มึนไปตามใจฝัน
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
4 มกราคม 2554

เดินเล่นเรื่อยเปื่อย

ผมพบว่ากล้องฟิล์ม FM10 ที่ใช้บ้าง ไม่ใช้บ้าง มันมีปัญหา
ตอนแรกก็ไม่เอะใจหรอก แต่ช่วงที่ไปถ่ายภาพที่ภูทับเบิก
ผมใช้ชัตเตอร์ 1/125 ซึ่งเสียงมันเป็น ชับ ชับ
เป็นเสียงสองจังหวะ ผมละงงเลย
ปกติความไวชัตเตอร์ 125 นี่ถือว่าไวทีเดียว มันจะเสียงจังหวะเดียว
เสียงที่เกือบจะเป็นสองจังหวะ จะเป็นชัตเตอร์ 30 ลงไป
ไม่อยากจะคิดว่าภาพที่ถ่ายๆไป นี่จะเละเทะขนาดไหน ;p

ในวันที่ว่างอยู่นี้ ผมก็เลย เอากล้องไปให้ที่ร้าน ที่แม้นศรีดู
แต่ก็พกกล้องดิจิตอลและขาตั้งกล้องไปด้วย
กะว่าจะถ่ายรูปเล่นเรื่อยๆ เปื่อยๆ

หลังจากเอากล้องไปช่างดูแล้ว เขาก็บอกว่า ชัตเตอร์ต่ำๆ มันเพี้ยน ต้องขอเช็คอาการโดยละเอียด

เอาละ ถึงเวลาเดินเล่นบ้าๆ บอๆละ
ตอนแรกผมเดินขึ้นไปทาง แปลงนาม เป้าหมายคือร้านฟิล์ม จะไปซื้อฟิล์มเพิ่มเติม
ระหว่างทางก็ผ่าน สถานีดับเพลิง









เดินมุ่งหน้าไปอีกนิด เจอตรอกมึดๆ











เดินต่อไปถึง มูลนิธิปอเต็กตึง










และก็แวะศาลที่อยู่ตรงข้าม อันนี้น่าจะเพิ่งสร้างเสร็จหรือเปล่า
เพราะผมเหมือนผ่านเมื่อหลายเดือนก่อนยังสร้างอยู่นะ (หรือว่าเราจำผิดหว่า)














เดินกลับ










เจอแมว










เดินไปตามถนน ก็จะเจอร้านฟิล์ม
วันนี้แวะร้านอะไรก็ไม่รู้ ไม่เคยจำชื่อ รู้แต่ลุงเจ้าของร้านจะพูดเก่ง
พูดใส่อารมณ์ แล้วก็หัวเราะ
ไปล่าสุด แกจะชอบด่าๆ ว่า โหย ใครเข้าใช้กัน เลิกใช้ต้องใช้อันนี้สิ อะไรแบบเนี่ย

มาคราวนี้ก็โดนเหมือนกัน โอ้ยย FM10 ของกระจอก พวกบ้ายี่ห้อ ใช้ไปทำไมของเมดอินไชน่า (แต่กล้องผมรู้สึกจะ made in japan นะ ^^')
แต่จริงๆนะ ฟังแกแล้วไม่ได้รู้สึกโกรธนะ
รู้สึกขำ และก็ทำให้เราอารมณ์ดีขึ้นไงก็ไม่รู้
อารมณ์แบบฟังคุณลุงขี้บ่น บ่นไปขำไป แบบเนี่ย


ออกจากร้านลุง ได้ฟิล์ม มิตซู มา 5 ม้วน

เป้าหมายต่อมา ตั้งใจจะไปกินเปาะเปี้ยทอดตรงแยกแปลงนาม
แต่ปรากฏว่าเขาไม่ขายกันแฮะ เซ็งเหมือนกัน ;p

เลยเดินไปเยาวราช









เดินไปเยาวราช แต่ก็ไม่เจอของกินเล่นถูกใจ
เลยเดินต่อไป ไปสะพานเหล็ก








ที่สะพานเหล็ก ผมมีร้าน CD ร้านนึงที่เมื่อสมัยเรียนชอบมาก
ก็คือร้าน BBK1990


จะมีพนักงานคนนึงที่รู้เรื่องเพลงเยอะมาก

วันนี้ผมกลับเข้าไปอีกครั้ง ก็เจอพี่คนนั้น
แต่ไม่ได้ทักทายกัน เพราะคิดว่าพี่เขาไม่น่าจะจำผมได้แล้วละ
ในใจผมกำลังคิดว่า ป่านนี้แล้ว ความรู้เรื่องเพลงผมไม่น่าจะน้อยกว่าพี่แล้วละ
แต่แล้วผมก็ได้ยินพี่เขาแนะนำลูกค้าเรื่องเพลงคลาสิคอย่างละเอียด.....

"อย่าผยองให้มากนักไอ้หนูน้อย" นั่นคือความรู้สึกของผมเลยละครับ





ออกจากร้านเทป พร้อมกับกระเป๋าเปียกๆ
ไม่ได้ซื้อไร แต่ที่เปียกนี่เปียกจริงๆ
ไม่รู้ว่าน้ำอะไรหกใส่กระเป๋าเรา เปียกไปหมด ดีที่ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่งั้นคงเซ็งแย่

ผมมุ่งหน้าไปดีโอสยาม
แต่ไม่ได้เข้าดิโอนะ
ระหว่างทางเจอร้านกุ่ยช่าย น่ากินมาก มีลูกค้ารอซื้ออยู่ 4 คนได้
แต่แกตักใส่กล่องเป็นสิบกล่องเลย ไม่รู้ซื้อไปขายต่อหรือว่ามันอร่อยอะไรขนาดนั้น
ผมรอสักพัก ลุงแกก็บอกว่า ตอนนี้ไส้มันแกวหมดแล้ว
ผมเลยไม่รอละ เพราะผมชอบกินไส้นี้ที่สุด
ไว้คราวหน้าต้องขอมาพิสูจน์ใหม่ว่าอร่อยจริงหรือเปล่า




เดินต่อไปทางสวนลม แต่เป็นด้านหลังนะ
ก็ไปเจอกับคุณลุงขายลูกชิ้น
สารภาพว่า ซื้อเพราะแว่นแก -_-' (คือแว่นแกเท่ห์ดีอะ)






ส่วนรสชาติลูกชิ้น(แป้ง) แกก็ไม่เลวนะ น้ำจิ้มอร่อยดี
ไว้ถ้ามาเดินเล่นอีก จะอุดหนุนลุงเขา





เดินจนมาถึง เสาชิงช้า สัญญาลักษณ์ กรุงเทพฯ









อีกมุมนึง










จำไม่ได้แล้วว่าเขาเรียกว่าอะไรแฮะ








แล้วก็มาแวะซื้อน้ำชาเขียวร้านนี้ เขาว่าขนมปังอร่อยกว่ามนนมสดอีกขอบอก












ตอนอยู่ที่เสาชิงช้า ผมตั้งใจว่าจะกลับแล้วละ
แต่ทีนี้เหลือบมองไปเห็นวัดภูเขาทอง ส่องแสงสวยงาม

ผมก็นึกถึงสมัยเรียนเกือบสิบปีที่แล้ว
ผมเคยมาถ่ายรูปหมู่กับเพื่อนที่นี่
และหลังจากนั้นผมก็ไม่เคยขึ้นภูเขาทองอีกเลย
ทั้งที่ผมผ่านบ่อยๆ
และมันก็ตลกดีที่ว่า ตอนผมไปร้านฟิล์มวันนี้ ผมก็ลงรถเมล์ป้ายวัดสระเกตุ ก็คือตรงภูเขาทองนั่นแหละ
ผมจึงคิดว่า เราน่าจะกลับไปถ่ายรูปนะ
และแล้ว ผมก็เริ่มเดินไปที่ภูเขาทอง



เดิน เดิน เดิน
เดินมาตรงร้านผัดไทยประตูผี คนมากมาย
แต่ผมสนใจแต่ภูเขาทอง







และเราก็มาถึง ที่ที่อยู่ใกล้ แต่กลับทำตัวห่างไม่เคยมาเยี่ยมเยียนอีกเลย
ภูเขาทอง










เดินขึ้นยอดภูเขาทอง
เจออันนี้เข้า โดนัทที่รสชาติทั้งเหี้ยและแพงสุดในความเห็นผม









เดินมาเกือบจะถึงยอด แวะชมวิวถ่ายรูป











ถ่ายด้วยเลนส์กว้างสุดเท่าที่ตัวเองมี 20 mm









เดินงงๆ นิดหน่อย ก่อนจะขึ้นจะมีเสียงประกาศวนไปวนมาว่า "ไม่ต้องถอดรองเท้า ระวังรองเท้าหาย"
-_-' นี่แสดงว่า มันคงหายแบบรุนแรงจริงๆ เลยต้องยกเลิกการถอดรองเท้าออก




มาถึงแล้ว ภูเขาทอง

























คนที่มาสักการะ








และเด็กน้อยก็เช่นกัน









ออกจากภูเขาทอง และไปยังวัดโลหะปราสาท



























วันนั้น จากวันธรรมดา ก็รู้สึกสนุกขึ้นอย่างมาก
คิดถึงหลายๆเรืื่อง
คิดถึงเพื่อน นึกถึงเรื่องราวสมัยเรียน
นึกถึงวันลอยกระทงเมื่อสิบปีที่แล้ว ที่ไอ้โมขับรถไปชนเกาะถนน
คิดถึงภาพหมู่ที่วัดภูเขาทองกับเพื่อน

เดินไปเดินมา ผมอดไม่ได้ ที่จะคิดถึง เธอ คนที่อยากให้มาเดินด้วยกัน
เอาเข้าจริงๆ ผมคงเหมาะจะเดินคนเดียว คิดคนเดียวแบบนี้ต่อๆไป ละมั้ง :)


Create Date : 04 มกราคม 2554
Last Update : 5 มกราคม 2554 22:07:46 น. 0 comments
Counter : 2011 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

วัชเจียเหว่ย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add วัชเจียเหว่ย's blog to your web]