“ปาฏิหาริย์ไม่ใช่การเดินบนน้ำ หรือบินอยู่บนอากาศ แต่ปาฏิหาริย์คือการเดินอยู่บนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว”

ติช นัท ฮันท์

431 .. บททดสอบที่สำคัญที่สุดของชีวิต











บททดสอบที่สำคัญที่สุดของชีวิต


บทความ.....โดย พระไพศาล วิสาโล














ความตายเป็นสิ่งแน่นอนสำหรับทุกชีวิต แต่ขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

เพราะเราไม่อาจกำหนดหรือคาดทำนายได้ว่าจะตายเมื่อใด ที่ไหน และด้วยสาเหตุอะไร

แม้แต่นักโทษประหารหรือผู้ป่วยระยะสุดท้ายก็อาจจบชีวิตด้วยสาเหตุที่ไม่คาดฝัน

ทั้งความแน่นอนและไม่แน่นอนนี้เองมีส่วนทำให้ความตายเป็นเรื่องน่าสะพรึงกลัวมากขึ้น

โดยเฉพาะสำหรับผู้คนที่ปรารถนาจะควบคุมทุกอย่างไว้ในอำนาจ










เป็นเพราะเห็นความตายเป็นเรื่องน่าสะพรึงกลัว เราจึงไม่อยากนึกถึงความตายของตนเอง

แต่อาจสนใจอยากรู้ความตายของคนอื่น ทั้งโดยผ่านสื่อนานาชนิดและด้วยพฤติกรรม “ไทยมุง”

สุดท้ายก็เลยลืม (หรือแกล้งลืม)ว่าตนเองจะต้องตาย

แต่ไม่ว่าจะปัดไปให้พ้นตัวเพียงใด ในที่สุดความตายก็ต้องมาถึงจนได้













ความตายนั้นเป็นบททดสอบที่สำคัญที่สุดของชีวิต

บททดสอบอื่นๆ นั้นเราสามารถสอบได้หลายครั้ง แม้สอบตกก็ยังสามารถสอบใหม่ได้อีก

แต่บททดสอบที่ชื่อว่าความตายนั้น เรามีโอกาสสอบได้ครั้งเดียว และไม่สามารถสอบแก้ตัวได้เลย

ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นบททดสอบที่ยากมาก และสามารถเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ โดยไม่ทันได้ตั้งตัว

เป็นบททดสอบที่เราแทบจะควบคุมอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าเวลา สถานที่ หรือแม้กระทั่งร่างกายและจิตใจของตนเอง








อย่างไรก็ตามทั้งๆ ที่ความตายเป็นบททดสอบที่สำคัญอย่างยิ่งของชีวิต แต่น้อยคนนักที่ได้เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับบททดสอบดังกล่าว

ชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่หมดไปกับเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะการทำมาหากินและการหาความสุขจากสิ่งเสพ

เราพร้อมจะให้เวลาเป็นปีๆ สำหรับการฝึกอาชีพ เข้าคอร์สฝึกร้องเพลง เต้นรำนานเป็นเดือนๆ

ไม่นับเวลานับพันนับหมื่นชั่วโมงกับการช็อปปิ้งและท่องอินเตอร์เน็ต

แต่เรากลับไม่เคยสนใจที่จะตระเตรียมตนเองให้พร้อมเผชิญกับความตายหรือภาวะ ใกล้ตาย

ส่วนใหญ่นึกราวกับว่าตนเองจะไม่มีวันตาย หาไม่ก็คิดง่าย ๆ ว่าขอ “ไปตายเอาดาบหน้า”

ไม่มีความประมาทอะไรที่ร้ายแรงไปกว่าการทิ้งโอกาสที่จะฝึกฝนตนเองให้เผชิญความตายอย่างสงบ

ในขณะที่ยังมีเวลาและพละกำลังอย่างพร้อมมูล












เป็นเพราะไม่สนใจเตรียมตัวล่วงหน้ามาก่อน

เมื่อล้มป่วยและเข้าสู่ระยะสุดท้ายของชีวิต ผู้คนเป็นอันมากจึงประสบกับความทุกข์ทรมานอย่างแรงกล้าทั้งกายและใจ

ทรัพยากรที่มีอยู่ก็ไม่เพียงพอที่จะเอามาใช้ช่วยตัวเองในยามวิกฤต

โดยเฉพาะ “ทุน” ที่สะสมไว้ในจิตใจ ซึ่งสำคัญกว่าทุนที่เป็นทรัพย์สมบัติ

ผู้คนจำนวนไม่น้อยลงเอยด้วยการพยายามต่อสู้กับความตายอย่างถึงที่สุด

ฝากความหวังไว้กับเทคโนโลยีทุกชนิด

แต่การพยายามยืดชีวิตนั้น บ่อยครั้งกลับกลายเป็นการยืดการตายหรือภาวะใกล้ตาย ให้ยาวออกไปพร้อมกับความทุกข์ทรมาน

โดยคุณภาพชีวิตและจิตใจหาได้ดีขึ้นหรือเท่าเดิมไม่








มีแนวโน้มว่าผู้คนจะใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายที่โรงพยาบาลกันมากขึ้น โดยเฉพาะคนในเมือง

ปัญหาก็คือระบบการแพทย์ในปัจจุบันเน้นแต่การดูแลรักษาทาง กาย โดยไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องจิตใจ

เทคโนโลยียืดชีวิตกลายเป็นสิ่งสำคัญเหนืออื่นใด

แต่สิ่งที่ผู้ป่วยระยะสุดท้ายต้องการมากที่สุดนั้น มิใช่ความรู้หรือเทคโนโลยี หากได้แก่กำลังใจและความรัก

ไม่เฉพาะจากญาติมิตรและครอบครัวเท่านั้น ขวัญและกำลังใจจากแพทย์และพยาบาลก็เป็นสิ่งสำคัญ

ยิ่งในยามที่ความรู้และเทคโนโลยีมาถึงขีดจำกัดในการรักษา

สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นหรืออย่างน้อยก็ไม่เลวร้ายลงไปก็คือ ความเมตตาและความใส่ใจโดยบุคคลากรทางการแพทย์












อย่างไรก็ตามผู้คนแวดล้อมหรือปัจจัยภายนอกไม่สำคัญเท่ากับจิตใจของผู้ป่วยเอง

ผู้ป่วยที่ยอมรับความตายและได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่วงหน้า ย่อมมีโอกาสที่จะเผชิญกับความตายอย่างสงบ

หรืออย่างน้อยก็สามารถประคองใจไม่ให้เป็นทุกข์ในภาวะใกล้ตาย

หลายคนพบว่าศาสนาเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดของจิตใจในวาระสุดท้าย โดยที่ญาติมิตรหรือคนรักก็ได้รับการเยียวยาทางจิตใจไปด้วยพร้อมๆกัน


การแพทย์แผนใหม่นั้นเห็นความตายเป็นปฏิปักษ์ต่อวิชาชีพแพทย์

ความตายของผู้ป่วยหมายถึงความล้มเหลวของแพทย์ ดังนั้นจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะเอาชนะความตายให้ได้







หรือหากทำไม่ได้ก็พยายามยืดชีวิตผู้ป่วยให้ได้นานที่สุด

ดังนั้นจึงไม่ลังเลที่จะทำอย่างไรก็ได้กับร่างกายของผู้ป่วย แม้นั่นจะหมายถึงการสร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วยและญาติมิตร

จะเป็นการดีกว่าหากแพทย์และพยาบาลมองความสำเร็จและความล้มเหลวของตนในแง่มุมใหม่

คือไม่ได้ถือว่าความสำเร็จอยู่ที่การช่วยหรือยืดชีวิตของผู้ป่วยให้ได้เท่านั้น

แต่ยังอยู่ที่การช่วยให้เขาเผชิญความตายอย่างสงบ มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อนตาย

มองในแง่นี้ความตายของผู้ป่วยจะไม่ได้หมายถึงความล้มเหลวของแพทย์และพยาบาลเสมอไป












ไม่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ หรือตายไป ก็ยังถือว่าเป็นความสำเร็จของแพทย์และพยาบาลได้หากว่าจิตใจของเขา ได้รับความใส่ใจไม่น้อยไปกว่าร่างกาย

ในการรักษาพยาบาลนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีผู้ป่วยคนใดตายเลย แต่เป็นไปได้ที่เขาจะจากไปอย่างสงบ

เพราะฉะนั้นความสำเร็จในนิยามใหม่นี้จึงสามารถเกิดขึ้นได้ในการรักษาผู้ป่วย ทุกกรณี


นิมิตดีก็คือ มีแพทย์และพยาบาลจำนวนมากขึ้นที่ให้ความสำคัญกับจิตใจและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยระยะสุดท้าย

หลายคนแม้จะไม่สามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตต่อไปได้

แต่ครอบครัวและญาติมิตรของผู้ตายก็ซาบซึ้งที่แพทย์และพยาบาลช่วยให้คนรักของเขาจากไปอย่างสงบ

ความสำเร็จของแพทย์และพยาบาลเหล่านั้นอยู่ตรงที่ไม่พยายามยื้อชีวิตของผู้ป่วยให้นานที่สุด

แต่พยายามประคับประคองให้เขาบรรลุวาระสุดท้ายของชีวิตอย่างเจ็บปวดน้อยที่สุด และมีจิตเป็นกุศลหรือสงบมากที่สุด







การแพทย์แบบประคับประคอง (palliative care) เป็นสิ่งที่ควรจะได้รับความสนใจมากขึ้นจากสถาบันการแพทย์สมัยใหม่

ขณะเดียวกันก็ควรผนวกเอาวิธีการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบบูรณาการ เข้าไปด้วย

ดังที่ได้มีการริเริ่มบ้างแล้วจากหลายฝ่ายจนเกิดเป็น “เครือข่ายการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย”

ซึ่งประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักบวช และนักปฏิบัติธรรมจำนวนหนึ่ง

(ผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่www.budnet.org )


ถ้าเราหันมาใคร่ครวญเกี่ยวกับความตาย

และพยายามฝึกใจให้พร้อมรับมือกับบททดสอบที่สำคัญที่สุดของชีวิต

ความตายจะมิใช่วิกฤต หากเป็นโอกาสแห่งความสงบในทางจิตใจที่เงินและเทคโนโลยีไม่สามารถหาให้ได้





























ขอขอบคุณ

ภาพ.......จากอินเตอร์เน็ท
บทความ.....โดย พระไพศาล วิสาโล
//www.budnet.org/sunset/node/115
และเครื่องแต่งบล็อก ..... จากบล็อกชมพร /บล็อกญามี่



ธรรมสวัสดี


ร่มไม้เย็นค่ะ





 

Create Date : 09 มีนาคม 2557
27 comments
Last Update : 28 มีนาคม 2558 14:30:07 น.
Counter : 4372 Pageviews.

 


สวัสดีค่ะป้ากุ๊ก

รีบมาอ่านและโหวตให้ก่อนจะเดินทางไปเชียงใหม่ 3 วันคง

ไม่ได้เข้าบล็อกค่ะ อ่านแล้วได้สติปัญญาดีมากค่ะ


ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: พรไม้หอม 9 มีนาคม 2557 10:25:47 น.  

 

สวัสดีค่ะป้ากุ๊ก

อ่านแล้วบอกตัวเองว่า

" อย่าประมาทกับชีวิต" ค่ะ
เช่นพระพุทธองค์ตรัสกับพระอานนท์ ให้เตรียมตัวตายไว้ทุกนาทีค่ะ

หวังว่าป้ากุ๊กสบายดีนะคะ เพราะป้ากุ๊กเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาแล้วเช่นกัน

ขอบคุณสำหรับธรรมะวันนี้

 

โดย: ป้าแอ๊ด IP: 124.122.69.205 9 มีนาคม 2557 10:37:46 น.  

 

หวัดดีครับป้ากุ๊ก

จริงด้วยครับ บททดสอบสุดท้ายที่คนเราไม่ค่อยใส่ใจกัน จริงๆผมอยากจะเรียนว่าบทเอาจริงฉบับไร้การต่อรองและแก้ตัวด้วยซ้ำนะครับ

เป็นเรื่องน่ากลัวมากยามเผชิญหน้ากับวาระสุดท้าย โดยเฉพาะอยู่ในรพ.ในยุคนี้ ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ผมเห็นผู้ป่วยหลายคนทรมานมากกับการยื้อชีวิตไว้ของหมอ พ่อผมก็ทรมานครับ แกเจ็บมาก แกอยากกลับบ้าน

ถ้ารพ. บุคลากรทางการแพทย์เปลี่ยนทัศนคติใหม่ บางทีหน่วยเผชิญหน้าบททดสอบสุดท้ายหน่วยนี้อาจสร้างความหวังใหม่ อาจช่วยให้คนเราเผชิญวาระสุดท้ายได้อย่างสงบ ไม่เสียขวัญ และจากไปอย่างทุกข์ทรมานน้อยที่สุดนะครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ผมคงกลัวตายน้อยลง รวมทั้งกลัวรพ.น้อยลงด้วย

จริงๆแล้วผมอยากให้เมืองไทยผ่านกฏหมายผู้ป่วยวาระสุดท้ายมีสิทธิขอให้คุณหมอช่วยฉีดยาให้จากไปอย่างสงบเหมือนอย่างต่างประเทศบางเทศ เหมือนจะออสเตรเลียเนี่ยแหละ

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 9 มีนาคม 2557 11:33:05 น.  

 

เผื่อใครที่ยังไม่ทราบก็อยากจะแจ้งว่า.....

ตอนนี้เราสามารถทำหนังสือเพื่อบอกความต้องการครั้งสุดท้ายของชีวิตได้แล้วนะคะ

โดยจะเขียนเป็นหนังสือ หรือ แจ้งด้วยวาจาก็ได้

//www.thailivingwill.in.th/

ป้าก็คิดๆอยู่ว่าจะเขียนเสียหน่อยเหมือนกันค่ะ

เพราะเรื่องบางเรื่องต้องเตรียมเสียแต่เนิ่นๆ

ชีวิตจะยาวหรือสั้นอยู่แค่ปลายจมูกเท่านั้น ไม่ประมาทเป็นดีที่สุดค่ะ

 

โดย: ร่มไม้เย็น 9 มีนาคม 2557 12:40:40 น.  

 

อ่านมาเรื่อย...รวมทั้ง (4) ด้วยค่ะป้ากุ๊ก

นอกจากเตรียมตัวแล้ว สิ่งที่ต้องทำก่อน "เตรียมใจ" ด้วยค่ะ วันหนึ่งก็ต้องไป แม้ไม่อยากไป...

ถ้าไม่ห่วงอะไรเราคงไปได้แบบ "เบาๆ" นะคะ

ชอบภาพประกอบที่มีกิ่งไม้ ต้นไม้ไร้ใบค่ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
sirivinit Hobby Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 9 มีนาคม 2557 14:33:56 น.  

 

สวัสดียามเย็นค่ะคุณป้ากุ๊ก
เตรียมตัวเตรียมใจและเตรียมพร้อมค่ะคุณป้ากุ๊ก

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ญามี่ Education Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: jamaica 9 มีนาคม 2557 15:47:58 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สวัสดีค่ะป้ากุ๊กไก่
หลายๆ คนพยายามหลีกหนี ไม่อยากนึกถึงความตายจริงๆ ค่ะ
เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากเจอ ทั้งกับตัวเอง และกับคนที่เรารัก

อ่านที่ป้ากุ๊กไก่เขียนเกี่ยวกับการยืดความตายออกไป
อันนี้จริงมากๆ ค่ะ บางทีเราก็ไม่รู้ว่าที่ให้แพทย์พยายามรั้งชีวิตคนป่วยไว้
เป็นการช่วยหรือทำให้เค้าทรมานกันแน่ค่ะ

อ่านที่เม้นท์ 4 ขอบพระคุณป้ากุ๊กไก่สำหรับความรู้ใหม่ค่ะ
อันนี้บุ๊งเพิ่งทราบวันนี้เลยค่ะ

 

โดย: Close To Heaven 9 มีนาคม 2557 16:17:14 น.  

 

เสียใจด้วยนะคะป้ากุ๊ก ความตายไม่มีใครหนีพ้นจริงๆ

 

โดย: sawkitty 9 มีนาคม 2557 16:39:09 น.  

 

ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog

ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog



แม้จะรู้ว่าความตายเป็นสิ่งที่มนุษย์หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะตระหนักว่าเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นวัฎจักรของวงจรชีวิต แต่ก็ไม่มีใครอยากตาย ที่ไม่อยากตายก็เพราะยังตัดกิเลศของความผูกพันไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความผูกพันต่อคนที่เราจะต้องทิ้งไป เช่นพ่อแม่ ลูกหลาน ซึ่งเป็นห่วงที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ ถ้าคัดห่วงนี้ได้ไม่อาลัยอาวรณ์ ความตายก็คงไม่น่ากลัวอะไร เป็นเพียงอุโมงค์ที่จะพาเราหลุดพ้นจากสภาวะปัจจุบันในโลกใบนี้ ไปสู่โลกใบใหม่ที่อาจจะแตกต่างกว่าเดิมหรือเหมือนเดิมก็ไม่รู้ได้ คงต้องขึ้นอยู่กับกรรมของแต่ละคนเท่านั้น

 

โดย: ดอยสะเก็ด 9 มีนาคม 2557 17:46:52 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณป้า

อ่านจบแล้วได้อะไรเยอะมากค่ะ
ไม่เคยกลัวหรือเพราะยังคิดว่าอีกไกลก็ไม่รู้ค่ะ
แต่เอาจริงๆแล้วความตายอยู่ใกล้ตัวเรานิดเดียว
ใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีคุณค่าและมีความสุขได้คงดีมากๆเลยนะคะ

ขอบคุณมากๆค่ะ ^^

 

โดย: lovereason 9 มีนาคม 2557 18:21:54 น.  

 

นิคก็อยากเตรียมตัวดีๆค่ะป้ากุ๊ก
เพราะเป็นบททดสอบที่สำคัญที่สุด และมีเพียงครั้งเดียว
แก้ตัวไม่่ได้ด้วย สอบซ่อมก็ไม่ได้

แต่รายทาง ชอบทำให้ไขว้เขวซะจริงค่ะป้ากุ๊กขา



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tui/Laksi Sports Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ที่เห็นและเป็นมา 9 มีนาคม 2557 21:38:03 น.  

 



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog

สวัสดียามดึกค่ะป้ากุ๊ก
เราทุกคนคงต้องเตรียมความพร้อมกัน
คงแล้วแต่ว่าใครจะเตรียมความพร้อมหรือ
เตรียมใจกันได้มากน้อยแค่ไหนนะคะ

 

โดย: AppleWi 9 มีนาคม 2557 22:55:23 น.  

 

สวัสดีค่ะป้ากุ๊กไก่ แวะเข้ามาเยี่ยมและได้อ่านข้อคิดดีๆค่ะ

 

โดย: jojozung (zungzaa ) 9 มีนาคม 2557 23:05:23 น.  

 

สวัสดีค่ะป้ากุ๊กไก่ แวะเข้ามาเยี่ยมและได้อ่านข้อคิดดีๆค่ะ

 

โดย: jojozung (zungzaa ) 9 มีนาคม 2557 23:06:27 น.  

 

ช่วงนี้อุ้มก็เจอบททดสอบเหมือนกันค่ะ
พ่อ ALert ไม่นอนสามวันสามคืน
อุ้มเฝ้าพ่อคนเดียวตาค้างกับพ่อนั้นแหละ
โชคดีที่แบตพ่อเพิ่งหมดนอนหลับไปแล้วค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 10 มีนาคม 2557 0:05:57 น.  

 


น้อยเห็นด้วยค่ะว่าทางการแพทย์ พยาบาล
ควรนึกถึงจิตใจญาติคนไข้ด้วย

โหวดสาขา ธรรมะค่ะ

newyorknurse

 

โดย: newyorknurse 10 มีนาคม 2557 3:30:20 น.  

 

สวัสดีครับคุณป้ากุ๊ก

เห็นด้วยกับพี่น้อยครับ และก็พยายามจะมองความตายของตัวเองไว้ล่วงหน้าแต่ไม่ค่อยอยากเห็นคนอื่นตายเท่าไหร่เลยละ

ขอให้คุณแม่ของคุณป้ากุ๊กเจริญสติโดยใช้ลมหายใจคอยกำกับอยู่เสมอนะครับ แล้วหัวใจท่านจะมีเวลาพักฟื้นด้วยตัวเองจนกลับมาแข็งแรงเป็นปกติในที่สุดจ้ะ

 

โดย: find me pr 10 มีนาคม 2557 13:18:00 น.  

 

หวัดดีค่าป้ากุ๊กไก่

บททดสอบความตายนั้นทำให้คนที่เหลืออยู่รู้คุณค่าของชีวิตมากขึ้นนะคะ
เพราะว่า ทำให้เราตระหนักถึงว่า เวลาที่เหลืออยู่ เราจะทำอย่างไรให้ดีที่สุด
และจะเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้นด้วยค่ะ

ไม่เจอกับตัวเองก็ไม่รู้จริงๆ




ส่งกำัลังใจให้ป้ากุ๊กไก่ค่า



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
AdrenalineRush Travel Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog


 

โดย: Rinsa Yoyolive 10 มีนาคม 2557 15:46:39 น.  

 

ที่นี่ต้นไม้เยอะค่ะป้ากุ๊ก ไม้ใหญ่ทั้งนั้นเลยค่ะ เขียวครึ้มไปหมด ค่อยให้อารมณ์เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ขึ้นมาหน่อย บางที่มีแต่หิน อิฐ ดูทื่อๆ นะคะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 10 มีนาคม 2557 16:38:38 น.  

 

สวัสดีค่ะป้ากุ๊กไก่..

ความตาย เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใคร ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นค่ะ

แต่ก็พยายามยอมรับ..

เหมือนครั้งที่คุณแม่จากไปอย่างกระทันหัน

ทั้งๆที่ป่วยมากนาน ..

แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุดในปัจจุบันค่ะ

ขอให้ดวงวิญญาณของพี่สิน ไปสู่สุขคติด้วยนะค่ะ

 

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) 10 มีนาคม 2557 20:28:24 น.  

 

แวะมาเยี่ยมยามค่ำคืน…สวัสดีครับ

บทความให้ข้อคิดที่ดีมาก ภาพสวยด้วยครับ

โหวต และไลค์ส่งกำลังใจไปให้ป้ากุ๊กด้วยครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog

 

โดย: **mp5** 10 มีนาคม 2557 21:53:19 น.  

 

พร้อมจะไปแล้วครับ คุณป้ากุ๊ก ไม่กลัวเลย
แต่กลัวต้องกลับมาเกิดใหม่ ชั่วหนึ่งชีวิตเนี่ย
กว่าจะผ่านไปแต่ละเรื่อง ลำบากมากจริงๆ

ไลค์และโหวตครับ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
rommunee Music Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
ป้าคาล่า Home & Garden Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog

 

โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) 10 มีนาคม 2557 22:44:04 น.  

 

อ่านแล้ว ทำให้ฉุกคิด แล้ว เกิดความคิด ตริตรอง
ขึ้นเยอะเลยครับป้ากุ๊ก

อ้อ ภาพประกอบสวย ช่างสรรหามาจริง ขอปรบมือ
ให้ครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 11 มีนาคม 2557 6:01:28 น.  

 

พบกันแล้วค่ะป้ากุ๊ก
และได้รับหนังสือแล้วขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: HongDaYa 11 มีนาคม 2557 8:40:19 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เริงฤดีนะ Sports Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Fanclub Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
---------------------
เห็นป้ากุ๊กอัฟblogแล้ว ดีใจค่ะ ชีวิตเรายังดำเนินต่อไปนะคะ

 

โดย: เกศสุริยง 11 มีนาคม 2557 22:44:22 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
จารุพิชญ์ Diarist ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
jamaica Home & Garden Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
---------------------------
มาส่งกำลังใจให้ป้ากุ๊กค่ะ

 

โดย: ดรสา 11 มีนาคม 2557 22:51:00 น.  

 

ใช่ค่ะ...แต่ละชีวิตจะได้ลิ้มรสแห่งความตาย...

ครั้งหนึ่งเคยคุยประเด็นเรื่องความตายกับแม่
ก็เลยบอกกับแม่เอาไว้ว่า ...ถ้าหนูเกิดเป็นอะไร ที่จำเป็นต้องตัดสินใจต่อความเป็นหรือความตาย ไม่ต้องยื้อชีวิตหนูไว้ด้วยเทคนิคทางการแพทย์นะคะ...

ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันเนื้อหาดี ๆ แบบนี้ค่ะ ^_^

 

โดย: Wueng 13 มีนาคม 2557 16:46:57 น.  


ร่มไม้เย็น
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 127 คน [?]







เริ่มเขียน Blog เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2551


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยม เมื่อเวลา 18.15 น.



Group Blog
 
<<
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 มีนาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ร่มไม้เย็น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.