กองเรือ SILVERSEA เป็นกองเรือสัญชาติอิตาลีนะคะ ซึ่งมีด้วยกันหลายลำค่ะ ไม่ว่าจะ Silver Whisper (382 guests) Silver Wind (296 guests) Silver Spirit (540 guests) Silver Cloud (296 guests) ซึ่งอีกไม่กี่เดือนก็จะมี Silver Muse เพิ่มมาอีกลำด้วยนะคะ แต่วันนี้เราจะได้ไปชมเรือ Silver Shadow ซึ่งรับผู้โดยสารทั้งสิ้น 382 ท่านค่ะ เรือลำนี้มีขนาดเรือ 28,000 ตัน ซึ่งปกติรับได้ 600-700 คนนะคะ แต่เรือรับเพียงจำนวนเท่านี้เพราะต้องการให้มีความสะดวกสบายในหลายๆ ด้านให้กับแขกที่เลือกมาพัก ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าต่อไปนะฮับ
โดยปกติการใช้บริการเรือลำนี้ จะไม่สามารถขึ้นที่ท่าเรือกรุงเทพฯ ได้นะคะ เนื่องจากระบบหลายๆ อย่างยังไม่ค่อยจะเอื้ออำนวย ต้องไปขึ้นที่สิงคโปร์หรือฮ่องกงค่ะ อันนี้คือเป็นการขึ้นไปเซอร์เวย์ซึ่งใช้โอกาสในการที่เขามาจอดให้ผู้โดยสารได้เที่ยวกรุงเทพฯ กัน ก็เลยขึ้นไปในเรือได้ค่ะ ซึ่งการไปที่ท่าเรือแห่งนี้ มีหลายประตูด้วยกันนะคะ กรุณาตรวจสอบให้ดีว่าต้องเข้าทางประตูด้านไหนค่ะ
รับทราบข้อมูลเบื้องต้นคร่าวๆ แล้วก็ไปกันเลยค่าา
หลังจากแสดงเอกสารยืนยันตนแล้วก็เข้าไปในเรือค่ะ จะเจอโถงที่มีโล่ต่างๆ ประดับอยู่ตามภาพเลยนะคะ เลี้ยวขวาไปก็จะเป็นส่วนของลิฟท์ค่ะ
จากนั้นทาง World Travel Designer ก็ได้พาพวกเราไปพบกับเจ้าหน้าที่เรือผู้จะพาชมเรือลำนี้ที่เล้าจน์นะคะ ซึ่งจุดแรกที่ทางเจ้าหน้าที่พาไปก็คือเธียเตอร์นั่นเอง ซึ่งการเข้าใช้บริการที่นี่ไม่ต้องจองก่อนค่ะ เฟิร์สท์คัมเฟิร์สท์เสิร์ฟนะคะ
เพื่อความไม่งุนงง เอาตัวป้ายนี่มาให้ดูคร่าวๆ แล้วกันค่ะว่าแต่ละชั้นมีอะไรบ้างเนาะ
สำหรับที่ชั้น 7 จะเป็นที่ตั้งของ La Terrazza / Le Champagne / The Connoisseur's Corner / The Humidor by Davidoff และ Conference / Card room ค่ะ
La Terrazza นี่จะมีทั้งส่วนที่เป็นห้องแอร์และด้านนอกริมระเบียงนะคะ ซึ่งถ้าท่านใดไม่ขี้ร้อน ก็จะได้วิวงามๆ เป็นอาหารตาค่ะ
ที่นี่จะมีสระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 8 นะคะ (ที่เรายืนถ่ายรูปนนี่คือที่ชั้น 9 ซึ่งเป็น Jogging Track ค่ะ) วันนั้นก็มีแขกหลายท่านที่ไม่ลงไปเที่ยว แต่อยู่ใช้ facilities ของทางเรือค่ะ
วิวตรงบริเวณนี้กับการได้เห็นกรุงเทพฯ ในอีกมุมมองนี่มันสวยจริงๆ นะคะ
จากนั้นก็ขึ้นไปที่ชั้น 10 กันค่ะ จะเป็ฯส่วนของฟิตเนส สปา บิวตี้ซาลอนและ The Observation Lounge นะคะ
ที่ชอบอีกอย่าง (และเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า แขกที่พักที่เรือนี้ก็ชอบมาก) ก็คือ เค้ามีบริการเครื่องซักผ้า รีดผ้าที่ถ้าแขกมาทำเองก็ฟรีอยู่ที่ชั้น 8 ด้วยค่ะ เจ๋งปะหละ
จากนั้นเราก็ไปชมห้องพักกันค่ะ ผ่านห้องพักที่สมเด็จพระเทพฯ เคยมาพักที่ชั้น 8 ด้วยนะคะ (ท่านเสด็จประพาสไปอลาสก้าค่ะ)
สำหรับห้องพักของเรือลำนี้ จะเป็นห้อง Suite ทุกห้องค่ะ ซึ่งมีทั้งหมด 7 ไทพ์ด้วยกันนะคะ เรียงลำดับจากแพงสุดไปแพงน้อยที่สุดนะคะ
1. Owner's Suite
2. Grand Suite
3. Royal Suite
4. Silver Suite
5. Medallion Suite
6. Veranda Suite
7. Vista Suite / Terrace Suite
ซึ่งข้อดีมากๆ ของเรือ Silversea ก็คือ เค้าไม่มีห้องแบบ inside cabin เลยค่ะ นั่นหมายความว่า ทุกห้องจะเห็นวิวภายนอกเรือนะคะ (แต่มีทั้งห้องแบบมีระเบียงกับไม่มีระเบียงค่ะ) และข้อดีอีกอย่างก็คือ ถ้าเป็นห้องไทพ์เดียวกัน ไม่ว่าจะอยู่ชั้นไหน จะราคาเท่ากันหมดค่ะ ไม่ใช่ว่าชั้นสูงๆ จะแพงกว่าชั้นล่างๆ ซึ่งเราว่าโอเคมากๆ เลยแหละ
รับรู้ข้อมูลเบื้องต้นแล้วก็ไปดูห้องกันค่าา ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่า นี่คือห้องพื้นฐานของเรือลำนี้นะคะ จะต่างกันแค่มีระเบียงหรือไม่มีระเบียงแค่นั้นเองค่ะ ซึ่งขอบอกว่าสวยและดูดีมากๆ พอๆ กับโรงแรมเลยหละค่ะ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน โซฟา ห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า TV และสิ่งอำนวยความสะดวกครบเหมือนโรงแรมด้วยนะคะ
ข้อดีมากๆ อีกอย่างก็คือ เรือ Silversea นั้นจะเป็นแพ็คเก็จ All inclusive concept ทั้งสิ้นเลยค่ะ คือรวมค่าบริการหลักๆ ทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ค่า tips / อาหาร / room service / เครื่องดื่มทุกชนิด / ไวน์ขาว,แดง / แชมเปญ จะรวมในค่าเรือแล้ว (พวกไวน์หรือแชมเปญ premium เช่น Opus one จะไม่รวมนะคะ) รวมทั้งมี Butler Service ให้ด้วยนะคะ (เรือรับแขกได้ 382 คน พนักงานบนเรือทั้งสิ้น 302 คนค่ะ)
ทั้งนี้ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ US$ 3,xxx ระยะเวลา 7 วันขึ้นไปค่ะ
สำหรับห้องต่อไปที่ไปชมจะเป็นห้องแบบ 2 bedrooms นะคะ เปิดประตูเข้าไปก็จะมีสองประตูแยกระหว่างห้องตามภาพเลยค่ะ ห้องฝั่งซ้ายจะเป็นห้องมาตรฐาน เหมือนๆ ที่ชมมาเป็นห้องแรกน่ะนะคะ ซึ่งแต่ละห้องก็มีห้องน้ำในตัวค่ะ
ส่วนอีกห้องนี่จะเป็นห้องที่มีพื้นที่ใหญ่กว่าค่ะ เริ่มด้วยโซนของ living room ซึ่งจะมีห้องสุขาให้เพิ่มอีกต่างหากหนึ่งห้องนะคะ
โดยโซฟาในห้องรับแขกนี่เป็นโซฟาเบด สามารถทำเป็นเตียงให้พักเพิ่มได้อีกหนึ่งท่านด้วยค่ะ
ส่วนห้องนอนด้านใน ก็จะมีห้องน้ำส่วนตัวให้อีกหนึ่งห้องค่ะ
ดูห้องแล้วก็ไปดู facilities อื่นๆ กันต่อค่ะ ที่ชั้น 5 จะเป็นที่ตั้งของ Casino / Bar และ Boutiques นะคะ แต่เนื่องด้วยตอนนี้จอดที่ท่าเรือ ทั้งสองอย่างจึงไม่เปิดบริการค่ะ แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า คาสิโนที่นี่จะแค่เล็กๆ นะคะ เพราะนโยบายของทางเรือ ไม่ได้เน้นให้แขกเล่น แต่เน้นให้ออกมาใช้ facilities ต่างๆ มากกว่าค่ะ
จากนั้นระหว่างทางที่เจ้าหน้าที่จะพาไปรับประทานอาหารกลางวัน ก็ผ่านบริเวณที่มีติดประกาศรางวัลก็เลยถ่ายมาฝากกันด้วยค่ะ
ผ่าน Concierge กับ Reception ซึ่งอยู่ที่ชั้น 6 ไป
ห้องอาหารที่เราจะใช้ในการรับประทานอาหารมื้อนี้ค่าา
มื้อเที่ยงที่เราจะได้ลองกินกันนี่เป็นคอร์สปกติของแขกที่พักที่นี่นะคะ พร้อมไวน์ขาว ไวน์แดงให้เลือกดื่ม เมนูทั้งหมด มีด้วยกันดังนี้ค่ะ
- Pan-seared Tiger Prawn
- Escalope of Foie Gars with Candied Apple and Fig Chutney
- Char-grille Fresh Fish of the Day
- Champagne and Strawberry Sorbet
- Roasted Tender Beef
- Harmony of Desserts (ขนม 4 ชนิดใน 1 จาน)
- Coffees and Teas
ซึ่งพอนั่งสักพัก พนักงานก็มาสอบถามเรื่องจานหลักว่ามีใครทานอะไรไม่ได้มั่งมั้ย จากนั้นก็บริการขนมปังค่ะ ถามพนักงานว่าแนะนำตัวไหน เค้าแนะนำบาร์แกตต์ ซึ่งเปลือกไม่แข็งเท่าหลายๆ ที่นะคะ ชอบหละ เนื้อก็นุ่มเหนียวดีค่ะ จิ้มกับน้ำมันมะกอกและบัลซามิกที่ตั้งไว้ให้บนโต๊ะค่ะ
จากนั้นก็เสิร์ฟเครื่องดื่มตัวแรกค่ะ
ค่อนข้างสดชื่นนะคะ อมเปรี้ยวนิดๆ เหมาะสำหรับเรียกน้ำย่อยดีค่ะ
อมุสบุชนะคะ กับเมนู Pan-seared Tiger Prawn
กุ้งสดเด้งดึ๋งมาก มีความหอมมันของเนยเจือกำลังดี กินคู่กับผักข้างล่าง รสชาติกลมกล่อมค่ะ เป็นเมนูเปิดที่อุ่นท้องให้หิวได้ดีทีเดียว
ต่อไปค่ะ Escalope of Foie Gars with Candied Apple and Fig Chutney
ฟัวร์กราส์ทำมาเหมือนจะเกรียมไป แต่ปรากฏว่าเนื้อในยังชุ่มฉ่ำอยู่นะคะ อร่อยดีค่ะ
ต่อไปกับ Char-grille Fresh Fish of the Day ค่ะ
ปลาทำมาสุกกำลังดี ยังไม่เสียความฉ่ำของเนื้อปลาค่ะ รสชาติจะค่อนข้างเจือเค็มอยู่แล้วนะคะ เราว่าไม่ต้องใส่เกลือเพิ่มค่ะ
ต่อไปเป็น Champagne and Strawberry Sorbet เพื่อล้างปากค่ะ เปรี้ยวๆ สดชื่นและมีกลิ่นกับรสแชมเปญเจือจางๆ ล้างปากได้ดีทีเดียวแหละ
จากนั้นก่อนจะถึงจานหลัก ทางพนักงานก็มาบริการไวน์แดงค่ะ ขาใช้ได้เลย มีเนื้อมีหนังดี ไม่ฝาดค่ะ ดื่มง่ายเลยแหละ
จานหลักค่ะกับ Roasted Tender Beef สั่งแบบมีเดียมแรร์นะคะ
เนื้อนุ่มมากกกก ความหวานของเนื้อยังคงอยู่แบบที่ควรเป็นค่ะ ชิ้นหนาพอควรเลยแหละ แต่เรากินไหวแค่สองชิ้นค่ะ อีกชิ้นให้บุ๊งไป เพราะอิ่มมากๆ จริงๆ อ้ะ
ต่อไปเป็นของหวานแล้วค่ะ กับ Harmony of Desserts (ขนม 4 ชนิดใน 1 จาน ประกอบไปด้วย Fresh Forrest Berry Gratin, Rhubarb Parfait, Hazelnut Creme Brulee และ Chocolate Mousse Crescendo ค่ะ)
แต่ละตัวให้ความอร่อยคนละแบบนะคะ กินแล้วก็เลยทำให้ไม่เลี่ยน เหมือนมันบาลานซ์กันพอดีจริงๆ น่ะแหละ บางอันออกหวาน บางอันอมเปรี้ยว บางอันออกนวล กำลังดีค่ะกับการกินของหวานสี่อย่าง
ปิดท้ายกันด้วยชาและกาแฟค่ะ แน่นอนว่าเราเลือกชา เป็นเอิร์ลเกรย์นะคะ เค้าให้มาเป็นกาเลยแหละค่ะ ที่นี่ใช้ชาของ Ronnefeldt นะคะ
ท่านที่สนใจเดินทางไปกับเรือสำราญในของ Silver Sea ลำนี้ติดต่อสอบถามได้ที่ World Travel Designer ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้ง Silversea Preferred Sales Agent and Representative หรือติดต่อ 092-253-5493 นะคะ
สรุปสำหรับเรือลำนี้นะคะ
เป็นการชมเรือที่ประทับใจและสร้างกิเลสให้เจ้าของบล็อกมากๆ เลยแหละค่ะ ก่อนหน้านี้เจ้าของบล็อกเคยไปชมเรืออีกลำที่ใหญ่กว่านี้ (ซึ่ง...เอ่อ...ยังไม่ได้ทำรีวิว แหะๆ) แม้ว่าเรือลำใหญ่จะมี facilities มากกว่าและดูอลังการ แต่การเป็นเรือลำใหญ่ก็จะมีบางอย่างที่สู้เรือลำเล็กไม่ได้ เช่น เวลาที่ทุกคนจะมาใช้แต่ละ facilities ในเวลาเดียวกัน มันวุ่นวายกว่าเยอะมาก (นึกถึงภาพคนเป็นพันๆ คนค่ะ ต่อให้มีสองหรือสามสระก็เถอะนะ) การใช้เวลาในการโหลดขึ้น-ลงเรือเมื่อถึงแต่ละพอร์ท และการที่ห้องพักจะมีแบบ inside cabin ซึ่งจะทำให้ไม่เห็นวิวใดๆ ทั้งสิ้นน่ะนะคะ เพราะฉะนั้นเจ้าของบล็อกว่า ใครที่ต้องการความ exclusive ความสงบและเป็นส่วนตัว เรือ Silversea ก็เป็นคำตอบหนึ่งที่น่าไปใช้บริการนะคะ
ปฏิทินธรรม
วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2560 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่) 1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น. ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ //www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447
2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
วันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2560
1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 8 และ 22 มกราคม 2560 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน) 1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2560
1. ชมรมพุทธธรรมกรรมฐาน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยขอเชิญร่วมทำบุญถวายพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เวลา 07.00 น.
ณ อาคาร 15 หอประชุมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 28-29 มกราคม 2560 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด
ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.479376905439284.105742.335629013147408/701496553227317/?type=1&theater
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ1,469,696+ 4062288=5531984 /12587/1357
พร้อมท่องเที่ยวไปกับเรือ
และบรรยากาศอาหาร
เริ่ด...