| Blog เพื่อบันทึกประสบการณ์การซื้อที่ และสร้างบ้านของผม รวมถึงเกร็ดความรู้สำหรับคนที่สนใจอยากจะสร้างบ้านเองครับ
|
|||||||||||||
46.งานก่อสร้างบ้าน(12) : เสาชั้นสอง คานและโครงหลังคา ผ่านมาเดือนกว่าๆ หลังจากงานพื้นชั้นสองเสร็จ จริงๆก็นับว่านานเหมือนกันนะครับ สำหรับงานงวดนี้ เพราะแค่ขึ้นเสาชั้นสอง กับคาน 9 โครงหลังคา ถ้าเอาจริงๆ ทำงานเต็มวันทุกวัน ไม่น่าจะเกิน 2 สัปดาห์ แต่ไซต์ผมมีปัญหาเรื่องฝนครับ ช่วงนี้แถวชลบุรี ศรีราชาฝนตกทุกวัน ตกหนักด้วย ช่างทำงานกันได้วันละ 3 - 4 ชม. เอง ทำให้งานเดินไปแบบเต่าคลานมากๆ ยิ่งช่วงเชื่อมโครงหลังคา ฝนตกปุ๊บ ทำไม่ได้เลย เพราะไฟช๊อตแน่ ไม่ก็อาจโดนฟ้าผ่า นอกจากเรื่องฝน ยังมีปัญหาเรื่องแบบ (อีกแล้ว) ทำให้ต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครั้งใหญ่เหมือนกันครับ เฮ้อ หลังจากเทพื้นชั้นสองเสร็จ วันรุ่งขึ้นก็เริ่มเข้าแบบเทเสาเลยครับ ช่วงนี้ช่างทำงานเร็วมาก ผมไม่ได้ไปไซต์วันเดียว เทเสาเสร็จไปแล้วครึ่งนึง  จะเห็นว่าวันที่มาถ่ายรูป เทเสาเสร็จไปแล้วบางส่วนครับ  รูปอีกฝั่งนึง  เสากลมยาวถึงหลังคา ใช้แบบกระดาษเหมือนชั้นล่าง  หันมาเจอรังนก!!!มีไข่ด้วย 2 ฟอง แสดงว่าแบบอันนี้เอาไว้นานมากเลยนะครับ ถึงขนาดนกมาทำรังเหอๆ ระหว่างเทเสาชั้นสอง ก็มาทำเสาและคานส่วนที่เหลือครับ ได้แก่โถงสูงหน้าบ้าน และระเบียงหลอกห้องนอน  รูปจากแบบบ้าน โถงทางเข้าก็จะเป็นส่วนนี้ครับ  เทียบกับของจริง เป็นเสาสองต้นนี้ครับ  คนงานกำลังเข้าแบบคานรับหลังคา  แล้วก็เทปูน จากนั้นก็เป็นส่วนระเบียงหลองตรงห้องนอน ที่เรียกระเบียงหลอกเพราะมันไม่สามารถออกไปยืนชมวิวได้ครับ สถาปนิกออกแบบเพื่อให้รับกับหลังคาของห้องนอนอีกด้าน และเพื่อเพิ่มโวลลุ่มของบ้านไม่ให้แบบครับ แต่มีกระจกที่สามารถเปิดออกไปได้ ระเบียงตรงนี้อาจวางไม้กระถาง หรือปล่อยโล่งก็ได้  จากรูปแบบบ้านก็จะเป็นส่วนนี้ครับ  กำลังเข้าแบบ  เข้าแบบเสาต่อขึ้นไปเลย แล้วก็เทปูน จากนั้นก็ทำการตั้งตุ๊กตาต่อเลย เพื่อทำคานรับหลังคา คสล.ตามแบบ ช่วงนี้งานเดินเร็วมาก รูปที่เห็นทั้งหมดเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ (6 วันทำงาน) ใจชื่้นมา เห็นหลังคาก่อนสิ้นเดือน(ตค.)แน่ๆ...แต่หารู้ไม่ว่า บางสิ่งบางอย่างกำลังเปลี่ยนแปลง...  ตั้งตุ๊กตาโลดด  ภาพถ่ายตุ๊กตา...ใบสุดท้าย... วันต่อมา ผมก็เอาแบบก่อสร้างมานั่งดูเล่นๆ เพื่อดูระยะต่างๆว่าตรงไหม (ผมแทบจะเป็นคอนซัลแตนท์เองเลยครับ ไปดูบ้านเกือบทุกวัน จนช่างเบื่อหน้า ไอ้นี่มาอีกละ ขนมก็ไม่มีติดไม้ติอมือมา) แล้วผมก็สะดุดอยู่จุดนึงครับ จริงๆแล้วภรรยาผมเป็นคนแรกที่สังเกตุ ผู้หญิงนี่สายตาเหยี่ยวจริงๆ ผมเลยมาดูแบบละเอียดอีกที  แบบขยายภาคตัดขวางของบ้านในส่วนชั้นสอง จากแบบด้านบน จะเห็นว่า ระยะพื้นถึงฝ้าห้องนอน จะอยู่ที่ 3.3 เมตร ปกติชั้นสอง พื้นถึงฝ้าจะอยู่ที่ 2.5 - 2.8 เท่านั้น เพราะสถาปนิกอยากให้ห้องดูโล่งครับ ซึ่งผมก็เห็นชอบด้วย แต่พอไปดูหน้างาน แฟนทักว่าทำไมห้องเราเตี้ยจัง ถึงสามเมตรเหรอ? ผมก็บอกแฟนไปว่า อ้อ เดี๋ยวเขาก็ทำคานอีก 50 เซน ได้ 3.3 พอดี  ระยะสูงเสาคือ 2.8 ระยะต่อคานขึ้นไปอีก 0.5 รวมเป็น 3.3 ตามแบบเป๊ะๆ... เท่าที่ดูก็ไม่น่ามีปัญหาใช่ไหมครับ...แต่จริงแล้วไม่ใช่ครับ เพราะการจะทำฝ้า ต้องทำที่ระดับใต้คานครับ อย่างมากเลยคือแนบท้องคานพอดี ยกเว้นล้าน Loft ที่โชว์คาน โชว์ท้องพื้น นั่นก็หมายความว่า ถ้าทำฝ้าเสร็จแล้ว ห้องผมจะสูงแค่ 2.8 เมตร!! อ้าว ชิหายละครับ เย็นวันต่อมาผมไปดูที่เกิดเหตุ โทรคุยกับ คุณ ก. และคุณต้น(สถาปนิก) เลยครับ ทุกคนเหวอเลย พลาดหมดเลย ตั้งแต่สถาปนิก ยัน ผรม. นี่ถ้าแฟนผมไม่ทัก หรือผมไม่สนใจดูแบบนี่ยุ่งเลยครับ เพราะกำลังจะเข้าแบบคานแล้วด้วย เพราะสถาปนิกออกแบบทางสถาปัตย์ก่อน แล้วค่อยส่งไปให้วิศวะคำนวนและเขียนแบบโครงสร้าง ความเข้าใจไม่ตรงกัน วิศวะก็ถูกแล้วที่เขียนเสา 2.8+0.5 ้เพราะระยะวางอะเส(คานรับหลังคา)คือ 3.3 แต่สถาปนิกกำหนดระดับฝ้า 3.3 ทำให้คาดเคลื่อนกัน ส่วน ผรม.ก็ดูแต่แบบโครงสร้าง หล่อเสาไปเรียบร้อยแล้ว โดยลืมดูแบบสถาปัตย์ วิธีแก้ปัญหา สถาปนิกบอกว่ามีอยู่สองทาง คือ ใช้คานรับหลังคา(ต่อไปจะเรียกอะเสนะครับ) เป็นปูนต่อไป แต่ต้องยอมรับว่าเพดานห้องจะเตี้ยลง 50 เซน กลายเป็น 2.8 เมตร หรือเปลี่ยนเป็นคานรับหลังคาเหล็ก ก็จะได้ความสูงของห้องเท่าเดิม...ถามว่าทำไมไม่ทำคานปูน แล้วให้สูงเท่าเดิมล่ะ ตอบคือทำได้ครับ แต่เสาต้องสูงขึ้นไปอีก 50 เซน ทำให้ตัวบ้านชั้นสอง ยกขึ้นไปสูงอีก 50 เซน มันจะตลกมากครับ ลองนึกภาพบ้านหัวโตตัวเตี้ย และที่สำคัญคือเรื่องระยะบังแดด บังฝนต่างๆ มันจะไม่ได้ตามหลักครับ เลยเหลือตัวเลือกสองทาง ผมกับแฟนมาปรึกษากัน ยังไงก็อยากได้ห้องสูงๆ เลยหาข้อมูลเรื่องอะเสเหล็กกับอะเสปูนต่างกันยังไง ค้นอากู๋ดู ออกมาเพียบเลยครับ ผมจะสรุปให้ฟังเลยละกัน เผื่อใครกำลังลังเล คานรับหลังคา หรืออะเสปูน  ข้อดี 1.แข็งแรง ทนทาน ยาวนาน เพราะเป็น คสล.เหมือนคานบ้านทั่วไป ไม่เป็นสนิม ทนต่อแผ่นดินไหว พายุรุนแรง ก็คือไม่ปลิวไปกับหลังคา ข้อเสีย 1.ใช้เวลาในการทำ ต้องเข้าแบบ เทปูน รอเซทตัว ถึงขึ้นโครงหลังคาต่อได้ 2.มีน้ำหนักมาก ต้องคำนวนออกแบบแต่แรก เพื่อถ่ายน้ำหนักคานลงเสา 3.ทำระยะความสูงชั้นสองได้ไม่มาก เพราะต้องเผื่อติดฝ้าเพดาน อะเสเหล็ก  ข้อดี 1.ติดตั้งง่าย รวดเร็ว สามารถขึ้นโครงหลังคาต่อได้เลย 2.กำหนดระยะฝ้าเพดานง่าย เพราะไม่ต้องเผื่อคาน ข้อเสีย 1.ถ้าใช้เหล็กไม่มีคุณภาพ หรือการกันสนิมไม่ดี ก็อาจเป็นสนิมได้ 2.ถ้าเกิดภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว พายุเข้า จะไม่ทนทานเท่าปูน *ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการรับน้ำหนักหลังคานะครับ ถ้าวิศวะคำนวนมาดี ไม่ว่าอะเสปูนหรือเหล็ก ก็สามารถรับน้ำหนักหลังคาได้ไม่ต่างกัน* *ราคาส่วนใหญ่เหล็กจะถูกกว่าปูน แต่ขึ้นกับการออกแบบ ถ้าหลังคาใหญ่ ใช้เหล็กหนา จำนวนมากๆ ก็อาจแพงกว่าปูนได้ การเลือกใช้อะเสปูนหรือเหล็ก - ขึ้นกับการออกแบบของสถาปนิกและวิศวะกร ถ้าต้องการห้องชั้นสอง เพดานสูง โดยบ้านไม่เสียรูปทรงก็ต้องใช้เหล็ก หรือบ้านหลังเล็กหน่อย ต้องการประหยัดงบ ก็ใช้เหล็ก ต้องการบ้าน Loft ก็ใช้ปูน - สถาปัตย์ หรือวิศวะ จำคำนวนการรับน้ำหนักหลังคามาอยู่แล้ว ดังนั้นการใช้เหล็กหรือปูนขึ้นกับปัจจัยอื่นๆล้วนๆไม่ใช่การรับน้ำหนักหลังคา - ส่วนใหญ่ จะใช้อะเสปูน เพราะไม่ต้องคำนึงหน้างานมากนัก เพราะถ้าใช้อะเสเหล็ก ช่างและ ผรม.เป็นตัวแปรสำคัญมาก เพราะต้องกันสนิมอย่างดีและเชื่อมเหล็กอย่างดี ถ้าทำสองอย่างนี้ไม่ดี คานจะเป็นสนิม ก็อาจเสียกำลังรับแรงได้ เมื่อได้ข้อมูลทุกอย่าง ผมกับแฟนก็ตกลงที่จะใช้อะเสเหล็กครับ โดยต้องให้สถาปนิกและวิศวะกลับไปเขียนแบบหลังคามาใหม่ คำนวนโครงสร้าง และวัสดุที่จะใช้มาใหม่ งานนี้เพื่อนสถาปนิกบอก กุผิดเต็มๆ ชดใช้ด้วยการเลี้ยงข้าว 1 มื้อ...(คุ้มไหมเนี่ย)  จะเห็นว่าระยะเปลี่ยนไปเป็น 3.45 ซึ่งอีก 15 เซนคือความสูงเหล็กนั่นเอง (ระยะนี้ระยะหลังคานนะครับ) เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผรม.ก็สั่งเหล็ก ผมก็ย้ำว่า การทาสนิมขอเป็นแบบชุบในรางนะครับ อย่าใช้แบบทา มันไม่ทั่วถึง ผรม.บอก No problem เพราะเหล็กที่จะใช้ สั่งมาจากโรงงานทาสีเคลือบสนิมให้เสร็จสรรพ โอ้ว เมพขิงๆ  หน้าตาของเหล็กที่จะใช้ครับ ของ Pacific Pipe แหม่ ไม่ได้ซื้อหุ้นตัวนี้ไว้ซะด้วย ไอ้ที่บอกว่าเพิ่มกำไรน่ะ ของ ผรม.เขานะครับ ไม่ใช่เจ้าของบ้าน   ก็ไปหาข้อมูลการทำสี ชุบสนิมของบริษัทมาครับ เพื่อความชัวร์ แต่การวางอะเสเหล็กก็จำเป็นต้องทำหัวเสาเพื่อรองรับเหล็กครับ โดยทำได้สองวิธีคือ เอาเหล็กมาเสียบหัวเสา เพื่อเชื่อม (มีรูปด้านบนลองเลื่อนไปดูได้ครับ) กับใช้ Plate เหล็กแบนๆวางหัวเสาเพื่อเชื่อม ของผมใช้ Plate เหล็กครับ จะใช้แบบไหนก็ได้แล้วแต่คนออกแบบ  Plate เหล็ก มีปูน Non shrink รองใต้ plate  หน้าตาของ Plate ครับ  เอาไปติดหัวเสาก็เป็นแบบนี้ จากนั้นก็ประกอบแบบ เห็นรูปโผล่มานิดเดียว ก็งงว่าจะเทปูนไงหว่า  ก็ยังเทกันได้แบบนี้ครับ เทๆ แยงๆ ยากหน่อยนะเนี่ย ขั้นตอนรอแบบ รอสั่งเหล็ก ใช้เวลาเกือบสัปดาห์ แอบเซ็งเหมือนกันครับ สุดท้ายเหล็กก็มาส่งสักทีจะได้ขึ้นโครงหลังคาแล้วเย้  ของจริงหน้าตาแบบนี้ สีสรรสวยงามดี ไม่ต้องมาชุบสีกันสนิมอีก ลดขั้นตอนได้เยอะ ผมไปสุ่มๆตรวจดูก็โอเค ไม่มีรอยขูดขีดลึกถึงเนื้อเหล็ก  เช่นเคยครับ ตรา มอก. ก่อนจะไปถึงการทำโครงหลังคา ผมก็ขอแนะนำส่วนประกอบของโครงหลังคาก่อนครับ เผื่อว่าใครไปฟัง ผรม.หรือช่างเขาคุยกันจะได้เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร  ศัพท์ต่างๆก็ตามรูปนะครับ อะเส = คานรับหลังคาที่กล่าวถึงไปแล้ว ดั้ง = เหล็กที่ตั้งฉากกับคานหลังคาเพื่อรับส่วนที่สูงสุดของหลังคา อกไก่ = สันคานหลังคาจุดที่สูงสุดของหลังคา จันทัน = คานแนวเฉียงที่พาดระหว่างอกไก่กับอะเส แป = คานแนวยาวที่พาดตั้งฉากกับจันทันตามแนวหลังคา เอาไว้วางแผ่นกระเบื้อง  นอกจากนี้ยังมีตะเฆ้สัน ตะเฆ้ราง ซึ่งเป็นส่วนประกอบของตัวหลังคาเพิ่มเติม หลังจากเหล็กเข้าครบ ก็ทำการขึ้นโครงหลังคาทันที ผรม.บอกว่า ใช้เวลาไม่เกิน 5 วัน  เริ่มทำอะเสละครับ รื้อตุ๊กตาเก่าออก  เอาอะเสวางบน Plate หัวเสา แล้วเชื่อมครับ  ตั้งดั้ง และอกไก่  ส่งเหล็กขึ้นชั้นสองโดยทำราง แล้วดึงเชือกคนละด้านขึ้นมาครับ หลังจากนั้นไม่นาน ฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่ หลายห่าเลยครับ ตกเยอะมาก ฟ้ามืดตั้งแต่เที่ยง ช่างทำงานกันได้วันละ 3 - 4 ชม. เพราะเชื่อมไม่ได้ เป็นแบบนี้อยู่สองสัปดาห์ ทำให้งานช้าไปมากๆ วันนึงเชื่อมจันทันได้สามตัว สี่ตัว เฮ้อ..กว่าจะเสร็จ  ในที่สุดก็เสร็จสักทีคร้าบบบ หลายวันผ่านไปก็เสร็จสักทีครับ ตอนนี้จบงวดโครงหลังคาแล้ว แบงค์เข้ามาตรวจ รับเงิน จ่ายเงิน ผรม.เรียบร้อย แต่งานยังไม่เสร็จนะครับ ขั้นต่อไปคือรอ CPAC มาตรวจงาน เพื่อเอากระเบื้องเข้า และปูกระเบื้องครับ ทางผรม.เองก็ต้องย้ำรอยเชื่อมให้ 100% และทาสีกันสนิมตรงรอยเชื่อมทุกจุดก่อนที่จะปู ผมก็อยากขึ้นไปดูเองนะ แต่เสียวๆเหมือนกัน ถ้าวันไหนฝนไม่ตก ไม่ลื่นว่าจะแอบปีนขึ้นไปดูสักหน่อย เดี๋ยวพลาดอะไรไปอีก จากนั้นก็ปิดปลายจันทัน เพื่อตีเชิงชาย ผรม.ผมเลือกเชิงชายเหล็กครับ จะเป็นยังไง คราวหน้าจะมาอัพเดต  เอ๊ะนั่นอะไร.. ก่อนจบ ลาไปด้วยกองอิฐมอญ ซึ่งเริ่มทยอยเข้ามาแล้วครับ เพราะงวดถัดไปคืองานก่ออิฐแล้ว ซึ่งก็จะเกี่ยวกับการเลือกวงกบประตูด้วย จริงๆผมสั่งวงกบมาละ แต่จะรวบยอดเล่าครั้งหน้าเลยครับ งานก่อ ตั้งวงกบ
เป็นรูปเป็นร่างไปอีกสเตปนึง ปูหลังคาเมื่อไหร่คงสวยขึ้นอีกเยอะครับ อยากเห็นหลังคาซะแล้ว
โดย: เหวินซิ่ว IP: 171.96.247.159 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2557 เวลา:11:42:15 น.
หลังคาเป็น Neustile ครับ สีเทาดำ ณ ตอนที่พิมพ์กำลังจะปูเลยครับ รีวิวหน้า น่าจะอีกไม่นาน งานก่อก็กำลังไปเร็วเลยครับ สงสัยเร่งละ 555+
โดย: Agent Molder
 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2557 เวลา:15:49:55 น.สอบถามหน่อยค่ะ เหล็กแปซิฟิกไพพ์ที่ใช้ทำหลังคา ต้องทาสีจริงอีกหรือเปล่าคะ
โดย: tang IP: 210.213.51.39 วันที่: 25 มกราคม 2559 เวลา:17:28:02 น.
@tang : ถ้าใช้เหล็กตัวนี้ไม่ต้องทาสีกันสนิมแล้วครับ (ยกเว้นตรงรอยต่อเชื่อมต้องทานะครับ) ส่วนสีจริงก็แล้วแต่บ้านเลยครับ อยากได้สีไหนก็ทาไปเลย แต่ตัวเหล็กที่มามันสีส้มๆอยู่แล้ว
โดย: Agent Molder
วันที่: 26 มกราคม 2559 เวลา:13:31:06 น.แบบนี้ไม้ถือว่าผิดแบบหรือค่ะ จากปูนเป็นเหล็ก ที่บ้านกำลังประสบปัญหาแบบนี้เลย กลัวงวดธนาคารไม่ผ่านค่ะ
โดย: แหม่ม IP: 1.46.172.87 วันที่: 17 กันยายน 2560 เวลา:1:28:43 น.
@แหม่ม : ใช่ครับ ผิดแบบ แต่มันผิดที่แบบเลยครับ ไม่ใช่ ผรม.ทำผิด ส่วนเรื่องธนาคารเขาไม่หยุมหยิมแค่นี้หรอกครับ เขาก็ให้ตามปกติแหล่ะครับ ถ้าไม่ใช่ว่าเปลี่ยนแบบไปเลย อันนี้ไม่มีปัญหา การก่อสร้าง ยังไงก็ไม่มีทางได้ตรงแบบเด๊ะๆ 100% บิดไปสัก 5 - 10% ก็รับได้
โดย: Agent Molder
วันที่: 20 กันยายน 2560 เวลา:11:34:40 น.รบกวนถามเรื่องเสียงของอะเสเหล็กหน่อยคับ เห็นว่ามีเสียงกระพือตอนลมแรงได้
ผมกำลังจะขึ้นเสาชั้น2พอดี มาเห็นบทความดีๆขอบคุณมากเลยครับ โดย: ธีรพจน์ IP: 49.237.16.167 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:24:34 น.
|
Agent Molder
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 381 คน [?] Group Blog All Blog
Friends Blog
|
||||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||||||||||||
ปล.บ้านหนูก็ใกล้จะเสร็จแล้ว ^^