บ้านหนังสือในหัวใจ
22 มกราคม 2558
วันนี้ผมขออนุญาตรีวิวแนะนำหนังสือของศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์คนล่าสุด ซึ่งก็คือ อ.ชมัยภร แสงกระจ่าง หรือที่บางท่านอาจจะรู้จักในนามของนักวิจารณ์วรรณกรรมชื่อดังของเมืองไทย ไพลิน รุ้งรัตน์ นั้นเองครับ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเนื่องในโอกาสที่ท่านได้รับเกียรติอันทรงคุณค่าสูงสุดในตำแหน่งศิลปินแห่งชาติหนึ่งเดียวใน พ.ศ. 2558 นี้
ส่วนสาเหตุที่ผมเลือกหนังสือชื่อ บ้านหนังสือในหัวใจ เล่มนี้มารีวิวแนะนำก็เพราะว่า หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเล่มแรกที่ทำให้ผมรู้จักกับ อ.ชมัยภร แสงกระจ่าง เพราะผมซื้อหนังสือเล่มนี้จากบูธของสำนักพิมพ์คมบางในปี 2551 แล้วผมก็ได้ลายเซ็นของผู้ประพันธ์ด้วยครับ หลังจากนั้นผมก็ได้ตามอ่านผลงานของ อ.ชมัยภร แสงกระจ่าง ต่อในเล่มอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งนวนิยายและวรรณกรรมเยาวชน
สำหรับหนังสือ บ้านหนังสือในหัวใจ นี้มีคำอธิบายชื่อหนังสือไว้ด้วยว่า โลกอ่อนไหวของหัวใจรักการอ่าน ซึ่งเป็นการบันทึกเรื่องราวของนักอ่านที่มีความหลงใหลในตัวอักษรที่เรียกว่า วรรณรำลึก ของ ไพลิน รุ้งรัตน์ โดยมีคำเปรียบเปรยที่ผู้เขียน (อ.ชมัยภร แสงกระจ่าง) กล่าวไว้ว่า
การได้อ่านหนังสือคือการท่องเที่ยวเข้าไปในดินแดนแห่งตัวหนังสือหรือโลกหนังสือ หนังสือกับความเป็นจริงต่างอิงกันอย่างแนบแน่น จนเป็นเหตุให้หนังสือสามารถใช้เป็นบทเรียนในชีวิตจริงได้
หนังสือ บ้านหนังสือในหัวใจ เล่มนี้เป็นการเขียนถึงหนังสือดีหรืองานวรรณกรรมที่ อ.ชมัยภร แสงกระจ่าง ได้อ่านมาทั้งหมดในชีวิตของท่าน (หนังสือเล่มนี้พิมพ์ในปี 2533) โดยมีชื่อหนังสือและชื่อนักเขียนต่าง ๆ มากมายทั้งไทยและต่างประเทศ ผู้เขียนเล่าถึงเรื่องราวโดยย่อหรือจุดเด่นของหนังสือเล่มที่เคยได้อ่าน รวมทั้งได้เล่าถึงเหตุที่ทำให้ได้อ่านหนังสือเล่มนั้น ๆ ด้วย ลักษณะการเขียนเป็นบทความหรือที่เรียกว่าความเรียงเพื่อเล่าถึงหนังสือเล่มต่าง ๆ โดยเปรียบเทียบว่าหนังสือทั้งหมดอยู่ในหัวใจของท่านที่เป็นเหมือนบ้านหลังหนึ่ง บ้านหนังสือหลังนี้แบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ จำนวน 10 ห้อง แต่ละห้องมีการใช้สัญลักษณ์สีแทนอารมณ์เพื่อแยกประเภทของหนังสือ ทำให้ง่ายต่อการเล่าอธิบายมากขึ้น ด้วยความที่ผู้เขียนเป็นคนที่รักการอ่าน จึงมีหนังสือจำนวนมากมายที่ถูกพูดถึงในหนังสือเล่มนี้ แต่ก็น่าเสียดายว่าบางเล่มที่ผู้เขียนพูดถึงเป็นหนังสือเก่า ที่ปัจจุบันอาจจะหาอ่านได้ยากเนื่องจากไม่มีพิมพ์ขายในร้านหนังสือทั่วไป ถ้าอยากจะไปตามหามาอ่านกันจริง ๆ คงต้องไปหาอ่านจากในหอสมุดแห่งชาติเป็นแน่
สำหรับการแบ่งแยกหนังสือต่าง ๆ นั้น ผู้เขียนได้เปรียบเป็นห้องต่าง ๆ ซึ่งมีสีแตกต่างกันไปดังนี้ ห้องที่ 1 ม่วงมณีแห่งความกระหายใคร่รู้ ซึ่งเป็นการเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้ผู้เขียนกลายเป็นคนที่รักการอ่าน โดยมีหนังสือเล่มใดบ้างที่เป็นจุดเริ่มต้นในการอ่าน , ห้องที่ 2 ขาวสดใสแห่งวัยเยาว์ เล่าถึงหนังสือที่ได้อ่านในวัยเด็ก วรรณกรรมเยาวชนและนิทานต่าง ๆ , ห้องที่ 3 ชมพูแพรแห่งความเพ้อฝัน เล่าถึงหนังสือนวนิยายแนวพาฝัน หรือนวนิยายรัก ๆ ใคร่ ๆ แนวโรแมนติคที่สาว ๆ ทั้งหลายชอบอ่าน , ห้องที่ 4 ละมุนฟ้าแห่งความอ่อนไหว เล่าถึงหนังสือร้อยกรองและหนังสือบทกวีต่าง ๆ ที่สร้างประทับใจได้อย่างไม่รู้ลืม ห้องที่ 5 เขียวเข้มแห่งพลังและการค้นพบ เล่าถึงหนังสือรวมเรื่องสั้นต่าง ๆ ที่อ่านแล้วเกิดพลังจากการตีความหมายในเรื่อง , ห้องที่ 6 เหลืองไสวแห่งชีวิต เล่าถึงหนังสือนวนิยายแนวสร้างสรรค์ที่ไม่ใช่นิยายรัก เป็นหนังสือในแนวให้ความหมายแก่ชีวิต , ห้องที่ 7 เนื้อนิลแห่งการค้นหา เล่าถึงหนังสือที่เนื้อเรื่องมีการใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ในการค้นหาความหมายและการตีความ , ห้องที่ 8 เด่นแดงแห่งหรรษา เล่าถึงหนังสือในแนวบันเทิงชวนหัว หัสคดี ตลกขบขัน ที่อ่านแล้วให้ความหรรษาแก่ชีวิต , ห้องที่ 9 เทาเสน่ห์แห่งวรรณกรรมต่างแดน เล่าถึงหนังสือวรรณกรรมเอกของโลกและเรื่องแปลต่าง ๆ และห้องที่ 10 ทองธรรมอันทาบทาใจ เล่าถึงหนังสือธรรมะทั้งหลาย ที่อ่านแล้วชี้ให้เห็นสัจธรรมแห่งชีวิต
ด้วยความที่ผู้เขียนนอกจากจะเป็นนักเขียนที่รักการอ่านแล้ว ผู้เขียนยังเป็นนักวิจารณ์วรรณกรรมอีกด้วย จึงทำให้ผู้เขียนเล่าถึงหนังสือเล่มต่าง ๆ นั้นได้อย่างทะลุปุเปลือก เรียกว่าเป็นการเลาะตะเข็บแกะความหมายเนื้อในของเรื่องออกมาได้อย่างชัดเจน อาทิเช่น ผู้เขียนเล่าถึงหนังสือของนักเขียนนวนิยายสามท่านคือ ทมยันตี , กฤษณา อโศกสิน และสีฟ้า ว่าอ่านผลงานของนักเขียนทั้งสามท่านนี้แล้วได้อะไรบ้าง?
ทมยันตี สอนให้ผู้อ่านรู้จักคำว่ารสชาติของชีวิตนั้นเป็นเช่นไร โศกเศร้าเจ็บแสบปวดร้อนประการใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความเป็นผู้หญิง , ส่วนกฤษณา อโศกสิน เป็นผู้เชียวชาญอย่างยิ่งในการให้รายละเอียดของชีวิต ได้สอนให้ผู้อ่านรู้จักการพินิจโลกและชีวิตอย่างมีรายละเอียด , ส่วนสีฟ้า นั้นสอนโลกกว้างทางไกลให้แก่ผู้อ่าน เรื่องของสีฟ้ามักสร้างความฉงนในความเป็นชีวิต รวมทั้งให้แนวคิดที่มีผลกระทบต่อสังคมอย่างแท้จริง
ความแปลกใหม่ของชีวิตในหนังสือ เกิดขึ้นเคียงขนานไปกับการเรียนรู้ชีวิตที่เพิ่มขึ้น โลกไม่ได้มีแต่สีชมพูอย่างที่เคยฝันไว้ และนักเขียนก็คือครูสอนเรื่องโลกและชีวิตให้ผู้อ่านเพิ่มเติมจากการเรียนในสถาบันและด้วยประสบการณ์ส่วนตัว
หนังสือ บ้านหนังสือในหัวใจ เล่มนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักอ่านและนักเขียนทุกท่าน สำหรับนักอ่านนั้นเมื่อท่านได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วท่านจะได้ทราบว่ามีหนังสือที่ดี ๆ เล่มไหนบ้างที่ท่านควรจะอ่าน ส่วนนักเขียนนั้นเมื่อได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วก็จะได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนควบคู่ไปด้วย ถือว่าเป็นความรู้ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการนำไปใช้พัฒนาฝีมือการเขียนของท่าน ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงเสมือนว่าเป็นตำราชั้นดีสำหรับผู้ที่รักในงานวรรณกรรมเป็นอย่างยิ่ง
ปกหลังที่เป็นเอกลักษณ์ของสำนักพิมพ์คมบาง
นอกจากนั้นผู้เขียนยังพูดถึงการอ่านหนังสือว่า
ตัวหนังสือทุกตัวมีชีวิต มีความจริง และมีความรู้อยู่อย่างครบถ้วน ไม่มีใครนำสิ่งเหล่านั้นใส่เข้าไปในหัวของท่านได้ หากว่าท่านไม่ได้อ่านมันด้วยตัวของท่านเอง
หนังสือชื่อ บ้านหนังสือในหัวใจ เล่มนี้ จัดพิมพ์รวมเล่มครั้งแรกในปี 2533 โดยสำนักพิมพ์คมบาง ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ของ อ.ชมัยภร แสงกระจ่าง ราคาปก 105 บาทด้วยความหนา 118 หน้า เหมาะสมสำหรับการหาซื้อมาอ่านเป็นอย่างยิ่งครับ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการอ่านหนังสือนะครับ
Create Date : 22 มกราคม 2558 |
Last Update : 22 มกราคม 2558 15:06:26 น. |
|
31 comments
|
Counter : 3544 Pageviews. |
|
|
แค่ชื่อก็โดนใจแล้วค่ะ
Vote Vote Vote
กด Vote or book blog แล้ว แต่ Copy ไม่ติดค่ะ