ทนายอ้วนพาเที่ยวเชียงใหม่ - ดี๋ใจยิ่งแล้ว .. แขกแก้วมาเยือนอีกเตื้อ - วัดแสนเมืองมาหลวง (หัวข่วง)
สถานที่ท่องเที่ยว : วัดแสนเมืองมาหลวง (หัวข่วง) เชียงใหม่, เชียงใหม่ Thailand
พิกัด GPS : 18° 47' 37.82" N 98° 59' 14.55" E
สวัสดีครับ บล็อกท่องเที่ยวของ ทนายอ้วน กลับมารับใช้พ่อแม่พี่น้องอีกเช่นเคยนะครับ ที่หายไปก็เพราะว่าเกิดอาการคล้ายๆนิ้วจะล็อค !!!! ครับ เคยเป็นมาแล้วครั้งนึงรำคาญมากกว่าทรมานครับ เลือกที่จะไม่ผ่าตัดก็ต้องไปทำกายภาพอยู่เดือนกว่าๆถึงจะหายดีครับ คราวนี้รู้ทันว่าจะกลับไปเป็นอีกครั้งก็เลยหยุดกิจกรรมที่ต้องใช้มือทั้งหมด แช่น้ำอุ่น บริหารนิ้วมือ กำลูกเทนนิส ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วครับ
บล็อกท่องเที่ยวทั่วไทยบล็อกนี้ก็จะพาไปเที่ยว วัด ตามถนัดเหมือนเคยนะครับ ในซีรีย์นี้จะเป็นวัดที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้ไปแอ่วมาเมินละครับ บางวัดจะสังเกตเห็นการตกแต่งเป็น theme งานยี่เป็ง คริๆๆๆ
วัดหัวข่วง (แสนเมืองมาหลวง)
วัดหัวข่วง (แสนเมืองมาหลวง) ตั้งอยู่บนถนนพระปกเกล้าห่างจากอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ไปทางประตูช้างเผือกประมาณ 450 เมตร ครับ
ชื่อวัดหัวข่วง มีที่มาจากที่ตั้งของวัด ซึ่งนอกจากจะตั้งอยู่ทางทิศเหนือใกล้ลานโล่งใหญ่ภาษาเมืองเรียกว่า ข่วง แล้วยังตั้งอยู่ใกล้ๆคุ้มเจ้านายทั้งหลายด้วย คล้ายๆกับการสร้างวัดในพระราชวังของภาคกลาง ซึ่งธรรมเนียมการสร้างวัดแบบนี้มีแพร่หลายทั่วไปในภาคเหนือสังเกตได้จากจะมีชื่อวัดหัวข่วงอยู่ทุกๆจังหวัดทางภาคเหนือที่เคยเป็นเมืองเก่า
วัดหัวข่วง เดิมชื่อ ลักขปุราคมาราม มีความหมายว่า วัดที่พระเจ้าแสนเมืองมาสร้าง ตามพงศวดารเมืองเหนือบันทึกไว้ว่าวัดหัวข่วงสร้างในสมัยพระเจ้าแสนเมืองมาหรือกว่า 600 ปีมาแล้ว ต่อมาเมื่อปี 2063 พระเมืองแก้ว เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ลำดับที่ 11 โปรดให้บูรณะพระเจดีย์ขึ้นใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิมและยังโปรดให้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายในเจดีย์ด้วย สร้างหอพระมณเฑียรธรรมเพื่อสำหรับเก็บพระไตรปิฎกเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระเจ้าแสนเมืองมา พระอัยกาธิราช (ปู่) และได้กลายเป็นวัดร้างในเวลาต่อมา ในอดีตวัดหัวข่วงมีความสำคัญมาก เพราะถือเป็นวัดประจำเมือง เป็นสถานที่ประชุมทัพก่อนทำศึกสงครามและใช้ประกอบพิธีกรรมสำคัญๆต่างๆ
ในปี พ.ศ. 2536 พระครูปลัดทรงสวัสดิ์ ปัญญาวชิโร ได้ฟื้นฟูบูรณะวัดหัวข่วงขึ้นมาอีกครั้ง โดยสร้างปูชนียสถานสำคัญต่างๆขึ้นใหม่เกือบทั้งหมดยกเว้นพระเจดีย์
พระวิหารหลวง สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดในปี พ.ศ.2544 เพื่อทดแทนหลังเก่าที่ถูกไฟไหม้ทั้งหลัง เป็นสถาปัตยกรรมล้านนาประยุกตร์ มีความวิจิตรพิสดารพันลึกมาก พระวิหารมีหลังคาซ้อนกันสามชั้น และมีหลังคาคลุมบันไดทางขึ้นด้านหน้า มีทางขึ้น ลง ด้านข้างทั้ง 2 ข้าง ว่ากันว่าด้านในประดิษฐาน พระพุทธรัตนบุรีสะหลีแสนเมืองมา ปางมารวิชัยขนาดหน้าตักกว้าง 6 เมตร สูง 9 เมตร ที่มีพุทธลักษณะสวยงามองค์หนึ่งของล้านนาเลยทีเดียว
พระอูโบสถ อยู่ด้านข้างพระวิหารหลวง สร้างขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2537 เป็นสถาปัตยกรรมล้านนาประยุกต์เหมือนกันกับพระวิหารหลวงแต่มีขนาดเล็กกว่ามาก (ธรรมเนียมการสร้างพระอุโบสถในภาคเหนือจะสร้างให้มีขนาดเล็กกว่าพระวิหารมาก) ภายในประดิษฐาน พระศรีเมืองมา พระพุทธรูปปางสมาธิมีอายุกว่า 500 ปี มีขนาดเท่าองค์ พระเจ้าแสนเมืองมา พระบิดาของพระเมืองแก้วเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่
พระมหาธาตุเจดีย์วัดหัวข่วง ตั้งอยู่ทางด้านหลังพระวิหารหลวง เป็นเจดีย์ศิลปะล้านนาผสมสุโขทัย ฐานบัวถูกยืดออกเหมือนกับพระธาตุหริภุญไชย พระธาตุลำปางหลวง พระธาตุดอยสุเทพ และพระธาตุในภาคเหนืออีกหลายๆองค์ องค์ระฆังมีลักษณะคล้ายๆพระธาตุลำปางหลวงและพระธาตุดอยสุเทพเป็นรูปแบบที่นิยมสร้างในช่วงพุทธศตวรรษที่11 ในรัชสมัยของพระเจ้าติโลกราชต่อเนื่องมาจนถึงรัชสมัยของพระเกษเมืองเกล้า
หอพระมณเฑียรธรรม สร้างครั้งแรกในรัชสมัยของพระเมืองแก้วพร้อมกับการบูรณะปฎิสังขรณ์ใหญ่แต่ก็ได้ผุพังไป จึงได้มีการสร้างขึ้นใหม่เพื่อเก็บรักษาพระไตรปิฎกและเอกสารสำคัญต่างๆ
ปละขอให้อาการนิ้วล๊อค หายอย่างถาวรนะคร้า
ยุคนี้เป็นกันเยอะ เพราะใช้นิ้วเขี่ยๆสมาร์ทโฟนกันตลอด 24 ช.ม.
รักษาสุขภาพนะคร้า...ขอบคุณคะ