ผู้กำกับ : นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์
ผู้ผลิต : Salmon House
นักแสดง : Members BNK48
ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร
ประโยคข้างบนนี้ ถูกขีดฆ่าเพราะหนังเรื่องนี้เลยค่ะ
คำพูดที่ดูสวยหรู ที่ในความเป็นจริงแล้ว หากการพยายามนั้นเป็นการพยายามแล้วพยายามเล่า แต่กลับไม่ได้รับผลใดๆ ของการพยายามนั้นเลย...จะบอกว่าอย่าคาดหวังสิ...งั้นเหรอ? แล้วถ้าไม่คาดหวัง อะไรกันคือแรงผลักดันให้พยายาม? หรือต้องเป็นอย่างที่ใครคนหนึ่งพูดไว้? "แค่เราเติบโตขึ้นก็เพียงพอแล้ว"...แต่จะทำได้สักกี่คนกัน?
หนังเรื่องนี้เป็นสารคดี (และจากเพจของผกก.เต๋อ - นวพล จะอยู่สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้ว) ที่บอกเล่าให้เราฟังถึงเรื่องราวของเด็กสาววัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาเป็นสมาชิกของวง BNK48 โดยผ่านการสัมภาษณ์สมาชิกแต่ละคน ซึ่งในระหว่างนั้นก็มีการตัดต่อภาพและคลิปต่างๆ รวมทั้งการสอดแทรกการอธิบายศัพท์หรือสถานะบางอย่างที่คนที่ไม่เคยติดตามวง (อย่างเรา) ได้รับรู้ด้วยค่ะ อย่างเช่นคำว่า อันเดอร์ เซมบัทสึ ฯลฯ
แต่สิ่งที่จับใจเราและทำให้ต้องมาเขียนถึงหนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่การทำให้เรารู้จักวงนี้มากขึ้น แต่กลับเป็นการที่หนังเรื่องนี้ทำให้เราคิดและรู้สึกอะไรหลายอย่างมากมายเหลือเกิน รวมทั้งเป็นหนังสารคดีที่กลับทำให้เราทั้งหัวเราะและร้องไห้ในหลายๆ ช็อตของหนังค่ะ
หนังเปิดตัวด้วยการให้สมาชิกแต่ละคน ทั้งที่อยู่ในระดับท็อปๆ เป็นที่รู้จัก อย่าง เฌอปราง อร มิวสิค ปัญ ฯลฯ หรือเด็กอันเดอร์ฯ (คือคนที่ไม่เคยได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของการออกซิงเกิ้ลแต่ละเพลง) ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีมุมมองทั้งต่อวง ต่อตัวเอง และต่อคนอื่นที่แตกต่างกันไป
ขณะที่ใครๆ อาจจะรู้สึกว่า...การเป็นเฌอปรางนั้น ดีแสนดี โดดเด่น เป็นกัปตันวง ได้รับเลือกในทุกซิงเกิ้ลเพราะความป็อป ทั้งที่เต้นและร้องไม่ได้เก่ง...
แต่ก่อนที่เฌอปรางจะก้าวเข้าสู่วงของแสงไฟนั้น...เฌอยอมเลิกกับแฟน เพราะกฎของวงคือ ห้ามมีแฟน เฌอเป็นกัปตันที่ไม่สามารถจะสนิทกับใครได้ เพราะมันจะมีผลต่อความรู้สึกของคนในวงได้ เฌอเองก็มีอะไรที่ต้องยอม "เสีย" เพื่อที่จะ "ได้" มันมาในวันนี้ และก็อย่างที่เฌอบอก...
ถึงเฌอจะเป็นกัปตัน...แต่เฌอก็ได้เงินเดือนเท่าคนอื่นๆ ในวงเช่นกัน...
ขณะที่สมาชิกที่เป็นอันเดอร์เกิร์ล (และบางคนได้รับเลือกให้ร้องซิงเกิลหลังหนังเรื่องนี้ถ่ายทำ) อย่างจิ๊บ อย่างเปี่ยม อย่างปูเป้ ก็มีอีกมุมมองหนึ่ง มุมมองที่เจ็บปวด มุมมองของคนที่ไม่เคยได้รับการเลือก ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน แต่แม้จะไม่ได้รับเลือกเหมือนกัน แต่ละคนก็มีวิธีการจัดการ และรู้สึกกับมันไม่เหมือนกันเช่นกัน
ขณะที่ปูเป้ ทำให้เราหัวเราะได้กับการไม่ประสบความสำเร็จของเธอ
จิ๊บ กลับทำให้เราจุก และน้ำตาไหลเมื่อเห็นภาพ "ความพยายาม" ของเจ้าตัว
เราได้เห็นความพยายามที่จะฝึกฝน พยายามที่จะ "สร้าง" คาแรคเตอร์บางอย่างเพื่อให้เป็นที่รัก เป็นที่นิยมและเป็นที่จดจำ เราได้เห็นใครบางคนที่เลือกที่จะเป็นอย่างที่ตัวเองเป็น เพราะไม่ต้องการให้ใครมารักในสิ่งที่ไม่ได้เป็นตัวเองอย่างแท้จริง...
เราได้เห็นความเป็นมนุษย์แทบทุกแบบ...ผ่านสมาชิกของวง BNK48
เราได้เห็นรอยยิ้ม ได้เห็นน้ำตา ได้ฟังความคิด ความรู้สึก ของเด็กสาวกลุ่มหนึ่ง ที่ทำให้เราต้องมาถามตัวเองว่า...ถ้าเราเป็นเขา...เราจะมีวิธีจัดการกับความผิดหวังของเรายังไงหรือ? เราจะเลือกทางเดินแบบนี้ไหม เลือกจะเป็นแบบนี้ไหม เลือกที่จะอยู่ต่อไปไหม หรือเลือกที่จะเดินออกมาเหมือนสมาชิกหลายๆ คนที่เลือกแบบนั้น...
สำหรับเต๋อ ให้แอร์ไทม์อย่างมากกับปูเป้และจิ๊บ (ซึ่งอาจจะทำให้โอตะบางคนที่ไปดูเพื่อจะดูคนที่ตัวเองชอบ อาจจะมีนอยด์ๆ บ่นๆ บ้าง แต่เอิ่ม...นี่คือหนังสารคดี มิใช่หนังเอาใจโอตะนะจ๊ะ) ซึ่งตามความคิดเรา ปูเป้ได้แอร์ไทม์เพราะปูเป้ทำให้หนังเรื่องนี้สดใสขึ้น ปูเป้หัวเราะได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น แทบทุกซีนที่ปูเป้ปรากฏตัวในหนัง คือซีนที่ทำให้คนดูได้หัวเราะ ได้ยิ้มกับสิ่งที่เจ้าตัวคิดและพูดออกมา
ส่วนจิ๊บ...แน่นอนว่าสำหรับอันเดอร์ที่แสดงให้เห็นว่าได้ทุ่มเทและพยายามอย่างมาก แต่ยังคงต้องเป็นอันเดอร์ต่อไปนั้น มันกระทบต่อความรู้สึกของคนดูได้มาก ช็อตข้างเวทีนั้น ทำเอาเราน้ำตาไหลพรากๆ เลยจริงๆ (ตอนพิมพ์นี่ก็ยังน้ำตาไหลอยู่) และถึงแม้ว่า...เราเองเมื่อโต (aka แก่) ขนาดนี้แล้ว เรารู้ว่านอกจากเรื่องหน้าตาแล้ว มันมีปัจจัยอื่นที่ทำให้จิ๊บไม่ป๊อป และนั่นส่งผลทำให้จิ๊บไม่ได้รับเลือก แต่ก็เข้าใจได้ว่า ด้วยวัยและประสบการณ์ของจิ๊บ มันอาจจะยังไม่ใช่เวลาที่จิ๊บจะเข้าใจ แต่ถ้าจิ๊บเข้าใจและข้ามผ่าน "กรอบ" บางอย่างของตัวเองไปได้ เราเชื่อว่าจิ๊บจะเป็นคนหนึ่งที่จะไปเป็นตัวหลักในซิงเกิลอื่นๆ ได้
แต่จิ๊บจะข้ามกรอบนั้นได้ไหม และข้ามได้ทันเวลาหรือเปล่า..นั่นเป็นคำตอบที่เราเองคงตอบให้ไม่ได้
จากหนังเรื่องนี้ ทำให้เรารู้สึกว่า เต๋อเป็นผกก.คนหนึ่งที่ค่อนข้างจับอารมณ์คนดูได้อยู่ เขารู้ว่าหนังเรื่องนี้ควรมีอารมณ์แบบไหนบ้าง ควรเอาซีนไหนมาในช่วงไหน ควรเอาภาพไหนมาคั่นเพื่อไม่ให้มันแห้งเกินไป ควรเอาคำพูดไหนมาต่อคำพูดไหน ต้องยอมรับเลยว่า การที่คนที่ไม่ใช่โอตะอย่างเราได้ดูหนังเรื่องนี้ แล้วรู้สึกขนาดนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเลือกและร้อยเรียงของเต๋อจริงๆ
และเราก็เป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจว่า หลังดูเรื่องนี้จบ เราจะเป็นโอตะให้จิ๊บกับเปี่ยม (คือที่จริงแล้วเราอยากโอตะมันทั้งวงเลย แต่มิสามารถจริงๆ) เราอยากให้กำลังใจน้อง อยากให้น้องรู้ว่า น้องมีคนที่เข้าใจและเป็นกำลังใจให้น้องพัฒนาตัวเองเพื่อความฝันของแต่ละคนเสมอ ไม่อยากให้น้องท้อไปก่อน
นี่จะสั่งซิงเกิ้ล เพื่อจะได้ไปจับมือ 8 วิเพื่อบอกน้องๆ เลยแล้วกันคิดดู 555
คือ ดูหนังเรื่องนี้จบ จากที่ไม่เข้าใจและเรียกว่าเกือบจะแอนตี้ระบบจับมือ กลายเป็นเข้าใจเลยว่า...ทำไมถึงต้องมีตรงนี้ มันให้อะไรกับสมาชิกของวง มันให้อะไรกับโอตะของแต่ละคน และมันสำคัญมากแค่ไหนสำหรับน้องๆ ในวงแต่ละคน
ที่สำคัญ อาจจะเหมือนที่สมาชิกคนหนึ่งบอก...ต่อให้ความพยายามถึงที่สุดแล้ว ไม่ได้ทำให้เราได้เป็นเซมฯ ของซิงเกิลไหนเลย และต้องเป็นอันเดอร์ฯ ไปตลอด...สำหรับคนที่รักน้องๆ แล้ว ขอให้น้องมีความสุขกับสิ่งที่ทำ พัฒนาตัวเอง และ "เติบโต" ขึ้น บางทีมันก็เพียงพอแล้ว..จริงๆ นะ
เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง เราก็ต้องอยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุดต่อไปแหละนะ (จบด้วยเพลงซะงั้น 555)
เป็นหนังอีกเรื่องที่เราอยากจะไปดูรอบสอง ไปเก็บอะไรหลายๆ อย่างที่รอบแรกยังพลาดไป อยากไปดูสีหน้าแววตาน้องๆ ให้ชัดขึ้น
และอยากเชียร์ให้คนอื่นๆ ได้ไปดูกันก่อนหนังออกจากโรงค่ะ
ปฏิทินธรรม
วันเสาร์ที่ 1 กันยายน 2561
1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน 2561 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่) 1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น. ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447
2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
วันเสาร์ที่ 8 กันยายน 2561 (ทุกวันเสาร์ที่ 2 ของทุกเดือน)
1.ขอเชิญร่วมทำบุญตักบาตรพระเถระ ณ ศาลาจตุรมุข วัดสังฆทาน นนทบุรี
วันอาทิตย์ที่ 9 และ 23 กันยายน 2561 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน) 1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน 2561 (จัดทุก อาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
วันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2561 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)
1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน
เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 29-30 กันยายน 2561 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด
ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ1469696+6565450=8035146/13571/1724
เอาจริง ๆ ก็น่าดูนะ แต่คงไม่ได้เข้าโรงหนังช่วงนี้