันปลิ้นเพราะว่ามีความหมายอยู่มากมายหลากหลายแล้วแต่ว่าใครจะแปลความ(ลูกที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือคดข้าว = ลูกทรพี โห ... ตรูคิดได้ไงเนี่ย?) ดังนั้นผมจึงไม่รอช้าที่จะแจ้งให้พี่สาวผมทราบในทันทีว่า ในวันพรุ่งนี้ตัวเขาต้องทำหน้าที่ในการพาคุณแม่ไปหาหมอตามนัดที่โรงพยาบาล แล้วผมก็ไม่รอช้าสำหรับการเตรียมเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมสำหรับใส่ไปงานเลี้ยงครั้งนี้ ผมเอาชุดสูทตัวงามออกมาจากตู้ในห้องเสื้อผ้าเพื่อนำมารีดปัดฝุ่นเตรียมไว้สำหรับการแปลงร่างเป็นคุณชายตามบัตรเชิญที่ระบุไว้ โอกาสดีที่เดียวที่ผมจะได้สวมรอยกลายเป็นคุณชายสุภาพบุรุษตามกระแสนิยมของสาว ๆ ในตอนนี้ เพียงแค่คิดในคืนนี้ผมคงนอนฝันได้เป็นซีรีย์เรื่องยาวตลอดทั้งคืนแน่ ๆ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑ พอถึงเวลาบ่ายของวันอาทิตย์หลังจากที่ผมจับคุณแม่ยัดใส่รถแท็กซี่ ... เฮ้ย ไม่ใช่ครับ หลังจากที่ผมได้ประครองพาคุณแม่ผมเข้าไปนั่งในรถแท็กซี่ เพื่อเตรียมส่งให้พี่สาวผมพาท่านไปหาหมอที่โรงพยาบาลแล้ว ผมก็ไม่รอช้าที่จะรีบกลับเข้าบ้านไปเปลี่ยนชุดสุดหล่อมาดคุณชายสุดเฉียบที่ผมเตรียมไว้ สำหรับงานเลี้ยงสุดหรูที่กำลังรอผมไปปรากฏกายในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ผมไปถึงสโมสรสันนิบาตลูกนก ซึ่งอยู่ข้าง ๆ วังเฉลิมไทยในเวลาตามที่ระบุไว้ในบัตรเชิญพอดี ด้านหน้าของอาคารสถานที่จัดงานประดับประดาด้วยสีสันที่สวยโดดเด่นเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่ต้อนรับด้านหน้างานกล่าวต้อนรับผมอย่างที่ไม่มีใครสงสัยเลย ผมแจ้งระบุตัวตนของผมให้ดูสง่างามเหมาะสมกับบัตรเชิญที่ผมถือมาด้วยผม .. สุภาพบุรุษคนสุดท้าย คุณชายทรพีร์ ครับ
ผมรีบบอกนามพร้อมทั้งยื่นบัตรเชิญให้แก่เจ้าหน้าที่ต้อนรับ ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมเอาสมองส่วนใดคิด ถึงได้เป็นชื่อปลอมสุดวิเศษนามนี้ออกมาได้ พอผมพูดแจ้งชื่อเสร็จผมก็แอบนึกยิ้มกระย่องใจอย่างเสียไม่ได้ว่า ตัวผมนี่คือสุดยอดในกระบวนการเนียนหลอกแดกแบบสุดโต่งเลยครับ พนักงานต้อนรับยิ้มตอบให้แก่ผมอย่างที่ไม่มีใครสงสัยเลย เธอจะเอาเข็มกลัดดอกไม้สดสีม่วงมาติดที่หน้าอกเสื้อสูทของผม แต่ผมไหวตัวทันเนื่องจากผมไม่อยากแสดงตัวให้โดดเด่นในงานมากนัก เพราะกลัวว่าคนอื่นจะจับได้ ผมเลยขออนุญาตเก็บเข็มกลัดนั้นไว้ในกระเป๋าเสื้อด้านในแทน เมื่อผมเดินเข้าไปข้างในก็รับรู้ได้ถึงความคึกคักของงานเลี้ยงนี้ได้ ในงานสุดหรูอลังการนี้มีแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงานกว่า 300 คน ส่วนใหญ่จะเป็นสุภาพสตรีเป็นหลัก ซึ่งหญิงสาวแต่ละคนดูแล้วคงเป็นผู้ดีมีจะกินแน่ ๆ เพราะว่าเธอแต่ละคนแต่งตัวด้วยชุดราตรีอันงามเลิศ ทั้งชุดราตรีสั้นและชุดราตรียาว ทั้งชุดประดับลายและประดับเลื่อม แต่ละคนต่างก็ใส่ชุดเว้าแหว่งที่เน้นโชว์ส่วนสัดและเนื้อหนังมังสากันแบบจะ ๆ ทั้งทรวดทรงองค์เอว ไม่ว่าจะเป็นหน้าอกหรือหน้าใจ เนินโค้งหรือโนนสไลด์ เหลือบมืดหรือหลุมดำ พวกเธอต่างก็งัดออกมาประชันโชว์กันให้เห็นอย่างเต็มที่ ผมกวาดสายหมุนมองโดยรอบ 360 องศาแล้วผมก็ต้องตาค้างอ้าปากหวอจนน้ำลายเกือบไหลออกจากปาก แต่โชคดีที่ผมขอยืมท่อดูดน้ำลายกลับของทันตแพทย์มาติดตั้งไว้ในปากเรียบร้อยแล้ว ไม่อย่างนั้นเสื้อสูทสุดสวยของผมคงเปียกโชกไปด้วยน้ำลายของตัวผมเองเป็นอย่างแน่ ผมสังเกตดูแล้วเห็นว่าในงานนี้มีสุภาพบุรุษมาร่วมงานน้อยกว่าสุภาพสตรี ที่เห็นส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ชายสูงอายุที่ดูดี ซึ่งวางตัวอย่างสุภาพเรียบร้อย ดูแล้วคงไม่ต่างจากคุณชายที่ออกมาจากรั้วจากวังเป็นอย่างแน่ แต่ตัวผมก็ไม่ต้องกลัวว่าจะแพ้ใครหลอกครับ เพราะว่าตัวผมก็มาดเท่ห์ที่ดูงามสง่าไม่แพ้คุณชายท่านใดในงานนี้ และด้วยความที่ผมดูอ่อนเยาว์กว่าเยอะ ซึ่งแน่ล่ะผมย่อมได้เปรียบมากกว่าชายผู้สูงวัยเป็นอย่างมาก โดยดูได้ในขณะที่ผมเดินเข้าไปในงานเลี้ยงนั้น สาวสวยที่อยู่ในงานทั้งหลายต่างก็ชายตาหันมามองผมเป็นตาเดียวกันหมด ไม่ว่าผมจะเคลื่อนกายย้ายร่างไปทางทิศไหนก็ตาม สายตาของคุณเธอเกือบทุกคนในงานก็จับจ้องและเฝ้ามองมาที่ผมโดยตลอด ก็จะให้ทำอย่างไรได้ล่ะครับ ก็สุภาพบุรุษคนสุดท้าย คุณชายทรพีร์ได้มาถึงงานแล้วไงครับ แต่เมื่อมีสาวสวยจ้องมองผมเยอะมากเกิน ผมก็รู้สึกประหม่าได้เช่นกันครับ เวลาที่ผมมีอาการเขินอาย มือไม้ผมมักจะสั่นและริมฝีปากจะแห้งขึ้นมาทันที ซึ่งอาการแบบนี้สามารถแก้ได้ไม่ยากโดยการเอาเครื่องดื่มรสขมที่เย็น ๆ มากระแทกปาก เพียงแค่ให้แอลกอฮอล์ไหลผ่านหลอดลมลงสู่กระเพาะอาหารเท่านั้นอาการมือไม้สั่นก็จะหายสนิทเป็นปิดทิ้ง ว่าแล้วผมก็มองส่งสายตากวาดหาบริกรที่เสิร์ฟเหล้าครับ แล้วก็เหมือนสั่งได้ครับ สาวเสิร์ฟคนหนึ่งเดินถือถาดใส่แก้วแชมเปญทรงสูงมาหาผม ผมไม่ลังเลที่จะหยิบแก้วใสใบสวยในถาดนั้นขึ้นมา 2 แก้ว แล้วผมยกมันขึ้นกระดกใส่ปากรวดเดียวจนหมดต่อกันทั้งสองแก้ว จนผมลืมเก๊กมาดคุณชายผู้สูงส่งไปชั่วขณะ แหว่ะ ... ไวน์คลูเล่อร์เนี่ยหว่า ปากผมอาจจะไวแต่ว่าลิ้นผมทำงานช้าครับ กว่าที่ต่อมรับรสซึ่งอยู่ตรงโคนลิ้นจะประมวลผลข้อมูลส่งไปยังสมองว่า น้ำในแก้วที่ผมดื่มนั้นมันแค่ไวน์อ่อน ๆ ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่ถึง 4 เปอร์เซ็นต์ ผมก็หยิบไวน์แก้วที่ 3 ขึ้นมาถือเตรียมไว้ในมือแล้ว เหล้าไม่มีเหรอ? ผมได้แต่คิดอยู่ในใจ พร้อมทั้งคิดว่าจะเอาไวน์แก้วที่ 3 ซึ่งอยู่ในมือผมตอนนี้ไปวางทิ้งไว้ที่ไหนดี เพราะว่าในวันนี้ผมจัดสรรพื้นที่ในท้องเตรียมไว้สำหรับรองรับสุรารสเยี่ยมเท่านั้น ผมไม่น่าพลาดดื่มไวน์กระจอก ๆ เข้าไปก่อนเลย ว่าแล้วผมก็มองหาทางที่จะไปห้องน้ำ ผมคงต้องรีบเอาไวน์ชั้นต่ำออกไปจากกระเพาะปัสสาวะโดยเร็วที่สุด ประตูทางออกไปห้องน้ำนั้นน่าจะอยู่ทางด้านข้างเวทีเป็นแน่ ผมเดินตรงไปยังเป้าหมายนั้นทันที เมื่อผมเดินไปถึงห้องน้ำผมกลับมองไม่เห็นป้ายบอกที่ชัดเจนว่าเป็นสุขาชายหรือว่าสุขาหญิง แต่สายตาของผมว่องไวกว่าความคิดเป็นอย่างมาก ในทันทีที่ผมเหลือบมองเข้าไปเห็นโถยืนปัสสาวะซึ่งอยู่ด้านในนั้น สมองก็รีบสั่งการบอกผมว่ามันต้องเป็นสถานที่ปลดทุกข์ของคุณสุภาพบุรุษเป็นอย่างแน่ ผมเดินตรงไปเข้ายังโถปัสสาวะที่ตั้งเรียงรายอยู่ที่ผนังด้านหนึ่ง ในขณะที่ผมกำลังก้าวย่างอย่างงามสง่านั้นเอง ผมก็ไม่เสียเวลาที่จะรูดซิปกางเกงลงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นลำกล้องไว้ในสถานะพร้อมยิงได้ทันที แต่บังเอิญว่าสายตาอันว่องไวของผมเหลือบไปเห็นชายกระโปรงของชุดราตรียาวสีแดงเข้มกำลังจะโผล่พ้นออกมาจากห้องน้ำด้านในสุด ผมก็เลยต้องเปลี่ยนเป้าหมายโดยเคลื่อนตัวแทรกเข้าไปในห้องน้ำห้องแรกที่ว่างอยู่ได้พอดีเลย ผมคิดในใจว่าผมคงเคลื่อนตัวเข้ามาได้ไวจนหญิงสาวเจ้าของกระโปรงแดงนั้นคงไม่ทันมองเห็นผมแน่ ๆ ผู้หญิงเข้าห้องน้ำผิด ส้มหล่นแต่หัววันเลยวุ้ย ผมคิดขึ้นในใจพร้อมทั้งแอบมองลอดผ่านช่องประตูห้องน้ำที่ผมแค่แง้มปิดไว้ ผมแอบมองออกมาเห็นสาวสวยในชุดราตรียาวสีแดงกำลังเดินไปยืนที่อ่างล้างมือหน้ากระจก เธอกำลังตรวจเช็คสภาพเรือนร่างของตัวเอง เธอจับทรวงอกของเธอเคลื่อนขึ้นลงเพื่อขยับเนื้อนูนส่วนนั้นให้เข้าที่เข้าทาง ผมได้แต่ยืนเอามือป้องปากไว้และจ้องมองดูเธออย่างเงียบ ๆ โดยไม่ย้อมให้มีเสียงใดแพร่งพรายออกมาอย่างเด็ดขาด ผมกลัวว่าเธอจะรู้ตัวเสียก่อนว่ามีผมแอบดูเธออยู่ แล้วผมก็เหมือนถูกหวยสองชั้นซ้อน เมื่อผมชำเลียงมองผ่านซอกประตูไปเห็นหญิงสาวสวยใส่ชุดราตรีสั้นสีเขียวอีกคนหนึ่งเดินพลัดหลงเข้ามาในห้องน้ำชายแห่งนี้เหมือนกัน มันเหมือนกับว่าซื้อเลขท้ายสองตัวแล้วถูกตรง ๆ แถมยังมีเลขที่ออกสามตัวเป็นเลขชุดตัวเดียวกันอีก แบบนี้เรียกว่าถูกซ้ำถูกซ้อน ถูกแล้วถูกอีก โชคดีแบบสองต่อเพราะว่าอยู่ดี ๆ ก็มีหญิงสาวสวยหลงเข้ามาในห้องน้ำให้ผมได้ยลโฉมในเวลาไล่เรื่อยกันถึงสองคนติดเลย สาวชุดราตรีสั้นสีเขียวสุดสวยคนล่าสุด เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงข้ามห้องน้ำที่ผมแอบอยู่พอดีเลย ผมเห็นนวลนางท่านนี้หยุดยืนแล้วหันหน้าเข้าหาโถยืนปัสสาวะ เธอจับปลายกระโปรงสั้นที่อยู่ต้นขาของเธอถลกขึ้นมาจนเห็นแก้มก้นที่ขาวนวล ซึ่งแน่นอนที่สุด เธอไม่ได้ใส่กางเกงใน แก้มก้นอันขาวผ่องนั้นมันลอยเด่นอยู่ตรงช่องที่ผมแอบดูอยู่พอดีเลย เธอใช้ทั้งสองมืองัดเอาอะไรบางอย่างที่คล้ายกับขวดโค้กซึ่งซ่อนอยู่ตรงระหว่างต้นขาของเธอออกมา แล้วเธอก็ยืนแอ่นตัวไปข้างหน้าและเงยหน้าขึ้นมองเพดาน อ๊าก ก ก ก ก เธอส่งเสียงร้องครางออกมาเหมือนว่ากำลังปลดปล่อยอะไรบ้างอย่างอยู่ ตั้งแต่ตัดกระเจี้ยวทิ้งไปเนี่ย เยี่ยวลำบากมาก พี่ไม่ถนัดนั่งฉี่เลยอ่ะ สาวสวยในชุดราตรียาวสีแดงที่เพิ่งล้างมือเสร็จหันมาพูดกับหญิงสาวที่ผมกำลังแอบมองก้นของเธออยู่ แหมคุณพี่รัมภา ... คุณพี่ผ่าแล้วก็โชคดีกว่าหนูเยอะ ที่หนูยังยืนฉี่อยู่ได้ก็เพราะว่าหนูไม่มีเงินไปตัดทิ้งเหมือนคุณพี่หรอกค่ะ หญิงสาวที่กำลังยืนถลกกระโปรงโชว์แก้มก้นหันไปพูดตอบ น่าเสียดายเนอะ ถ้าบาร์เกย์สุราเทพของเรายังไม่เลิกกิจการไปเสียก่อน ป่านนี้น้องเพียงขวัญคงเก็บเงินจากกระทิงเฒ่ามาผ่าเซาะร่องแบบพี่ได้แน่ ๆ น้ำเสียงของเธอที่เปล่งออกมานั้นดูเหมือนจะให้กำลังใจแก่คนที่กำลังยืนอยู่หน้าโถปัสสาวะเป็นอย่างมาก แต่ก็ดีที่หนูยังไม่ได้ผ่าทิ้ง อย่างน้อยหนูก็ยังได้ใช้ไขเจาะประตูหลังชายหนุ่มได้อีกเยอะเลยค่ะ เธอพูดขึ้นพร้อมทั้งเขย่าสะบัดอะไรบางอย่างที่คล้ายกับกระบอกไฟฉายซึ่งอยู่ในมือของเธอ ผมต้องรีบละสายตาจากก้อนก้นอันกลมงอนของเธอในทันที ผมเลี่ยงตัวหลบหน้าออกจากซอกประตูที่ผมได้แง้มไว้ ผมก็ค่อย ๆ ดึงมันอย่างแผ่วเบาให้มันปิดสนิทที่สุดก่อนที่จะลงกลอนอย่างแน่นหนา ผมต้องงอตัวลงนั่งบนโถส้วมแบบสโลโมชั่นเพื่อซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำอย่างเงียบ ๆ โดยไม่อยากให้หญิงสาวที่กำลังคุยกันอยู่ทั้งสองคนรู้ว่ามีผมอยู่ในห้วงอารมณ์นั้นด้วย หลังจากนั้นผมก็ไม่อยากรับรู้อะไรเพิ่มเติมอีกแล้วทั้งสิ้น ผมรู้สึกสิ้นหวังจากความสุขในการที่จะแอบดูหญิงสาวทั้งสองคนนี้แล้ว ผมอยากภาวนาให้ตัวเองนั้นสามารถหายตัวได้เหมือนนินจา ผมจะได้สลายร่างให้พ้นไปจากห้องอันไม่พึงสุขาแห่งนี้ในทันที แล้วผมก็ได้ยินเสียงวี้ดว้ายคล้ายเก้งกวางอีกกลุ่มใหญ่กำลังเดินเข้ามาให้ห้องน้ำแห่งนี้ เสียงเหล่านั้นกำลังพูดคุยกันอย่างสนิทใจเหมือนรู้จักกันมาเนิ่นนานหลายสิบปี พวกเธอเหล่านั้นกำลังเดินเข้ามาทำธุระพร้อมกับเม้าท์กันอย่างสนุกปากในสถานที่รโหฐานแห่งนี้ เสียงอันเสแสร้งดังกังวานคล้ายหญิงสาวเหล่านั้นได้ทำลายโสตประสาทอันงดงามของผมให้สูญสลายลงไปจนหมดสิ้น ผมรู้แล้วว่าทำไมองคุลีมารถึงได้สำนักตัวแล้วกลับกลายมาเป็นพระอรหันต์ได้ เพราะว่าในเวลาที่ผมเริ่มรู้สึกสำนึกผิดและคิดได้เช่นนี้ ผมก็เริ่มคิดถึงคุณแม่และพี่สาวของผมขึ้นมาในทันที ป่านนี้ท่านคงไปถึงโรงพยาบาลและได้พบหมอตรวจเสร็จแล้วแน่ ๆ ในตอนนี้ผมอยากจะเป็นคนทำหน้าที่ไปรับท่านกลับบ้านจังเลย แต่ว่าผมคงไปไม่ทันแล้วล่ะครับ เพราะว่ากว่าที่ผมจะหาทางออกไปจากห้องน้ำแห่งนี้ได้ ผมก็คงต้องรอให้มืดค่ำจนถึงเวลาที่งานเลี้ยงนี้เลิกราไปก่อนแน่ ๆ ครับ@@@@@@@@@@@@@@@คุยกันท้ายเรื่อง สาเหตุที่ผมเขียนเรื่อง คุณชายทรพีร์ นี้ขึ้นมาก็เพราะว่า ผมรู้สึกอิจฉาพวกคุณชายทั้งหลาย แห่งวังจุฑาเทพที่สาว ๆ กำลังกรี๊ดกร๊าดกันอยู่ทุกวันนี้ จนกระทั่งในคืนวันหนึ่งผมดันไปโพสสถานะในเฟสบุ๊คส์ให้สาว ๆ หมั่นไส้เล่นว่า ตัวผมเนี่ยล่ะคือคุณชายหนึ่งในสุภาพบุรุษจุฑาเทพเหมือนกัน ผมคือ คุณชายทรพีร์ ซึ่งพอผมโพสเป็นข้อความไปแล้วเพื่อน ๆ หลายท่านเลยยุให้ผมเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา โดยบอกว่าจะรออ่านเรื่องนี้ ซึ่งผมก็พยายามนึกมุกอยู่หลายวันเลยที่เดียว เรียกว่ากว่าที่ผมจะนึกมุกออกได้ละครของจริงก็ใกล้จะอวสานลงแล้ว สำหรับมุกที่ใช้ในเรื่องนี้ผมก็ใช้มุกเปลื้องตัวแบบเดิม ๆ ในสไตล์ของ อาคุงกล่อง ครับ ซึ่งท่านใดที่อ่านแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับ คุณชายทรพีร์ คนนี้ ก็ช่วยเหยียบย่ำ ประณามและซ้ำเติมทิ้งไว้ในช่องคอมเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผมด้วยนะครับ หวังว่าท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้คงจะพอได้อรรสรถความบันเทิงอยู่บ้างนะครับ อย่างไรก็ตามขอให้ถือว่าเป็นการอ่านเรื่องเล่น ๆ แบบขำขำนะครับ อย่าได้ซีเรียสและอย่าได้คิดมากนะครับ รวมทั้งขอให้ทุกท่านมีความสุขมาก ๆ ด้วยนะครับ อิอิ
Create Date : 05 กรกฎาคม 2556
47 comments
Last Update : 5 กรกฎาคม 2556 21:18:37 น.
Counter : 4096 Pageviews.
โดย: โจนบ้ากับป้าแก่ๆ IP: 115.67.34.2 5 กรกฎาคม 2556 0:20:14 น.
โดย: อุ้มสี 5 กรกฎาคม 2556 0:33:02 น.
โดย: เกลือหนึ่งกำน้อย IP: 88.91.96.194 5 กรกฎาคม 2556 2:24:55 น.
โดย: เนินน้ำ 5 กรกฎาคม 2556 16:03:43 น.
โดย: JewNid IP: 183.89.133.45 5 กรกฎาคม 2556 20:21:54 น.
โดย: sawkitty 9 กรกฎาคม 2556 14:50:02 น.
โดย: Sai Eeuu 9 กรกฎาคม 2556 19:52:39 น.
โดย: tifun 10 กรกฎาคม 2556 15:23:52 น.
โดย: เนินน้ำ 10 กรกฎาคม 2556 22:49:22 น.
โดย: tanjira 11 กรกฎาคม 2556 10:05:38 น.
โดย: andrex09 11 กรกฎาคม 2556 20:51:36 น.
โดย: หอมกร 12 กรกฎาคม 2556 22:57:02 น.
โดย: กิ่งฟ้า 13 กรกฎาคม 2556 10:56:50 น.
โดย: sawkitty 15 กรกฎาคม 2556 15:41:45 น.
โดย: Tristy 16 กรกฎาคม 2556 11:09:56 น.
โดย: andrex09 17 กรกฎาคม 2556 22:05:57 น.
โดย: andrex09 18 กรกฎาคม 2556 21:44:43 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [? ]
อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า อาคุงกล่อง เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ ปัจจุบัน อาคุงกล่อง เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม อาคุงกล่อง จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย "ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ" ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ) akungklong@gmail.com