Group Blog
 
 
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
24 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
ขุมทรัพย์โสมประภา






เรื่องโดย จินตวีร์ วิวัธน์

นิยายแนว : ลึกลับและผจญภัย



เนื้อเรื่องสรุปโดยย่อ (Synopsis)

โสมประภาคือเทพกัญญาผู้พิทักษ์สมบัติของแผ่นดินให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของคนโลภ ในยามที่มนุษย์โลกมีกิเลสตัณหาเพิ่มมากขึ้น ผู้คนต่างก็ต้องการแสวงหาทรัพย์สมบัติโบราณของแผ่นดินมาครอบครอง เธอจึงต้องทำหน้าที่ขึ้นมายังภพของมนุษย์เพื่อเตือนให้คนเหล่านั้นหยุดการกระทำชั่ว รวมทั้งพิพากษาลงโทษคนชั่วผู้ที่กระทำผิดอย่างสาสมที่สุด












เรื่อง (9/10)

เรื่องราวความลึกลับของอาณาจักรศิขรปุระที่ล่มสลายไปเมื่อ 5,000 ปีก่อน ที่ถูกค้นจากลายแทงซึ่งซ่อนอยู่ในเทวรูปสมบัติโบราณที่อูบาส่วยนักล่าสมบัติชาวพม่าผู้ที่รอดตายมาได้นั้นขโมยออกมาจากเมืองโบราณในป่า เมื่อเทวรูปโบราณตกมาถึงนายดุรงค์ผู้ที่เป็นเศรษฐีนักสะสมวัตถุโบราณ ความพยายามในการค้นหาแหล่งสมบัติโบราณก็เริ่มต้นขึ้น โดยมีวินธัย (พระเอก) นักโบราณคดีที่ต้องการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับอาณาจักรโบราณนี้ร่วมขบวนในการตามล่าสมบัตินี้ด้วย โดยมีจันทราภา หญิงสาวสวยสง่าที่มีท่าทีลึกลับเป็นผู้ทั้งคอยช่วยวินธัยในการศึกษาเรื่องราวของอาณาจักรศิขรปุระ และคอยขัดขวางไม่ให้นายดุรงค์ เศรษฐีนักล่าสมบัติโบราณตามไปขโมยสมบัติมาได้

เรื่องราวที่เป็นประเด็นหลักก็คือ การกล่าวถึงโสมประภาเทวี หรือที่มาปรากฏตัวในภพมนุษย์ในชื่อ จันทราภา เธอเป็นราชธิดาของพญาโสมศิขรหรือปู่โสมเฝ้าทรัพย์ตามตำนาน ดังนั้นตัวเธอจึงเป็นเทพเทวีที่จะต้องปกป้องทรัพย์สมบัติของแผ่นดินต่อจากผู้เป็นบิดา จนกระทั่งมาถึงยุคปัจจุบันที่เป็นยุคที่มนุษย์มีแต่ความโลภต้องการแต่จะแสวงหาทรัพย์สมบัติต่าง ๆ มาเป็นของส่วนตัว

เรื่องราวมีทั้งสนุก ตื่นเต้นและลึกลับ เนื่องจากมีการซ่อนความเร้นลับอยู่ในรายละเอียดของเรื่องโดยตลอด การดำเนินเรื่องรวดเร็วตามสไตล์ของผู้แต่ง (จินตวีร์ วิวัธน์) รวมทั้งมีการปูเรื่องและทิ้งปมไว้ให้ผู้อ่านต้องคิดและติดตามไปตลอดทุกตอน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสไตล์การเขียนที่ทำให้ผู้อ่านแทบจะวางหนังสือไม่ลงเลยทีเดียว

ในส่วนของพล็อตเรื่องหรือการผูกเรื่องนั้นไม่ซับซ้อนมากนัก การดำเนินเรื่องพุ่งตรงไปที่จุดมุ่งหมายของตัวละครโดยตรง (การค้นหาสมบัติ/การค้นหาอาณาจักรโบราณ) โดยวิธีการสร้างปมของเรื่องและคลี่คลายปมนั้น ๆ ไปเรื่อย ๆ ทีละปมจนกระทั่งนำไปสู่บทสรุปสุดท้ายของเรื่อง ซึ่งในการค้นพบความลับตามปมต่าง ๆ นั้นทำให้ผู้อ่านมีความสนุกกับเนื้อเรื่องตามไปด้วย




ไอเดีย (8.5/10)

ใช้แนวคิดของปู่โสมเฝ้าทรัพย์ตามตำนาน โดยให้โสมประภาหรือจันทราภาเป็นราชธิดาของปู่โสมฯ ที่ต้องมาทำหน้าที่เฝ้าสมบัติต่อ โดยให้มีการตามล่าหาสมบัติจากลายแทงโบราณ มีการเดินทางเข้าป่าเพื่อตามหาเมืองโบราณตามตำนานซึ่งก็คืออาณาจักรเก่าแก่กว่า 5,000 ปี

ในช่วงท้าย ๆ ของเรื่องที่มีการเดินป่าเข้าไปหาอาณาจักรโบราณนั้น เป็นการใช้แนวเรื่องในการเดินป่าที่ต้องฝ่าฟันภัยอันตรายที่มองไม่เห็น หรือสิ่งที่เหนือธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นในป่า กลิ่นอายของเรื่องในช่วงนี้คล้ายกับการอ่านเรื่อง ล่องไพร+เพชรพระอุมา เลย ส่วนในตอนท้ายสุดเรื่อง การเล่าถึงสภาพภายในอาณาจักรโบราณที่เจอขุมสมบัติ รวมทั้งการที่ให้อาณาจักรโบราณล่มสลายลงจนพระเอกและคณะต้องวิ่งหนีออกมาจากซากปรักหักพังนั้น อ่านแล้วรู้สึกว่ามีกลิ่นอายของเรื่อง อินเดียน่าโจนส์ รวมอยู่ด้วย

ไอเดียการใช้แนวคิดเทพเฝ้าสมบัติที่ให้คุณแก่คนดีและให้โทษแก่คนชั่ว โดยมีการใช้เทวรูปโบราณนำพาเรื่องราวไปสู่ความลึกลับที่ต้องการคลี่คลายในลำดับต่อไป

ไอเดียการเดินป่าเพื่อผจญภัยกับความอัศจรรย์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในป่า

ไอเดียการใช้พญานาคและงูทำหน้าที่เฝ้าสมบัติ , ไอเดียให้เงินกลายเป็นกระดาษหนังสือพิมพ์

ไอเดียที่ตอนจบที่ให้อาณาจักรโบราณถล่มทำให้ผู้คนที่เข้าไปล่าสมบัติต้องวิ่งหนีออกมาถือว่าเป็นไอเดียในการปิดเรื่องได้เป็นอย่างดีและน่าจะทันสมัยมากในช่วงเวลานั้น (เรื่องนี้แต่งขึ้นในปี พ.ศ. 2519-2520)

สิ่งที่ไม่ชอบก็คือการที่ผู้แต่ง (จินตวีร์ วิวัธน์) เปรียบเทียบความหล่อของตัวละครโดยเทียบกับดาราต่างประเทศ ซึ่งอาจจะเป็นดาราดังในขณะนั้น อาทิเช่น สจ๊อต เกรนเยอร์ หรือ วาเลนติโน แต่เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 30 ปี ผู้อ่านในปัจจุบันอาจจะนึกภาพของดาราเหล่านั้นไม่ออก ดังนั้นจึงน่าจะเทียบกับดาราไทยในสมัยก่อนมากกว่าซึ่งอาจจะทำให้ผู้อ่านยังน่าจะพอนึกได้บ้าง











บทสนทนา (8.5/10)

จุดเด่นประการหนึ่งของผู้แต่ง (จินตวีร์ วิวัธน์) ก็คือการใช้บทสนทนาเป็นตัวช่วยในการดำเนินเรื่อง ในนิยายเรื่องอื่น ๆ อาจจะใช้บทบรรยายเป็นหลักในการดำเนินเรื่อง แต่ในเรื่องนี้มีการใช้บทบรรยายควบคู่ไปกับบทสนทนาในการดำเนินเรื่องโดยตลอด ทำให้เรื่องนอกจากจะดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วไม่อืดอาดแล้ว ยังสามารถทำให้ผู้อ่านได้อรรถรสมากขึ้นด้วย การให้บทสนทนามีสัดส่วนที่เหมาะสมในการดำเนินเรื่องซึ่งสอดคล้องไปกับบทบรรยายนั้น ทำให้ผู้อ่านรู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินและอยากติดตามเนื้อเรื่องไปตลอดด้วย

วิธีการหนึ่งที่ผู้แต่ง (จินตวีร์ วิวัธน์) ใช้บทสนทนาในการดำเนินเรื่องก็คือ การให้ตัวละครหลักซึ่งก็คือ จันทราภา รู้เรื่องทุกเรื่องทุกคำถามในสีหน้าอันสงสัยของวินธัยหรือตัวละครอื่นที่เป็นผู้สนทนากับเธอ (ไอเดียเทพเทวีที่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า) และการให้จันทราภาสามารถตอบคำถามได้เองโดยไม่ต้องรอให้ตัวละครนั้นถามขึ้น ถือว่าเป็นการใช้บทบรรยายภาษากายของตัวละครให้แฝงอยู่ในบทสนทนาด้วย

การใช้บทสนทนาของตัวละครย่อยที่โผล่เข้ามาในเรื่องแล้วพูดคุยกันนั้น เป็นการช่วยเติมเต็มเนื้อเรื่องให้มีความสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งบทสนทนานั้นเป็นการช่วยบอกข้อมูลที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเล่าเรื่องได้อีกทางหนึ่งด้วย อาทิเช่น การที่ให้เสมียนหน้าห้องของวินธัยพูดคุยกันเพื่อนินทาเจ้านายนั้น ทำให้ได้ทราบข้อมูลว่าพระเอกเป็นคนรักเดียวใจเดียวหรือรักแฟนคนเดียว , บทสนทนาระหว่างอานนท์ นันทพรรค์ (เพื่อนพระเอก) กับคนขับแท็กซี่เป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ผู้อ่าน ในจุดที่เรื่องไม่อาจจะพูดถึงได้โดยตรง ซึ่งในประเด็นนี้เป็นจุดเด่นในการเขียนนิยายอีกวิธีหนึ่ง ที่นักเขียนในสมัยใหม่สามารถจำเอาไปใช้ได้













ตัวละคร (8/10)

วินธัย วิศรุต พระเอกของเรื่องถูกวางให้เป็นนักโบราณคดีของกรมศิลป์ ซึ่งเหมาะสมสอดคล้องโดยตรงกับเนื้อเรื่องที่มีการกล่าวถึงสมบัติของอาณาจักรโบราณ ถือเป็นตัวละครเอกที่ผู้อ่านจะต้องคอยเอาใจช่วยไปด้วยโดยตลอด

เภาภัทร สวัสดิวารี นางเอกของเรื่องเป็นพนักงานธนาคาร ซึ่งผู้อ่านรู้ได้เพราะว่าในตอนต้นเรื่องพระเอกไปรับนางเอกหน้าธนาคาร แต่หลังจากนั้นไม่มีการกล่าวถึงงานของนางเอกอีกเลย ตัวนางเอกกลับไปแสดงเป็นนางเอกในละครการกุศลแทน บทบาทในช่วงแรกของนางเอกไม่เด่นเท่าตัวจันทราภา แต่ในตอนท้ายของเรื่องก็มีส่วนสำคัญที่เป็นตัวช่วยปิดเรื่องในตอนท้ายได้เป็นอย่างดี

จันทราภา โสมสกุล หรือที่เฉลยในตอนท้ายของเรื่องว่าเธอคือ โสมประภาเทวี ราชธิดาของปู่โสมเฝ้าทรัพย์ สาเหตุที่เธอต้องเข้ามายุ่งข้องเกี่ยวกับภพมนุษย์นั้น ทำให้เธอเป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในการดำเนินเรื่องโดยตลอด บทของตัวละครนี้ดำเนินควบคู่ไปกับวินธัย(พระเอก)โดยตลอดเรื่อง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวละครหลักที่ขาดไม่ได้เลย รวมทั้งชื่อเรื่องของนิยายเรื่องนี้ก็ตั้งตามตัวละครนี้ด้วย

นายดุรงค์ จุลละประเสริฐศักดิ์กุล เห็นนามสกุลก็ทราบในทันที่ว่าต้องเป็นเศรษฐีใหญ่แน่ ๆ ตัวละครนี้เป็นผู้ที่หลงใหลในวัตถุโบราณ เป็นตัวละครที่เป็นเสมือนตัวแทนของมนุษย์ที่มีความโลภ มีความต้องการเอาสมบัติต่าง ๆ มาเป็นของตัวเอง ถือว่าเป็นตัวละครที่เข้ามาช่วยเติมเต็มเรื่องราวให้ดำเนินไปด้วยความสนุกอย่างสมเหตุสมผล ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ขาดไม่ได้เช่นกัน

ตัวละครอื่น ๆ ช่วยเติมเต็มเนื้อเรื่องให้มีความสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น พ.อ. สมภัทร สวัสดิวารี พ่อของนางเอกผู้เป็นเพื่อนของเศรษฐีบ้าสมบัติ อานนท์ นันทพรรค์ นักเขียนหนุ่มเพื่อนพระเอกที่มีความสงสัยในเรื่องราวอันเร้นลับโดยตลอดเช่นกัน อ.ธาดา มกรฤทธิ์ ผู้เชียวชาญทางด้านภาษาโบราณที่เป็นอาจารย์ของพระเอก รวมไปถึงพรานอิน พรานป่าผู้ชำนาญไพรแห่งหุบผีไห้ ผู้ที่ช่วยนำทางคณะสำรวจเข้าไปสู่อาณาจักรโบราณ ฯลฯ












สรุปโดยรวม (8.5/10)

นิยายเรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าชอบมาก ความที่เป็นนิยายลึกลับที่กล่าวถึงอาณาจักรโบราณนั้นเป็นการทำให้ผู้อ่านต้องคอยติดตามเรื่องราวไปจนตลอด ในส่วนประเด็นที่พูดเรื่องสมบัติกับความโลภของมนุษย์นั้น ในประเด็นนี้ผมคิดว่าเป็นการให้แง่คิดที่ดีแก่สังคมไทย ผู้แต่ง (จินตวีร์ วิวัธน์) นั้นมีความรอบรู้ในเรื่องราวเกี่ยวกับโบราณคดีเป็นอย่างดี จึงสามารถผูกเรื่องราวให้สนุกสนานน่าอ่านและน่าติดตามได้โดยตลอด รวมทั้งในประเด็นที่มีเรื่องราวย้อนยุคไปพูดถึงอาณาจักรโบราณนั้น ถือว่าเป็นจินตนาการของผู้แต่งโดยตรงที่สามารถบรรยายภาพให้ผู้อ่านเห็นภาพตามได้ ผมถือว่าเป็นสไตล์การเขียนนิยายที่น่าสนใจมาก ๆ

สำหรับท่านที่ชอบเรื่องราวลึกลับ เร้นลับ อาณาจักรโบราณ รวมทั้งการผจญภัยในป่า ผมคิดว่าท่านก็คงจะชอบนิยายเรื่องนี้เหมือนกับผมเช่นกัน




อิอิ




Create Date : 24 สิงหาคม 2556
Last Update : 24 สิงหาคม 2556 12:09:10 น. 26 comments
Counter : 4399 Pageviews.

 

Like ให้เป็นคนที่ 1
อ่านตามที่น้องกล่องโพสเป้นหนังสือที่น่าอ่านมาก
เดี๋ยวไปหามาอ่านมั่งจ๊ะ
เจิม



โดย: อุ้มสี วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:7:12:52 น.  

 
ยังไม่เคยอ่านเลยค่ะ


โดย: Aneem วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:8:27:11 น.  

 
เป็นรีวิวที่ให้รายละเอียดดีมากเลยค่ะ สนใจเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่เห็นราคาแล้วทำให้พักไว้ก่อนทุกที 555


โดย: คุณหนูฤดูร้อน วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:11:21:34 น.  

 
เล่มนี้อ่านแล้วครับบ ...


โดย: อุ้มสม วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:14:20:33 น.  

 
แวะมาเยี่ยมยามค่ำ...สวัสดีครับ


โดย: **mp5** วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:19:01:22 น.  

 
ไม่เคยอ่านงานของจินตวีร์ วิวัธน์เลย กลัวผี
แต่อ่านรีวิวแล้วน่าสนใจมาก สงสัยงานหนังสือนี้ต้องไปมองๆ บ้างแล้ว


โดย: ฟ้าใส ในเงาจันทร์ วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:20:14:37 น.  

 
น่าอ่านอีกแล้วค่ะหนังสือเล่มนี้
รีวิวได้ดีมาก ละเอียดมาก
คงต้องไปเดินดูแถวๆซีเอ็ดบุ๊คแล้วหละ

ขอบคุณที่แนะนำหนังสือดีๆที่น่าอ่านค่ะ

โหวตให้เลย และขอบคุณสำหรับโหวตที่บล็อกด้วยค่ะ





ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
schnuggy Food Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Home & Gargen Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog


โดย: ฝากเธอ วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:22:46:14 น.  

 
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ
งานคุณจินตวีร์ น่าสนุกหลายเรื่องเลยนะคะ
เห็นอาจารย์หนุ่มรีวิวเยอะมากมาย
แต่เรื่องนี้ก็น่าอ่านด้วยค่ะ

ขอบคุณมากๆนะคะ
อาคุงกล่อง อิอิ

ทานกาแฟที่เค้าว่าอร่อยที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่งค่ะ กาแฟเอธิโอเปีย

src=https://www.bloggang.com/emo/emo15.gif>


โดย: lovereason วันที่: 25 สิงหาคม 2556 เวลา:10:19:19 น.  

 
น่าอ่านค่ะคุณกล่อง ได้กลิ่นอายสมัยก่อน อ่านรีวิวแล้วนึกไปถึงหนังกลางแปลงสมัยก่อนที่เกี่ยวกันขุมสมบัติโบราณเหมือนกัน จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว นางเอกในสมัยก่อนนุ่งห่มสไบแล้วถูกฟันคอขาดให้อยู่ัรักษาสมบัติแผ่นดิน วิญญาณก็วนเวียนอยู่เช่นนั้นไปผุดไปเกิดไม่ได้เพราะหน้าที่ๆถูกกำหนดไว้ ตอนนั้นยังเด็กค่ะ ดูไปปิดตาไป หยดหยองตอนมีหลายๆคนถูกฟันคอขาดกระเด็นไม่รู้ว่าเป็นหรือต๊ายยยย..


โหวตค่ะโหวต..


โดย: ป้าโซ วันที่: 25 สิงหาคม 2556 เวลา:10:54:19 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog อาคุงกล่อง
หมวดเนื้อหา Book Blog


โดย: ป้าโซ วันที่: 25 สิงหาคม 2556 เวลา:10:56:55 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า




** มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะจ้า **

เป้นหนังสือ ที่น่าสน มากเลยอะจ้า อาคุงกล่อง ..
จอมแก่น แวะมาเล่นด้วยนะจ้า ..


โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 25 สิงหาคม 2556 เวลา:13:51:39 น.  

 
สจ็อต เกรนเยอร ไม่เคยได้ยินเลยอะ


โดย: น้องผิง วันที่: 25 สิงหาคม 2556 เวลา:18:57:39 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กิน ๆ เที่ยว ๆ Food Blog ดู Blog
haiku Fanclub Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


เห็นด้วยเรื่องการเปรียบเทียบตัวละครกับดาราฝรั่งสมัยก่อนค่ะ
ขนาดว่าบุ๊งชอบดูหนังฝรั่งยังนึกภาพไม่ออกเลยค่ะว่าคนๆ นี้คือใคร


โดย: Close To Heaven วันที่: 25 สิงหาคม 2556 เวลา:22:15:27 น.  

 
งานผู้เขียนมีคนถามถึงมากขึ้น ส่วนตัวอ่านมายังไม่เยอะค่ะ ต้องเป็นช่วงที่อยากอ่านแนวนี้จริง ๆ


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 26 สิงหาคม 2556 เวลา:10:19:07 น.  

 
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ จะไปซื้อมาอ่านบ้าง


โดย: rimpingringpim วันที่: 26 สิงหาคม 2556 เวลา:10:39:34 น.  

 
เป็นรีวิวที่ละเอียดดีมากเลยครับ กดโหวตกับไลค์ให้เลยครับ


ป.ล.ขอบคุณสำหรับโหวตให้ผมด้วยนะครับ


โดย: ปีศาจความฝัน วันที่: 26 สิงหาคม 2556 เวลา:15:13:57 น.  

 
ขอบคุณที่แวะมาอวยพรวันเกิดนะคะ แหะๆมาขอบคุณช้าเป็นเดือนเลย


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 26 สิงหาคม 2556 เวลา:16:04:05 น.  

 
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog


โดย: Opey วันที่: 26 สิงหาคม 2556 เวลา:17:22:45 น.  

 
อื่ม...เนื้อหาน่าอ่านเปลี่ยนบรรยากาศดีเหมือนกันนะคะเนี๊ยะ ไว้ว่างๆ ผ่านร้านหน้งสือจะลองดูมั่ง


โดย: คมไผ่ วันที่: 26 สิงหาคม 2556 เวลา:21:00:11 น.  

 
อยากอ่านจังค่ะ เรื่องแบบนี้ แปลกดีค่ะ คือจะบอกว่าเมื่อก่อนเคยแบบไม่ค่อยชอบอไรที่มันโบราณ มันดูน่ากลัว ลึกลับ แต่หลังๆ เมื่อได้ไปเที่ยวมากขึ้น หรือได้อ่านมากขึ้น ก็จะรู้ว่ามันมีส่วนสำคัญอย่างมาก และมีอิทธิพลต่อปัจจุบัน ยิ่งติดเพชรพระอุมา เลยรู้สึกสนุกมากกับเรื่องราวลึกลับโบราณ แต่ขอแค่ว่าอย่ามีเรื่องผีๆ หลอนๆแบบนั้นเยอะจะโอมาก เพราะเราช่างจินตนาการค่ะ อดคิดและแอบฟุ้งไปเยอะ อิอิ

ได้อ่านที่อาคุงกล่องเขียนขนาดนี้ มันเลยอยากอ่านมากๆเลยค่ะ


โดย: FreakGirL วันที่: 26 สิงหาคม 2556 เวลา:22:28:27 น.  

 
อ่านบล็อกนี้ของคุณกล่องแล้วครับ ขอบคุณที่นำมาแนะนำครับ ชื่อผู้ประพันธ์ คุ้นตา แต่นึกไม่ออกครับว่าเคยเขียนเรื่องอะไร


โดย: yyswim วันที่: 27 สิงหาคม 2556 เวลา:10:08:15 น.  

 
เปลี่ยนเป็นเรื่องนี้นะคะ คุณกล่อง


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
mambymam Home & Gargen Blog ดู Blog
sirivinit Hobby Blog ดู Blog
kor_pink Travel Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


ราตรีสวัสดิ์ค่ะ




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 27 สิงหาคม 2556 เวลา:21:05:49 น.  

 
เรื่องลึกลับ จริง ๆ ก็น่าอ่าน.... แต่ถ้าอ่านคนเดียว
ไม่มีใคร ชักเสียว กลัวมีคนมาแอบดู 555


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 27 สิงหาคม 2556 เวลา:22:00:35 น.  

 
อ่านแล้วนึกถึงอินเดียน่าโจนส์


โดย: น้องผิง วันที่: 25 กันยายน 2556 เวลา:20:14:42 น.  

 
นิยาย หนัง แนวล่าสมบัติคล้ายกันเกือบทุกเรื่องครับ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 26 กันยายน 2556 เวลา:22:22:44 น.  

 
แวะมาทักทายคุณกล่องยามเย็นค่ะ
พักผ่อนมีความสุขมากๆนะคะ ♥


โดย: andrex09 วันที่: 27 กันยายน 2556 เวลา:17:51:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อาคุงกล่อง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]




อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า “อาคุงกล่อง” เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ

ปัจจุบัน “อาคุงกล่อง” เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม “อาคุงกล่อง” จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย



"ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ"

ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ)

akungklong@gmail.com
Friends' blogs
[Add อาคุงกล่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.