ดนตรี ชีวิต คน
เมื่อตอนเย็นไปคุยสัมภาษณ์เรื่องวง และถ่ายรูปที่ RCA เป็นของใครก็ไม่รู้-_-' ยังไม่รู้จักชื่อเขาเลย คือคุณคิมเขาติดต่อมาทางมายสเปซ เราก็อือๆ เห็นว่าเป็นประโยชน์กับทางวงก็เลยยินดี นัดเจอกันที่หน้าร้านโอเวอร์โทน ปรากฏว่าวันนี้มีคอนเสิตร์ พราย เหอๆๆ ใครจะปลื้มก็ปลื้มไปนะ แต่ไม่ใช่ผมอะ
วันนี้วงก็มาแค่สามคน ผม พ่ีอ็อด และแบงค์ ขาดแนนกับเก้ง เกิดมาก็เพิ่งได้สัมภาษณ์ครั้งแรก แต่ไม่ค่อยตื่นเต้นแฮะ เพราะไม่ได้พูดไรเลย --' เขาพูดฝรั่งกันอะ มีล่ามมาก็จริง แต่เขินอะ พูดไม่เป็น อายตัวเองฟะ แต่ตื่นเต้นสุดคงเป็นตอนถ่ายรูป ไม่เคยถ่ายแบบเก๊กๆ เลยแฮะ คิดว่าภาพออกมา คงเท่ห์แหงๆ ฮ่าๆๆ อารมณ์มันคงเหมือนภาพวงต่างประเทศ ยืนถ่ายตรงบันไดหนีไฟข้างตึก ส่วนตอนสัมภาษณ์สัมภาษณ์ใต้ตึก เขาบอกว่า อินดี้ดี ฮ่าๆๆๆๆ สัมภาษณ์จริงๆ สั้นมากนะ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีมั้ง คุยกันสั้นๆ คือชาวต่างชาติสองคนนี้ (คนนึงสัมภาษณ์ คนนึงเป็นตากล้อง) เขาสกู๊ปเกี่ยวกับกรุงเทพฯขึ้นมา โดยสัมภาษณ์ศิลปิน วงดนตรีอินดี้ ประมาณ 12 กลุ่มคนได้ (เห็นว่ามีของแพนด้าเรคคอร์ดด้วย) พูดถึงวงเองและพูดถึงกรุงเทพฯ ประมาณนั้นน่ะครับ ส่วนไปลงที่ไหนนัั้น ก็ตอบไม่ได้ เพราะสกู๊ปที่เขาทำ ก็คือทำขึ้นมาแล้วไปเสนอหนังสือน่ะ แต่เขาก็มั่นใจว่าได้ลงแน่นอนอยู่แล้ว เพราะตัวตากล้องมีชื่อเสียง(กะว่าจะไปถามชือจากคุณคิม แล้วไปเซิรท์ในเน็ตว่าใครหว่า ดังจริงป่าว 55) เราก็ไม่รู้หรอกว่าจะได้ลงหรือเปล่า แต่จากใจเลยนะ มันไม่สำคัญเลยอะ เพราะแค่ได้มาแอ๊คถ่ายรูป มาเจอคุณคิม และก็ล่าม และก็ชาวต่างชาติสองคนนี้ ก็รู้สึกดีนะ มันเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ต่างจากรูปแบบชีวิตเดิมๆของเรา ถ้าไม่ได้ทำวง ก็คงไม่มีอะไรแบบนี้อะ
ทำวงนี่ก็มีปัญหามากมายสารพัด มีหลายครั้งที่รู้สึกว่า ตูไม่น่ามายุ่งด้วยเลย อยู่เฉยๆดีกว่า อยู่เฉยๆ ทำงานที่ได้รับมอบหมาย ถ่ายรูปเป็นงานอดิเรก สบายๆ ไม่ต้องเจอปัญหากับผู้คน แต่ในความเป็นจริง เราก็แค่พูดเพื่อหนีปัญหา "อยากย้อนเวลา..." ใครๆก็ทราบว่า ย้อนเวลาไม่ได้ แล้วจริงๆ เราก็ได้ประโยชน์จากสิ่งนี้ก็หลายอย่าง ได้รู้จักคนเพิ่ม ได้เรียนรู้ปัญหาที่เกิดขึ้น พี่อ็อดบอกว่า มาทำน่ะดีแล้วจะได้รู้ปัญหา หญิงเองก็บอก ถ้าไม่ทำก็ไม่รู้หรอก เผลอๆ ก็อาจจะบ่นว่า "อยากทำวงจัง" แล้วก็พร่ำเพ้อไปเรื่อยตามประสา ซึ่งเราเป็นแบบนั้นจริงๆ นั่นแหละ ปัญหาที่มี แก้กันไป เราบกพร่องก็ต้องยอมรับและแก้ไข ปีที่ผ่านมา พบว่า ปัญหามาจากความอ่อนด้อยประสบการณ์ของเราแท้ๆ ความอ่อนต่อโลก อ่อนต่อผู้คน อ่อนต่อปัญหา ที่บอกแบบนี้ไม่ได้บอกว่าตัวเองเข้มแข็งขึ้นนะครับ แต่จะบอกว่า เราเจอปัญหาแล้วอย่าได้ตีโพยตีพาย หรือพร่ำเพ้อเพื่อหลีกหนี เราต้องแก้ไข ปรับปรุงตัวเราเองและมองสถานการณ์ให้ออก พิจารณาให้รอบคอบ ปัญหามาจากใคร แล้วต้องแก้ไขด้วยวิธีไหน นั่นแหละชีวิต
มีอีกที่อยากเอ่ยถึง "คน" ผมเคยเขียนถึงเรื่อง "คน" ซึ่งนำมาจากคำพูดอาจารย์ ที่เขาบอกว่า "คน" คือยุ่ง ผสมปนเป อะไรประมาณนั้น ผมก็จำไม่ได้นัก ขี้เกียจไปหา ขอเขียนถึงอีกครั้งละกัน "คน" ภาษาไทย แปลได้ทั้ง คนเรา หรือมนุษย์ นั่นแหละ อีกความหมายนึง คือ การตีผสม จะเจอบ่อยๆ เวลาทำอาหาร หรือเบอเกอรี่ "คนให้เข้ากัน" แล้ว "คนเรา" มันต้องเป็นแบบนั้นเช่นกัน เราต้องเจอเรื่องดีและไม่ดี ผสมปนเป แต่คุณต้องทำให้เข้ากัน ไม่ว่าจะเจอเรื่องดีหรือไม่ดี คนเรื่องดีและไม่ดีให้เข้ากัน นั่นแหละ "คน"
ผมไม่ได้เข้าใจชีวิตอะไรมากมายนัก แต่อย่างน้อยผมเรียนรู้ที่ก้าวข้ามพ้นมันไปได้ สิ่งที่เขียนนี้แม้จะเป็นเรื่องของตัวเอง แต่เชื่อว่ามันสะท้อนไปยังเรื่องราวต่างๆของคนอื่นได้ หวังว่าสิ่งที่เขียนนี้จะเกิดประโยชน์บ้างนะครับ
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2551 |
|
5 comments |
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2551 0:30:53 น. |
Counter : 907 Pageviews. |
|
|
(แต่ที่เจอทุกวันที่ทำงาน ก็ยังจะแย่เลย เหอ เหอ)
จะพยายามไม่ตีโพยตีพายด้วยคน
ปล. อย่าลืมรูปตากล้องนะ
ฮ่า ๆ