มึนไปตามใจฝัน
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
25 เมษายน 2553

ชีวิตมีแต่เรื่อง Art Art


เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้เจอกับเรื่อง Art Art (ไม่ใช่ อ็อด อ็อด) จนต้องเอามาเล่าให้ฟังครับ


"ศิลปะแห่งความขัดแย้ง"

ผมเดินกลับมาจากการส่งข้าวที่คอนโด
ระหว่างกลับเข้าบ้าน ณ ใต้คอนโด
ภาพที่ผมเห็นคือ ผู้หญิงคนนึงยิ้มด้วยรอยยิ้ม ยียวน อยู่ในบ้านของตัวเอง
ในขณะที่ผู้หญิงอีกคนที่ยืนอยู่นอกบ้าน สีหน้าจริงจัง แววตาอาฆาต
ส่วนหูของผมนั้น ได้ยินแต่เสียงเพลงจาก iPod จึงไม่รู้ว่าเขาพูดว่าอะไรกันบ้าง

ภาพที่ผมเห็น ผมรู้สึกว่ามันต้องมีเรื่องอะไรสักอย่าง
แต่ผมก็ไม่แน่ใจ เพราะหน้าบ้านหลังนั้น
มีผู้ชายสองคน กำลังเคร่งเครียดกับการเล่นหมากรุก และก็มีผู้หญิงอีกคนยืนดูหมากรุกด้วย

ผมเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่
เลยถอดหูฟังออกมา
เสียงที่ได้ยินคือ E-dok , E-here สารพัดคำหยาบสารพัดจากผู้หญิงแววตาอาฆาต
ในขณะที่ผู้หญิงในบ้าน ก็ยังคงรอยยิ้มยียวน

แล้วผู้ชายที่เล่นหมากรุก ก็เล่นเสมือนโลกของเขาหยุดนิ่ง

ผมรู้สึกว่า สถานการณ์แบบนี้ "แม่งโคตร Art เลยวะ"





"ศิลปะแห่งความแปลกแยก"

เหตุการณ์หลังจากเมื่อสักครู่ พอผมส่งข้าวเสร็จ
ผมต้องเอานาฬิกาโบราณไปซ่อม
(เป็นนาฬิกาที่ใช้ลานโดยการแกว่งลูกตุ้ม น้ำหนักประมาณ 3 กิโล)
ซึ่งพ่อเคยไปถามร้านซ่อมที่วงเวียนใหญ่(บ้านเก่าผม)
เขาบอกเขารับซ่อมนาฬิกาโบราณ

ทีนี้วันนั้นผมต้องไปทำภารกิจหลายอย่าง
1. เอานาฬิกาโบราณไปซ่อมที่วงเวียนใหญ่
2. ไปซื้อยาให้แม่ที่เทเวศน์(ที่อื่นไม่มีตัวยานี้)
3. ไปคลองถม ซื้อไฟฉาย ไว้ท่องเที่ยว กับ ซื้อฟิล์ม

ผมตั้งใจจะไปซ่อมที่วงเวียนใหญ่ แล้วก็ทิ้งนาฬิกาไว้
จากนั้นก็ไปซื้อของตามที่คิดไว้


ทีนี้เรื่องมัน art ตั้งแต่ผมออกจากบ้านแล้วละ
เพราะผมต้องอุ้มนาฬิกาโบราณ โดยไม่ได้ใส่ถุง หรือเอากระดาษใดๆ ห่อ
ผมบอกว่า มันกวนตีนดี เอามันไปด้วยทั้งแบบนั้นแหละ


แถมผมยังอุ้มมันในลักษณะแบบถือป้ายงานศพ คือเอามือรองใต้ฐาน
แล้วโชว์นาฬิกาตายให้ชาวโลกได้เห็น

จริงๆเหตุการณ์มันน่าจะจบลงง่ายๆ ไม่ได้ art ไรมากมายหรอก
เพราะถ้าเอาไปที่ร้านซ่อม ทุกอย่างก็จบ

แต่ทีนี้ร้านซ่อมดันตีราคาซ่อมมา 800 บาท
ที่บ้านผมเลยบอกว่า งั้นเอากลับมาเถอะ

ผมก็เอ่อ....

ภารกิจซื้อฟิล์มของผมน่ะ ไว้วันอาทิตย์ก็ได้
แต่ภารกิจซื้อยาให้แม่ มันต้องวันนี้น่ะสิ
เพราะวันอาทิตย์ร้านขายยาปิด

เอาวะ มันคงไม่ลำบากมาก

ทีนี้เลยกลายเป็นว่า จากวงเวียนใหญ่ ผมต้องไปเทเวศน์
โดยที่มีนาฬิกาตายขนาดใหญ่ติดตัวไปด้วย

ความ art มันเลยบังเกิด
ไอ้ผมมันคนขี้งก ไม่นั่งแท็กซี่
เลยรอรถเมล์ฟรี จากวงเวียนใหญ่
นั่งสาย 21 ไปลงพาหุรัด
แล้วก็นั่งสาย 53 (ฟรี) ไปเทเวศน์

แถมตอนกลับ ก็เดินโดยที่มีนาฬิกาตายตัวนั้น ไปบางลำพู เพื่อขึ้นสาย 68

ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนมอง
จนผมคิดว่า ผมน่าจะลองถ่ายภาพนาฬิกาตายตัวนี้กับการเดินทางดู
มันคงจะ art ฉิบหายวายป่วง
ตอนนี้ผมคิดไว้ในใจละ เดี๋ยวจะลองทำดู... art แน่มึง






"ศิลปะแห่งความคลุมเครือ"


ที่หน้าโลตัส แถวปิ่นเกล้า
ผมเจอชายคนนึง
ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมจะเรียกชายคนนี้ว่าอย่างไรดี

ชายคนนี้ลักษณะ เนื้อตัวมอมแมม ดูสกปรกมากๆ
จากการตัดสินสั้นๆ เขาดูเหมือน "คนบ้า คนจรจัด"


แต่ความคลุมเครือมันเกิดจาก

ชายคนนี้ทาแป้งที่หน้าขาวจัวะ!
แล้วก็ยืนทำตัวแข็งๆ นิ่งๆ
ตรงขาก็มี กระบอกไว้ใส่เศษสตางค์
และคิดดูอีกที เขายืนหน้าห้างโลตัสนะ

ผมเริ่มสับสน "หรือเขากำลังแสดงละครใบ้วะ"



คือถ้าเขาเนื้อตัวสะอาด ผมคงฟันธงว่าเขาแสดงละครใบ้ หรือแสดงศิลปะอะไรสักแขนง
หรือถ้าเขาแค่ตัวสกปรกมอมแมม เดินไปด่าไป
ผมก็คงฟันธงได้ว่าเขาบ้า
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกัน
ผมไม่สามารถสรุปได้เลยว่า เขาบ้าหรือแสดงศิลปะ
ผมเข้าใจว่า คนแถวนั้นก็คงตัดสินใจไม่ถูก
เลยปล่อยให้เขายืนทำตัวแข็งๆ แบบนั้น --'
แม่ง art สัด



Create Date : 25 เมษายน 2553
Last Update : 25 เมษายน 2553 23:22:52 น. 8 comments
Counter : 1125 Pageviews.  

 
55555555555


วัชบ้า


โดย: พี่กีบ IP: 180.210.216.68 วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:23:30:52 น.  

 
ตลกดี อ่านแล้วเห็นภาพ มีความสุข


โดย: pinksoda วันที่: 28 เมษายน 2553 เวลา:17:45:18 น.  

 
ไท่ได้อารอะไรหรอก
ผมก็เจอมากกว่าที่คุณเห็นอีก แต่ผมจะบอกให้ว่า ผมไม่เอานิยามศิลปะมาเปรียบกับเรื่องตนเอง
เพื่อบอกว่าตัวเองอาร์ทแค่ไหน
มันเป็นดารสร้างกระแสให้ตัวเองดังครับ
ผมเคยไม่มีเงินสักบาททั้งวัน วาดรูปทั้งๆที่ท้องร้องและหิวโหย ความสุขหรือความเจ็บปวดละ
นี่ก็ขัดแย้ง
แต่ขอโทษ ผมไมคุยครับ
ศึกษาศิลปะมากๆหน่อยนะ
ว่าผู้รู้ หรือผู้มีอะไรแฝงเรื่องตนเอง
เพียงเพื่อ คนมาอ่าน ตนเองดัง จำไว้ครับ


โดย: ศิลปินสันโดษ IP: 125.24.5.194 วันที่: 29 เมษายน 2553 เวลา:7:28:45 น.  

 
แล้วผมเป็นคนดังตรงไหนครับ
อะไรมาตัดสินว่าผมเป็นคนดัง หรือพวกอยากดังครับ -_-'
และถ้าบอกว่าผมเขียนเรื่องแบบนี้เพราะผมอยากดัง
ผมคงต้องบอกว่า คุณเพี้ยนแน่ๆ


ทุกคนก็มีสิทธิเจอมากกว่าที่ผมเห็น หรือที่คุณเห็นครับ
แต่การจะหยิบยกเรื่องนี้มาพูด มันก็แสดงมุมมองของคนคนนั้น
คนที่ทำเป็นเข้าใจ แต่บอกว่าผมไม่เอามาพูดหรอก
นี่ยังไงเนี่ย?

เราไม่ได้มาพูดเรื่องอนาจารกันนะครับ ถึงไม่ควรเอามาพูดในเว็บบอร์ดสาธารณะ -_-'
อยากพูดอะไร อยากสื่ออะไร ก็แสดงออกมาสิครับ

อีกเรื่อง คุณไม่มีเงินสักบาท วาดรูปทั้งวัน ท้องหิว ความสุขความเจ็บปวด
ผมงง ขัดแย้งตรงไหนครับ (ไอ้ความสุขกับความเจ็บปวดมันเป็นความรู้สึกขัดแย้งอยู่แล้ว ก็เล่ามาสิ ว่าคุณไปเจออะไร ในเรื่องเดียวกันถึงต้องมาเจอสองความรู้สึกนี้พร้อมกัน)

หรือคุณแค่จะคุยว่า คุณ art ของจริง คุณวาดรูป
เพื่ออะไร เป็นการยกตัวอย่างที่ผู้ไม่รู้อย่างผม มึนเหลือเกิน?



ผมอยากจะแจ้งว่า การที่ผมใช้คำว่า art
หรือกระแดะ ไปใ้ช้คำ ศิลปะ นั้น
การใช้คำต่างๆ ก็เป็นมุมมองของผม
ซึ่งถ้าคุณมองว่า ผมไม่รู้จริง ผมใช้คำไม่ถูกต้อง
เป็นความเ้ข้าใจที่ผิดไปไกลมาก

ผมไม่เถียงนะ เพราะผมก็ไม่ใช่ผู้รู้แจ้งอะไร ผมไม่ได้เรียน art ไม่มีความรู้ใดๆ
สิ่งที่ผมเขียน ก็เป็นมุมมองผม
ผิดถูกอย่างไร เราก็มาตัดสินกันได้

หากการที่ผมใช้นิยามศิลปะต่างๆ มาเล่าถึงสิ่งที่เราพบเจอ
แล้วมันผิดเพี้ยน เป็นการเข้าใจที่ผิดๆ
คุณในฐานะที่คิดว่ารู้จริง รู้มากกว่า ศึกษามามากกว่า
ควรจะมาอธิบายให้ถูกต้อง

ไม่ใช่มาบอกว่า "ไอ้นี่พิมพ์เรื่องแบบนี้เพราะอยากดัง"
ซึี่งผมไม่เห็นว่าสิ่งที่คุณพิมพ์มันเกิดประโยชน์ตรงไหน

อ่านแล้วก็ไม่ได้มีความรู้เพิ่ม
อ่านแล้วก็ไม่ได้สร้างเสียงหัวเราะ มุมมองชีวิตอะไรเลย
อ่านแล้วรู้สึกแค่ คุณเป็นพวกอคติ ที่คิดว่าใครแตะศิลปะ
เป็นพวกอยากดังครับ

ซึ่งผมว่ามันสะท้อนกลับไปที่ตัวคุณมากกว่านะ คุณศิลปินสันโดษ

ปล. สิ่งนึงที่ผมถือว่าผมผิดเอง คือผมเขียนเรื่องนี้ลงในหมู่ศิลปะ แทนที่จะไปลงหมู่จิปาถะ อันนี้ยอมรับครับ

ปล2 ผมไม่ใช่คนดังและพวกอยากดังเลย
หากผมเป็นคนแบบนั้น ผมคงต้องไล่โปรโมทบล็อกผมไปทั่ว
เที่ยวทักทายคนอื่นแบบขอไปที เพื่อให้คนเข้ามาอ่านมากๆ
ซึ่งผมไม่เคยทำครับ
ผมก็อยู่ของผม เล่าเรื่องราวๆ บ้าๆ บอๆ ที่สะท้อนบุคลิคของผมเอง ผมพอใจจะเขียนเรื่องราวสิ่งที่พบเจอมา ผมก็เขียน

เป็นศิลปินก็อย่าสันโดษมากครับ เปิดใจ อ่านเรื่องราวของคนอื่นปราศจากอคติเสียบ้าง :)


โดย: วัช IP: 61.90.92.224 วันที่: 29 เมษายน 2553 เวลา:13:33:26 น.  

 
คุณวัชครับ

ผมชอบเรื่องของคุณมากกก เขียนได้สุดอาร์ท

จะรออ่านอีก


โดย: Dingtech วันที่: 1 พฤษภาคม 2553 เวลา:6:51:44 น.  

 
คิดบวกดีค่ะ ทำให้คิดว่าคุณคงเป็นคนที่มองโลกอย่างสนุกสนาน เล่าเรื่องอื่นให้ฟังบ้างนะคะ (สงสารคนที่มองโลกในแง่ลบนะ)


โดย: คุณแม่ลูกสอง IP: 110.169.16.209 วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:15:29 น.  

 
อ่านแล้วคิดว่า วัช ท่าทางจะเป็นคนไม่ยอมคนนะ แต่ก็ต้องทำใจแหละนะ ว่าถ้าหากเจอคนที่เขาเข้ามาป่วนเรา ก็คงต่อปากต่อคำกันไม่มีที่สิ้นสุด ทางที่ดี อ่านแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปสนใจ จบ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ


โดย: ยาย IP: 122.100.101.70 วันที่: 20 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:33:56 น.  

 
ลิ้งไปลิ้งมา มาอ่านเจอบล็อคของวัชจนได้ อ่านแล้วตลกดี กะความเห็นที่โคตรอาทๆ ฮ่าๆๆๆ โลตัส ปิ่นเกล้า นี่หน้าบ้านชั้นเลยนะ


โดย: ลี IP: 58.9.136.83 วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:20:22:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

วัชเจียเหว่ย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add วัชเจียเหว่ย's blog to your web]