ชีวิตมีแต่เรื่อง Art Art
เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้เจอกับเรื่อง Art Art (ไม่ใช่ อ็อด อ็อด) จนต้องเอามาเล่าให้ฟังครับ
"ศิลปะแห่งความขัดแย้ง"
ผมเดินกลับมาจากการส่งข้าวที่คอนโด ระหว่างกลับเข้าบ้าน ณ ใต้คอนโด ภาพที่ผมเห็นคือ ผู้หญิงคนนึงยิ้มด้วยรอยยิ้ม ยียวน อยู่ในบ้านของตัวเอง ในขณะที่ผู้หญิงอีกคนที่ยืนอยู่นอกบ้าน สีหน้าจริงจัง แววตาอาฆาต ส่วนหูของผมนั้น ได้ยินแต่เสียงเพลงจาก iPod จึงไม่รู้ว่าเขาพูดว่าอะไรกันบ้าง
ภาพที่ผมเห็น ผมรู้สึกว่ามันต้องมีเรื่องอะไรสักอย่าง แต่ผมก็ไม่แน่ใจ เพราะหน้าบ้านหลังนั้น มีผู้ชายสองคน กำลังเคร่งเครียดกับการเล่นหมากรุก และก็มีผู้หญิงอีกคนยืนดูหมากรุกด้วย
ผมเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่ เลยถอดหูฟังออกมา เสียงที่ได้ยินคือ E-dok , E-here สารพัดคำหยาบสารพัดจากผู้หญิงแววตาอาฆาต ในขณะที่ผู้หญิงในบ้าน ก็ยังคงรอยยิ้มยียวน
แล้วผู้ชายที่เล่นหมากรุก ก็เล่นเสมือนโลกของเขาหยุดนิ่ง
ผมรู้สึกว่า สถานการณ์แบบนี้ "แม่งโคตร Art เลยวะ"
"ศิลปะแห่งความแปลกแยก"
เหตุการณ์หลังจากเมื่อสักครู่ พอผมส่งข้าวเสร็จ ผมต้องเอานาฬิกาโบราณไปซ่อม (เป็นนาฬิกาที่ใช้ลานโดยการแกว่งลูกตุ้ม น้ำหนักประมาณ 3 กิโล) ซึ่งพ่อเคยไปถามร้านซ่อมที่วงเวียนใหญ่(บ้านเก่าผม) เขาบอกเขารับซ่อมนาฬิกาโบราณ
ทีนี้วันนั้นผมต้องไปทำภารกิจหลายอย่าง 1. เอานาฬิกาโบราณไปซ่อมที่วงเวียนใหญ่ 2. ไปซื้อยาให้แม่ที่เทเวศน์(ที่อื่นไม่มีตัวยานี้) 3. ไปคลองถม ซื้อไฟฉาย ไว้ท่องเที่ยว กับ ซื้อฟิล์ม
ผมตั้งใจจะไปซ่อมที่วงเวียนใหญ่ แล้วก็ทิ้งนาฬิกาไว้ จากนั้นก็ไปซื้อของตามที่คิดไว้
ทีนี้เรื่องมัน art ตั้งแต่ผมออกจากบ้านแล้วละ เพราะผมต้องอุ้มนาฬิกาโบราณ โดยไม่ได้ใส่ถุง หรือเอากระดาษใดๆ ห่อ ผมบอกว่า มันกวนตีนดี เอามันไปด้วยทั้งแบบนั้นแหละ
แถมผมยังอุ้มมันในลักษณะแบบถือป้ายงานศพ คือเอามือรองใต้ฐาน แล้วโชว์นาฬิกาตายให้ชาวโลกได้เห็น
จริงๆเหตุการณ์มันน่าจะจบลงง่ายๆ ไม่ได้ art ไรมากมายหรอก เพราะถ้าเอาไปที่ร้านซ่อม ทุกอย่างก็จบ
แต่ทีนี้ร้านซ่อมดันตีราคาซ่อมมา 800 บาท ที่บ้านผมเลยบอกว่า งั้นเอากลับมาเถอะ
ผมก็เอ่อ....
ภารกิจซื้อฟิล์มของผมน่ะ ไว้วันอาทิตย์ก็ได้ แต่ภารกิจซื้อยาให้แม่ มันต้องวันนี้น่ะสิ เพราะวันอาทิตย์ร้านขายยาปิด
เอาวะ มันคงไม่ลำบากมาก
ทีนี้เลยกลายเป็นว่า จากวงเวียนใหญ่ ผมต้องไปเทเวศน์ โดยที่มีนาฬิกาตายขนาดใหญ่ติดตัวไปด้วย
ความ art มันเลยบังเกิด ไอ้ผมมันคนขี้งก ไม่นั่งแท็กซี่ เลยรอรถเมล์ฟรี จากวงเวียนใหญ่ นั่งสาย 21 ไปลงพาหุรัด แล้วก็นั่งสาย 53 (ฟรี) ไปเทเวศน์
แถมตอนกลับ ก็เดินโดยที่มีนาฬิกาตายตัวนั้น ไปบางลำพู เพื่อขึ้นสาย 68
ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนมอง จนผมคิดว่า ผมน่าจะลองถ่ายภาพนาฬิกาตายตัวนี้กับการเดินทางดู มันคงจะ art ฉิบหายวายป่วง ตอนนี้ผมคิดไว้ในใจละ เดี๋ยวจะลองทำดู... art แน่มึง
"ศิลปะแห่งความคลุมเครือ"
ที่หน้าโลตัส แถวปิ่นเกล้า ผมเจอชายคนนึง ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมจะเรียกชายคนนี้ว่าอย่างไรดี
ชายคนนี้ลักษณะ เนื้อตัวมอมแมม ดูสกปรกมากๆ จากการตัดสินสั้นๆ เขาดูเหมือน "คนบ้า คนจรจัด"
แต่ความคลุมเครือมันเกิดจาก
ชายคนนี้ทาแป้งที่หน้าขาวจัวะ! แล้วก็ยืนทำตัวแข็งๆ นิ่งๆ ตรงขาก็มี กระบอกไว้ใส่เศษสตางค์ และคิดดูอีกที เขายืนหน้าห้างโลตัสนะ
ผมเริ่มสับสน "หรือเขากำลังแสดงละครใบ้วะ"
คือถ้าเขาเนื้อตัวสะอาด ผมคงฟันธงว่าเขาแสดงละครใบ้ หรือแสดงศิลปะอะไรสักแขนง หรือถ้าเขาแค่ตัวสกปรกมอมแมม เดินไปด่าไป ผมก็คงฟันธงได้ว่าเขาบ้า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ผมไม่สามารถสรุปได้เลยว่า เขาบ้าหรือแสดงศิลปะ ผมเข้าใจว่า คนแถวนั้นก็คงตัดสินใจไม่ถูก เลยปล่อยให้เขายืนทำตัวแข็งๆ แบบนั้น --' แม่ง art สัด
Create Date : 25 เมษายน 2553 |
|
8 comments |
Last Update : 25 เมษายน 2553 23:22:52 น. |
Counter : 1130 Pageviews. |
|
|
วัชบ้า