|
16 เมษายน 2551
|
|
|
|
12 13 14 15
สงกรานต์นี้ไม่ได้มีโปรแกรมไปเที่ยวไหนเป็นพิเศษ ไม่กล้าเดินทางไปไหนไกลๆ เพราะแม่บอกว่าหมอดูทักว่า อันตราย เลยไม่ได้คิดจะไปไหน กะอยู่บ้านนั่นแหละ เอาเข้าจริงๆ แม่บอกว่าไปเหอะ -_-' อ้าว แต่ก็ไม่ทันจะไปไหนแล้วละ
วันแรก วันที่ 12 วันนี้ยังไม่เข้าเทศกาลสงกรานต์ แต่เห็นมีข่าวว่าบางที่ก็เล่นน้ำกันแล้ว เราเลยรู้สึกหวาดๆ คือไม่อยากเปียกน้ำน่ะ แต่สุดท้ายก็คิดว่า แถวสยามเขาคงไม่เล่นไรกันมั้ง ก็เลยออกไปรับรูปและก็เดินเล่น จากนั้นก็ไปดูหนังอนิเมชั่น เรื่อง Persepolis ที่ RCA เราชอบเรื่องนี้แฮะ ดูแล้วสนุกปนเสียใจ ดีใจ เศร้าใจ คละเคล้าอย่างไรก็ไม่รู้ คือเรื่องนี้เขาพูดถึงชนชั้นกลางบน จะว่าสูงก็คงได้ ในอิหร่านนะ แล้วก็ต้องการชีวิตแบบเสรีชนพึ่งมีอย่างที่เราๆ ท่านๆ เป็นอยู่ ก็ถือเป็นมุมที่น่าสนใจดีนะ คือผมชินกับหนังอิหร่านที่พูดถึงชนชั้นล่าง อย่างหนังของเคียร์ ลอสตาร์มี่ เขาจะพูดถึงระดับความต้องการพื้นฐาน ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สาธารณูปโภค เป็นต้น ก็ไม่เคยเจอมุมมองแบบเรื่องนี้นะ คือเราอาจจะโชคดีที่มีเสรีในระดับนึง แต่ประเทศเขาถูกห้ามและกดดันมากๆ ดูจบแล้ว มาเศร้าเอาตรงที่ว่า ประเทศเราตอนนี้ดีกว่าเขา แต่อีกหน่อยก็อาจเหมือนกันแฮะ -_-' ดูจากความเป็นไปได้ของคนที่ออกข้อบังคับส้นทีนต่างๆ เนี่ย มันน่าเศร้าไหมละ
วันที่ 13 โดนปลุกแต่เช้าให้อาบน้ำ และรออามารับไปที่วัด วันนี้มาทำบุญให้อากง อาม่า ญาติบอกให้ดูพิธีไว้บ้าง พอหมดรุ่นเขา เราจะได้ทำเป็น แต่เราไม่รู้เรื่องเลย ว่าต้องซื้ออะไร ไหว้ยังไง ถ้าจะทำเป็นคงต้องเขียนเป็นตำรา วิธีไหว้แบบคนจีน ละมั้ง ทีนี้ลูกสาวคนโตของอาเรา เขาเคยไปเรียนเยอรมันมา 1 ปี ครอบครัวชาวเยอรมันที่เคยดูแล เขามาเยี่ยม อาเลยต้องต้อนรับ อาสาพาไปเที่ยว วันนี้จะพาไปอัมพวากัน แม่เราก็อยากไปด้วย ก็เลยไปด้วยกับเขา ชาวเยอรมันที่มาเป็นสามีภรรยากัน เขาพอพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย(แต่ก็เยอะกว่าเราอะ-_-') วันนี้ลูกสาวอาไม่อยู่ อาเลยต้องลุยส่งภาษากันเอง สนุกมากๆ รู้สึกว่า อาเขาเก่งโคดๆเลยอะ คือเขาสนใจในภาษาและกล้าพูด สื่อสารกับชาวต่างชาติจนเข้าใจ เทียบกับเรานี่ เฮ้อ ใบ้แดก แต่เป็นวันที่สนุกมากเลยนะ
วันที่ 14 ไปหาหญิง หาข้าวกิน วันนี้ร้านค้าไม่ค่อยมี หาของกินยากมากเลย
แต่มีร้านนึงที่สร้างความประทับใจให้กับเรานะ เป็นร้านกาแฟอยู่ที่สี่แยกวิสุทธิกษัตริย์ ร้านเป็นลักษณะแบบร้านกาแฟโบราณ ที่ประตูเป็นไม้ และข้างในเป็นโต๊ะไม้บ้าง โต๊ะหินบ้าง พวกคนสูงวัยมักจะมาพูดคุย สไตล์สภากาแฟไรแบบนั้น คือตอนผ่าน เราก็กะกินโอวัลตินร้อน กับปาท่องโก๋ แต่เกิดเปลี่ยนใจ อยากกินโกโก้เย็นแฮะ มองๆ ไม่เห็นปาท่องโก๋ด้วย เห็นแซนวิช ฮอทด็อกแทน แต่ติดราคา 30 บาท รู้สึกแพงแฮะ ตอนนั้นก็คิดว่า เก๋ดีแฮะ แต่ก็ยังไม่เอะใจอะไร ก็เลยสั่งโกโก้ กับขนมปังแยมส้ม พอสั่งไปแล้วเพิ่งสังเกต ภายนอกร้านดูโบราณ แต่อุปกรณ์ขายเขาโมเดิ้นสไตล์ มิกแอนแมท เท่ห์โคด คือร้านนี้มีทั้งกาแฟสด มีเครื่องบดกาแฟ และก็กาแฟแบบโบราณ และก็กาแฟตู้กดแบบในเซเว่น คือมีครบวงจรมาก อยู่ที่ว่าคุณอยากได้แบบไหน แล้วจริงๆ ร้านก็มีข้าวต้ม และสเต็กด้วย คือเราเพิ่งสังเกตเอง ไม่งั้นจะสั่งแล้ว ในร้านเขาไม่ได้มีเมนู แต่จะเขียนป้ายติดไว้ที่เสา กับ ด้านล่างเคาทเตอร์(แบบโบราณนะ) อธิบายไม่ค่อยถูกอะ แต่เราชอบจัง เขาเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยดีอะ ราคาโก้โก้ก็ถูกมาก 13 บาทเอง แก้วใหญ่สไตล์โบราณเลยอะ แก้วมีปุ่มๆ อะ น่าจะนึกออกนะ ต้องหาโอกาสไปอีกแฮะ
วันที่ 15 วันนี้ทำความสะอาดห้องซะที ทำๆ ไปสักพักก็อู้ ดูโทรทัศน์บ้าง เล่นเน็ตบ้าง จนแล้วจนรอดก็บังคับตัวจนกวาด ถู สำเร็จ แม้สภาพห้องจะดูเหมือนเดิม แต่ก็สะอาดขึ้นมาก ตอนเรากวาด ตกใจมากเลย ไม่คิดว่า ฝุ่นและทราย จะเยอะขนาดนั้น มันเยอะจนน่ากลัวอะ ไม่น่าเชื่อว่าห้องเรามีฝุ่นเยอะขนาดนั้ัน เยอะขนาดที่ว่า ก่อเจดีย์ทรายได้เลยอะ -_-' สงสัยต้องให้เพื่อนช่วยมาที่ห้องบ่อยๆ จะได้เอาทรายติดเท้าไปเยอะๆ แต่มาคิดๆแล้ว ที่ทรายมันเยอะ เพราะมันติดเท้าเราเข้ามามากกว่าว่ะ
หลังจากทำความสะอาดเสร็จก็มาดูหนัง คือตอนเก็บของ เราเจอแผ่นดีวีดีเรื่อง แสงศตวรรษ ที่เพื่อนไรท์มาให้ เป็นฉบับพรีวิวอะ เห็นเพื่อนโหลดมา ลืมไปเลย พอเจอ ก็เลยนึกขึ้นได้ แล้วคุยกับพี่เด็กนรกด้วย เห็นเขาไปดูมา แต่ในโรงมันตัด เขาอยากดูเต็มๆ ก็เลยจะเอาแผ่นไปให้เขาดู แต่ไม่แน่ใจว่ามันยังดูได้ป่าว ก็เลยเช็คแผ่นก่อน ดูตอนต้นแล้วชอบนะ สนุกดี ก็เลยดูจนจบ แต่ดูจบแล้ว งง -_-' คือช่องที่หนังเว้นไว้ เราขี้เกียจคิดตาม และขนขวายแฮะ มันไม่รู้สึกจิ๊ดใจเรา จนอยากขนขวายด้วยแหละ ก็ขอหยุดมันไว้แค่นั้น แต่เรื่องนี้ด้านเสียง เขาสุดยอดจริงๆ อะ การตัดต่อ บันทึกเสียงดีมากเลย แต่โดยรวมเราเฉยๆนะ อย่างที่บอกอะ มันไม่จิ๊ดใจ อีกอย่าง นิ้วเราพองด้วยแหละ เราแม่งคุณชายมากเลยอะ ไม่ได้ทำไรมาก แค่กวาดห้อง นิ้วพองเลย -_-' แม่บอกว่า ดูสิ เลี้ยงเราดีแค่ไหน ไม่เคยทำอะไรเลยสิ ทำแค่นี้นิ้วพอง ไม่รู้เหมือนกันว่า เพราะนิ้วพองหรือเปล่าก็เลยขี้เกียจคิดอะไรต่อ เกี่ยวกันป่าวหว่า แต่ลิเดียบอกว่า "ก็ไม่รู้เกี่ยวกันไหม แต่ที่รู้มาเกี่ยวกันไหม" -_-' เพลงมันจักกะเดี้ยมหัวใจโคดๆเลยว่ะ
Create Date : 16 เมษายน 2551 |
Last Update : 16 เมษายน 2551 0:58:46 น. |
|
3 comments
|
Counter : 673 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: น้องเบิร์ด IP: 203.153.174.47 วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:1:13:08 น. |
|
|
|
โดย: พี่กีบ IP: 203.121.160.57 วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:14:06:30 น. |
|
|
|
โดย: tae IP: 124.121.154.146 วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:18:26:21 น. |
|
|
|
| |
|
|
วัชเจียเหว่ย |
|
|
|
|
ชอบจบแบบที่เหมือนไม่เกี่ยว คนล่ะเรื่อง แต่ก็เป็นเรื่องเดียวกัน ตลกดีๆ