หายหน้าหายตาไปอาทิตย์นึงเต็มๆมีทริปไปเชียงใหม่มาครับไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคไม่ดีกันแน่ที่ตอนอยู่เชียงใหม่อากาศเย็นลงกระทันหันขนาดในเมืองเชียงใหม่อุณหภูมิต่ำกว่า10 องศา แถมฝนตกปรอยทั้งวันหนาวยะเยือกกันทีเดียวครับ
ไปเชียงใหม่คราวนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวกับร้านอาหารมากมายมาฝากกันผ่านซีรีย์ ดี๋ใจ๋ยิ่งแล้วแขกแก้วมาเยือน หวังว่าคงจะมีสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารที่ถูกใจกันบ้างนะครับ
พระธาตุศรีจอมทอง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร อยู่ที่อำเภอจอมทองครับ จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางสาย 108 ผ่านอำเภอหางดงและอำเภอสันป่าตอง ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตรครับ วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารเป็นวัดที่อยู่กลางใจอำเภอจอมทองเลยครับ อยู่บนถนนเส้นหลักที่ผ่านตัวอำเภอจอมทองเลย
วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่บริเวณที่เป็นเนินดินสูงเดิมเรียกว่า ดอยจอมทอง ตามตำนานการก่อสร้างวัดกล่าวเอาไว้ว่าวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารได้สร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 20 แต่จากลักษณะของสิ่งก่อสร้างภายในวัดเป็นศิลปกรรมหลังพุทธศตวรรษที่ 24 หรืออยู่ช่วงยุคฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่
วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เป็นที่ประดิษฐาน พระทักษิณโมลีธาตุ หรือพระธาตุส่วนที่เป็นพระเศียรเบื้องขวาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีขนาดเมล็ดข้าวโพด สัณฐานกลมเกลี้ยง สีขาวนวลเหมือนสีดอกบวบหรือสีดอกพิกุลแห้ง และยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีชวดตามความเชื่อของชาวล้านนา
ตำนานของพระบรมธาตุจอมทองนั้นสามารถย้อนกลับไปได้ถึงสมัยพุทธกาลเลยครับ ในสมัยนั้นบริเวณดอยจอมทองนั้นมีเมืองอยู่เมืองหนึ่งชื่อ เมืองอังครัฎฐะ มีเจ้าผู้ครองนครชื่อ พระยาอังครัฎฐะ ทรงได้ทราบจากพ่อค้าชาวอินเดียที่เข้ามาค้าขายว่าได้มีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นในโลกนี้แล้ว พระยาอังครัฎฐะรู้สึกเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาจึงได้ทรงอธิษฐานขอให้พระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรด เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบด้วยพระญาณจึงได้เสด็จมาโปรดพระยาอังครัฎฐะพร้อมทั้งได้ตรัสพยากรณ์ไว้ว่าเมื่อพระพุทธองค์ปรินิพพานแล้วพระทักษิณโมลีธาตุหรือพระธาตุส่วนที่เป็นพระเศียรเบื้องขวาของพระองค์จะมาประดิษฐานอยู่ที่ดอยจอมทองแห่งนี้ พระยาอังครัฎฐะจึงได้สร้างสถูปไว้บนยอดดอยจอมทองเพื่อนรอพระธาตุจะมาประดิษฐานแต่สิ้นไปก่อน
เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานและได้มีการถวายพระเพลิงแล้วพระมหากัสสัปปะเถระได้ขอเอาพระทักษิณโมลีธาตุมาประดิษฐานไว้ ณ สถูปบนยอดดอยจอมทองตามที่พระพุทธองค์ทรงพยากรณ์เอาไว้
ใน พ.ศ. 218 พระเจ้าอโศกมหาราชได้เสด็จมายังยอดดอยจอมทองได้สั่งขุดอุโมงค์ สร้างสถูปไว้ในอุโมงค์นั้นแล้วอัญเชิญพระทักษิณโมลีธาตุจากสถูปที่พระยาอังครัฎฐะสร้างขึ้นไปไว้ในสถูปที่พระองค์สร้างใหม่ นำหินมาปิดปากถ้ำพร้อมกับอธิษฐานว่าถ้าต่อไปข้างหน้ามีพระเจ้าแผ่นดินและประชาชนเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาขอให้พระบรมธาตุเสด็จออกมาปรากฎให้ประชาชนได้กราบไหว้แล้วเสด็จกลับ
พ.ศ. 1995 นายสร้อย นางเม็ง สองสามีภริยาที่อาศัยอยู่ใกล้ดอยจอมทองได้มีศรัทธาสร้างวัดขึ้นวัดหนึ่งให้ชื่อว่า ศรีจอมทอง แต่ยังไม่แล้วเสร็จนายสร้อยกับนางเม็งก็ถึงแก่กรรมลงไปเสียก่อน ต่อมาในพ.ศ. 2009 ได้มีชาวบ้าน 2 คนคือนายสิบถั่วกับนายสิบพันได้บูรณะวัดศรีจอมทองจนเสร็จสิ้น
ในปี พ.ศ. 2042 ในสมัยพระธัมมปัญโญเถระเป็นเจ้าอาวาส ได้มีตาปะขาวคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในวัดฝันไปว่าเทวดาได้มาเข้าฝันว่าภายใต้พื้นดินที่วัดศรีจอมทองมีพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ ตาปะขาวคนนั้นได้เอาความฝันไปเล่าให้พระธัมมปัญโญเถระฟังพระธัมมปัญโญเถระจึงได้ทำการอธิษฐานจิตให้พระบรมปรากฎให้เห็นแล้วก็เก็บไว้เป็นความลับเอาไว้แค่ 2 คนไม่บอกให้ใครรู้
พ.ศ. 2058 พระศีลปัญโญเถระเป็นเจ้าอาวาส ได้มีพระอานันทะจากเมืองพุกามมาสืบค้นที่วัดศรีจอมทองว่ามีพระธาตอยู่หรือไม่ พระอานันทะได้อธิษฐานจิตพระศีลปัญโญเถระเห็นดังนั้นจึงอัญเชิญพระบรมธาตุออกมาให้เห็น พระอานันทะจึงนำความไปการบทูลพระดิลกปนัดดา (พระเมืองแก้ว) เจ้าผู้ครองเมืองเชียงใหม่ให้ทรงทราบ
ครั้งถึง พ.ศ. 2060 พระเมืองแก้วเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ขอให้พระมหาพุทธญาโนเถระดำเนินการปฎิสังขรณ์และสร้างพระวิหารจตุรมุขและก่อปราสาทหลังหนึ่งภายในพระวิหารเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุ แล้วสั่งให้ช่างทองสร้างโกศทองคำสำหรับบรรจุพระบรมธาตุบรรจุไว้ในปราสาทในพระวิหารพระราชทานเครื่องวัตถุไทยทานและข้าคนไว้ปฎิบัติรักษาทำนุบำรุงวัดพระธาตุศรีจอมทองเสร็จแล้วจึงจัดงานสมโภชยิ่งใหญ่
พระธาตศรีจอมทองนี้มีความพิเศษยิ่งกว่าพระธาตุองค์อื่นๆเพราะพระบรมธาตุมิได้ฝังอยู่ใต้พื้นดินหรือมิได้บรรจุอยู่ในพระมหาเจดีย์อย่างเช่นพระธาตุองค์อื่นๆ แต่ประดิษฐานอยู่ในพระโกศทอง 5 ชั้นภายในปราสาทสีทองที่อยู่ภายในพระวิหารจตุรมุขหลังพระประธานในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 และ 15 ค่ำ เดือน 7 ของทุกปีจะมีงานสรงน้ำพระบรมธาตุซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีของอำเภอจอมทองทีเดียว
พระวิหารจัตุรมุข เป็นที่ประดิษฐานปราสาทที่บรรจุพระบรมธาตุไว้ภายใน ตามประวัติกล่าวไว้ว่าสร้างในสมัยพระเจ้าดิลกปนัดดาธิราชหรือพระเมืองแก้ว กษัตริย์ราชวงศ์มังราย ราว พ.ศ. 2060 ภายในพระวิหารนอกจากจะมีปราสาททองคำสำหรับบรรจุพระบรมธาตุแล้วยังมีสิ่งของล้ำค่าอีกมากมายที่พระราชวงศ์และประชาชนนำมาเป็นเครื่องบูชาพระธาตุ
ด้านหลังพระวิหารจตุรมุขคือพระเจดีย์พระธาตุศรีจอมทอง ศิลปะแบบล้านนา ฐานเป็นสี่เหลี่ยม หุ้มทองจังโก้ทั้งองค์
ด้านข้างพระเจดีย์ศรีจอมทองคือ พระอุโบสถ เป็นสถาปัตยกรรมทรงไทยหน้าบันลงรักปิดทองบริเวณประตูทางเข้าพระอุโบสถได้มีการฝังสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ตามความเชื่อของชาวล้านนาจึงห้ามผู้หญิงขึ้น
หอพระไตรปิฎกตั้งอยู่ด้านหลังพระอุโบสถ บูรณะในปี พ.ศ. 2534เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ครับ
Chubby Lawyer Tour .................... เที่ยวไป ...... ตามใจฉัน