วัดในเชียงใหม่ที่จะพาไปแอ่วในบล็อก ท่องเที่ยวทั่วไทย บล็อกนี้ เป็นวัดที่เจ้าของบล็อกชอบเป็นการส่วนตัวครับ อยู่กลางใจเมืองเชียงใหม่ใกล้วัดสำคัญที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่วัดนี้ก็ยังมีความงามโดดเด่นไม่แพ้กันเลยครับ
วัดปราสาท ถนนอารักษ์ 5 เชียงใหม่
การเดินทางไปวัดปราสาทก็ง่ายมากๆเลยครับ จากหน้าวัดพระสิงห์ (ถ้าหัดหน้าเข้าวัด) เดินไปทางขวาจนถึงแยกแล้วเลี้ยวซ้ายเดินต่อไปอีกนิดก็ถีงวัดปราสาทแล้วครับ
มีหลักฐานเป็นลักษณ์อักษรจากศิลาจารึกวัดตะโปทารามระบุว่าวัดปราสาทสร้างมาตั้งแต่ยุคที่ล้านนายังรุ่งเรืองอยู่ และด้วยที่ตั้งของวัดปราสาทตั้งอยู่ในบริเวณคุ้มเจ้านายวัดปราสาทจึงได้รับการทำนุบำรุงต่อเนื่องกันมาเป็นอย่างดี
เมื่อเดินเข้ามาในบริเวณวัดสิ่งที่เห็นสะดุดตาก็คือ พระวิหาร ครับ พระวิหารเป็นศิลปะแบบล้านนาโดยแท้ สร้างขึ้นในสมัยที่เจ้าหลวงธรรมลังกาเป็นผู้ครองนครเชียงใหม่ ราว พ.ศ. 2366 โปรดให้พระยาหลวงสามล้านเป็นผู้คุมการบูรณะวัดปราสาทและสร้างพระวิหารหลังที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ พระวิหารมีหลังคาลดหลั่นกัน 3 ชั้น โครงสร้างหลักเป็นไม้แต่ผนังก่ออิฐถือปูน
ทางขึ้นพระวิหารทำเป็นพญานาคลักษณะแบบล้านนาทอดตัวขึ้นเป็นราวบันได แต่ที่แปลกกว่าบันไดนาคที่อื่นๆ คือด้านบนสุดของราวบันไดที่หางพญานาคขดม้วนไม่ปล่อยหางสะบัดอย่างที่อื่นๆ แสดงให้เห็นการนอบน้อมต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามคติความเชื่อของผู้สร้าง
ตามข้อมูลบอกว่าเครื่องหลังคาของพระวิหารเป็นโครงสร้างแบบ ม้าต่างไหม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณ ลักษณะโครงสร้างแบบ ม้าต่างไหม คือมีขื่อและคานซ้อนสลับกับขึ้นไปคล้ายๆโครงสร้างหลังคาแบบจีนหรือญี่ปุ่น มองดูแล้วเหมือนการบรรทุกของบนหลังม้าอันเป็นที่มาของชื่อของสถาปัตยกรรมแบบี้
ประตูทางเข้าพระวิหารและหน้าบันมีการประดับตกแต่งอย่างอลังการมาก หน้าบันและเครื่องบนประดับตกแต่งด้วยการแกะสลักไม้เป็นลวดลายวิจิตรสวยงามและประดับกระจก ที่เสาด้านหน้าทั้ง 4ต้นมีการประดับตกแต่งโดยการปั้นปูนเป็นลวดลายต่างๆ
เสาด้านในพระวิหารเป็นเสากลมทารักสีแดงชาดและเขียนลายทอง
ผนังด้านในสุดของพระวิหารที่เป็นทางเชื่อมไปสู่กู่พระเจ้าทารักสีแดงชาดมีภาพจิตรกรรมฝาผนังศิลปะแบบล้านนาสีทองเป็นเรื่องพุทธประวัติ
ด้านในสุดของพระวิหารมีช่องประตูเชื่อมต่ออกไปถึง กู่พระเจ้า ซึ่งก็คือสิ่งก่อสร้างที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนาแท้ๆที่หาดูได้ยาก เป็นทรงปราสาทที่อยู่ท้ายพระวิหารเป็นที่สำหรับประดิษฐานพระประธานประจำพระวิหาร ว่ากันว่ากู่พระเจ้าทรงปราสาทเป็นที่มาของชื่อวัด
ส่วนบนของซุ้มประตูทางเข้ากู่พระเจ้าทำลวดลายปูนปั้นเป็นรูปพญานาคข้างละตัวโดยหัวนาคอยู่ด้านล่างส่วนหางเลื้อยขึ้นไปพันอยู่ด้านบนตรงกลาง ตรงหัวนาคทั้ง 2ข้างมีหงส์ยืนอยู่ข้างละตัว มีการประดับตกแต่งซุ้มด้วยเครื่องงลายครามและเบญจรงค์
การสร้างกู่พระเจ้าของล้านนาเจ้าของบล็อกคิดเอาเองว่าน่าจะมาจากคติการสร้าง ปฎิมาฆะระ จากสุโขทัยเพิ่อเป็นการจำลอง พรคันธกุฎี หรือที่ประทับของพระพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาล (อันนี้ไม่แน่ใจนะครับว่าใครรับคติมาก่อน อาจจะเป็นล้านนารับเอาคตินี้มาก่อนโดยเอามาจากพม่าอีกทีก็ได้ หรืออาจจะเป็นสุโขทัยรับมาจากลังกาก็ได้ เผอิญปี พ.ศ. ในการสร้างพระวิหารนี้เป็น พ.ศ.ภายหลังสุโขทัยหมดอำนาจไปแล้วจึงทึกทักเอาเองว่าล้านนาน่าจะเอาคติเรื่องนี้มาจากสุโขทัย)
พระประธานในพระวิหารในกู่พระเจ้าคือ พระเจ้าหมื่นทอง พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย หล่อขึ้นในสมัยพระเจ้าหลวงแสนคำเป็นผู้ครองนครเชียงใหม่ ราวปี พ.ศ. 2133
พระอุโบสถ อยู่ด้านหน้าพระวิหาร มีขนาดที่เล็กกว่าพระวิหาร น่าจะมีการสร้างใหม่มาไม่นานนี้เพราะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก มีการประดับตกแต่งสวยงามไม่แพ้พระวิหารเลย
ด้านหลังพระอุโบสถมีพระเจดีย์ทรงปราสาทในผังสี่เหลี่ยม องค์เจดีย์ทั้ง 4ด้านเจาะเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูป
วิหารศิลปะล้านนา งดงามมากครับ
กู่พระเจ้าเจดีย์ทรงปราสาทน่าจะได้รับศิลปะมาจากสุโขทัย
สบายดีนะครับ