สวัสดีค่าาาาา
วันนี้มารีวิวหนังของปีนี้กันบ้างนะคะ เป็นเรื่องแรกเลย (แต่เอนทรี่แรกของกลุ่มนี้ของปีนี้เป็นรีวิวโรงหนัง แฮร่...) กับหนังที่เห็นเพื่อนที่ดูหนังสไตล์เดียวกัน ชมกันเยอะ เลยตัดสินใจไปดูค่ะกับ ฉลาด เกมส์ โกง
จีดีเอช ห้าห้าเก้า
กำกับโดย
นัฐวุฒิ พูนพิริยะ (เคาท์ดาวน์)
นำแสดงโดย
ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง รับบท ลิน
ชานน สันตินธรกุล รับบท แบงก์
อิษยา ฮอสุวรรณ รับบท เกรซ
ธีรดนย์ ศุภพันธ์ภิญโญ รับบท พัฒน์
ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ รับบท พ่อลิน
ป.ล.หาเครดิตคนเขียนบทไม่ได้ง่ะ มีใครรู้บ้าง อยากให้เครดิตสุดๆ
เนื้อเรื่อง
ลิน เด็กสาวที่เรียนเก่งจนเรียกได้ว่าเป็นระดับอัจฉริยะ กับการย้ายโรงเรียนและได้พบเพื่อนใหม่ที่แสนจะน่ารักอย่างเกรซ ลินพยายามติวให้เกรซ ที่ต้องการแสดงละครเวทีโดยมีการเพิ่มกฎเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำ และทำให้เธอค้นพบความจริงบางอย่าง อันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอทำสิ่งที่เคยปฏิเสธเสมอมา แต่แล้วเรื่องราวก็เริ่มขยายออกไป จากการช่วยเหลือเพื่อนกลายเป็นการหารายได้ และก้าวล้ำสู่การโกงระดับการสอบนานาชาติ
ความรู้สึกที่ได้ดู (มีสปอยล์บ้างแน่นอนนะคะ)
โหยยยยยยยยยยยยย ดีมากกกกกกกกกอะค่ะ 555
เป็นหนังที่นอกจากจะสร้างอารมณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะลุ้น จะขำ จะดราม่า จะเครียด คือ หลากหลายมากๆ ค่ะ เขียนบทดี จังหวะการตัดต่อดี ดำเนินเรื่องได้แบบน่าติดตามตลอดทั้งเรื่องจนสองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็วมากค่ะ
ซึ่งนอกจากองค์ประกอบอันสำคัญไม่ว่าจะการเขียนบทและการตัดต่อที่ดีมากๆ แล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องขอชมคือการแคสติ้งและการกำกับการแสดงค่ะ น้องๆ ทุกคนแสดงดีมากๆ คือ เชื่อเลยว่า เค้าคิดและทำอย่างนั้นจริงๆ เป็นตัวละครคนนั้นๆ จริงๆ ยิ่งน้องออกแบบที่แสดงเป็นลินนี่...แบบว่า...ในหนังกับที่เคยเห็นน้องในบทบาทอื่นนี่คือคนละเรื่องกันเลยค่ะ น้องเก่งมากๆ อ้ะ เราชอบการแสดงอารมณ์ของน้องในหลายๆ ฉากมาก ความเจ็บปวดในแต่ละช็อตที่ทำให้น้องต้องลงมือทำในแต่ละเรื่องนี่สำหรับเรา...น้องแสดงได้น้อยแต่มากและลึกมากนะคะ (แต่เราว่าคนดูหลายคนอาจจะไม่เข้าใจ ฮา) แต่เราชอบมาก เราเข้าใจน้อง เพราะเรากับน้องคือคนเกือบจะประเภทเดียวกันค่ะ กร๊ากกกกกกก
นอกจากนั้นการสร้างตัวละครแต่ละตัวในเรื่อง เรารู้สึกว่ามันมีความกลมและมีมิติมาก (ถึงอยากให้เครดิตคนเขียนบทจัง ใครเขียนบทฟระ) คือ ในเรื่องไม่มีใครดีสุดขั้ว ชั่วสุดขีด และการสร้างเรื่่องราวและรายละเอียดที่สอดแทรกอยู่ ทำให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวละครแต่ละตัว และเข้าใจได้ว่าทำไมแต่ละคนถึงได้ทำสิ่งต่างๆ อย่างที่เกิดขึ้นในเรื่อง
เพราะฉะนั้นก่อนจะข้ามไปพูดถึงตัวละครอื่นๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ขอลงลึกกับความเป็นลิน นะคะ เพราะจากการพูดคุยกับเพื่อนที่ไปดูมาแล้วเหมือนกัน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมลินถึงตัดสินใจแบบนั้นในท้ายที่สุด...แต่เราเข้าใจค่ะ (ถูกหรือเปล่าไม่รู้หละ 555)
คือ จริงๆ ลินไม่ได้ทำทุกอย่างลงไปเพราะความเห็นแก่เงินล้วนๆ นะคะ แต่จะเห็นว่าทุกครั้งที่ลินทำอะไรที่มันผิด นั่นเพราะลินเห็นสิ่งที่มันไม่ยุติธรรม ไม่ถูกต้อง ลินจึงเลือกที่จะตอบโต้มันออกมา (โดยวิธีการที่ผิด) ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกรซได้ลอกข้อสอบครั้งแรก เพราะลินค้นพบว่า ครูเอาข้อสอบไปให้คนที่เรียนติวกับครูได้เห็นก่อน (แต่กระนั้นเกรซก็ยังทำไม่ได้อยู่ดี...เอิ่ม..ค่ะ อีหนูเอ๊ย สวยแบ๊วอย่างเดียวจริงๆ) หรือการตัดสินใจเป็นครูสอนเปียโน (อันนี้ขอไม่บอกตรงๆ) เพราะพบว่า พ่อต้องจ่ายเงินค่า "บำรุงสถานที่" ให้กับร.ร.ทั้งที่ตัวเองอุตส่าห์ต่อรองให้ได้เรียนฟรีที่นี่แล้ว ซึ่งลินรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม หรือแม้กระทั่งการตัดสินใจที่จะโกงการสอบระดับชาติอย่าง STIC ส่วนหนึ่งก็เพราะการรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมที่โดนผ.อ.ตัดสิทธิ์การสอบชิงทุนไปสิงคโปร์ (ถึงแม้ว่า...จะเอากันจริงๆ มันก็ไม่ถูกนักหรอกกับวิธีคิดของลินน่ะนะ) หรือแม้กระทั่งการตัดสินใจที่จะไม่ทำต่อ ไม่รับเงินทั้งที่ทำสำเร็จเรียบร้อยแล้ว นั่นเพราะลินเองก็สะเทือนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับแบงก์
คือ สำหรับลินแล้ว สิ่งที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้ลินทำอะไรออกมา จุดสำคัญเลยคือ ความรู้สึกว่ามีคนอื่น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ตัวเองรักหรือรู้สึกดีด้วย) ได้รับความอยุติธรรม (เกรซ พ่อ) หรือเดือดร้อน (แบงก์) และลินเลือกที่จะตอบโต้ ในขณะที่ตอนแรกลินไม่คิดจะให้เกรซลอกแม้จะเป็นเพื่อนรัก ไม่ได้คิดอยากได้เงิน จนกระทั่งเห็นใบเสร็จที่พ่อต้องจ่ายให้ร.ร. ฯลฯ
และกับการตัดสินใจที่จะเปลี่ยน (ซึ่งหลายคนเหมือนจะไม่เข้าใจ) ตั้งแต่ไม่รับเงิน เพราะอย่างที่บอกว่า...สิ่งที่เกิดขึ้นกับแบงก์คือสิ่งที่ลินสะเทือนใจมาก (ฉากตอนที่ลินไปเคาะห้องสอบสวนแล้วแบงค์พยักหน้านิดหนึ่งให้ไปนี่ ทำเราร้องไห้ พรากๆ เลยนะคะ) ซึ่งถ้าเราเป็นลิน เราก็จะทำแบบที่ลินทำนั่นแหละ เพราะอย่างที่บอก ที่จริงสิ่งที่ลินทำทั้งหมด "เงิน" ไม่ใช่ตัวตั้งต้นหลักของเหตุผล แต่เป็นสิ่งที่กระทบถึงความรู้สึกและอารมณ์บางอย่างของลินต่างหากที่สำคัญกว่า นั่นทำให้ลินตัดสินใจที่จะไม่รับเงิน และตัดสินใจที่จะไปเป็นครู
แต่อีกช็อตหนึ่งของการตัดสินใจที่จะบอกความจริงก็คือ เมื่อแบงก์เปลี่ยนไป ที่จริงลินสะเทือนใจมากนะคะ (เพราะเธอเองก็รู้ว่า ที่แบงก์กลายเป็นอย่างนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากเธอ...แต่ก็นะ...ถ้าคิดจะเล่นกับปีศาจ โอกาสที่จะไม่กลายเป็นปีศาจไปด้วยนี่ยากมากเลยจ้ะอีหนูเอ๊ย) แต่ที่เธอตัดสินใจทำก็เพราะเธอรู้สึกว่า เธอเป็นคนสร้างและควรจะหยุดมันด้วยตนเอง เพราะถ้าเธอไม่ทำ แบงก์จะยิ่งไปกันใหญ่กว่านี้ และการโกงจะยิ่งเติบโตไปมากกว่านี้ (แต่ใครบางคนอาจจะรู้สึกว่า เธอกลัวที่แบงก์ขู่มากกว่า...แต่สำหรับเรานะ...แบงก์ไม่กล้าหรอกค่ะ หุุๆ)
มาที่อีกตัวละครหนึ่งคือ แบงก์
แบงก์เป็นอีกคนหนึ่งที่มีบางส่วนคล้ายเราค่ะ นั่นคือ เป็นคนที่ไม่ชอบ (?) การโกง และเราเข้าใจเลยว่า...ทำไมแบงก์ถึงกลายเป็นแบบนั้นในท้ายที่สุด เพราะด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น มันทำให้แบงก์เลือกที่จะทำอย่างที่ทำในหนัง เพียงแต่เราคาดไม่ถึงนิดหน่อยว่าจะเปลี่ยนแบงก์ไปได้ถึงขนาดนั้น...บางทีก็อาจจะเป็นอย่างที่ในโปสเตอร์ของหนังบอกหละค่ะ สำหรับแบงก์แล้ว ขยันหรือขี้ขลาดกันแน่
แบงก์คนที่ไม่ยอมให้เพื่อนลอกข้อสอบ คนที่บอกอาจารย์และผ.อ.ว่าเพื่อนคนหนึ่งลอกข้อสอบนางเอก (จนทำให้เรื่องราวใหญ่โตและเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบงก์ยอมร่วมหัวจมท้ายในโครงการโกงระดับชาติ) คนที่ถูกทำร้ายเจ็บปางตายจนทำให้หมดสิทธิ์สอบชิงทุนไปสิงคโปร์ คนที่ยอมกลับมาทั้งที่รู้ว่าโดนลอบทำร้ายเพราะเห็นโฆษณาที่ทำให้คิดถึงแม่ (เป็นอีกช็อตที่เราร้องไห้ ขณะที่คนอื่นหัวเราะ) คนที่ท้ายที่สุดแล้วกลับกลายเป็นเสนอข้อเสนอบางอย่างให้กับลิน...สำหรับเราแล้ว...การเห็นคนคนหนึ่งกลายเป็นอย่างนี้นี่...เราเข้าใจความรู้สึกลินเลยค่ะว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะน้ำมือเราด้วยส่วนหนึ่ง
และเราก็ชอบฉากระเบิดอารมณ์นั่นมาก คือ...เราเอ๊ะตั้งแต่แบงก์ไปฟื้นที่ที่นั่นแล้วค่ะว่า...มันดูไม่ปกติ แล้วพอพัฒน์พูดเราก็แบบ..เอ๊ะ แล้วก็จริงเมื่อแบงก์กระโจนเข้าหา คือ ไม่แปลกใจนะคะ ที่พัฒน์เป็นคนทำ แค่ไม่แน่ใจว่าคนอื่นรู้เรื่องด้วยมั้ย (แต่หนังก็เฉลยได้ดีค่ะ)
สำหรับตัวละครอื่นๆ อย่างเกรซ ซึ่งมันก็ก้ำกึ่งว่าใช้เพื่อนเพื่อประโยชน์ของตัวเองเท่านั้นหรือเปล่า แต่ก็มีสองช็อตที่ทำให้เรารู้สึกว่า ไม่ใช่ (และนั่นคือทำให้เราชอบการสร้างตัวละครของหนังเรื่องนี้มากเลยนะคะ คือ...มันไม่มีใครขาวหมด ดำหมด มันเทาๆ และมีความเป็น "คน" ดีอ้ะ) สองช็อตนั้นก็คือ ช็อตที่หลังจากที่แบงก์รู้ความจริงเรื่องถูกลอบทำร้าย แล้วเกรซบอกกับลินว่าไม่ทำก็ได้ ขอแค่อย่าโกรธเท่านั้น ซึ่งทำให้เห็นว่า เกรซเห็นความสำคัญของความเป็นเพื่อนมากกว่า หรือตอนที่ลินออกจากไลน์กลุ่มแล้วเกรซร้องไห้ นั่นก็เป็นอีกช็อตที่สั้นแต่บอกอะไรได้เยอะค่ะ
สำหรับพัฒน์ ที่จริงเป็นลักษณะตัวละครที่เราไม่ชอบเอาซะเลยนะคะ ทั้งในชีวิตจริงและในหนัง แต่ขณะเดียวกันหนังก็ทำให้เราไม่ถึงกับเกลียดพัฒน์ค่ะ
คือ มันอาจจะมีความหมั่นไส้อยู่ (ในการที่เมิงไม่คิดจะพยายามอะไรเลยนอกจากใช้เงินแก้ปัญหาทุกสิ่งในโลกชิมิ?) แต่หลายๆ ช็อตก็แสดงให้เห็นว่าที่จริงพัฒน์เองก็มีทักษะในการโน้มน้าวผู้คน (ตั้งแต่บอกเรื่องแป๊ะเจี๊ยะให้ลินรู้แล้ว) มีการตัดสินใจและรู้วิธีการที่จะให้ได้ผลอย่างที่ตนเองต้องการ (แม้จะโหดมากกับการทำอย่างนั้นกับแบงก์) คือ เรียกได้ว่าเป็นคนฉลาด แต่ไม่เอามาใช้กับการเรียนหนังสือแค่นั้นเอง (ตามประสาลูกคนมีฐานะส่วนใหญ่ ที่พอมีเงินเลยไม่ค่อยมีความพยายามเรื่องการเรียนกันสักเท่าไหร่ง่ะนะ เง่อ) แต่ช็อตที่พัฒน์เอื้อมมือมาจับมือตอนเกรซร้องไห้ที่เห็นไลน์นั่นก็ทำให้เราเห็นมุมดีๆ ของพัฒน์น่ะค่ะ
นอกจากนั้นอีกตัวละครหนึ่งที่เราชอบก็คือ พ่อของลิน ค่ะ
คือก่อนอื่นสารภาพก่อนเลยว่าจำไม่ได้ว่าเป็นคุณธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ตอนเห็นเครดิตนี่งงเลยว่าใช่จริงเหรอ 555 คือ ไม่เห็นออกสื่อมานานมากค่ะ แล้วการแสดงในหนังเรื่องนี้ก็ค่อนข้างเป็นธรรมชาติมาก มันเห็นทั้งความรักความห่วงใยที่พ่อจะมีให้กับลูกสาวคนหนึ่ง ดูเป็นครูธรรมดาๆ ที่อยากให้ลูกตัวเองมีชีวิตที่ดี และพร้อมจะให้อภัยเมื่อลูกทำผิด คือ เราเป็นลินเราก็คงรักพ่อตัวเองมากๆ เหมือนกันค่ะ
เอาหละค่ะ จบการวิเคราะห์ตัวละครและการแสดง รวมทั้งการสร้างพัฒนาการของตัวละครหลักแต่ละตัวอย่างลินและแบงก์ด้วยค่ะ ที่เราถือว่าดีมากๆ สำหรับหนังเรื่องนี้แล้ว การสอดแทรกอะไรบางอย่างที่ไม่เป็นการบอกตรงๆ กับคนดู ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างของหนังเรื่องนี้ (รวมทั้งการแอบเสียดสีในบางเรื่องด้วยนะคะ) ไม่ว่าจะเป็นคำพูดของลินที่พูดกับพ่อว่า "ทำไมต้องย้ายลินมาที่ใหม่ ลินไม่เหมือนแม่นะ ลินอาจจะมีความสุขอยู่แล้วกับที่เดิมก็ได้" ซึ่งทำให้คนดูรู้ว่าที่พ่อกับแม่ลินต้องหย่ากันนั้นเพราะอะไร การสร้างเรื่องราวให้ลินได้ฉุกคิดเรื่องความต่างของเวลาด้วยการวีดิโอแชทของแขกคนหนึ่ง (รวมทั้งคำพูดด้านหลังเสื้อที่ลินใส่วันนั้นอย่าง Making it happen ด้วย) หรือชื่อโรงพิมพ์ของเกรซกับคำว่า "ซื่อตรง" ที่เอามาใช้ในขั้นตอนหนึ่งของการโกง ฯลฯ
นอกนั้นประเด็นเรื่องของระบบการศึกษาของไทยก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่สอดแทรกไว้ได้อย่างน่าสนใจค่ะ ไม่ว่าจะระบบการสอนพิเศษของครูบางคน การเสียค่าแป๊ะเจี๊ยะ การตัดสินอะไรบางอย่างเพียงเพราะต้องการทำให้เด็กหลาบจำหรือแสดงถึงอำนาจบารมีของตัวเอง ฯลฯ
สำหรับบางองค์ประกอบที่มีบางคนตั้งข้อสงสัย ไม่ว่าจะเป็น เด็กมอปลายมันคิดอะไรได้ขนาดนี้เลยเหรอนี่...เอิ่มมมมม...อิชั้นสมัยมอปลายก็คิดอะไรแบบนี้ได้ค่ะ 555 เรื่องไหวพริบในการแก้ปัญหาของลินที่ที่จริงแล้วหนังก็สอดแทรกมาเรื่อยๆ อย่างการต่อรองกับผ.อ.ร.ร.ใหม่ (คิดว่าลินไม่ตั้งใจกันเหรอคะที่จะแจกแจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายแบบนั้น) การแก้ปัญหาที่เกรซส่งรองเท้าเลยออกมาจากที่นั่ง ฯลฯ มันแสดงให้เห็นว่าลินไม่ใช่แค่คนฉลาดในเรื่องเรียน แต่มีไหวพริบมาก รวมทั้งการใช้โค้ดในการบอกคำตอบ โดยไม่ใช่แค่ชูนิ้วใดนิ้วหนึ่งที่เสี่ยงต่อการจับได้ หรือการวางแผนอย่างรัดกุมทุกขั้นตอน (แต่ก็มีหลุดในท้ายที่สุดตามประสาเด็ก) ในการโกงด้วย
สรุปแล้วเรื่องนี้ นอกจากเนื้อเรื่องจะสะท้อนสังคมและชวนให้ฉุกใจคิดถึงอะไรบางอย่างแล้ว หนังยังมีองค์ประกอบของความสนุก การดำเนินเรื่องที่ชวนลุ้น เขียนบทดี นักแสดงแสดงได้ดี ก็ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังไทยอีกเรื่องที่อยากเชียร์ให้ไปดูกันนะคะ
ปฏิทินธรรม
วันเสาร์ที่ 1 เมษายน 2560
1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน 2560 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่) 1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น. ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ //www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447
2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
3. ฟังธรรมและปฏิบัติกรรมฐาน โดย พระอาจารย์มานพ อุปสโม ศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เขาดินหนองแสง จ.จันทบุรี แสดงธรรมและนำปฏิบัติกรรมฐาน
เวลา 09:30 น. 13:30 น. พัก 11.00-12.00 น.
ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2
วันพุธที่ 5 เมษายน 2560
1. งานทำบุญเนื่องในวันสงกรานต์ กฟผ.
ณ ห้องชมรมพุทธศาสตร์ ชั้น 7 อาคาร 1กฟผ. งามวงศ์วาน
2. ฟังพระธรรมเทศนา บรรยายธรรมโดย ท่านหลวงพ่อพระครูโอภาสวุฒิกร (หลวงพ่อโสภณ โอภาโส) เจ้าอาวาสวัดบึงลัฏฐิวัน จ.พระนครศรีอยุธยา เวลา 17.30 น.
ณ หอพระ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต
3. ฟังธรรม หลวงปู่ไม อินทสิริ วัดป่าหนองช้างคาว จ. อุดรธานี
ณ อาคารตึกสำนักงานใหญ่ เอไอเอ ห้องพระชั้น 8 ถ. สุรวงศ์ บางรัก กทม.
วันพฤหัสที่ 6 เมษายน 2560
1. พิธีอัญเชิญพระอัฐิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ขึ้นประดิษฐานบนบุษบกหินอ่อน
ณ พระบรมธาตุเจดีย์มหาจักรีพิพัฒน์ วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
วันศุกร์และเสาร์ที่ 7-8 เมษายน 2560
1. พิธีถวายผ้าป่าสามัคคี ถวายเป็นมุทิตาสักการะอายุวัฒนมงคล 72 ปี หลวงพ่อท่านพระครูโอภาสวุฒิกร (หลวงพ่อโสภณ โอภาโส)
ณ วัดบึงลัฏฐิวัน สาขาที่ 20 วัดหนองป่าพง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันอาทิตย์ที่ 9 และ 23 เมษายน 2560 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน) 1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน 2560
1. อบรมอานาปานสติ ครั้งที่ 28 โดย พระอาจารย์ สุชีพ สุธมฺโม วัดบุปผาราม
ณ อาคารธรรม ดีรุ่งโรจน์
รายละเอียดดูได้ที่ลิงก์นี้
วันศุกร์ ที่ 14 เมษายน 2560
1. ร่วม "อบรมธรรมวาระพิเศษเพื่อเป็นสิริมงคลและสรงน้ำพ่อแม่ครูอาจารย์ เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์"
ณ ศาลาหลวงพ่อทรงธรรม วัดอโศการาม
วันเสาร์ที่ 15 เมษายน 2560
1. ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าประจำปี ปีสุดท้าย สมทบทุนสร้างพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล
ณ วัดแสงธรรมวังเขาเขียว ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
วันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน 2560 (จัดทุก อาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. 19 มีนาคม- ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
วันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน 2560
1. ฟังพระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรังสี วัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา
เวลา 18.00-20.00 น.
ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
วันเสาร์ที่ 22 เมษายน 2560 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)
1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน
เมตตารับบาตรโดย หลวงปู่สมศักดิ์ ปัณฑิโต หลวงพ่อดาด สิริปุญโญ หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม หลวงพ่อบุญทัน ฐิตสีโล และพระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 22 และ 23 เมษายน 2560 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด
ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.479376905439284.105742.335629013147408/701496553227317/?type=1&theater
วันจันทร์ถึงวันพุธที่ 24 - 26 เมษายน 2560
1. บำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร) ครบรอบมรณภาพ ปีที่ 56 และพระเทพโมลี (สำรอง คุณวุฑฺโฒ) ครบรอบมรณภาพ ปีที่ 18 อดีตเจ้าอาวาสวัดอโศการาม
ณ วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
รายละเอียดดูได้ที่ลิงก์นี้
วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน 2560
1. ทอดผ้าป่าสามัคคี ครั้งที่1 เพื่อร่วมสมทบทุนสร้าง พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
ณ วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) บ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี เวลา 9.30 น.
ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์นี้
2. พระภาวนาเขมคุณ วิ. (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี) วัดมเหยงคณ์ จ.อยุธยา อบรมปฏิบัติธรรม
เวลา 15:00 น. 16:30 น.
ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2
3. ฟังธรรม พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม เวลา 13.00-16.00 น.
ณ อาคารปฏิบัติธรรมชั้น 4 มูลนิธิมายา โคตมี
ดูรายละเอียดได้ที่ ลิงก์นี้
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ1,469,696+ 4474977=5944673 /12731/1451 Movie Blog
เนื้อหาของเรื่องดีโดนใจหลายๆคน
หนังน้อยเรื่องหรือแทบไม่มีเลยที่จะกล้าพูดถึงกาศึกษาของไทยแบบนี้ ชอบอ่ะ
ไว้มีเวลาว่าจะไปดูมั่งจ้ะ
วันนี้ชมอย่างเดียวก่อนน้าาา