Group Blog
สิงหาคม 2555

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
 
 
All Blog
ทัวร์ทนายอ้วน ... เที่ยวไปตามใจฉัน - พาไปเที่ยววัดเงี๊ยวกลางเมืองเชียงใหม่ - วัดป่าเป้า, เชียงใหม่
วัดป่าเป้า ตั้งอยู่เลขที่ ๕๘ บริเวณแจ่งศรีภูมิ ถนนมณีนพรัตน์ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่


Photobucket

Photobucket

Photobucket


ในสมัยก่อนมีพื้นที่ ทิศเหนือห่างจากวัด 100 วา ทิศใต้จดคูเมือง ทิศตะวันออกห่างจากวัด100 วา และทิศตะวันตกห่างจากวัด 100 วา แต่เดียวนี้ มีพื้นที่ดินเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีเนื้อที่ ๑๐ ไร่ ๘๑ ตรางวา และภายนอกกำแพงเป็นธรณีสงฆ์วัดมี ๑ ไร่ ๒ งาน ๗๓ ตรางวา รวมทั้งสิ้น ๑๑ ไร่ โดยประมาณ


Photobucket


บริเวณวัดป่าเป้าเคยเป็นคุ้มเก่า (วังเก่า) ของพระเจ้ากือนาธรรมิการาชเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ในเชื้อเจ้าเจ็ดตนมาก่อน หลังจากพระเจ้ากือนาธรรมิการาชได้สวรรคตลงไปแล้ว อัครมหาเสนาบดีแสนผานองได้นำพระศพของพระเจ้ากือนาเข้าไปในเมืองทางด้านกำแพงตรงข้ามวัดพราหมณ์ (ซึ่งต่อมาเป็นที่ตั้งของวัดป่าเป้าจนถึงทุกวันนี้) เพื่อที่จะทำพิธีแต่งการฌาปนกิจศพของพระเจ้ากือนา หลังจากงานพระศพก็ไม่ได้มาดูแลที่คุ้มเก่าทางนอกกำแพงเมืองอีกเลยเพราะติดพันอยู่กับสงครามด้านอื่นๆอยู่ คุ้มเก่า (วังเก่า) ของพระเจ้ากือนาธรรมิการาชจึงชำรุดทรุดโทรมลงกลายเป็นที่รกร่างว่างเปล่า มีหมู่ไม้นานาพันธ์ชนิดขึ้นเต็มไปหมด ในบรรดาหมู่ไม้ทั้งหลายโดยเฉพาะ ไม้ต้นเป้า ( ต้นเป้า นี้เป็นยาสมุนไพร) มีมากกว่าหมู่ไม้ทั้งหลาย


Photobucket


ภายหลังมีชาวเงี้ยว (ไทใหญ่) ขออนุญาตสร้างวัดต่อเจ้าผู้ครองนครในสมัยนั้น จึงอนุญาตให้ไปแพ้วถางป่าไม้เป้าที่คุ้มเก่า (วังเก่า) นอกกำแพงเมืองทิศตะวันออกเฉียงเหนือตรงข้ามแจ่งศรีภูมิ จึงทำการสร้างวัดขึ้น เรียกชื่อว่า เชตวันวิหารบ้าง เวฬุวันวิหารบ้าง


Photobucket


จนมาถึงสมัยพระเจ้ากาวีละเป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ มีการปรับปรุงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง จึงมีการไปกวาดต้อนผู้คนในหัวเมืองทิศต่างๆ เช่น ฝาง เชียงราย เชียงคำ เชียงของ เมืองปู เมืองสาต เมืองกาย เมืองพะยาก เมืองเลน เมืองโก เมืองยอง เมืองเชียงตุง เมืองขอน เมืองยู้ เมืองหลวง เมืองวะ เมืองลวย เมืองตองกายเมืองสิบสองปันนา ( เมืองโก เมืองเลน เมืองวะดังปรากฏอยู่ในอำเภอสันทรายทุกวันนี้) ทิศตะวันตกจนถึงฝั่งแม่น้ำสาลวิน (น้ำคง)มี เมืองยวม เมืองขุนยวม เมืองแม่ฮ่องสอน เมืองแหง เมืองปาย เมืองต๋วนเมืองต้าฝั่ง เมืองผาปูน เมืองยางแดง เมืองส่วยกะยาง เมืองวัวลาย เมืองกิติ เมืองจ๊อต ฯ เมื่อมีการกวาดต้อนผู้คนเหล่านั้นเข้ามานั้นมีทั้งชาวเงี้ยว (ไต - ไทใหญ่) ก็รวมอยู่ในกลุ่มนั้นด้วยดังนั้น ชาวเงี้ยวก็มาสมทบพวกเก่าๆ จนมีมากขึ้น จึงได้มีการรวมกันบูรณะซ่อมแซมวัดวาอารามที่มีอยู่เก่าขึ้นเรื่อยมาอีก


Photobucket


จนถึงต้นรัชสมัยพระเจ้าอินทรวิชยานนท์๒ (เจ้าหลวงตาขาว) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๗ ในปี พ.ศ.๒๔๑๔ กองทัพเชียงใหม่ได้ยกกำลังไปกวาดต้อนผู้คนชาวเงี้ยว๓ บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำสาละวินแถบบ้านแม่ตะกวน เชลยศึกดังกล่าวมีครอบครัวของแม่เฒ่าต้าว (สถูปบรรจุอัฐิของแม่เฒ่าต้าว ยังปรากฏให้เห็น ในบริเวณข่วงกำแพงแก้ว ด้านเหนือองค์เจดีย์ วัดป่าเป้า) ซึ่งเป็นภรรยาของต้าวหมอ(เงี้ยว) มีพื้นเพดั้งเดิมเป็นคนเมืองลางเคือ แม่เฒ่าต้าวผู้นี้ มีบุตรธิดาทั้งหมด ๖ คน คือ พ่อจางมนแม่จางอ่อง แม่นางนวล แม่นางแก้ววรรณา ส่างสามและแม่นางไหล(บัวไหล) นางแก้ววรรณาและแม่นางบัว ไหลเป็นคนสวยงามต่อมาจึงได้รับเลือกเป็นนางสนมของพระเจ้าอินทรวิชยานนท์ นิยมเรียกกันในสมัยนั้นว่า "หม่อมบัวไหล


Photobucket

Photobucket


แม่เฒ่าต้าว และพ่อเฒ่าต้าวหมอ (เงี้ยว) มาตั้งบ้านเรือนอยู่แถวย่านประตูช้างเผือก ต่อมาแม่หม่อมบัวไหล และรวมกับชาวเงี้ยว ( ไทใหญ่ ) ก็ได้เป็นผู้นำทำการ ขออนุญาตบูรณะซ่อมแซมวัดป่าเป้าเป็นการใหญ่ ต่อพ่อเจ้าอินทรวิชยานนท์ พ่อเจ้าอินทรวิชยานนท์ก็โปรดเกล้าอนุญาตให้ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๖ อีก เพื่อเป็นที่ประกอบพิธีกรรม ทางศาสนาต่างๆ


Photobucket

Photobucket


เนื่องจากในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๗ รัฐบาลไทยได้ประกาศตั้งมนฑลเทศาภิบาลขึ้น เชียงใหม่ซึ่งเป็นศูนย์กลางของมณฑลแถบนี้เรียกว่ามลทลลาวเฉียง ต่อมาเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ว่มณฑลพายัพ เป็นการยกเลิกฐานะประเทศราชของเชียงใหม่และรัฐบาลได้ประกาศแต่งตั้งให้ เจ้าพยาสุรสีห์วิศิษฐ์ศักดิ์ ดำรงค์ตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลมณฑลพายัพเป็นคนแรก มีอำนาจสิทธิเด็จขาดในการปกครองดินแดนแถบนี้อย่างเต็มที่ในปี พ.ศ.๒๔๔๕ จึงเป็นการสิ้นสุดอำนาจการปกครองของเจ้าผู้ครองนครในอาณาจักรล้านนามาตราบจนทุกวันนี้


Photobucket

Photobucket

Photobucket


ภายหลังจาก พระเจ้าอิทรวิชยานนท์ ถึงแก่พิราลัย หม่อมบัวไหลได้สมรสใหม่กับคหบดี พ่อค้าไม้ชาวพม่า ชื่อว่า "หม่องจิ่น" ทั้งหม่อมบัวไหลและ หม่องจิ่นได้เป็นประธานร่วมกับศรัทธาชาววัดป่าเป้าทำการบุรณะปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ ซึ่งในขณะนั้นการขออณุญาติก่อสร้างจะต้องขอโดยตรงลงมายังกรุงเทพฯ โดยสล่าอุ๊ศติ เป็นผู้แทนของศรัทธาในนามของวัดป่าเป้า ขอพระบรมราชานุญาตจากในหลวงรัชกาลที่ ๕ จนในที่สุดได้รับพระราชทานที่ดินส่วนหนึ่ง สำหรับก่อสร้างเป็นพระอุโบสถพร้อมกับพระราชทานใบวิสุงคามสีมาให้แก่วัดป่าเป้า จึงได้ช่วยกันรื้อพระอุโบสถเก่าและก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้น ทำด้วยไม้สักทั้งหลัง มีสถาปัตยกรรมแบบเงี้ยว , มอญ พม่าดัง ปรากฏอยู่ทุกวันนี้


Photobucket

Photobucket


"มีพระราชโองการประกาศแก่ชนทั้งปวงว่า ที่เขตพระอุโบสถวัดป่าเป้า แขวงเมืองนครเชียงใหม่โดยยาวสิบวา กว้างสิบวา สล่าอุ๊ศติ ( เงี้ยว ) ได้กราบบังคมทูลขอเป็นที่วิสุงคามสีมา พระเจ้าแผ่นดินกรุงสยามได้ยีนดีอนุโมทนาอนุญาตแล้ว โปรดให้กรรมการปักกำหนดให้ตามประสงค์ ทรงพระราชอุทิศที่ ให้เป็นวิสุงคามสีมา ยกเป็นแผนกหนึ่งต่างหาก จากพระราชอนาเขต เป็นที่วิเลศสำหรับพระสงฆ์แก่จตุรทิศทั้งสี่ ทำสังฆกรรมต่างๆ มีอุโบสถกรรม เป็นต้น

พระราชทานตั้งแต่ ณ วันที่ ๒๔ กันยายน รัตนโกสินทร์ศก ๓๙/๑๒๕ พุทธศาสนากาล ๒๔๔๙ พรรษา เป็นวันที่ ๑๘-๘-๓๒ ในราชกาลปัจจุบันนี้”

พระบรมราชโองการนี้ ได้ยังความปลื้มปิติแก่ศรัทธาวัดป่าเป้าเป็นที่สุด ถึงกับได้จัดงานเฉลิมฉลอง


Photobucket


ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี้ท่านเจ้าอาวาสองค์ก่อน (พระหว่านะ)ได้มรณภาพไปแล้วเจ้าอาวาสองค์ต่อมาชื่อว่า อูวิซะยะ เป็นพระชาวเงี้ยว จากเมืองหนิม ร่วมกับ จองน้อยลอก๊ะ จองหวุ่นนะ สล่าอ้าย เป็นอาทิ สร้างถาวรวัตถุเพิ่มเติมให้กับวัดด้วย


Photobucket


ในปี พ.ศ. ๒๔๖๘ มีคหบดีเงี้ยวแห่งบ้านช้างเผือก ชื่อปู่จองคำยี่ได้เป็นประธานร่วมกับเจ้าศรัทธาผู้อื่น คือ แม่จองนางซื้อ แม่เฒ่านายพาราตักก่าจาง แม่จองคำแหลง และสล่าอุ๊ศติ แห่งบ้านวังสิงห์คำ ได้ทำการ
มอบหมายให้ หม่องโภห่าน เป็นผู้ออกแบบและก่ออิฐถือปูนสร้างคันธกุฎี ขึ้นอีกหลังหนึ่ง ตั้งอยู่ระหว่างวิหารเดิม กับองค์พระเจดีย์ ศิลปะการก่อสร้าง และตกแต่งภายในเป็นแบบไทยใหญ่พม่าผสม(ปัจจุบันทางวัดได้ปรับปรุงและพัฒนาเป็นเป็นพิพิธภัณฑ์)


รวมอายุของวัดป่าเป้า ที่สร้างทีหลังตราบจนปัจจุบันนี้ อายุได้ประมาณ ๑๑๖ ปีล่วงมาแล้ว แต่ที่สร้างคราวก่อนนั้นไม่มีประวัติหลักฐานปรากฏแน่ ชัด แต่สันนิษฐานว่า คงอายุมากกว่า ๑๑๖ ปี คือราวประมาณ ๔๐๐ กว่าปี


ศาสนสถานและปูชนียวัตถุภายในวัด ประกอบด้วย


พระอุโบสถ เป็นพระอุโบสถทรงพม่าแบบตึกผสมไม้ หลังคาทรงจั่วซ้อนชั้นขึ้นไปเป็นสถาปัตยกรรมฉานที่เรียกว่า “ พญาธาตุ ” โดยเป็นหลังคาทรงสูงซ้อนกันหลายชั้น และชั้นบนสุดจะมียอดแหลม ประดับด้วยไม้แกะสลักฝีมือประณีต เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ ชั้นล่างเป็นผนังก่ออิฐถือปูน โดยทำปูนปั้นเป็นซุ้มโค้ง บริเวณช่องหน้าต่างแบบศิลปะตะวันตก


Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket



คันธกุฎี เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ที่มีศิลปะผสมผสานระหว่างพม่าและตะวันตก โดยมีผนังทำปูนปั้นเป็นซุ้มโค้งแบบตะวันตก ส่วนยอดเป็นทรงปราสาทซ้อนชั้นศิลปะพม่า สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2468 ภายหลังได้ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ภายในวัด


Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket



พระธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์ศิลปะพม่าขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนฐานบัวลูกแก้วอกไก่ มีเจดีย์ประจำมุมทั้งสี่ และมีซุ้มจระนำประดิษฐานองค์พระทั้งสี่ทิศ เชิงบันประดับด้วยมกรปูนปั้น ถัดขึ้นไปเป็นชั้นบัวถลาที่รับปากระฆัง โดยมีฉัตรอยู่ส่วนยอด


Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket



ตุงกระด้าง เป็นตุงที่ทำจากสังกะสีแกะลวดลายอย่างบรรจง เพื่อใช้เป็นครื่องบูชาพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์


Photobucket


ขอขอบคุณท่านผู้มีอุปการคุณที่ทำให้การเที่ยวชมวัดป่าเป้าของเราสนุกยิ่งขึ้นครับ


บล็อกคุณ lovecondo3 - Wat Pa Pao พระธาตุวัดป่าเป้า วัดชาวไทยใหญ่ กลางเมืองเชียงใหม่


เวบไซต์วัดป่าเป้า


ComingThailand.com - วัดป่าเป้า วัดศิลปะพม่าจากศรัทธาชาวไทใหญ่


ท่องโลกเมืองไทย Thailand’s world - วัดป่าเป้า จังหวัดเชียงใหม่


วัด ป่า เป้า - ลานนาทอล์คของดีดอทคอม


ทัวร์ทนายอ้วน ............... เที่ยวไป ...... ตามใจฉัน







Create Date : 29 สิงหาคม 2555
Last Update : 29 สิงหาคม 2555 10:44:20 น.
Counter : 4264 Pageviews.

2 comments
  
ตามไปเที่ยวด้วยคร่า
โดย: Hathi วันที่: 29 สิงหาคม 2555 เวลา:10:52:40 น.
  
โดย: Kavanich96 วันที่: 30 สิงหาคม 2555 เวลา:8:46:19 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทนายอ้วน
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?]