มึนไปตามใจฝัน
<<
มีนาคม 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
24 มีนาคม 2556

จังโก้ คนแดนเถื่อน

จังโก้ คนแดนเถื่อน
ภาพยนตร์ โดย เควนติน ทารันติโน่
หนังที่ว่าด้วย ชายหนุ่มผิวสี นาม จังโก้ ซึ่งเหตุการณ์ว่าด้วยยุค ที่อเมริกา ให้ชาวผิวสีเป็นทาส
ปฏิบัติด้วยความต่ำต้อย
ซึ่งจังโก้ ได้รับความช่วยเหลือ จาก ด็อกเตอร์ คิง ชูลท์ซ ซึ่งเป็น อดีต หมอฟัน
ที่ปัจจุบัน อาชีพหลักคือนักล่าหัว 
ตัวจังโก้ เมื่อได้รับการปลดปล่อย สิ่งที่เขาต้องการที่สุด คือการได้อยู่กับภรรยาของเขา
นาม บรูลฮิลด้า
ซึ่งถูกจับขายเป็นทาสให้กับที่อื่น จังโก้ ต้องไปตามหาและช่วยเหลือออกมา

ซึ่งโครงสร้างของหนังเรื่องนี้
ถ้าเราเคยอ่านบทวิจารณ์ต่างๆ ที่เขาเขียนกัน
จะคุ้นๆ กับคำว่า "สปาเกตตี้ คาวบอย" 
แต่ภาษาอังกฤษ ที่ใช้กันทางการ จะเป็น spaghetti western
เอาแบบแปลไทยเลยก็คือ หนังอิตาลี่ ตะวันตก
ซึ่งเกิดจากการแรกเริ่ม อเมริกาชอบหนัง คาวบอย 
โดยปกติหนังแนวทางนี้ ตัวเอกจะเป็น นายอำเภอ ผู้พิทักษ์สันติราษฏ์
อะไรทำนองนั้น ซึ่งตัวร้ายก็เป็นโจร ผู้ร้าย มาปล้นเมือง
หนังก็จะออกไปทางเชิดชู วีรบุรุษ
ทีนี้เมื่อมีหนังแบบนี้มากๆ มันก็เอียนเหมือนกัน
ก็เริ่มมีคนแปลงหนัง ให้เป็นอีกด้านนึง 
จากตำรวจ พระเอกก็เป็นโจร (แต่ก็มีคุณธรรมประมาณนึง)
และก็สู้กับพวกที่เลวกว่า
และตอบโต้วิธีการที่แสบกว่า ไม่ได้เน้นเชิดชูคุณธรรม
ส่วนตัวผมจำไม่ได้เหมือนกันว่า เรื่องไหนเป็นเรื่องแรกๆ
แต่ถ้าสมัยที่ผมสนใจเรื่องหนัง หนังที่มักจะพูดถึงว่าต้องดูในแนวทางนี้
ก็จะเป็น The Wild Bunch และก็ Butch Cassidy and the Sundance Kid
อีกเรื่องที่ผมนึกถึงก่อน กลับเป็นหนังญี่ปุ่นที่แปลงแนวทางนี้
มาเป็นหนังซามูไร แต่ใช้สไตล์เดียวกับ สปาเกตตี้คาวบอย
ก็คือ Yojimbo ของ ผู้กำกับ อากิระ คุโรซาว่า
ที่่ว่าด้วยซามูไร พเนจร ที่มากรุ้มกริ่ม ไม่น่าไว้ใจ
แถมนิสัยขี้โกงหน่อยๆ ต้องมาช่วยเหลือชาวบ้าน

ว่ากันไปยาว
เพื่อจะบอกว่าหนังเรื่อง จังโก้ ก็เป็นเช่นนั้น
ด้วยเรื่องราวที่เราต่างก็รู้อยู่แก่ใจ
แถมหนังก็ยาวถึงเกือบ 3 ชั่วโมง
ถามว่า น่าเบื่อไหม 
ไม่เลย! หนังมันโคตรสนุก!
และอะไร ทำให้หนังยาวเกือบ 3 ชั่วโมง 
ทั้งที่เนื้อหา ไม่ได้ยาว หรือมีความซับซ้อนใดๆ 
แนวทางก็ซ้ำ ถูกทำมานาน 60 กว่าปีแล้วด้วยซ้ำ
เพราะอะไรละ มันถึงไม่น่าเบื่อ และยังสนุก?


สิ่งที่ทำให้ผม รู้สึกว่า หนังมันสนุก และไม่น่าเบื่อเลย
ก็เพราะ วิธีการของ เควนติน ซึ่งค่อยๆ บรรจง เล่ารายละเอียดให้กับตัวละคร
ทำให้เรารู้สึกผูกพัน เข้าใจ เห็นใจ และมีความรู้สึกร่วม
ซึ่งสิ่งเหล่านี้สำคัญมาก เพราะถ้าเราเริ่มรู้สึกร่วมไปกับตัวละครแล้ว
เวลาเราพบกับฉากที่ ตัวละครเอก ต้องลำบาก เราจะเห็นใจ และหวังให้ตัวละครเอกปลอดภัย
ตัวละครร้าย กำลังได้ที เราจะรู้สึกโกรธแค้น
และเมื่อมาถึงบทสุดท้ายนั้น เราจะรู้สึกสะใจกับจุดจบของเหล่าตัวร้าย
นี่คือเสน่ห์มากๆ ของเควนติน
ซึ่งการที่ผมเขียนแค่นี้ มันคงดูง่ายมาก ดูเป็นพื้นฐานมาก
แต่เอาจริงๆแล้ว มันไม่ง่ายเลย ที่จะทำให้ออกมาตามที่ต้องการ
ผู้กำกับทุกคน ล้วนอยากให้คนติดตามเรื่องราวและตัวละครของตัวเอง
แต่หลายคนก็ทำไม่ได้อย่างที่คิดไว้
ซึ่งเควนติน เขาทำได้อย่างที่ควรเป็น และคงมากกว่าที่ผู้ชมคาดไว้มากด้วยซ้ำ
เพราะทุกสิ่งของหนัง 
ทุกอย่างมันออกมาได้อย่างชาญฉลาด
ทั้งบทพูด เพลงประกอบที่มาแต่ละที ขับเคลื่อนหนังได้อย่างมีพลังมาก
หรือแม้กระทั่งวิธีการตัดต่อ เคลื่อนกล้องที่อาจจะไม่ได้มีอะไรพิเศษ
แต่ใช้ลักษณะวิธีแบบโบราณ ที่หนังแนวทางนี้ชอบใช้
เช่นซูมเข้ากระแทก หรือ ซูมออกกระแทก  อะไรแบบนั้น

เป็นหนังที่ดูแล้วสนุก สะใจ คลายเครียดดีแท้




Create Date : 24 มีนาคม 2556
Last Update : 24 มีนาคม 2556 23:51:11 น. 0 comments
Counter : 1464 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

วัชเจียเหว่ย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add วัชเจียเหว่ย's blog to your web]