+ + = = = + + น้ำปานะ ไม่ใช่ "เครื่องดื่ม" ทุกชนิดนะคะ + + = = = + +
สวัสดีค่ะ
รีวิวล่าสุด รีวิวร้านอาหารเพชรบุีรี ผัดไทยท่ายาง ตามรอย Room39 ค่ะ (คลิกเพื่ออ่าน)
เอนทรี่ล่าสุดในหมวดนี้ พระอรหันต์แตกต่างจากพระปัจเจกพุทธเจ้าอย่างไร (คลิกเพื่ออ่าน)
วันนี้จะเอาความรู้ (ซึ่งส่วนใหญ่มีความเข้าใจผิดกันมากถึงมากที่สุด) เกี่ยวกับน้ำปานะมาแบ่งปันกันนะคะ ซึ่งเช่นเคยค่ะ...ต้องขอบคุณห้องศาสนา ณ พันทิปไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
โดยเฉพาะท่านใดที่จะถือศีลแปด ถือองค์อุโบสถศีล ขอให้อ่านให้ดีค่ะ ถ้าไม่ต้องการให้ตัวเองผิดศีล หรือศีลขาด เพราะมีหลายคนเลยที่ทำผิด แม้กระทั่งวัดบางวัดเองก็ทำน้ำที่ห้ามดื่มเป็นน้ำปานะให้คนที่ถือศีลแปดดื่มซะงั้น เหอๆ
ในส่วนของศีลแปดก่อนแล้วกันนะคะ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับน้ำปานะจะมีรายละเอียดดังนี้
อุโบสถศีล ประกอบด้วย ๘ องค์ หมายถึงศีล ๘ หรือศีลอุโบสถนั่นเอง ในศีลข้อที่ ๖ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสอรรถาธิบาย อุโบสถศีลข้อที่ ๖ ว่า
" .......แม้นเราในวันนี้ก็บริโภคอาหารครั้งเดียว งดอาหารในราตรี เว้นจากการบริโภคผิดเวลาตลอดวันและคืนนี้
ด้วยองค์นี้ เราก็ได้ชื่อว่าปฏิบัติตามพระอรหันต์ทั้งหลายอย่างหนึ่ง และอุโบสถก็จักเป็นอันเรารักษาแล้ว " (องฺ ติก. ข้อ ๕๑๐)
บทว่า วิกาลโภชนํ ได้แก่ การบริโภคอาหาร เมื่อล่วงเลยเวลาเที่ยงตรง, การบริโภคอาหารเมื่อล่วงเลยเวลาเที่ยง ก็คือ
การบริโภคอาหารเมื่อล่วงเลยกาลที่ทรงอนุญาตไว้ คือ เจตนางดเว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล
บทว่า เอกภตฺติกา (บริโภคภัตครั้งเดียว) นั้น ท่านแบ่งการบริโภคอาหารเป็น 2 เวลา คือ เวลาเช้า กับเวลาเย็น อาหารที่จะรับประทานในเวลาเช้า ท่านกำหนดตั้งแต่อรุณจนถึงเที่ยงวัน ส่วนอาหารเย็นกำหนดตั้งแต่เลยเที่ยงไปจนถึงเวลาอรุณขึ้น เพราะฉะนั้น ในเวลาภายในเที่ยงวัน แม้นจะบริโภคอาหาร ๕ - ๑๐ ครั้ง ก็ชื่อว่ามีการรับประทานเพียงครั้งเดียว เวลาเดียว (ข้อนี้นี่ ถ้าเป็นสายวัดป่า ท่านจะฉัน "ครั้งเดียว" ค่ะ จะไม่ได้บอกว่ากี่ครั้งก็ได้ถือเป็นหนึ่งมื้อเหมือนที่เขียนไว้นี้นะคะ)
รูปจาก //www.hi5.com/index.html?r=%2Fhome.html
วิกาลโภชน์มีองค์แห่งการเกิด ๔ ประการ (องค์ที่ทำให้เกิดองค์อุโบสถที่ ๖ ต้องแตกทำลาย)
๑. วิกาโล เป็นเวลาวิกาล คือตั้งแต่เที่ยงวันไปแล้ว
๒. ยาวกาลิกํ ของนั้นเป็นของเคี้ยวของฉันที่ทรงอนุญาตให้กินได้ก่อนเที่ยงวัน
๓. อชฺโฌหรณํ มีการกลืนล่วงลำคอคงไป
๔. อนุมฺมตฺตกตา ไม่ใช่คนบ้า
(ขุทฺทก.อ ๑/๓/๔๒, อง.อ. ๑/๓/๔๐๑)
หลังจากเที่ยงวันไปแล้ว นอกจากน้ำเปล่าบริสุทธิ์แล้ว ผู้รักษาอุโบสถสามารถกลืนน้ำปานะดับกระหายหรือบรรเทาความหิวได้ โดยไม่ทำให้องค์อุโบสถศีลข้อที่ ๖ แตกทำลาย
จากคุณ : artinfinity
สำหรับรายละเอียดในส่วนของน้ำปานะ ก็มีดังนี้นะคะ
น้ำปานะ ได้แก่ เครื่องดื่ม หรือ น้ำสำหรับดื่มที่คั้นจากผลไม้ ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตแก่พระภิกษุให้รับ ประเคนแล้วสามารถเก็บไว้ฉันได้ตลอด ๑ วัน ๑ คืน เรียกว่า ยามกาลิก ทรงอนุญาตไว้ ๘ อย่าง
๑. อัมพะปานะ น้ำมะม่วง
๒. ชัมพุปานะ น้ำชมพู่หรือน้ำหว้า
๓. โจจะปานะ น้ำกล้วยมีเมล็ด
๔. โมจะปานะ น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด
๕. มะธุกะปานะ น้ำมะทรางต้องเจือด้วยน้ำจึงควร
๖. มุททิกะปานะ น้ำลูกจันทน์หรือองุ่น
7. สาลุกะปานะ น้ำเหง้าบัว
๘. ผารุสะกะปานะ น้ำมะปรางหรือลิ้นจี่
นอกจากน้ำปานะ ๘ อย่างแล้ว ท่านยังอนุญาตน้ำที่จะอนุโลมตามน้ำปานะไว้อีก เรียกว่า กัปปิยปานะอนุโลมคือ น้ำปานะที่สมควร ซึ่งฉันได้โดยไม่เป็นอาบัติในเวลาวิกาล ได้แก่ น้ำปานะแห่งผลไม้เล็ก เช่น ลูกหวาย มะขาม มะงั่ว มะขวิด สะคร้อ และเล็บเหยี่ยว เป็นต้น
นอกจากนี้ยังอนุญาตให้ฉันน้ำปานะเหล่านั้นผสมกับน้ำตาล แล้วเคี่ยวไฟจนเข้มข้น (ยกเว้นที่ทำจากถั่วและนม) สามารถฉันได้ จัดเป็น อัพโพหาริก เช่น น้ำอัดลมในสมัยนี้ แม้นน้ำผลไม้สำเร็จรูป เช่น น้ำองุ่นที่กรองเนื้อออกดีแล้วก็ดื่มได้
น้ำที่ไม่ทรงอนุญาต ดื่มแล้วองค์อุโบสถต้องแตกทำลาย
อกัปปิยปานะอนุโลม หรือ เครื่องดื่มที่ไม่พึงดื่ม คือ น้ำปานะที่ไม่สมควร ภิกษุดื่มในเวลาวิกาลไม่ได้ ถ้าดื่มต้องอาบัติปาจิตตย์ ได้แก่ น้ำแห่งธัญชาติ (ข้าว) ๗ ชนิด คือ ข้าวสาลี ข้าวเปลือก ข้าวเหนียว ข้าวละมาน ข้าวฟ่าง ลูกเดือย และหญ้ากับแก้
น้ำแห่งมหาผล (ผลไม้ใหญ่ ) ๙ ชนิด คือ ผลตาล มะพร้าว ขนุน สาเก น้ำเต้า ฟักเขียว แตงไท แตงโม และฟักทอง
น้ำแห่งอปรัณณชาติ ได้แก่ ถั่วชนิดต่าง ๆ มีถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ และงา เป็นต้น แม้นจะต้มจะกรอง ทำเป็นเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ก็ย่อมเป็นอาบัติปาจิตตีย์
นม ท่านจัดเป็นอาหารอันประณีต ภิกษุสามเณรไม่พึงฉันยามวิกาล แม้นจะผสมกับเครื่องดื่มต่าง ๆ ก็ไม่ควร หากฉัน ก็ย่อมต้องอาบัติปาจิตตีย์
ดังนั้น ผู้หวังความบริสุทธิ์ของอุโบสถมีองค์ ๘ พึงงดเว้นเครื่องดื่มที่ทรงห้ามแก่ภิกษุทั้งหลายในยามวิกาล
ประสบการณ์สมัยบวชเป็นพระสงฆ์ในสำนักวัดป่า มีข้อที่ต้องศึกษาและควรรู้มากมายเกี่ยวข้อวัตรข้อนี้จึงเป็น แรงบันดาลที่จะเขียนเพื่อให้ความรู้เรื่องน้ำปานะ แก่อุบาสก อุบาสิกา เพื่อจะถือองค์อุโบสถศีลได้อย่างบริสุทธิ์ ตลอดจนจัดหาน้ำปานะถวายแด่พระสงฆ์สามเณรในกาลพรรษานี้ได้อย่าง ถูกต้องตามพุทธานุญาตทุกประการ
ข้อมูล : คัมภีร์อุโบสถศีล
credit blog oknation
จากคุณ : artinfinity
ดังนั้นถ้าเอาจำง่ายๆ ก็คือ น้ำปานะ จะต้องเป็นน้ำผลไม้ที่ไม่มีเนื้อ และต้องเป็นผลไม้ที่ไม่ใหญ่กว่าผลส้มเขียวหวานค่ะ
ถ้าเป็นน้ำนม น้ำที่ทำจากธัญพืช หรือผลไม้ที่ใหญ่ ก็ถือว่าผิดทั้งสิ้นนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
1,469,696+208779=1678475/7845/716
Create Date : 01 ตุลาคม 2555 |
|
16 comments |
Last Update : 1 ตุลาคม 2555 10:31:46 น. |
Counter : 14797 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่อง "น้ำปานะ" ครับ
ปล.มีภาพจากบล็อกใหม่มาฝากด้วยครับ