Group Blog
 
All blogs
 
The Ending Is The Beginning



หลายปีก่อน.. ผมเคยตอบกระทู้ผู้หญิงคนนึงใน mThai
เธออยู่ในภาวะที่ทำใจไม่ได้ กับความสัมพันธ์ที่จบลง

ผมเขียนไว้พอใช้ได้.. จนมีคนเอาไปทำ Fwd mail กันใหญ่โต
เอาไปใส่รูป ใส่โน่น ใส่นี่ ส่งกันไปมาจนวันนึง ผมต้องอมยิ้มที่มันกลับมาถึงผม

ไม่ได้กลับมาครั้งเดียว ไม่ได้กลับมาเวอร์ชั่นเดียว แต่มีถึงสามเวอร์ชั่น
ในบล็อคแกงค์นี่ ก็เคยมีใครคนนึงเอาไปใส่ในบล็อคด้วย

ผมเขียนไว้อย่างนี้ครับ

มีประโยคหนึ่งในหนัง IL MARE
ที่น่าสนใจมาก ... เขาบอกทำนองว่า ...
ที่เราต้องเจ็บปวดกับความรักน่ะ
ไม่ใช่เพราะมันจากไปหรอก
... แต่เพราะมันยังคงอยู่ต่างหาก

ถ้าวันนี้คนสองคน ต่างหมดรักกันไป
คงไม่มีใครต้องเสียใจมากนัก
แต่กลับเป็นเพราะรักที่ยังอยู่ในใจคุณนั่นเอง
ที่ทำให้คุณปล่อยวางลงไม่ได้

ธรรมชาติของรัก มักไม่ให้โทษแก่ใคร
เพียงแต่อาจปรุงแต่งให้หัวใจพองฟูจนลืมนึกถึงความจริงที่ว่า
มีวันที่รักมา ก็อาจมีวันที่รักไปได้

ความรักเป็นสิ่งสวยงาม
หลายคนจึงอดหลงไหลได้ปลื้มกับมันไม่ได้ในยามที่มันอยู่
เรามักหลอกตัวเองว่า เพราะเรารักเขามาก
เขาคงเห็นความดีความตั้งใจของเรา
และรักเราตอบบ้าง ไม่มากก็น้อย

และเมื่อเขาตอบรับรักของเรา
ความฟูของหัวใจ มักทำให้เราก้าวล่วงไปถึงการรู้สึกยึดมั่น
ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของเรา เป็นเหมือนทรัพย์สินส่วนตัวทางใจอย่างหนึ่ง
ที่จะต้องอยู่กับเราทุกครั้งที่เราต้องการ นานเท่าที่เราปรารถนา

ความรู้สึกอันนี้แหละ คือจุดเริ่มของความเจ็บปวดทั้งมวล
เพราะมันฝืนกฎธรรมชาติ
ไม่ได้บอกว่า ... รักต้องลงเอยด้วยความเศร้าเสมอไป
เพียงแต่ถ้าเขาจะอยู่ เขาจะไป
จะรักคุณมากขึ้น คงเดิม หรือหดน้อยถอยลง
ก็จะเป็นเพราะคนสองคน
ไม่ใช่ความต้องการของเราฝ่ายเดียว หรือเขาฝ่ายเดียว



ชีวิตเป็นเรื่องซับซ้อนเข้าใจยาก
... แต่ในความซับซ้อนนั้น
มันก็เรียบง่ายอย่างที่เรานึกไม่ถึง
เพราะไม่ว่าสิ่งไหน เรื่องอะไรสารพัดสารพัน
ทุกอย่างล้วนแต่อยู่ในกฎเดียวกัน
มันจะ เกิดขึ้น ... ตั้งอยู่ ... แปรสภาพ แล้วก็จบลง

รักที่สมหวังอยู่กันจนแก่เฒ่า ก็หนีไม่พ้นกฏข้อนี้
เพราะวันหนึ่ง ไม่เราก็เขาก็ต้องตายจากกัน
สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า ... วันนี้เขาอยู่หรือจากไป

สำคัญที่ว่า ... ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี ... ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้

ถึงวันนี้จะยังร้องไห้ ก็คงไม่กระไร เพราะชีวิตก็เป็นแบบนี้
มีวันที่เลวร้าย มีวันที่สวยงาม มีวันที่ว่างเปล่า

สุขก็อยู่กับเราไม่นาน ทุกข์ก็อยู่กับเราไม่นาน
สุขเคยแวะผ่านมาแล้วก็ไป
ทุกข์ก็เป็นเฉกเช่นกัน



นั่นเป็นยุคแรกๆ ที่ผมเริ่มตอบกระทู้ โดยอาศัยหลักธรรมะของพระพุทธเจ้ามาแทรกไว้

ผมขอใช้โอกาสมอบข้อเขียนอันนี้ ให้น้องสาวท่านนึง
ผมอยากบอกว่า.. ผมเข้าใจ

ผมรู้ว่า เท่านี้คุณก็เป็นทุกข์มากแล้ว กับสิ่งที่คุณทำไป
เรื่องผิด เรื่องเป็นคนไม่ดี ไม่ใช่ประเด็นใหญ่ ผมไม่ถือ

อย่าแปลกใจที่ผมจะสงบนิ่ง ยิ้ม.. และไม่โกรธ
เพราะอย่างที่ผมเคยบอกว่า.. ผมไม่รู้ว่าเรื่องของเรามันจะเป็นอย่างไร

รู้แต่ว่า ผมจะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด ให้คุณมีความสุข
นั่นคือความคาดหวังเดียวที่ผมมี

ฉะนั้น.. เมื่อมันมาถึงจุดนี้.. ผมก็ตอบตัวเองได้ว่า
ผมทำดีที่สุดแล้ว

ไม่มีอะไรที่ผมต้องเสียใจ ไม่มีอะไรที่จะต้องแบกไว้

แต่ถามว่า.. เราควรจะต่อว่าต่อขานกัน ให้เจ็บช้ำน้ำใจ
ต้องซ้ำเติมให้อีกฝ่ายเสียใจ เพื่อความสะใจของเราไหม
..ตอบตรงนี้ได้ว่า ไม่ควรครับ

ระหว่างการเดินทางไป กัวลาลัมเปอร์เที่ยวนี้
ตอนก่อนเครื่องจะบินขึ้น แอร์เขาสาธิต Safety Emergency อยู่

ผมนึกเล่นๆว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมา ผมควรจะเตรียมใจอย่างไรบ้าง
ยังจะมีอะไรที่มีความหมายกับชีวิตผมไหม เมื่อผมจากไป

จะสำคัญไหมว่า ผมขับรถอะไร บ้านหลังใหญ่ไหม มีเงินเท่าไหร่ ทำงานอะไร
รูปหล่อไหม แฟนชื่ออะไร มีหนังสือไหนเขียนชมมั้ย หรือมีคนเข้าใจผมไหม

แล้วผมก็พบว่า ไม่มีเลย.. ผมก็ต้องไปเริ่มจุติในภพใหม่
เริ่มต้นใหม่หมด เว้นเสียแต่ปัญญาจากการวิปัสสนา และกรรม ที่ติดตัวไป

ชีวิตเป็นเรื่องไร้สาระ ว่างเปล่าโดยธรรมชาติ
แต่ธรรมชาติที่ไร้สาระ และว่างเปล่านั้นแหละ
ที่อุดมไปด้วยปัญญา ให้เราตักตวง

ขึ้นอยู่กับว่า เราจะเรียนรู้จากมันแค่ไหน
เราจะเลือกจัดการกับความไร้สาระ และว่างเปล่าอย่างไร

เหมือนเช่นที่ผมเชื่อคำของพระพุทธเจ้าว่า..
ทุกอย่างที่มีการเกิดขึ้น ย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา

จุดอ่อนของมนุษย์ .. ไม่ได้อยู่ที่เราต้องอยู่ภายใต้กฏข้อนี้
แต่อยู่ตรงที่.. เราไม่ยอมรับมันและคาดหวังว่า สิ่งดีๆบางสิ่ง จะต้องคงอยู่สม่ำเสมอตลอดไป

เมื่อทุกสิ่งไม่เป็นไปดังหวัง เราก็มักจะเสียใจ แค้นเคือง
โทษคนโน้น คนนี้ โทษตัวเอง แต่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมามองว่า

ธรรมชาติของสรรพสิ่ง มันก็เป็นแบบนั้นแหละ
มันไม่ได้มีแต่เรื่องร้ายๆหรอก เรื่องดีๆก็มีอยู่

ในวันที่เลวร้ายที่สุด..
พระอาทิตย์ก็ยังขึ้นทางทิศตะวันออก ตกทางทิศตะวันตก
เราก็ยังหายใจเข้าแล้วก็ออกสลับกัน ตามปกติ

ถ้าหัวใจยังเต้น เลือดยังสูบฉีด ชีวิตยังดำเนินไป
สิ่งดีๆก็ยังเกิดขึ้นได้

ฉะนั้น.. อย่าเสียใจที่ชีวิตเป็นเรื่องไร้สาระ หาอะไรแน่นอนไม่ได้
เพราะความไร้สาระของมันนี่แหละ คือสิ่งที่มีสาระที่สุด

ขอให้เธอคนนั้น โชคดีนะครับ.. รวมถึงคุณผู้อ่านทุกท่านด้วย







Create Date : 30 มิถุนายน 2550
Last Update : 6 กรกฎาคม 2550 0:28:57 น. 44 comments
Counter : 5630 Pageviews.

 
ใครที่ชอบเพลงของบล็อคนี้

เพลงนี้ชื่อ Both Sides Now โดย โจนี่ มิทเชลล์
ผมเคยพูดถึงไว้ครั้งนึง ในบล็อคนี้ครับ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aston27&month=14-03-2006&group=2&gblog=45

ลองไปทัศนากันได้ตามอัธยาศัยนะครับ


โดย: aston27 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:10:00:57 น.  

 
...........


สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่เอ๊ด @^_^@


ในเรื่องของความรัก เหตุผลบางเหตุผล
มันก็อาจจะทำให้เราเสียใจ แต่บางทีมันก็
อาจจะเป็นเหตุผลๆนึง ที่เราจะต้องเลือก


ไม่มีใครรู้อนาคต อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน
ไม่มีใครรู้ว่าต่อไป จะเกิดอะไรขึ้น



ความทรงจำดีๆ ระหว่างคนสองคน
มันยังคงอยู่เสมอ มันไม่ได้หายไปไหนเลย
ยิ้มได้ทุกๆครั้งที่คิดถึงมัน แต่ในรอยยิ้ม
บางครั้งก็อาจจะมาพร้อมกับรอยน้ำตา


ตั้งใจทำงานนะคะ
รักษาสุขภาพให้มากๆ
ดูแลตัวเองให้ดีๆ
ถ้าเหนื่อย หรือ เครียด หยุดพักนะคะ


emo


โดย: Kimi o ai X eru วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:10:46:12 น.  

 
ได้เข้ามาบล็อคนี้โดยบังเอิญ แต่เป็นอีกคนหนึ่ง
เหมือนกันที่ได้รับFwd mail
นี้หลายต่อหลายครั้งและทุกครั้งนี้ได้รับก็รู้สึก
ไม่เคยเบื่อที่จะอ่าน จนแอบคิดไม่ได้ว่า
ใครน้าๆ ช่างเขียนได้ตรงกับใจจัง
จำได้ว่าครั้งแรกที่ได้รับ
เมื่อ 2 ปีก่อน กำลังจะมีความรัก แอบปริ้น
เป็น memo เล็กๆไว้เตือนใจตัวเอง จนกระทั่ง
ความรักจบลง ก็ยังเก็บบทความนี้มาอ่าน เวลาท้อใจหรือหมดกำลังใจก็ยังรู้สึกดีเหมือนเดิมคะ
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ^-^นะคะ


โดย: kwan (kwannoi ) วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:10:48:45 น.  

 
เคยอ่านข้อความของคนๆนึง คิดว่ามีความหมายดีจึงเอามาฝากค่ะ

"มีคนเคยเขียนว่า.. ธรรมชาติ ยุติธรรมและสมดุลย์เสมอ
เวลาที่เขาทำให้บางอย่างจบลง เขาจะชดเชยให้บางอย่างเกิดขึ้นแทนที่

บางคนอธิบายว่า เหมือนห้องๆนึงมีหน้าต่างหลายบาน
บานนึงปิดลงไป อีกบานก็พร้อมจะเปิดออกแทน

ที่จริง ธรรมชาติเขาใจดีอุตส่าห์แบ่งชีวิตพวกเราไว้เป็นวันๆ
ให้มีเวลาเช้า เย็น และจบลงด้วยกลางคืนที่ทุกคนต้องหลับตาปิดสวิทช์ตัวเอง
เพื่อให้โอกาสเราเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ทุกวัน

ขอให้คุณโชคดีกับหน้าต่างบานใหม่ที่เปิดออกนี้"


Best Regards,
สะพานดาว


โดย: สะพานดาว วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:11:11:59 น.  

 
ขอบคุณสำหรับบล็อกดีๆ ในวันนี้
ขอบคุณสำหรับข้อเขียนดีๆ ในวันเก่า(ที่เราก็เคยได้อ่าน)

Everything that has a beginning has an end and the Ending is the beginning.

ไม่มีอะไรเป็นจริงไปกว่านี้แล้วค่ะ


โดย: MaRiMeKKo วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:11:37:55 น.  

 
เคยดูซีรี่ย์ฝรั่งแล้วชอบ อยากเล่าสองตอนครับ

เรื่องแรก
มีชายคนนึงมีพรวิเศษคือเค้าเป็นคนที่โชคดีตลอด แต่ต่อมาเค้าโดนรถชน ซึ่งเค้าคงคิดว่าเป็นเรื่องโชคร้าย แต่จริงๆแล้วการที่เค้าโดนรถชน ทำให้คนที่กำลังจะมาลอบยิงเค้าถูกขัดขวางโดยไทยมุงที่เข้ามาดูคนโดนรถชน จริงๆแล้วเค้าโชคดีที่ถูกรถชนต่างหาก ไม่ได้โชคร้ายอย่างที่เค้าคิดเลย

อีกเรื่องครับ
ในเรื่องเล่นว่า มีนักประดิษฐ์อัจฉริยะสามารถประดิษฐ์รถที่วิ่งได้ด้วยการใช้น้ำเปล่าเป็นเชื้อเพลิงได้สำเร็จตั้งแต่ประมาณ 40 ปีที่แล้ว เค้าพยายามคิดประดิษฐ์รถนี้เพราะต้องการให้โลกไม่มีมลภาวะเป็นพิษ ให้คนทุกคนมีความสุข และไม่ต้องใช้น้ำมันซึ่งเป็นตัวก่อปัญหาสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป แต่เมื่อประดิษฐ์เสร็จเค้าพบว่า ถ้ารถนี้ถูกนำออกมาสร้างขายจริง โลกจะยิ่งแย่ลงต่างหาก รถจะเยอะขึ้น ถนนจะเยอะขึ้น เศรษฐกิจจะเฟื่องฟูขึ้น ทั้งการสร้างถนนและทั้งชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับการผลิตรถยนต์ล้วนมาจากปิโตเลียมอยู่ดี เศรษฐกิจที่เฟื่องฟูทำให้เกิดการทำลายธรรมชาติยิ่งขึ้นเข้าไปใหญ่ เห็นผลที่จะเกิดในระยะยาวแล้ว... ด้วยความที่เค้ารักโลกที่เค้าอยู่ เค้าจึงหยุดสานต่อในสิ่งที่เค้ารักครับ

สุขสันต์วันเสาร์ครับคุณแอสตัน

ปล.เท่ห์จังนะครับ ข้อเขียนได้กลายเป็น fwd mail ด้วย


โดย: อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:12:37:05 น.  

 
มายิ้มให้แล้วจะไปดู...เฉลียง


โดย: ฟ้าคงฯ (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:13:07:27 น.  

 
ธรรมชาติของสรรพสิ่ง มันก็เป็นแบบนั้นแหละ
มันไม่ได้มีแต่เรื่องร้ายๆหรอก เรื่องดีๆก็มีอยู่

ในวันที่เลวร้ายที่สุด..
พระอาทิตย์ก็ยังขึ้นทางทิศตะวันออก ตกทางทิศตะวันตก
เราก็ยังหายใจเข้าแล้วก็ออกสลับกัน ตามปกติ

ถ้าหัวใจยังเต้น เลือดยังสูบฉีด ชีวิตยังดำเนินไป
สิ่งดีๆก็ยังเกิดขึ้นได้


เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ


โดย: Hobbit วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:16:28:14 น.  

 
สวัสดีครับ
แวะมาอ่านและทักทายครับผม

มาเก็บอะไรไปคิดต่อเหมือนทุกทีครับ


โดย: MuHN วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:18:12:56 น.  

 


พี่เอ๊ดคะ ทานอะไรถึงได้ออกมาเป็นแบบนี้ ฮ่าๆ ไม่มีคำจำกัดความนะคะ
เอาเป็นว่ารัมจะเรียก่า เป็นแบบ "พี่เอ๊ดๆ" เท่ห์เป็นบ้า ฉลาดเป็นยอด และ มีเสน่ห์ชะมัดแฮะ

รัมอยากแอดนานแย้ว แต่รัมกลัวมายุ่งกับเรตติ้งให้พี่เอ๊ด พี่เอ๊ดจะเหนื่อยค่ะ
รัมมันตัวป่วนนะพี่เอ๊ด อยู่ตรงไหนป่วนตรงนั้น เลยแอบมือแอบขาตัวเองซะมั่ง พยายามเก็บตัวและปากคำค่ะ

เฮ่อ

เลยใช้วิธีคลิ๊กมาแล้วไม่แอด ไม่เม้นท์(ซะส่วนมาก)
มาอ่านไปอมยิ้มกับพี่ชายคนนี้ไป เออแฮะ คนอะไร ... ขิงยิ่งแก่ยิ่งแรงจริงน๊อ

เคยคิดค่ะพี่เอ๊ด
เวลาเพื่อนรัมมาโอดครวญเรื่องความรัก(หรือเปล่าไม่ทราบ) ว่าพบเมื่อสาย
ใครสายไม่ทราบ ทราบแต่ว่ามันมักจะต้องใจกับความลุ่มลึกแหลมคมของหนุ่มใหญ่กว่าตัวเองเสมอ..และเป็นธรรมดาที่หนุ่มเหล่านั้น น้อท อะวายเลเบิ้ล เอิ้กกกก

หรือเอาเข้าจริง มักจะ อันทัชเชเบิ้ลซะด้วยดิ

ว่าเออ เข้าใจแหละ ก็หนุ่มที่โตแล้ว นิ่งแล้ว มักจะสุขุมและเข้าใจโลก เข้าใจ(แก)ได้มากกว่าหนุ่มยะโส บ้าพลังและคะนอง หยิ่งทะนงอายุรุ่นๆเดียวกันอ่ะจิ๊

เด่อเอ๊ย..
ไม่งั้น ขิงคงไม่ดีเพราะแก่หรอกน่า
...เข้าใจเลยค่ะเวลาคิดถึงเรื่องพี่เอ๊ดทีไร ๕๕๕

ปล. ขอบพระคุณมากเลยค่ะพี่เอ๊ด รัมถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ


โดย: รอยคำ วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:18:36:35 น.  

 




สวัสดีค่ะ...
สบายดีป่าวคะ
มีความสุขมากๆน้า...



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:18:51:26 น.  

 
อ่านเสร็จแล้วยิ้มให้กับตัวเองก่อนเลย...

จะบังเอิญไปไหมที่ 2 ปีก่อนก็ได้รับ FW mail อันนี้ด้วย..

แล้วก็บังเอิญตามเข้ามาอ่านเจอบล๊อคนี้ทั้งๆที่..เห็นชื่อ log in นี้ต้องหลายครั้ง..

แต่ยังไม่มีเวลาเข้ามาทักทาย..วันนี้อะไรดลใจให้กดเข้า..ก็เจอกับเจ้าของ FW mail อันเก่าแต่นำมาเล่าใหม่..ที่ยังมีความประทับใจเหมือนเดิม..

จึงอยากจะขอบคุณจขบ.ที่เป็นจุดเริ่มต้นของFW mailที่ดีๆอันนั้นและขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ฉันคลิ้กเข้ามาที่บล๊อคนี้..ในวันนี้..ขอบคุณจริงๆค่ะemo

ขอให้มีความสุขในวันเสาร์(ที่ลมแรง และมีเมฆฝนอีกแล้ว)นะคะ emoemoemo



โดย: ปูปูจัง.... (^^Ken-Ju***Pu-Jung^^ ) วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:19:38:37 น.  

 


โดย: Takeaway วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:20:31:47 น.  

 


โดย: นักรักโลกมายา วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:21:39:41 น.  

 
สวัสดีค่ะ....

ชีวิตเป็นเรื่องซับซ้อนเข้าใจยาก
... แต่ในความซับซ้อนนั้น
มันก็เรียบง่ายอย่างที่เรานึกไม่ถึง

............................

ขอบคุรที่ไปเยี่ยมที่บล็อกนะคะ
และขอบคุณที่อวยพร
"สุขสันต์วันหยุด นะคุณพี่พิม
ทุกข์อะไรอยู่ก็ขอให้คลายไปไวไว "

เช่นกันนะคะ คุณเอ๊ด

ทุกข์อะไรอยู่ก็ขอให้คลายไปไวไว
ขอให้มีความสุข วันหยุดเช่นกันค่ะ


จากใจค่ะ



โดย: pipim วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:21:50:28 น.  

 

Life goes on~




โดย: Q.NUH วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:23:25:31 น.  

 
สวัสดีวันเสาร์ ..ไม่ไช่นี่
มันวันอาทิตย์แล้วนี่นา ก่งก้งอีกแล้วเรา
สวัสดีแล้วกันค่ะ ไม่ได้อ่านอะไรดีๆ มาหลายวัน
วันนี้ลองแวะเข้ามา เลยได้อะไรกลับไปมากมาย
อีกแล้ว
emo

จะมาบอกด้วยว่า ขอเชิญไปเยี่ยมเยือนที่ กล่องความทรงจำ ของเรา ถ้าพอมีเวลาว่างนะคะ

อ้อ..วันนี้..ไม่ใช่สิ เมื่อวานนี้ คุณเปิดเพลง
The end of the world
ทำให้เรานึกย้อนกลับไปตอนเรียน ป.ตรี
เพื่อนเรา..Melody of U ใช้เป็นเพลง Audition
ในการคัดเลือก TU Band
มันก็สิบกว่าปีมาแล้วเนอะ...
รู้สึกตัวเองผ่านช่วงเวลานั้นมานานแสนนานจริงๆ
...แล้วเลยทำให้นึกได้ว่า มิตรภาพระหว่างเรา
สองคน ก็ยาวนานเท่าเวลาที่ผ่าน
และมันก็ไม่เคยลดลงเลย ...
เราก็ได้แต่หวังว่านันคงจะยาวนานนนน...
จน The end of the world""" Forever
emo
แต่นั่นแหละนะ มันก็ขึ้นอยู่กับความรักของคนสองคนจริงๆ
ไม่ควรยึดติดใช่ไหมว่ามันจะยาวนานไปแค่ไหน
แค่ใส่ใจความรู้สึก และถนอมน้ำใจกัน
มิตรภาพนี้ก็อาจจะยาวนาน ก็ได้ใช่มั้ยคะ

คงต้องราตรีสวัสดิ์แล้วค่ะ...
ไม่งั้นพรุ่งนี้ต้องหลับในห้องเรียนแน่ๆ emo

good night ka.




โดย: myouzhny วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:45:13 น.  

 
ยังยิ้มได้ก็ดีแล้วค่ะ
ขอแอบหัวเราะขิงในทีรามิสุหน่อยได้ไหมคะ
เอาเป็น ginger bread ก็แล้วกัน จะได้พอไปไหว

ถ้าความรัก ความหวังดีนั้นทำให้ตัวเองและคนที่รักมีความสุข
ก็รักเถอะค่ะ
แต่ถ้าใครสักคนต้องทุกข์ ก็คงต้องปล่อยให้ความรู้สึกนั้นจากไป


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:40:05 น.  

 
มีประโยคหนึ่งในหนัง IL MARE
ที่น่าสนใจมาก ... เขาบอกทำนองว่า ...
ที่เราต้องเจ็บปวดกับความรักน่ะ
ไม่ใช่เพราะมันจากไปหรอก
... แต่เพราะมันยังคงอยู่ต่างหาก

เป็นพี่เขียนเองเหรอเนี่ย มีคนมา post ประโยคนี้ในกระทู้ของม่อนตอนนั้น โหย..ประทับใจมากมาย ที่แท้ก็เริ่มต้นมาจากพี่นี่เอง emo

สุขไม่เที่ยง ทุกข์ก็ไม่เที่ยง นะพี่นะ มันเกิดซ้ำได้แต่คงอยู่ไปตลอดไม่ได้ อันนี้พี่ย่อมรู้ดีแต่ก้อขอให้หายไวๆ นะ emo


โดย: kittykitten วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:4:09:47 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ เคยได้รับอีเมลฉบับนี้มาไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งแต่ค่ะ ยังอยู่ในอินบ๊อกซ์อยู่เลย เพิ่งจะมารู้วันนี้เองว่าพี่เป้นคนเขียน เขียนได้ดีมากๆเลยค่ะ เรื่อง อิล มาเร เป็นหนังอีกเรื่องนึงที่ยังจดจำได้ในทุกฉากนอกเหนือจากเรื่อง เดอะ คลาสสิก ค่ะ

มีความสุขมากๆค่ะ


โดย: Professional วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:5:11:25 น.  

 
Q Nuh ขอบใจสำหรับพลังโนบูตะนะคุณ





myouzhny เป็นเด็ก มธ. หรอกเหรอครับ
แล้วเพื่อนได้เป็นนักร้อง TU Band หรือเปล่า

ไว้พี่จะแวะไปเยี่ยมนะครับ


HoneyLemonSoda ก็มันไม่เข้ากันไง ถึงเอามาเทียบ



kittykitten ที่จริงคนแรกที่หยิบประโยคนี้มาใช้อ้างอิงให้พี่ได้ยิน
เป็นน้องคนนึงชื่อคุณ mink ครับ ที่พี่มีลิงค์อยู่ทางขวานี่แหละ
พี่ชอบใจ ก็เลยเอามาใช้อ้างอิงต่ออีกที



หวัดดีครับหมอ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมและอวยพรครับ


โดย: aston27 วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:53:15 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปให้ความคิดดีๆ ใน blog นะคะ ^_^ เพราะมุมมองดีๆ อย่างนี้ เลยเป็นคนดังสำหรับ fw mail ไปเลยนะค๊า

ขอ Add เป็นเพื่อนด้วยคนนะคะ เพราะนู๋คิดว่า พี่คงมีเรื่องดีๆ ให้คอยติดตามอ่ะค๊า


โดย: bongboeaw วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:27:34 น.  

 
เพลงประกอบบล็อคครั้งนี้ดูเหมือนเศร้านะคะ
แต่ฟังแล้วไม่เศร้าเท่าที่ควร (เอ๊ะ ยังไง - -")

ที่แท้พี่ก็เป็นคนเขียนนี่เอง จำได้ว่าอ่านครั้งแรกในหนังสือ "เรื่องดีดี มีไว้แบ่งปัน" อ่านแล้วร้องไห้เลยอ่ะค่ะ เขียนได้ดีมากๆ

ปล* เป็นกำลังใจให้นะคะ
ปล2* ในบรรดาฟอร์เวิร์ดเมลล์ มีอันนี้แหละค่ะที่จำได้ขึ้นใจที่สุด ไม่ใช่เพราะมันถูกส่งมาแล้วหลายครั้ง แต่ว่ามันโดนที่สุดแล้ว


โดย: a r i t s u m e m o o n วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:28:11 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่เอ๊ด ไม่ได้เข้ามาลงชื่อในนี้ตั้งนาน แต่ก็ติดตามอ่านตลอดเหมือนเดิมค่ะ ระหว่างที่เขียนอยู่นี่ก็รอฟังรายการพี่อยู่ (ขาดไม่ได้อีกเช่นกัน) emo อิอิ ตอนแรกว่าจะไม่แสดงตัวแล้วนะ กะจะแอบอ่านอย่างเดียว แต่มีคนเขียนพาดพิงถึง ก็เลยต้องเข้ามาซะหน่อย ขอยืมที่นิดนึงนะคะพี่เอ๊ด

myouzhny ไม่นึกว่าจะจำได้เลยนะเนี่ยว่าเราใช้เพลง the end of the world นี่ audition T.U.Band น่ะ เมื่อวานฟังที่พี่เอ๊ดเปิด ก็ยังนึกถึงตอนนั้นเหมือนกันเลย ว่าเราร้องไปได้ยังไงเนี่ย ออกจะเป็นคนขี้อายขนาดนั้น emo ขอบคุณเช่นกัน สำหรับมิตรภาพกว่าสิบปีที่เรามีให้กันจ้า

ตอบพี่เอ๊ดแทนเพื่อนด้วยค่ะ ตอนนั้น ปุ้มร้องเพลงนี้ ก็ได้ผ่านเข้ารอบค่ะ (ร้องเพราะนะเนี่ย เข้าตากรรมการ 555) แต่ไม่ได้เข้า T.U.Band หรอกค่ะ เพราะว่าตกรอบสองค่า emo

เพลง both side now ก็เพิ่งฟังพี่เปิดเมื่อวานเหมือนกัน ฟังแล้วรู้สึกเศร้าๆ ยังไงก็รู้ค่ะ นึกถึงตอนที่ดูเรื่อง love actually แล้วมีตอนนึงที่มีเพลงนี้ ตอนที่น้องสาว Hugh Grant (ในเรื่อง) แอบร้องไห้ แล้วก็เปิดเพลงนี้ น่ะค่ะ
แต่ยังไง ก็หวังว่าพี่เอ๊ดจะมีความสุขนะคะ ไม่เศร้าเหมือนอารมณ์เพลงเนอะ

emo

เขียนจนรายการพี่มาแล้วล่ะ จะตั้งใจฟังค่ะ


โดย: Melody of You วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:09:31 น.  

 
แถมอีกนิดค่ะ
ชอบเรื่อง Il Mare ที่สุดเลย

emo



โดย: Melody of You วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:19:31 น.  

 
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่ก็ขอให้เข้าใจกันด้วยดีนะคะ


โดย: Hobbit วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:36:08 น.  

 
อ่านจบแล้วต้องร้อง อ๋อ... เลยครับ โลกนี้ช่างกลมจริง ๆ ไม่คิดว่าจะได้เจอคนที่เขียน Fwd ฉบับนี้ ขอสารภาพว่าผมยังเซฟเก็บไว้อยู่เลยครับ ซึ้งกินใจจริง ๆ

แล้วจะแวะเวียนมาบ่อย ๆ นะครับ


โดย: จากวันที่เธอไม่อยู่ วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:30:59 น.  

 
มารับพรดีๆครับพี่


โดย: getterTu วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:32:22 น.  

 
ไม่เคยได้รับ fwd mail นี้เลยค่ะ

..
ได้อ่านครั้งแรกในบลอคๆนึง
แล้วก็เจอคุณแอสตันที่นั่นด้วย

..
เนื้อความชัดเจนทุกถ้อยคำแล้ว
..
..
ครั้งแรกที่ฟังเพลงๆนี้ก็จากหนังดัง
เรื่องนั้นแหละค่ะ .. นั่งน้ำตาซึม
ความจริงก็คือความจริงแม้บ่อยครั้ง
ที่อาจมาพร้อมความเศร้าความเจ็บปวดใจ
แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธมันได้
..
แต่เมื่อรู้ตัวว่าทุกข์แล้ว
เชื่อว่ามันจะอยู่กับเราไม่นานค่ะ
เวลาบวกปัญญาจะพามันออกไปเอง
ขอให้โชคดีนะคะ


โดย: azamiya วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:10:01 น.  

 
แปลกแต่จริง บางครั้งเข้ามาอ่านบล็อกนี้เหมือนเป็นคำตอบของปัญหาที่เผชิญอยู่เลย


โดย: drmoo วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:52:06 น.  

 
อ่านแล้วได้แง่คิดดีครับพี่

แต่ก็....รู้สึกเหมือนกับว่าพี่กำลังประสบกับเหตุการณ์อะไรบางอย่าง

ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะเป็นยังไง ก็ขอให้ทุกอย่างลงเอยได้ด้วยดีนะครับ

ปล.อันนี้เป็น Sense ของผมเองนะที่รู้สึก แต่ถ้าไม่ใช่ก็ขออำภัยด้วยนะครับ


โดย: Tony KooN (tk_station ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:40:06 น.  

 
อ่าน blog แล้วรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกันค่ะ
แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม เรารู้ว่าคุณ aston ผ่านไปได้แน่ ๆ

(ถ้าเข้าใจผิดขออภัยนะคะ แหะๆ)


.
.

FWD MAIL เราได้มานานแล้วค่ะ
ชอบทุกประโยค ทุกตัวอักษร
พอรู้ว่าเป็นคุณ aston เขียน ไม่แปลกใจเลย ^^


โดย: ไหมจันท์ วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:29:49 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านครับ

ผมไม่ได้ตอบรายบุคคลแล้วนะครับ
เพราะไปเยี่ยมท่านที่บล็อคเลย



โดย: aston27 วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:31:34 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่เอ๊ด

ไม่เคยได้ Fw mail อันนี้
อาจจะเพราะด้วยปกติ ไม่ค่อยอ่าน Fw mail อยู่แล้ว ^___^"
อ่านๆดูแล้ว เป็นบทความที่ดีมากๆบทความนึงเลยนะคะ

ในส่วนเรื่องนั้น..
หวังว่าความทุกข์จะบางเบา และหายไปโดยเร็วนะคะ


วันนี้เอาเพลงรุ่นพี่เอ๊ดมาฝาก ไม่รู้เคยฟังหรือเปล่า

ถ้าเคย ร้องตามแล้วจะอารมณ์ดีมากๆ

.....แตม แต๊ม แต่ม

ยิ้มวันละนิด ยิ้มหน่อยเถอะนะ .. ยิ้มสิจ๊ะแล้วจะสุขใจ
ยิ้มวันละนิดให้จิตแจ่มใส โลกจะงามวิไลขอให้ยิ้มไว้ก่อน

ดูหนูน้อย ยิ้มให้หนูนิด.. งูมีพิษ ยิ้มให้พังพอน
นกตัวที่อิ่มยิ้มให้กับหนอน ..แมงกะชอนยิ้มให้ปลาดูก

ฮู้ ฮู ฮู้ ฮูวววว

(เนื้อถูกเปล่าไม่รู้ จำได้แค่นี้ตั้งแต่เด็กๆ อิอิ)

รมณ์ดียัง .. ถ้ายัง ร้องซ้ำอีกรอบ..รับประกันความสดใสค่ะ



โดย: ยิ้มหวานฯ (joyaccy ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:43:22 น.  

 
ปล* พี่ aston คะ หนูไปทิ้งคำถามไว้แล้วค่ะ


โดย: a r i t s u m e m o o n วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:57:29 น.  

 
ฝนตกอีกแล้วคะ..คุณเอ๊ด..แต่ก็สดชื่นจริงๆ..

จะไม่สดชื่นก็ตอนขับรถกลับบ้านนี้แหล่ะคะ..

อุตส่าห์หลบฝนพ้นแล้ว..แต่หลบรถติดที่อโศกไม่พ้นคะ..อิอิอิemoemoemo

ฝันดีล่วงหน้านะคะ


โดย: ^^Ken-Ju***Pu-Jung^^ วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:41:07 น.  

 
...
ชีวิต...ก็เป็นแบบนี้
..........
เคยอ่านมาแล้วค่ะ ครั้งนึง
นานแล้ว ค่อนข้างเลือนลางในความทรงจำ
...
คล้ายคล้ายกับเรื่องอื่นอื่น ที่เวลาผ่านไป
ก็ค่อยค่อยเลือนลางไป...เช่นกัน
...
เพราะ...ชีวิตก็เป็นแบบนี้
...
สุขสันต์วันที่พระอาทิตย์ตก
ทางทิศตะวันตกอีกวันนึง
เช่นกันนะคะ


โดย: Serendipity_t วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:07:08 น.  

 
ปล.ลืมบอกไปว่า
จขบ.ถ่ายทอด
ทุกทุกความรู้สึกและ
หาทางออกให้กับคำถาม
ที่...ณ ตอนนั้น ตอบตัวเองไม่ได้
...
ได้ดีจริงจริงค่ะ


โดย: Serendipity_t วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:15:16 น.  

 
แม่ยกเพียบ อิอิ
แถมมีลูกอ้อนเรียกคะแนนสงสารอีก

ขิงแก่อย่างงี้ก็ฮ็อตวันยังค่ำ อิอิ

(มาแซวอย่างเดียวครับ)



เจ็บเพราะความรักยังคงอยู่
บางทีก็ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี
--
Oakyman's Blog


โดย: Oakyman วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:32:27 น.  

 
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
และอื่นๆ อีกมากมายที่จขบ.เขียนได้ตรงใจไปหมดแล้ว
หนูได้ฟอร์เวิร์ดเมลทีไรลบทิ้งทุกที
เพื่อนหลายคนบอกว่า ระวังจะพลาดอะไรดีๆ
พลาดก็พลาด
แต่เมลนี้ถือว่าไม่พลาดเพราะได้อ่านจากบล็อกนี้
จขบ.สบายดีป่าวคะ
^^


โดย: I am just fine^^ วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:42:21 น.  

 
มายกมือว่าเคยได้รับบทความนี้จาก fw mail บ่อยมากๆเลยล่ะค่ะ

เห็นด้วยกับที่พี่แอสตัน เขียนไว้เหมือนกันค่ะ ว่าการที่คนเราต้องเจ็บปวดกับความรักนั้น ก็เป็นเพราะความคาดหวังและการไม่รู้จักปล่อยวาง

ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าถ้าเรารักแบบไม่ยึดติด ไม่คาดหวังว่าเค้าจะต้องทำดีตอบหรือรักตอบ ความรู้สึกเจ็บปวดจะไม่เกิดขึ้น จะมีแต่ความรู้สึกสุขจากการได้รักและการให้ ไม่ว่ารักนั้นจะจากเราไปแล้ว หรือจะยังคงอยู่ก็ตาม

โดยปกติแล้วก็เป็นคนไม่ยึดติด ไม่คาดหวังอะไรจากคนรักมากมายนัก ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เป็นรักแบบเรื่อยๆสบายๆ เลือกทำในสิ่งที่เราสบายใจที่สุด

ตราบใดที่ยังมีความสุขที่ได้รัก ก็จะยังรักไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม แต่ถ้าเมื่อไรรู้สึกว่าความรักนั้นทำให้ดัชนีความสุขและความสบายใจของตัวเองเริ่มลดลง ก็จะปล่อยรักนั้นไป จะไม่ดึงดันที่จะเก็บรักนั้นไว้กับตัวและจมปลักกับความทุกข์

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนิดเดียว ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับความทุกข์ใจที่เกิดขึ้นด้วย สู้เอาเวลานี้ไปเปิดโอกาสกับคนอื่นจะดีกว่า เผื่อบางทีคนอื่นที่ว่านี้อาจจะเป็นคนที่เรามีความสุขที่สุดที่ได้อยู่กับเค้าก็ได้

ข้างบนที่เขียนมานั้น ตอบเรื่องบทความของพี่นะคะ...

ส่วนเรื่องของพี่แอสตัน เราไม่รู้หรอกค่ะว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่สังเกตจากบล๊อกที่เขียนแล้วรู้สึกได้ว่าไม่สดใสเหมือนเคย ยังไงก็ขอให้พี่ข้ามผ่านเรื่องเหล่านี้ไปได้ด้วยดีนะคะ


โดย: Always On Vacation วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:35:07 น.  

 
ไม่น่าเชื่อเลย
วันก่อนรื้อห้องเพื่อเก็บหนังสือให้เรียบร้อย หลังจากที่ปล่อยห้องรกมานาน
แล้วก้อบังเอิญเจอกระดาษที่พิมพ์ข้อความนี้อยู่แผ่นหนึ่ง
นั่งอ่านไป ก้อย้อนอดีตไป.....
จำได้ว่าเมื่อสักสองปีก่อน ได้รับมาจาก ffm. เป็นไฟล์รูปภาพ
แต่อยากได้ข้อความในนั่น ไม่รู้ว่าจะทำยังไง....
เลยต้องปรินส์รูปนั้น...แล้วก้อมานั่งพิมพ์เองใส่ word แล้วก้อปรินส์ออกมาเก็บไว้

ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำงั้นไปเพื่ออะไร

กลับมา ณ วันก่อนที่นั่งอ่านข้อความนี้อีกครั้ง
เชื่อไหมค่ะว่า..คิดว่าคนที่เขียนข้อความนี้เป็นคุณ aston27 --ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน...หุหุ

ปล. ไม่ต้องกดไปที่บล๊อคนะคะ เพราะปิดไว้เนื่องจากอายเพราะไม่ได้อัพฯมานานมากกกกค่ะ

ปล.2 จริงๆเป็นแฟนคลับคุณ aston27 ตั้งแต่อยู่สวนลุม แล้วก็ตามมาที่นี่ด้วย แต่ไม่ค่อย comment ค่ะ ---ขี้เกียจล็อคอิน อิอิ

ปล.3 --สุดท้ายจริงๆ-- ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณ aston27 ผ่านพ้นปัญหานี้ไปได้นะคะ emo


โดย: P-PRESENT วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:51:30 น.  

 
แค่ได้ใส่ใจก็พอแล้วเนอะ

ขอให้เป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่ดีนะคะ



โดย: myouzhny วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:52:43 น.  

 
ผมก็ได้อ่าน fm นี้ครับ
แปลกดีที่วันนี้
มันนำผมกลับมาที่ต้นธารเลย

เขียนได้ดีจังครับ


โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 8 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:47:34 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.