Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 สิงหาคม 2558
 
All Blogs
 

มะเฟืองรอฝาน

24 สิงหาคม 2558



 







หนังสือเล่มที่ผมอ่านในวันนี้มีชื่อว่า “มะเฟืองรอฝาน” ของคุณประภาส ชลศรานนท์ โดยเป็นหนังสือรวมบทความในคอลัมน์ “คุยกับประภาส” จากหนังสือพิมพ์มติชน โดยเป็นข้อเขียนในรูปแบบของความเรียงที่เขียนขึ้นในช่วงปี 2544 – 2545 จากข้อมูลที่หน้าปกบอกว่าเป็นผลงานลำดับที่ 4 ของหนังสือชุดคุยกับประภาส


หลาย ๆ ท่านอาจจะรู้จักคุณประภาสเป็นอย่างดี แต่ตัวผมรู้จักคุณประภาสในฐานะของโปรดิวเซอร์ของบริษัทเวิร์คพอยท์ที่เป็นคนคิดริเริ่มรูปแบบรายการต่าง ๆ ถือว่าเป็นมันสมองสำคัญของบริษัทเวิร์คพอยท์คู่กับคุณปัญญาเลย ที่ผ่านมาผมเคยอ่านงานของคุณประภาสก็เพียงแค่ “นิทานล้านบรรทัด” ที่อยู่ท้ายเล่มของนิตยสาร a day เท่านั้น (ยังไม่เคยอ่านรวมเล่มเหมือนกัน) เมื่อผมมาเจอหนังสือเล่มนี้ผมก็รู้สึกอยากอ่านขึ้นมาทันที

สาเหตุที่ผมอยากอ่านหนังสือเล่มนี้ก็เพราะชื่อที่ว่า “มะเฟืองรอฝาน” ตัวผมเป็นคนที่ไม่กินมะเฟืองแต่ที่บ้านผมปลูกต้นมะเฟืองไว้ ลูกมะเฟืองสุกคาต้นจนหล่นเต็มพื้นเสมอ ในบางครั้งก็มีคนในละแวกใกล้เคียงมาขอมะเฟืองสุกไปกินบ้าง โดยทุกคนบอกว่าผลมะเฟืองมีประโยชน์เป็นอย่างมาก กินมะเฟืองแล้วดีต่อสุขภาพ ดังนั้นมะเฟืองจึงเป็นผลไม้ที่ดีและมีคุณค่าในสายตาของผม (แล้วทำไมไม่กินล่ะ?) ส่วนคำว่า “รอฝาน” นั้นผมอ่านแล้วรู้สึกถึงลักษณะของการกระทำและเห็นภาพเลย การฝานจึงเป็นคำกริยาของคนไทยที่ใช้กับผลไม้หรือพืชผักเท่านั้น ผมจึงคิดว่าคุณประภาสเลือกคำมาใช้เป็นชื่อหนังสือได้เป็นอย่างดี ผมจึงสนใจที่อยากจะอ่านหนังสือเล่มนี้

สำหรับรายละเอียดในหนังสือเล่มนี้ก็ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า เป็นการรวบรวมบทความในคอลัมน์ “คุยกับประภาส” ดังนั้นรูปแบบส่วนใหญ่จะเป็นการที่ผู้อ่านเขียนจดหมาย (หรืออีเมล์) มาสอบถามคุณประภาสเกี่ยวกับเรื่องราต่าง ๆ ทั้งเรื่องชีวิตและสังคม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาใกล้ตัวหรือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับคนทั่วไป เมื่อมีคำถามเข้ามาแล้วคุณประภาสจึงไปหาข้อมูลมาตอบ ซึ่งตอบตรงคำถามบ้าง ไม่ตรงคำถามบ้าง แต่ผมอ่านแล้วก็รู้สึกว่าคุณประภาสนำเสนอข้อมูลสำหรับเป็นแง่คิดที่เป็นประโยชน์ ข้อเขียนของคุณประภาสนั้นอ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นและนุ่มนวลในการพูด (เขียน) ผมอ่านแล้วมีความรู้สึกเหมือนว่ากำลังนั่งฟังน้อง ๆ ปรึกษาปัญหาชีวิตกับพี่ชายอยู่ โดยพี่ชายที่แสนดีก็พยายามหาคำตอบอันเป็นประโยชน์และทำให้น้องผู้มีปัญหารู้สึกดีขึ้น ความอบอุ่นที่รู้สึกได้นั้นคือปรารถนาดีที่พี่ชายคนนี้มีให้แก่น้องเสมอ

ส่วนสไตล์การเขียนของคุณประภาสนั้นมีเอกลักษณ์ที่เหมือนมีรายเซ็นเฉพาะตัวอยู่ มักจะเริ่มต้นด้วยการกล่าวเกริ่นโดยยกเรื่องราวขึ้นมาก่อน โดยที่เรื่องราวนั้นอาจจะยังไม่เกี่ยวข้องหรือไม่เข้าใกล้คำตอบที่ผู้ถามต้องการเลย แต่หลังจากนั้นจะมีการให้ข้อมูลและรายละเอียดประกอบเพื่อให้เรื่องราวทั้งหมดสรุปลงได้ด้วยดี ในบางครั้งผู้ถามอาจจะคิดว่าคุณประภาสตอบไม่ตรงคำถามก็เป็นได้ แต่เมื่ออ่านวิเคราะห์อย่างไตร่ตรองแล้วจะทราบได้ว่าเป็นการตอบคำถามแบบที่ให้แง่คิดเพื่อสร้างกำลังใจ ถือว่าคุณประภาสเป็นอีกหนึ่งท่านที่เป็นนักคิดนักเขียนที่มีสไตล์การเขียนในแนวฟิวกู๊ดที่ให้กำลังใจได้เป็นอย่างดี

ผมขออนุญาตยกตัวอย่างบางส่วนจากในหนังสือเล่มนี้ มีผู้อ่านคนหนึ่งถามคุณประภาสประมาณว่า “เขาทำงานเขากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้เลย แต่เขาสามารถทำงานออกมาได้ดีตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ทำให้เพื่อนร่วมงานไม่พอใจ” โดยคุณประภาสก็พยายามหาเหตุผลต่าง ๆ มาตอบคำถามโดยมีส่วนหนึ่งเป็นข้อคิดสะกิดใจที่ว่า ...

“ผมยังเชื่อเสมอว่า มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพที่จะทำอะไรได้มากกว่าที่ทุกคนทำกันอยู่ มันอยู่ที่เขาอยากจะทำหรือเปล่า

เคยวิ่งรอบสนามหรือวิ่งทางไกลไปไหนสักแห่งแล้วมันเหนื่อยแทบขาดใจไหมครับ มันเหนื่อยจนหายใจแทบไม่ทัน ซึ่งถ้าไม่มีใครว่าอะไรก็คงจะหยุดวิ่งอยู่ตรงนั้น แปลกนะครับ ถ้ามีใครสักคนที่มีอำนาจมาบังคับให้วิ่งต่อก็เห็นจะวิ่งกันไหวทั้งนั้น เหนื่อยน่ะเหนื่อยจริงอยู่แต่ไม่เห็นขาดใจไปเสียที ผมว่ามันคล้าย ๆ กันครับ เรื่องศักยภาพของมนุษย์ที่ยังใช้กันจำกัดอยู่”
(หน้า 165)



ผู้ตั้งคำถามอ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่าคุณประภาสตอบไม่ตรงคำถามสักเท่าไหร่ แต่ผมคิดว่าคุณประภาสได้ให้มากกว่าคำตอบที่ผู้ถามต้องการเป็นอย่างมาก


ผมอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้วก็ยังไม่พบว่ามีรายละเอียดส่วนไหนตรงกับชื่อหนังสือเลย นอกจากบทโคลงสี่สุภาพที่คุณประภาสแต่งไว้เป็นคำนำของหนังสือ ดังนั้นผมจึงพยายามคิดเพื่อสรุปให้ได้ว่า คำว่า “มะเฟืองรอฝาน” นั้น มะเฟืองก็คือเรื่องราวที่ดี ๆ ที่คุณปะภาสนำเสนอ (ตอบคำถาม) ส่วนการรอฝานนั้นก็คือการรอให้ผู้ถามเอาสิ่งที่ดี ๆ (คำตอบ) นำไปใช้ มีใครเคยสังเกตเห็นบ้างไหมว่า เมื่อมะเฟืองที่ถูกฝานออกนั้น ชิ้นเนื้อของมะเฟืองจะมีรูปคล้ายดาวห้าแฉก ซึ่งดวงดาวก็เป็นความหมายที่ดีเยี่ยมที่คนทั่วไปมักยกย่องโดยการให้ “ดาว” นั้นเอง

สรุปว่าถ้าท่านใดอยากอ่านหนังสือแนวฟิวกู๊ดที่ให้กำลังใจที่ดี รวมทั้งได้เรื่องราวและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ด้วย ผมก็แนะนำให้ท่านไปหาหนังสือเรื่อง “มะเฟืองรอฝาน” เล่มนี้มาลองอ่านดูนะครับ ผมเชื่อว่าเมื่อท่านอ่านจบแล้วนักคิดนักเขียนที่ชื่อประภาสคงจะเป็นอีกหนึ่งคนที่แทรกเข้ามาอยู่กลางใจของท่านได้ ส่วนตัวผมคงต้องไปหาหนังสือเล่มอื่น ๆ ของคุณประภาสมาอ่านเพิ่มเติมอีกเป็นแน่ สำหรับหนังสือเรื่อง “มะเฟืองรอฝาน” เล่มที่อยู่ในมือของผมนี้เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 8 โดยเวิร์คพอยท์สำนักพิมพ์ ตุลาคม 2555 ด้วยความหนา 340 หน้า ราคาปก 195 บาท

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านหนังสือครับ





 

Create Date : 24 สิงหาคม 2558
15 comments
Last Update : 24 สิงหาคม 2558 11:39:17 น.
Counter : 2813 Pageviews.

 

ราคาไม่แพงดีค่ะ น่าสนๆๆ แต่ตอนแรกอ่านชื่อผิดเป็นมะเฟืองรอฝน 555

 

โดย: Sab Zab' 24 สิงหาคม 2558 12:54:11 น.  

 

ชอบๆๆๆคุรประภาส ตั้งแต่สมัยเป็นนักแต่งเพลงค่ะ
Book Vote ใช้ไปแล้ว
วันหน้ามาใหม่ค่ะคุณกล่องฯ

 

โดย: เริงฤดีนะ 24 สิงหาคม 2558 14:49:58 น.  

 

อ่านแล้วได้อะไร อ่านแล้วได้คิด น่าจะ นะคะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 24 สิงหาคม 2558 15:42:26 น.  

 

ชื่อน่ากินดีจังเลยค่ะ

 

โดย: Prophet_Doll 24 สิงหาคม 2558 21:47:43 น.  

 

มาบอกว่าชอบชื่อเรื่องค่ะ แต่พอเห็นประโยค "ผมอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้วก็ยังไม่พบว่ามีรายละเอียดส่วนไหนตรงกับชื่อหนังสือเลย นอกจากบทโคลงสี่สุภาพที่คุณประภาสแต่งไว้เป็นคำนำของหนังสือ" นี่ฮาเลย เข้าใจว่าหลายๆ เล่มตั้งชื่อให้สะดุดตา หรือไม่ก็อยากให้คิดต่อ

 

โดย: ออโอ 25 สิงหาคม 2558 22:16:23 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

อาคุงกล่อง Book Blog

ขอบคุณที่แนะนำค่ะ หนังสือนะคะ

ปล.อีกคนคือน้องสาวมี้ ยังโสด.................นะคะ

 

โดย: kae+aoe 26 สิงหาคม 2558 8:34:59 น.  

 

ชื่อหนังสือเพราะและแปลกจังเลยค่ะ
การเขียนของคุณจิก เป็นอะไรที่น่าอ่านมาก

ขอบคุณที่แวะชมดอกไม้ที่บล็อกนะคะ
คุณกล่องหายไปนานเลย

 

โดย: mambymam 26 สิงหาคม 2558 8:41:07 น.  

 

อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog


ว่าแต่จะมีสักกี่คนนะที่คิดได้อย่างทิดกล่อง
น่าจะน้อยอยู่นะในหมู่นักอ่านทั้งหลายหนะ

 

โดย: หอมกร 26 สิงหาคม 2558 10:17:08 น.  

 

ขอบคุณมาก ดีใจที่แวะไปโหวตให้ค่ะ
หลังขอบคุณแล้วโหวตหมวด Book Blog

 

โดย: ป้าเก๋า (ชมพร ) 26 สิงหาคม 2558 14:57:25 น.  

 

เข้ามาโหวต ให้จ้า

 

โดย: หญิง มิน มิน 28 สิงหาคม 2558 23:12:57 น.  

 

อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
ชื่อคุ้นๆไม่เคยรู้มาก่อนว่าคนบุกเบิกเวิร์คพอยท์ กับคุณปัญญาคงเก่งและไม่ธรรมดา

 

โดย: โอพีย์ (Opey ) 31 สิงหาคม 2558 2:04:52 น.  

 

วันนี้มาโหวตค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 31 สิงหาคม 2558 15:37:38 น.  

 

แค่ชื่อก็น่าอ่านแล้วค่ะคุณกล่อง

 

โดย: sawkitty 31 สิงหาคม 2558 19:20:45 น.  

 

มะเฟืองรอฝาน พี่ก็รอชิมนะคะ ไม่ได้อ่านทั้งหมดหรอกค่ะ
ตัวยิบๆมาห สว.อ่านไม่ไหว อิอิ

สบายดีนะคะ

 

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 3 กันยายน 2558 21:22:48 น.  

 

ขอบคุณมาก ๆ ที่แวะไปฟังเพลงสุกียากี้และโหวตให้นะคะ
ต้องขออำภัยที่แวะมาช้าไปหน่อย อัพบล็อกใหม่แล้วก็ยังตระเวนเยี่ยมเพื่อนได้ไม่ครบคนเลย
ที่จริงเราก็เหมือนคุณกล่องที่รู้จักแต่เพลง เพิ่งจะรู้ความหมายก็ตอนทำบล็อกนี่แหละค่ะ
คุณกล่องถามถึงเพลงเวอร์ชั่นไทย ไปหามาจนได้ ชื่อเพลง น้ำพริกปลาทู ร้องโดยคุณมีศักดิ์ นาครัตน์
แปะคลิปไม่เป็น คลิกลิงค์เข้าไปฟังแทนละกันน้า
กดไลค์กับโหวตให้คุณกล่องค่า

 

โดย: haiku 14 กันยายน 2558 20:02:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


อาคุงกล่อง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]




อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า “อาคุงกล่อง” เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ

ปัจจุบัน “อาคุงกล่อง” เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม “อาคุงกล่อง” จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย



"ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ"

ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ)

akungklong@gmail.com
Friends' blogs
[Add อาคุงกล่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.