#### รีวิวหนังคิมจียอง เกิดปี 1982 - เพราะไม่ใช่แค่สามีดีๆ ที่ผู้หญิงบางคนต้องการ ####
คิม จี-ยอง หญิงสาวที่เคยทำงานในบริษัทและเมื่อแต่งงาน เธอก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นทั้งแม่และแม่บ้านเต็มตัว ความกดดันหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น คำพูดของผู้คนที่เธอพบเห็น ทำให้บางสิ่งในตัวเธอเปลี่ยนแปลงไป จนสามีของเธอจอง แดฮยอนรู้สึกกังวล และพยายามที่จะให้เธอไปพบกับจิตแพทย์
ความรู้สึกที่ได้ดู (สปอยล์นะคะ) คิมจียอง เกิดปี 82 ตีพิมพ์ครั้งแรกที่เกาหลีเมื่อปี 2016 เขียนโดย โชนัมจู เป็นเรื่องว่าด้วยชีวิตของผู้หญิงในเกาหลีที่ถูกกดขี่ในสังคมที่ไม่เท่าเทียม หนังสือค่อยๆ ไต่ระดับความนิยมอย่างค่อยเป็นค่อยไป และยิ่งขายดีขึ้นเมื่อ ‘ไอรีน’ ศิลปินสาวจากวง Red Velvet ออกมาเปิดเผยในงานมีตติ้งว่าเธออ่านหนังสือเล่มนี้ ซึ่งมาพร้อมกับกระแส #metoo ในเกาหลี แต่ในทางกลับกัน ก็เกิดกระแสแอนตี้จากเหล่าแฟนคลับชาย บางคนหงุดหงิดและรับไม่ได้ จนมีคำพูดที่ว่า “ไอรีนกลายเป็นเฟมินิสต์” ความหงุดหงิดลุกลามใหญ่โต มีการเผารูปไอรีนและส่งข้อความคุกคามจากเหล่าแฟนคลับชาย ในขณะที่ยอดขายหนังสือเพิ่มขึ้นถึง 104% กลับมาครองที่ 1 ในชาร์ตหนังสือขายดี แต่ยอดคนซื้อเพศชายลดลง 3% น่าสนใจว่า คิมจียอง เกิดปี 82 เขียนถึงอะไร ทำไมจึงทำให้ผู้ชายไม่พอใจได้ขนาดนั้น และหนังสือเล่มนี้ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของการลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิของผู้หญิงในเกาหลีอีกด้วย
กระแสอันโด่งดังนี้ทำให้กลุ่มแฟนคลับในไทยพยายามขวนขวายหา คิมจียอง เกิดปี 82 มาอ่าน จนเมื่อปลายปี 2018 ที่ผ่านมา สำนักพิมพ์เอิร์นเนสได้จัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้เป็นภาษาไทย แปลโดย ตรองสิริ ทองคำใส อัดแน่นด้วยเรื่องราวของชีวิตผู้หญิงเกาหลีนามว่า ‘คิมจียอง’ ซึ่งเป็นชื่อที่คนเกาหลีนิยมตั้งชื่อให้ลูกสาวที่เกิดปี 1982 จนชื่อนี้กลายเป็นชื่อโหล หันไปทางไหนก็มีแต่คนชื่อคิมจียอง คล้ายบอกว่าชีวิตของคิมจียอง คือชีวิตสามัญที่ผู้หญิงเกาหลีทุกคนต้องเจอ (ถ้าใครต้องการทราบเรื่องราวที่ละเอียดกว่าหนัง สามารถไปอ่านที่ลิงก์ด้านบนได้นะคะ เล่าไว้ค่อนข้างละเอียด และน่าจะทำให้เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างในหนังได้มากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ)
อ่านจากที่เอามาให้อ่านด้านบน พอจะนึกออกไหมคะว่า สังคมเกาหลี (และที่จริงก็ญี่ปุ่นด้วย 555) ให้สถานะของผู้หญิงและผู้ชายต่างกันมากแค่ไหนอย่างไร
เพราะจากสื่อต่างๆ ที่เราเสพ เรามักจะเห็นภาพที่งดงามของผู้ชายเกาหลีที่โรแมนติก เอาอกเอาใจผู้หญิง แต่ที่จริงแล้วมันคือการพยายามสร้างวัฒนธรรมใหม่เพื่อให้ผู้ชายเกาหลีเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นแบบนั้น เพราะผู้ชายเกาหลี "ส่วนใหญ่" ไม่ใช่แบบตามสื่อที่เราเห็นกันบ่อยๆ หรอกค่ะ แบบในหนังเรื่องนี้นี่แหละ...ใช่เลย
กล่าวคือ ผู้หญิงเกาหลี โอกาสในการทำงานนั้นน้อยกว่าผู้ชายมากค่ะ คือ หางานก็ยากกว่า (เพราะบริษัทจะรู้สึกว่า เดี๋ยวก็ต้องออกไปเลี้ยงลูกอยู่ดี) เมื่อเข้าทำงาน โอกาสก้าวหน้าเป็นระดับหัวหน้าก็ยากกว่าผู้ชาย (ยากยิ่งกว่าที่ไทยมากกกกก) เงินเดือนก็น้อยกว่า (อันนี้ในไทยไม่เป็นนะคะ เราไม่ได้แบ่งแยกเงินเดือนที่เพศขนาดนั้น) และกรณีที่แต่งงานไปแล้ว โดยมากก็จะถูกคาดหวังว่าต้องไม่ทำงาน แต่จะต้องมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ทำหน้าที่เลี้ยงลูก (ซึ่งของญี่ปุ่นก็แนวเดียวกันเลยค่ะ) เท่านั้น จะว่าไป อันที่จริง หลายๆ ประเทศก็เป็นแบบนั้นหรือเปล่าคะ? 5555 (ยกเว้นไทยนะเราว่า เรื่องความคิดแนวนี้ยังน้อยกว่าเกาหลีเยอะค่ะ)
เพียงแต่มันมีทัศนคติบางอย่างว่า ผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านแบบนี้ เป็นเสมือน "ปลิง" ที่คอยเกาะแต่สามีกินอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ถูกยกย่องว่าเป็นงานที่เหนื่อยไม่แพ้กันเหมือนหลายๆ ประเทศทางด้านตะวันตก ผู้หญิงในเกาหลีถูกกดกว่าเยอะค่ะ รวมทั้งการที่ถูกคาดหวังในเรื่องของการมีลูกชาย (การทำแท้งกรณีถ้าลูกในท้องเป็นลูกสาวยังทำได้อยู่ในประเทศนี้นะคะ) การให้ความไม่เท่าเทียมกันระหว่างลูกชายกับลูกสาว (ซึ่งครอบครัวที่ค่อนข้างจีนจ๋าๆ ในไทยก็ยังเป็นกันอยู่นะคะ) ซึ่งนั่นทำให้นางเอกในเรื่องนี้เกิดปัญหาทางความคิดและความรู้สึกขึ้นน่ะแหละค่ะ
ซึ่งเราว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจ เพราะกระทั่งเพื่อนเฟซเราคนหนึ่ง ทั้งตัวเขาเองและภรรยาของเขาก็คิดว่า มีสามีดีขนาดนี้แล้วยังจะเอาอะไรอีก...
แต่ก็อย่างที่เราเขียนไว้ค่ะว่า ไม่ใช่แค่สามีดีๆ นะคะที่ผู้หญิงบางคนต้องการ
ใช่ค่ะ อย่างน้อย คิมจียองเองโชคดีที่มีสามีที่ดีอย่างแดฮยอน ที่รักเธอ เป็นห่วงเธอ และเห็นสิ่งที่เธอเป็น เป็นสิ่งที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ และไม่ได้เป็นตัวเธอที่ก่อปัญหา (เหมือนที่แม่สามีคิด) ซึ่งก็นับว่าเป็นโชคดีของจียองเองที่มีสามีแบบนี้...
อย่างไรก็ตาม...หากการอยู่ที่บ้าน มีสามีที่ดี มีลุกที่น่ารัก แต่การออกไปข้างนอก เจ้าตัวยังคงได้ยินคำพูดที่ว่าเธอเป็นปลิง ต้องคอยเสียสละตัวเองให้กับครอบครัวสามีอยู่เสมอจนไม่เคยได้ไปพักผ่อนกับครอบครัวเลยในวันหยุดเทศกาลสำคัญ ความโหยหาการทำงานที่ตัวเองรักและมีความสุขที่เคยได้ทำ...การมีสามีที่ดีก็ไม่ใช่คำตอบเดียวที่จะทำให้เจ้าตัวมีความสุขกับชีวิตได้หรอกค่ะ คิม จียองเอง มีความกดดันมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะในครอบครัวที่ยาย/ย่าเอย พ่อเอย ต่างก็ให้ความสำคัญกับน้องชายมากกว่าเธอและพี่สาวในทุกๆ เรื่อง เธอเป็นเพียงคนชั้นสองในบ้าน/ครอบครัวตนเอง (ยกเว้นแม่ที่ให้ความสำคัญกับเธอเสมอ เพราะตัวแม่เองก็เคยประสบกับเหตุการณ์เดียวกับจียองเหมือนกันที่ต้องเสียสละให้กับคนอื่นๆ ตลอดเวลา) การผิดหวังจากการไม่ถูกเลือกในที่ทำงาน เพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่อาจจะต้องออกไปเลี้ยงลูกอยู่ดี แม่สามีที่ยังคงให้ความสำคัญกับความเป็นชาย (ทั้งลูกชายตัวเองและอื่นๆ) โดยไม่คำนึงถึงหัวจิตหัวใจจียอง ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ทำให้จียองมีสภาพจิตใจที่ไม่ปกติในที่สุด เธอกลายเป็นคนที่มีอีกบุคลิก เป็นคนที่เหมือนถูกผีของยายเข้าสิงในบางครั้งบางหน และเจ้าตัวไม่รู้ตัวเลย มีเพียงแต่สามีที่พยายามบอกเธออย่างอ้อมๆ ให้เธอไปหาจิตแพทย์ จนเธอค่อยๆ หลุดอาการให้ครอบครัวสามีเห็น ให้แม่ตัวเองได้เห็น จึงนำไปสู่ขั้นตอนของการแก้ไขในที่สุด ได้ดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ไม่ได้เกิดเป็นผู้หญิงเกาหลีหรือญี่ปุ่นหรือประเทศอื่นๆ ที่มีค่านิยม/ทัศนคติแบบนี้ค่ะ 55555 ก็โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นดีดี ก็ยังจัดอันดับความเท่าเทียมกันทางเพศของเกาหลีใต้ให้อยู่ที่อันดับ 118 จาก 144 ประเทศอะค่ะ ทั้งที่เกาหลีใต้เอง จัดว่าเป็นประเทศพัฒนาแล้ว (ทางด้านเศรษฐกิจ) แต่เรื่องทัศนคติความเหลื่อมล้ำทางเพศนี่...เรียกว่า...คนละขั้วกันเลยทีเดียวหละค่ะ เหอๆ
ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ตัวเราเองไม่ได้ต้องการสิทธิเท่าเทียมขนาดนั้นนะคะ (เรื่องนี้ต้องพูดกันในรายละเอียดค่ะ) เพราะถ้าสิทธิเท่าเทียมจริงๆ ผู้หญิงเองก็จะต้องไม่เรียกร้องให้ผู้ชายเสียสละที่นั่งบนรถเมล์หรืออื่นๆ ให้ ต้องไม่บอกผู้ชายให้ยกของหนักให้ (เพราะต้องการความเท่าเทียมนี่ เท่าเทียมคือ ผู้หญิงเท่าผู้ชาย ไม่ใช่อ่อนแอกว่าผู้ชายแล้วต้องให้ผู้ชายช่วยเหลือ) แต่ใช่ค่ะ...เราต้องการสิทธิที่มากขึ้นในหลายๆ เรื่อง ทั้งความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การมีสิทธิ์มีเสียงในเรื่องต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและสวัสดิภาพ/สวัสดิการ ฯลฯ เพราะเราเองไม่คิดว่าผู้หญิงจะ "เท่า" ผู้ชายได้จริงๆ หรอกนะคะ แค่ลักษณะทางกายภาพก็ไม่ใช่แล้ว โครงสร้างร่างกายเราอ่อนแอ อ่อนนุ่มกว่าผู้ชายเยอะค่ะ เพราะงั้นเราไม่คิดว่ามันจะ "เท่าเทียม" ได้จริงๆ หรอก แต่เราก็ไม่ต้องการเป็นพลเมืองชั้นสองที่ด้อยกว่าเหมือนกันอะค่ะ 555 สำหรับเรื่องการแสดง ของสองคนนี้นี่หายห่วงอยู่แล้วนะคะ ตัวกงยูเองก็รับบทได้สมกับความเป็นสามีแห่งชาติมากๆ ค่ะ 5555 เป็นผู้ชายที่รักผู้หญิงคนหนึ่งจริงๆ เป็นผู้ชายที่ดี๊ดี และมีความเป็นห่วงเป็นใยเจ็บปวดไปกับสิ่งที่คนรักตัวเองต้องเผชิญได้ดีมากเลยค่ะ ส่วนจองยูมิเอง ก็เรียกว่าแบกหนังไว้เกือบทั้งเรื่อง ซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ดีนะคะ ความสับสน/ไม่แน่ใจ ความเจ็บปวดเมื่อมีอะไรมากระทบ แววตาเหม่อเหมือนหลุดไปอีกโลกเมื่อเธอเข้าสู่ภาวะอีกหนึ่งบุคลิก เจ้าตัวเอาอยู่จริงๆ หละค่ะ สรุปแล้ว
เราว่าเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่คนดูดูแล้วน่าจะได้เรียนรู้ทัศนคติ/ค่านิยมของเกาหลีได้ชัดเจนมากขึ้นแหละค่ะ เพราะเรื่องนี้นี่คือการตีแผ่ความจริงของสังคมเกาหลีได้อย่างชัดเจน แบบที่ไม่ใช่ภาพฝันที่เราเคยเห็นในซีรี่ส์/หนังเรื่องอื่นๆ หรอกนะคะ แต่เรากลับไม่คิดว่ามันจะส่งผลทางการเปลี่ยนแปลงอะไรในสังคมไทยได้มากนักหรอกนะคะ เพราะความเข้มข้นในเรื่องการกดเพศหญิงในสังคมไทยมันไม่ได้ชัดหรือแรงมากขนาดที่เกาหลี แต่สำหรับประเทศเกาหลีใต้เอง เราคิดว่าน่าจะสั่นสะเทือนไม่น้อยหรอกค่ะ (ถ้าไปหาข่าวดูก็จะพบว่า แม้กระทั่งดาราทั้งสองคนในเรื่องนี้ก็ถูกหลายคนแอนตี้และความนิยมลดลงด้วยค่ะ บ้าปะหละ)
ซึ่งนี่ก็ว่าจะไปหาหนังสือมาอ่านค่ะ เพราะคิดว่าหนังสือน่าจะให้รายละเอียดอะไรที่หนังไม่ได้บอกเพิ่มขึ้นแน่ๆ เลยแหละค่ะ แล้วถ้าน่ารีวิวจะมารีวิวให้อ่านกันอีกครั้งนะคะ ปฏิทินธรรม วันเสาร์ที่ 4 มกราคม 2562 1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน) วันพุธที่ 1 มกราคม 2562 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)
1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น.
ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447
วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2562
2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/ วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2562 1. ตักบาตรพระกรรมฐาน ณ ปราสาทจตุรมุข วัดสังฆทาน นนทบุรี (กิจกรรมทุกวันเสาร์ที่สองของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 12 และ 26 มกราคม 2562 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)
1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2562
1. ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระป่า 9 วัด เสาร์ที่ 3 ของทุกเดือน ณ บ้านลานเสียงธรรม เลขที่ 7/44 หมู่4 ซอยนาคนิวาส 40 แขวงเขตลาดพร้าว กทม วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2562 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน) 1. ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น. ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี วันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2562 1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน) เมตตารับบาตรโดย เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 25-26 มกราคม 2562 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัย
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
1469696+7659495=9129191/14375/1905
ประกาศ
ท่านใดประสงค์จะโหวต โหวตได้นะคะ แต่เจ้าของบล็อกนี้จะไม่ได้โหวตกลับให้ทุกคนที่โหวตค่ะ จะโหวตเฉพาะบล็อกที่เราอยากโหวตให้เท่านั้นนะคะ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาเองว่าจะโหวตให้บล็อกนี้หรือไม่ค่ะ
Create Date : 20 มกราคม 2563 |
Last Update : 20 มกราคม 2563 9:02:28 น. |
|
52 comments
|
Counter : 1916 Pageviews. |
|
|