Group Blog
 
<<
มกราคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 มกราคม 2558
 
All Blogs
 
บ้านหนังสือในหัวใจ

22 มกราคม 2558






วันนี้ผมขออนุญาตรีวิวแนะนำหนังสือของศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์คนล่าสุด ซึ่งก็คือ อ.ชมัยภร แสงกระจ่าง หรือที่บางท่านอาจจะรู้จักในนามของนักวิจารณ์วรรณกรรมชื่อดังของเมืองไทย ไพลิน รุ้งรัตน์ นั้นเองครับ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเนื่องในโอกาสที่ท่านได้รับเกียรติอันทรงคุณค่าสูงสุดในตำแหน่งศิลปินแห่งชาติหนึ่งเดียวใน พ.ศ. 2558 นี้

ส่วนสาเหตุที่ผมเลือกหนังสือชื่อ “บ้านหนังสือในหัวใจ” เล่มนี้มารีวิวแนะนำก็เพราะว่า หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเล่มแรกที่ทำให้ผมรู้จักกับ อ.ชมัยภร แสงกระจ่าง เพราะผมซื้อหนังสือเล่มนี้จากบูธของสำนักพิมพ์คมบางในปี 2551 แล้วผมก็ได้ลายเซ็นของผู้ประพันธ์ด้วยครับ หลังจากนั้นผมก็ได้ตามอ่านผลงานของ อ.ชมัยภร แสงกระจ่าง ต่อในเล่มอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งนวนิยายและวรรณกรรมเยาวชน











สำหรับหนังสือ “บ้านหนังสือในหัวใจ” นี้มีคำอธิบายชื่อหนังสือไว้ด้วยว่า “โลกอ่อนไหวของหัวใจรักการอ่าน” ซึ่งเป็นการบันทึกเรื่องราวของนักอ่านที่มีความหลงใหลในตัวอักษรที่เรียกว่า “วรรณรำลึก ของ ไพลิน รุ้งรัตน์” โดยมีคำเปรียบเปรยที่ผู้เขียน (อ.ชมัยภร แสงกระจ่าง) กล่าวไว้ว่า

“การได้อ่านหนังสือคือการท่องเที่ยวเข้าไปในดินแดนแห่งตัวหนังสือหรือโลกหนังสือ หนังสือกับความเป็นจริงต่างอิงกันอย่างแนบแน่น จนเป็นเหตุให้หนังสือสามารถใช้เป็นบทเรียนในชีวิตจริงได้”

หนังสือ “บ้านหนังสือในหัวใจ” เล่มนี้เป็นการเขียนถึงหนังสือดีหรืองานวรรณกรรมที่ อ.ชมัยภร แสงกระจ่าง ได้อ่านมาทั้งหมดในชีวิตของท่าน (หนังสือเล่มนี้พิมพ์ในปี 2533) โดยมีชื่อหนังสือและชื่อนักเขียนต่าง ๆ มากมายทั้งไทยและต่างประเทศ ผู้เขียนเล่าถึงเรื่องราวโดยย่อหรือจุดเด่นของหนังสือเล่มที่เคยได้อ่าน รวมทั้งได้เล่าถึงเหตุที่ทำให้ได้อ่านหนังสือเล่มนั้น ๆ ด้วย ลักษณะการเขียนเป็นบทความหรือที่เรียกว่าความเรียงเพื่อเล่าถึงหนังสือเล่มต่าง ๆ โดยเปรียบเทียบว่าหนังสือทั้งหมดอยู่ในหัวใจของท่านที่เป็นเหมือนบ้านหลังหนึ่ง บ้านหนังสือหลังนี้แบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ จำนวน 10 ห้อง แต่ละห้องมีการใช้สัญลักษณ์สีแทนอารมณ์เพื่อแยกประเภทของหนังสือ ทำให้ง่ายต่อการเล่าอธิบายมากขึ้น ด้วยความที่ผู้เขียนเป็นคนที่รักการอ่าน จึงมีหนังสือจำนวนมากมายที่ถูกพูดถึงในหนังสือเล่มนี้ แต่ก็น่าเสียดายว่าบางเล่มที่ผู้เขียนพูดถึงเป็นหนังสือเก่า ที่ปัจจุบันอาจจะหาอ่านได้ยากเนื่องจากไม่มีพิมพ์ขายในร้านหนังสือทั่วไป ถ้าอยากจะไปตามหามาอ่านกันจริง ๆ คงต้องไปหาอ่านจากในหอสมุดแห่งชาติเป็นแน่

สำหรับการแบ่งแยกหนังสือต่าง ๆ นั้น ผู้เขียนได้เปรียบเป็นห้องต่าง ๆ ซึ่งมีสีแตกต่างกันไปดังนี้ ห้องที่ 1 ม่วงมณีแห่งความกระหายใคร่รู้ ซึ่งเป็นการเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้ผู้เขียนกลายเป็นคนที่รักการอ่าน โดยมีหนังสือเล่มใดบ้างที่เป็นจุดเริ่มต้นในการอ่าน , ห้องที่ 2 ขาวสดใสแห่งวัยเยาว์ เล่าถึงหนังสือที่ได้อ่านในวัยเด็ก วรรณกรรมเยาวชนและนิทานต่าง ๆ , ห้องที่ 3 ชมพูแพรแห่งความเพ้อฝัน เล่าถึงหนังสือนวนิยายแนวพาฝัน หรือนวนิยายรัก ๆ ใคร่ ๆ แนวโรแมนติคที่สาว ๆ ทั้งหลายชอบอ่าน , ห้องที่ 4 ละมุนฟ้าแห่งความอ่อนไหว เล่าถึงหนังสือร้อยกรองและหนังสือบทกวีต่าง ๆ ที่สร้างประทับใจได้อย่างไม่รู้ลืม

ห้องที่ 5 เขียวเข้มแห่งพลังและการค้นพบ เล่าถึงหนังสือรวมเรื่องสั้นต่าง ๆ ที่อ่านแล้วเกิดพลังจากการตีความหมายในเรื่อง , ห้องที่ 6 เหลืองไสวแห่งชีวิต เล่าถึงหนังสือนวนิยายแนวสร้างสรรค์ที่ไม่ใช่นิยายรัก เป็นหนังสือในแนวให้ความหมายแก่ชีวิต , ห้องที่ 7 เนื้อนิลแห่งการค้นหา เล่าถึงหนังสือที่เนื้อเรื่องมีการใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ในการค้นหาความหมายและการตีความ , ห้องที่ 8 เด่นแดงแห่งหรรษา เล่าถึงหนังสือในแนวบันเทิงชวนหัว หัสคดี ตลกขบขัน ที่อ่านแล้วให้ความหรรษาแก่ชีวิต , ห้องที่ 9 เทาเสน่ห์แห่งวรรณกรรมต่างแดน เล่าถึงหนังสือวรรณกรรมเอกของโลกและเรื่องแปลต่าง ๆ และห้องที่ 10 ทองธรรมอันทาบทาใจ เล่าถึงหนังสือธรรมะทั้งหลาย ที่อ่านแล้วชี้ให้เห็นสัจธรรมแห่งชีวิต











ด้วยความที่ผู้เขียนนอกจากจะเป็นนักเขียนที่รักการอ่านแล้ว ผู้เขียนยังเป็นนักวิจารณ์วรรณกรรมอีกด้วย จึงทำให้ผู้เขียนเล่าถึงหนังสือเล่มต่าง ๆ นั้นได้อย่างทะลุปุเปลือก เรียกว่าเป็นการเลาะตะเข็บแกะความหมายเนื้อในของเรื่องออกมาได้อย่างชัดเจน อาทิเช่น ผู้เขียนเล่าถึงหนังสือของนักเขียนนวนิยายสามท่านคือ ทมยันตี , กฤษณา อโศกสิน และสีฟ้า ว่าอ่านผลงานของนักเขียนทั้งสามท่านนี้แล้วได้อะไรบ้าง?

ทมยันตี สอนให้ผู้อ่านรู้จักคำว่ารสชาติของชีวิตนั้นเป็นเช่นไร โศกเศร้าเจ็บแสบปวดร้อนประการใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความเป็นผู้หญิง , ส่วนกฤษณา อโศกสิน เป็นผู้เชียวชาญอย่างยิ่งในการให้รายละเอียดของชีวิต ได้สอนให้ผู้อ่านรู้จักการพินิจโลกและชีวิตอย่างมีรายละเอียด , ส่วนสีฟ้า นั้นสอนโลกกว้างทางไกลให้แก่ผู้อ่าน เรื่องของสีฟ้ามักสร้างความฉงนในความเป็นชีวิต รวมทั้งให้แนวคิดที่มีผลกระทบต่อสังคมอย่างแท้จริง

“ความแปลกใหม่ของชีวิตในหนังสือ เกิดขึ้นเคียงขนานไปกับการเรียนรู้ชีวิตที่เพิ่มขึ้น โลกไม่ได้มีแต่สีชมพูอย่างที่เคยฝันไว้ และนักเขียนก็คือครูสอนเรื่องโลกและชีวิตให้ผู้อ่านเพิ่มเติมจากการเรียนในสถาบันและด้วยประสบการณ์ส่วนตัว”

หนังสือ “บ้านหนังสือในหัวใจ” เล่มนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักอ่านและนักเขียนทุกท่าน สำหรับนักอ่านนั้นเมื่อท่านได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วท่านจะได้ทราบว่ามีหนังสือที่ดี ๆ เล่มไหนบ้างที่ท่านควรจะอ่าน ส่วนนักเขียนนั้นเมื่อได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วก็จะได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนควบคู่ไปด้วย ถือว่าเป็นความรู้ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการนำไปใช้พัฒนาฝีมือการเขียนของท่าน ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงเสมือนว่าเป็นตำราชั้นดีสำหรับผู้ที่รักในงานวรรณกรรมเป็นอย่างยิ่ง




  ปกหลังที่เป็นเอกลักษณ์ของสำนักพิมพ์คมบาง






นอกจากนั้นผู้เขียนยังพูดถึงการอ่านหนังสือว่า

“ตัวหนังสือทุกตัวมีชีวิต มีความจริง และมีความรู้อยู่อย่างครบถ้วน ไม่มีใครนำสิ่งเหล่านั้นใส่เข้าไปในหัวของท่านได้ หากว่าท่านไม่ได้อ่านมันด้วยตัวของท่านเอง”

หนังสือชื่อ “บ้านหนังสือในหัวใจ” เล่มนี้ จัดพิมพ์รวมเล่มครั้งแรกในปี 2533 โดยสำนักพิมพ์คมบาง ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ของ อ.ชมัยภร แสงกระจ่าง ราคาปก 105 บาทด้วยความหนา 118 หน้า เหมาะสมสำหรับการหาซื้อมาอ่านเป็นอย่างยิ่งครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการอ่านหนังสือนะครับ




Create Date : 22 มกราคม 2558
Last Update : 22 มกราคม 2558 15:06:26 น. 31 comments
Counter : 3544 Pageviews.

 
เจิมๆๆๆ

แค่ชื่อก็โดนใจแล้วค่ะ

Vote Vote Vote



กด Vote or book blog แล้ว แต่ Copy ไม่ติดค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 22 มกราคม 2558 เวลา:16:35:08 น.  

 
น่าอ่านมากๆเลยครับ


โดย: ruennara วันที่: 22 มกราคม 2558 เวลา:19:22:25 น.  

 


โดย: หอมกร วันที่: 22 มกราคม 2558 เวลา:20:32:17 น.  

 
ปกหลังเทห์มาก


โดย: tiensongsang วันที่: 22 มกราคม 2558 เวลา:22:51:59 น.  

 
ขอบคุณค่ะคุณกล่อง

โลกอ่อนไหวของหัวใจรักการอ่าน.. เท่พอกะปกหลังเลยค่ะ
โลกของการอ่าน


โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 22 มกราคม 2558 เวลา:23:08:48 น.  

 
ว้าวๆๆๆ น่าอ่านจังค่ะคุณกล่อง
ปีที่แล้วหายไปจริงๆค่ะ
ว่าจะขยันอัพบล็อก แต่ก็อัพไม่ถึงสิบบล็อกในหนึ่งปี ฮ่าๆ

ปีนี้ตั้งใจจะเข้ามาบ่อยขึ้น ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า

วันศุกร์แล้ว มีความสุขจ้า พรุ่งนี้พักแล้ว


โดย: fonrin วันที่: 23 มกราคม 2558 เวลา:7:05:27 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
โหวตเรียบร้อยแล้วจ้า ปีนี้ขยันอัพหน่อยนะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog





โดย: หอมกร วันที่: 23 มกราคม 2558 เวลา:8:57:30 น.  

 
อ่านหนังสือ แต่เล่าอะไรให้ใครฟังไม่ค่อยเป็นค่ะ เวลาใครถามว่า เรื่องเป็นยังไง เนื้อหาประมาณไหน ตอบเค้าไม่ได้ ยิ่งพูดยิ่งมั่ว


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปีศาจความฝัน Movie Blog ดู Blog
sirivinit Hobby Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


*** แสตมป์ ซองวันแรกจำหน่าย หลายชุด ได้มาจากงานหนังสือฯ ค่ะ ไม่ได้ตามซื้อในวัน ปี ที่จำหน่ายครั้งแรก


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 23 มกราคม 2558 เวลา:13:55:34 น.  

 
เพิ่งจะซื้อหนังสือของอาจารย์มาเล่มหนึ่งค่ะ

แต่ยังไม่รู้ว่าจะได้อ่านเมื่อไหร่เลยค่ะคุณอาคุงกล่อง


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 23 มกราคม 2558 เวลา:17:10:41 น.  

 
เห็นหนังสือที่คุรกล่อนแนะนำแล้ว ชวนให้นึกถึงน้ำเสียงของ อ. ชมัยภร ครั้งที่ท่านวิเคราะห์งานวรรณกรรมต่างๆให้ฟังทางวิทยุ หรืออาจเป็นหนังสือเล่มนี้ด้วยก็ได้ น่าฟังมากครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 23 มกราคม 2558 เวลา:20:56:37 น.  

 
ขอแก้คำผิดครับ "คุุรกล่อน" เป็น "คุณกล่อง"


โดย: Insignia_Museum วันที่: 23 มกราคม 2558 เวลา:20:58:41 น.  

 
วังพญาไท เข้าทาง รพ. พระมงกุฎเลยค่ะ เดินทะลุถึงกัน บริเวณเดียวกัน รั้วเดียวกันเลยค่ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 23 มกราคม 2558 เวลา:21:12:26 น.  

 
เราชอบอ่านหนังสือแบบนี้นะ บางทีก็ได้แง่คิดใหม่ๆ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ


โดย: PZOBRIAN วันที่: 23 มกราคม 2558 เวลา:23:26:42 น.  

 
เห็นชื่อ ชมัยภร แสงกระจ่าง แล้วนึกถึง อาจารย์หัวบาน ในเรื่อง กุหลาบในสวนเล็กๆ เลยอ่าพี่กล่อง..


โดย: rommunee วันที่: 24 มกราคม 2558 เวลา:0:13:37 น.  

 
ก้าวเท้าตามมาอ่านรีวิวหนังสือเล่มนี้ด้วยคร้า
เขียนรีวิวจนอยากจะมีไว้อ่านเองบ้าง
ขอบคุณค่ะคุณอากล่อง
โหวตสาขา Book blog ให้ด้วยเลยจร้า

ปล. อย่าลืม นัดที่ 2 ร่วมลุ้นทีมรักเข้าชิงแชมป์ได้อีกสมัยด้วยกันน๊อ....


โดย: Tui Laksi วันที่: 24 มกราคม 2558 เวลา:5:58:02 น.  

 
น่าอ่านมากๆเลยค่ะ

โหวตสาขา Book Blog ให้นะคะ


โดย: hi hacky วันที่: 24 มกราคม 2558 เวลา:15:02:19 น.  

 
แวะมาเยี่ยมเยียนนะครับ น้องใหม่ขอฝากตัวใน bloggang ด้วยนะครับ
ว่างๆแวะไปเยี่ยมกันบ้างนะค๊าบบบ...


โดย: Ariawah Auddy วันที่: 24 มกราคม 2558 เวลา:22:31:38 น.  

 
ดีใจนะคะที่เมนูที่บ้านวันนี้ถูกใจอาคุงกล่องค่ะ
แล้วก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยค่ะ

ตัวหนังสือทุกตัวมีชีวิตจริง ๆ ค่ะ บางเรื่องอ่านแล้ววางไม่ลงก็มี
เคยนะคะติดพันอ่านจนจบเล่มสว่างคาตาเลยค่ะ
หลังจากเม้นท์คุณกล่องแล้วก็คงต้องไปนอนแล้วค่ะ สาว ๆ นอนดึกมากไม่ดีค่ะ เกรงว่าพรุ่งนี้จะหน้าไม่เด้ง 555
ราตรีสวัสดิ์นะคะ คืนนี้ฝันดีค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 25 มกราคม 2558 เวลา:0:31:56 น.  

 
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
แวะมาส่งกำลังใจค่ะ


โดย: Opey วันที่: 25 มกราคม 2558 เวลา:6:49:06 น.  

 
ชอบน้องกล่องรีวิวหนังสือว่าแล้วก็มาโหวตให้จ้า
โหวต Book Blog ให้แล้วเน้อ


โดย: อุ้มสี วันที่: 25 มกราคม 2558 เวลา:7:01:07 น.  

 





เนื้อเรื่อง ดี ..

หนังสือสวย ..

ปกหลังแปลกตา นะคะ ..


เรียกสายตาให้ ชวน มอง ..















โดย: foreverlovemom วันที่: 25 มกราคม 2558 เวลา:8:35:43 น.  

 
รีวิวได้ชวนอ่านมากค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 25 มกราคม 2558 เวลา:12:40:33 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณอาคุงกล่อง ^^

อยากอ่านหนังสือเก่ง ๆ แบบหลาย ๆ ท่านบ้างจังค่ะ
เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือเท่าไหร่
นอกจากมีความจำเป็นในเรื่องเรียนหรือเรื่องงานนะคะ


โดย: ปรัซซี่ วันที่: 25 มกราคม 2558 เวลา:19:47:40 น.  

 
สวัสดีครับพี่อาคุง

นักเขียนท่านนี้
เพิ่งได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติปีล่าสุดด้วยนะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มกราคม 2558 เวลา:6:04:31 น.  

 
อรุณสวัสดิ์เช้าวันจันทร์นะค๊าบบบ...
ขอบคุณที่แวะไปแนะนำ ติชมบล็อกนะครับ ได้ข้อคิดดีๆหลายๆอย่างเลยครับ


โดย: Ariawah Auddy วันที่: 26 มกราคม 2558 เวลา:10:53:33 น.  

 
ใช่ครับ คราวพระลักษมี ผมก็ว่าไม่น่าสนใจก็ไม่ไป

แต่ผมว่าในแต่ละคราว พช พระนครก็จัดวิทยากร
มือหนึ่งสายนั้นมาพูด เรื่องที่ธรรมดาเลยไม่ธรรมดาครับ

คราวพระบรมธาตุนั่นก็สุดยอดเหมือนกัน
คนพูดนี่ทำปริญญาเอกมาทางด้านนี้เลยทีเดียว


โดย: ผู้ชายในสายลมหนาว วันที่: 26 มกราคม 2558 เวลา:15:00:09 น.  

 
มีการแบ่งเป็นห้องๆ น่าสนใจจังค่ะ


โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 27 มกราคม 2558 เวลา:14:45:52 น.  

 
น่าอ่านค่ะ แสดงความยินดีกับคุณชมัยภรด้วย


โดย: sawkitty วันที่: 27 มกราคม 2558 เวลา:15:29:33 น.  

 





เกือบ ลืม ..












โดย: foreverlovemom วันที่: 27 มกราคม 2558 เวลา:16:11:05 น.  

 
ทักทายสวัสดีครับคุณกล่อง

หนังสือเล่มนี้ ได้อ่านจากที่รีวิวไว้ใน blog นี้
ชวนให้น่าติดตามกันมากๆ ครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวหนังสือดีๆ เล่มนี้ด้วยครับ


โดย: ถปรร วันที่: 28 มกราคม 2558 เวลา:0:05:24 น.  

 
แค่ชื่อก็น่าสนแล้วค่ะ


โดย: maistyle วันที่: 28 มกราคม 2558 เวลา:11:19:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อาคุงกล่อง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]




อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า “อาคุงกล่อง” เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ

ปัจจุบัน “อาคุงกล่อง” เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม “อาคุงกล่อง” จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย



"ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ"

ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ)

akungklong@gmail.com
Friends' blogs
[Add อาคุงกล่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.