มึนไปตามใจฝัน
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
23 มิถุนายน 2552

น้ำใบบัวบก

เมื่อสมัยเด็กๆ ณ ช่วงที่ผมยังอยู่ ย่านวงเวียนใหญ่
ตรงถนนริมถนนบางยี่เรือ
จะมีของขาย ของกินอยู่ข้างทาง
มีอยู่ร้านนึงที่ผมไม่เคยอุดหนุนเลย
ก็คือร้านขายน้ำหวานข้างทาง ที่มีโหลใหญ่ๆ สามใบ
ใบนึงเป็นน้ำมะพราว มีเนื้อมะพร้าวลอยเต็มโหล ผมเข้าใจว่าลูกค้าที่มาซื้อ
คงจะไม่เคยได้เนื้อแหละมั้ง มันถึงได้ลอยอยู่เต็มโหลเกือบตลอดเวลา

ใบที่สองเป็นเก๊กฮวย อันนี้ดูจะเข้าทางผมที่สุด
แต่ตอนนั้นขายแก้วละ 5 บาท
ซึ่งจริงๆ ซอยในบ้านผม ขายแก้วละ 2 บาท
แน่นอน ผมจะซื้อ 5 บาทไปทำไมละ

ส่วนใบที่สาม เป็นใบที่น่าเกรงขามมาก
ใบเขียวแก่อี๋ๆๆ มีใบอะไรก็ไม่รู้เต็มโถไปหมด
เขาเขียนว่า "น้ำใบบัวบก แก้ฟกช้ำ"
ผมก็ได้แต่เดินผ่าน และก็คิดว่า ใครมันจะกินวะ น่ากลัวโคตร


เวลาผ่านไป 10 กว่าๆๆๆ ปี
ณ ย่านธุรกิจ สีลมคอมเพล็ก
วันนี้ผมรับบทเป็นทาสรับใช้สาวๆ ออฟฟิศ
ลงไปซื้อผลไม้
ระหว่างซื้อ ก็เห็นตู้น้ำแข็ง ที่ขายน้ำผลไม้ต่างๆ
ผมเป็นคนชอบกินน้ำผลไม้ ก็เลยมองๆ เลือกๆ ดู

ตอนแรกผมสนใจน้ำแครอท แยกกาก
แต่แล้วก็มาสะดุดกับน้ำสีฟ้า เหมือนแฟนต้าสีแปร๋นๆ ที่มีคนบอกว่ากินไปแล้ว
อึจะสีฟ้า -_-'
แต่ผมก็สนใจเจ้าน้ำนี้นะ มันน้ำอะไรหว่า
ในป้ายก็ไม่ได้บอกว่ามันเป็นน้ำผลไม้อะไรแน่
ใช้เวลาในการมองๆ อยู่นานเหมือนกัน
สุดท้ายก็ดันไปสนใจน้ำเขียวอี๋
"น้ำใบบัวบก แก้ฟกช้ำ"

ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน
ผมรู้ตัวอีกทีก็จ่ายเงินค่าผลไม้ และเจ้าน้ำเขียวอี๋ขวดเล็ก


กลับมาที่ออฟฟิศ ผมเทน้ำเขียวอี๋ ลงแก้ว ก็ต้องตกใจว่า
น้ำ 230 CC มันเกือบเต็มแก้วเหมือนกันแฮะ -_-'(ประสาท)
ผมรู้สึกว่า ปกติเวลาดื่มน้ำขวด หรือนมกล่องขนาด 230 หรือ 250
ผมไม่เคยเทลงแก้วด้วยแหละ แถมดื่มจากขวดแป๊บเดียวก็หมดละ

เวลาดื่มน้ำเปล่า ก็เทแค่ครึ่งแก้ว ก็รู้สึกว่าเยอะ แถมใช้เวลากินนาน
แต่ถ้าแป๊บซี่ เต็มแก้ว แป๊บเดียวก็หมด

ส่วนเจ้าน้ำเขียวอี๋นี่น่ะเหรอ...

ตอนผมจะยกดื่ม ผมก็ต้องผง่ะ ออกจากแก้ว
ผมไม่เคยรู้ (อาจจะมีคนแย้งว่า ผมเคยรู้อะได้วยเหรอ) ว่าน้ำใบบัวบก กลิ่นมันจะ รุนแรงขนาดนี้
กลิ่นมันสยดสยองมากเลย

ผมก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่า เอ่อ... นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย
มีน้ำผลไม้หลากสีให้เลือกมากมาย
สีเขียวอ่อน สีส้ม สีแดง สีม่วง สีน้ำตาล สีเหลือง
เลือกมาได้ไง สีเขียวอี๋
แต่เอาวะ คนเราเลือกแล้ว ก็ต้องไปต่อ
ผมตัดสินใจ ยกดื่มอีกครั้ง คราวนี้ เอามือบีบจมูกด้วย
ลองกินไปสองสามอึก
ก็พบว่า รสชาติมันไม่ได้เลวร้ายมากนะ
แต่ที่เลวร้ายสุดจะทนก็คือกลิ่นของมัน จะรู้สึกได้ว่ามันติดที่คอตลอด!
ผมก็ยังพยายามคิดว่า เอาน่า มันก็ไม่ถึงกับแย่มาก
ก็ค่อยๆ จิบไปเรื่อยๆ
ผมจิบไปครึ่งแก้วได้

ผมเห็นพี่ดวงจันทร์ แม่บ้านผู้มีวิชานินจาแฝงตัวมาทำความสะอาดออฟฟิศนี้
กำลังจะยกจาน ชาม (ที่ผมกินเมื่อกลางวันเอง) ไปล้าง
ผมคิดว่า คนเราเมื่อพลาดไปแล้ว ถ้าไปต่อไม่ได้ ก็ต้องแก้ให้ถูกจุด
ผมไม่อยากให้ใครต้องมาทนเห็นแก้วเขียวอี๋ๆ ในออฟฟิศ
จึงตัดสินใจ ยกให้พี่ดวงจันทร์ไปทิ้งแต่โดยดี

ก็เป็นอันจบภารกิจ กินน้ำที่ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะทนกินไปทำไมเหมือนกัน

เมื่อจบภารกิจนี้แล้ว
ผมก็นึกได้อีกเรื่อง
คือการ์ตูน เจ้าชายเทนนิส การ์ตูนในดวงใจที่ผมไม่คิดจะซื้อมาเก็บ!

เจ้าชายเทนนิส เป็นเรื่องของนักเรียน ม.ต้น ที่หน้าตายังกะมหาลัย
แล้วก็ว่าด้วยชมรมเทนนิส ที่แข่งขันระดับ ม.ต้น
แต่มันตีกันยังกะระดับจักรวาล เป็นการ์ตูนที่อ่านเอาฮามากสำหรับผม
ในเรื่อง จะมีตัวละครตัวนึง ซึ่งเป็นรุ่นพี่ปีสาม
จะเป็นคนเทรนว่าใครควรจะฝึกอะไรเพิ่มเติม
และมีการลงโทษด้วยน้ำสูตรพิเศษ เป็นแก้วเขียวๆ เนี่ย
ซึ่งตัวละครในเรื่อง แม้จะเก่งกาจ ปานใด ก็กลัวเจ้าน้ำชนิดนี้มาก
ขนาดพระเอกของเรื่องซึงมีความขี้เก๊กสุดจะหาที่ใดเปรียบ ก็ยังกลัวเจ้าน้ำชนิดนี้
แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องดื่ม

ตอนผมดู ผมก็ไม่ค่อยสนใจฉากนี้เท่าไหร่ เพราะฉากที่ฮาสำหรับผมไม่ใช่ฉากดื่มน้ำ
แล้วทำท่าอ้วกแตกของตัวละคร
แต่เป็นฉากตีเทนนิสอย่างจริงจัง
ตีด้วยท่า ศูนย์ องศา ตีลูกออกไป เมื่อลูกโดนพื้นก็จะกลิ้ง หมดสิทธิ์ตีกลับ -_-'

หรือจะเป็นท่าตีเทนนิส ลูกผ่าออกมาสองซีก (ไม่ฟาล์ว)

แต่อันไหนก็ไม่สุดยอดความฮากับการตีเทนนิสไป แปลงร่างเป็นคนอื่นมาตีในระหว่างเกมได้ (เพ้อเจ้อกว่านี้มีอีกไหมเนี่ย)

มาคิดๆ ดู จริงๆ ที่มันทำท่าพิศดารแบบนั้นได้ ก็เพราะมันกินน้ำเขียวๆ นั่นหรือเปล่าเนี่ย

หลังจากนึกถึงการ์ตูนบ้าๆ บอๆ เรื่องนั้นแล้ว
ผมก็คิดได้ว่า จริงๆแล้ว สิ่งที่ดูเหลือเชื่อ เป็นไปไม่ได้
มันก็อาจจะมีความเป็นไปได้ ถ้าเราได้เชื่อในสิ่งนั้นจริงๆ
และเราก็ตั้งคำถามให้กับตัวเองว่า เราได้ลองทำมันจริงๆ หรือเปล่า ท้อไปก่อนหรือไม่




เมื่อคิดได้ดังนั้น
ผมกลับมาบ้าน กินผัดซีอิ้วเส้นใหญ่ ที่แม่ทำไว้ให้อย่างเอร็ดอร่อย
ดื่มแป๊บซี่ไป 1 แก้ว
แล้วเล่าให้แม่ฟังเกี่ยวกับ น้ำใบบัวบก
แม่ผมก็คิดตรงกับผมว่า

"จะไปกินน้ำแบบนั้นทำไมวะ"


นั่นสิครับ ร่างกายก็ปกติดี แล้วทำไมเราต้องกินของที่ไม่อร่อยด้วยวะ...



ราตรีสวัสดิ์ครับ พี่น้องชาวไทย..........




Create Date : 23 มิถุนายน 2552
Last Update : 23 มิถุนายน 2552 0:31:46 น. 3 comments
Counter : 1167 Pageviews.  

 
นังวัช แกหลอกช้านนนนนนนนนน

หลงอ่านมาตั้งนาน

หนอยยยย


โดย: kipkipkip วันที่: 23 มิถุนายน 2552 เวลา:0:37:58 น.  

 


โดย: CrackyDong วันที่: 23 มิถุนายน 2552 เวลา:1:45:55 น.  

 
อร่อยออกพี่วัช อิอิ

มันเหม็นเขียวหน่อยๆ

แต่อร่อยดี ชอบดื่มนะ

แต่ที่ไม่ชอบมากๆเลยคือ

น้ำเสาวรส ล่ะ - -


โดย: Kenshin_wife วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:54:26 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

วัชเจียเหว่ย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add วัชเจียเหว่ย's blog to your web]