Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
25 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 

ตอนที่ 123 – บินลัดฟ้าเพื่อหาเธอ (อีกครั้ง)...

***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****


ที่กองถ่ายรายการ Infiniti Girls ช่วงพักเบรคตอนบ่าย ฮวางโบนั่งมองดูนาฬิกาข้อมือด้วยท่าทางกระสับกระส่าย ก่อนตัดสินใจกระซิบบอกอึนยี “พี่คะ ชั้นคิดว่า ชั้นคงต้องจะอยู่ถ่ายต่อฉากตอนจบไม่ได้น่ะค่ะ”

อึนยีทำหน้างงๆแล้วถามกลับทันที “ทำไมล่ะ?”

เธอตอบด้วยสีหน้าที่กังวลใจ “ชั้นต้องไปถึงสนามบินกิมโปอย่างช้าที่สุดตอน 6 โมงเย็นค่ะ”

“6 โมงเย็นเหรอ?”

“ใช่ค่ะ”

“แล้วเธอได้ตั๋วเรียบร้อยแล้วหรือเนี่ย?”

“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ”เธอตอบด้วยสีหน้ากังวล

“งั้นทำไมถึง...(ไปสนามบินล่ะ)?”

“คือชั้นลงชื่อไว้ในรายชื่อผู้โดยสารสำรองน่ะค่ะถ้าเกิดมีใครยกเลิกการเดินทางกระทันหัน ชั้นก็อาจจะโชคดีก็ได้”

“นี่เธอ คิดว่ามีเธอคนเดียวรึไงที่ลงชื่อไว้เป็นผู้โดยสารสำรองน่ะ?”

“นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ชั้นต้องรีบไปรอที่สนามบินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ไงค่ะ เผื่อว่าชั้นจะได้เป็นคนแรกในรายชื่อไงคะ...”

“นี่ฮวางโบ ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในระหว่างการทำงานน่ะจ๊ะ เธอก็รู้ใช่มั้ย ว่าการทำแบบนี้มันดูไม่สมกับเป็นมืออาชีพเลยนะ?”

ฮวางโบก้มหน้าด้วยความรู้สึกละอายใจก่อนจะตอบเสียงอ่อยๆไปว่า “ชั้นรู้ค่ะพี่”

อึนยีบ่นแกมต่อว่านิดๆ “เฮ้อ...เธอนี่เป็นเอามากจริงๆเลยนะ”

หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูหดหู่ว่า “ใช่ค่ะ...ชั้นรู้ตัวดี”

อึนยีมองหน้าโบด้วยความเข้าใจ “วิ้ว...เอางี้แล้วกัน..เธอไปบอกโปรดิวเซอร์รายการแล้วกันว่าเธอมีธุระต้องต้องรีบไป...ในธุรกิจบันเทิงแบบนี้มีหลายคนที่อาจจะมีสองงานชนกันได้...เขาน่าจะเข้าใจใช่มั้ย?”

“......”

อึนยีก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะพูดต่อไปว่า “ชั้นว่าเรายังมีเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง บางทีพวกเราน่าจะถ่ายทำเก็บส่วนที่เหลือได้หมดภายในชั่วโมงนึงนะ”

“ชั้นใม่ควร...จะทำอะไรแบบนี้ใช่มั้ยคะ?” เธอตอบด้วยความรู้สึกผิด เพราะนิสัยจริงของเธอแล้ว คือเรื่องงานมาก่อนสิ่งอื่นใด หากไม่มีอะไรหนักหนาจริงๆเธอคงไม่ทำเช่นนี้แน่นอน

“แน่นอน..แต่ยังไงชั้นคงไม่สามารถจะบอกเธอว่าควรจะทำอะไรอีกต่อไปแล้วล่ะ...”

หญิงสาวทำหน้ากังวลพร้อมกับพูดรำพึงว่า “ป่านนี้เขาคงกำลังตั้งตารอชั้นอยู่แน่ๆเลย”

อึนยีทำหน้าเคืองหน่อยๆก่อนจะร้องออกมาว่า “อ้ากกส์ ดูเธอสิ นี่เธออาจจะจมน้ำตาตัวเองตายไปเลยก็ได้นะ! นี่เธอรักเขามากขนาดนั้นจริงๆเหรอนี่?”

ฮวางโบตอบน้ำตาซึ่งกำลังไหลอาบแก้มว่า “.ใช่ค่ะ”

“โอ พระเจ้า เธอนี่ช่างน่าสงสารสุดๆเลยอ่ะ”อึนยีกล่าวด้วยความอ่อนใจ

ที่ลานจอดรถด้านนอกสถานที่ถ่ายทำรายการ IG

ฮวางโบซึ่งนั่งอยู่บนรถและกำลังคาดเข็มขัดนิรภัยพูดว่า “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างน่ะค่ะพี่”

อึนยีซึ่งยืนอยู่ข้างๆรถรีบพูดเตือนว่า “ขับรถระวังๆหน่อยล่ะ ถ้าเธอรีบร้อนมากเกินไปอาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาได้นะ”

ฮวางโบพยักหน้า “ทราบแล้วค่ะ...พี่สาวที่เคารพ”

“ขอบคุณพระเจ้าที่การถ่ายทำมันเสร็จทันเวลาพอดี..เอาล่ะรีบไปได้แล้ว” อึนยีว่า

“โอเคค่ะ พี่ช่วยสวดขอพรให้ชั้นได้ที่นั่งด้วยแล้วกันนะคะ”

อึนยีพูดยิ้มๆว่า “ชั้นสวดให้ได้นะ แต่มันขึ้นอยู่กับพระองค์ว่าจะรับฟังคำสวดขอพรจากชั้นรึเปล่าน่ะสิ เนี่ยละปัญหา”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนว่า “งั้นพี่ก็ช่วยกรุณาตั้งใจสวดให้หนักๆเลยนะคะพี่..อย่าทำเป็นเล่นๆเพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเองน่ะ รู้หรือเปล่า”

อึนยีถามยิ้มๆว่า “ต๊าย ยังมาทำปากดี ยังไม่รับไปอีก เร็วเข้า สายแล้วน่ะ ?“

“ชั้นจะไปเดี๋ยวนี้แล้วล่ะค่ะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับเหยียบคันเร่งเคลื่อนรถออกไปจากที่นั่น

สนามบินกิมโป ที่เคาน์เตอร์เช็คอินบริเวณหน้าประตูขึ้นเครื่อง....
ฮวางโบยืนกระสับกระส่ายอยู่หน้าเคาน์เตอร์ หญิงสาวเผลอกัดเล็บตัวเองเนื่องจากความเครียดในขณะที่สายตาก็จ้องมองไปที่นาฬิกาบนกำแพงซึ่งบอกว่าขณะที่เป็นเวลา 6:50 pm

เธอสวดมนต์อ้อนวอน.”พระผู้เป็นเจ้า...ได้โปรดกรุณา ลูกด้วยเถอะค่ะ..ช่วยให้ลูกได้ไปด้วย ลูกรู้ดีว่าสิ่งที่กำลังขอ..ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับท่านเลย...แต่ยังไง...ท่านไม่ได้ยินคำสวดขอพรของลูกและไม่คิดจะช่วยลูกบ้างเลยหรือคะ...? ลูกรู้ว่าพวกเราสองคนไม่ได้มาพบกันโดยบังเอิญ...ใช่มั้ยคะ? พระองค์จงใจส่งเขามาให้กับลูก...อย่างนั้นใช่มั้ยคะ? แล้วดูตอนนี้สิคะว่าท่านได้ทำให้ลูกตกหลุมรักเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้นแบบนี้

ดังนั้นท่านต้องรับผิดชอบกับเรื่องอย่างเต็มที่ เพราะว่าท่านทำให้เราสองคนมาอยู่ด้วยกัน..ลูกรู้ว่ามันอาจจะฟังดูเหมือนเด็กๆ...แต่...ลูกก็เป็นลูกของพระองค์คนนึง...ดังนั้นลูกยังทำตัวเป็นเด็กในสายตาของท่านก็คงไม่ผิดอะไร...ได้โปรดช่วยลูกด้วยเถอะนะคะ”

เธอชำเลืองมองนาฬิกาบนกำแพงอีกครั้งซึ่งขณะนี้เป็นเวลา 6:58 pm แล้ว
”โอ พระเจ้า ได้โปรดเถอะค่ะ จวนจะหมดเวลาอยู่แล้ว!!! พวกเขากำลังจะประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้วค่ะท่าน!!!”

เธอหันไปถามเจ้าหน้าที่เช็คอินว่า “ไม่มีผู้โดยสารที่ยกเลิกการเดินทางเพิ่มแล้วหรือคะ?”

พนักงานสาวตอบ “ยังไม่มีนะคะ...เราเพิ่งให้ที่สำรอง 2 ที่นั่งไปกับสองคนที่มาก่อนหน้าคุณน่ะค่ะ”...

“ถ้างั้น...ชั้นก็เป็นคนต่อไปใช่มั้ยคะ?”เธอถามด้วยสีหน้าอย่างมีความหวัง

“ใช่ค่ะ เพราะว่าเราต้องทำตามคิว ใครมาก่อน ได้สิทธิก่อนค่ะ.”..

ฮวางโบก้มลงมาองนาฬิกาข้อมือและเห็นว่าเป็นเวลา 7:08 pm จึงถามต่อไปว่า “ คุณปิดประตูขึ้นเครื่องตอนกี่โมงคะ?”

พนักงานสาวเหลือบตามองดูเวลาก่อนจะตอบว่า “คุณต้องขึ้นเครื่องอย่างน้อย 20 นาทีก่อนเวลาเครื่องบินขึ้น...และคุณยังต้องใช้เวลาในการเช็คอินกระเป๋าสัมภาระของคุณด้วยนะคะ”...

เธอตัดพ้ออยู่ในใจ <20 นาทีก่อนเครื่องออกงั้นเหรอ? พระเจ้า นี่มันบ้าชัดๆ>

ทันให้นั้นเองเสียงโทรศัพท์ที่เคาน์เตอร์ก็ดังขึ้นมา

“สวัสดีค่ะ สนามบินกิมโป ดิฉันโอฮานิรับสายค่ะ” เจ้าหน้าที่รับสาย

ฮวางโบได้แต่ยืนลุ้นด้วยความกระวนกระวาย...

เสียงเจ้าหน้าที่พูดกับปลายสายต่อไปว่า “โอเคค่ะ...คุณทราบใช่มั้ยคะว่า...ถ้าคุณยกเลิกตั๋วของคุณตอนนี้ คุณจะไม่สามารถหาที่นั่งในไฟลท์ถัดไปได้นะคะ?”

ฮวางโบยืนหัวใจเต้นตูมตามด้วยความลุ้นสุดขีด “ช่วยรีบๆกันหน่อยได้มั้ย”

“โอเคค่ะ” เสียงพนักงานตอบก่อนจะหันมามองฮวางโบและพูดกับคนที่ปลายสายว่า “ขอโทษนะคะ คุณกรุณารอชั้นซักครู่นะคะ? ชั้นจะต้องออกบัตรโดยสารขึ้นเครื่องใหม่.” ขณะที่พูดก็รัวนิ้วลงบนแป้นคีย์บอร์ดก่อนจะพูดต่อไปว่า “โอเคค่ะ...อีกสักครู่ชั้นจะโทรกลับไปนะคะ” หลังจากวางสายก็หันมาพูดกับฮวางโบว่า “คุณได้ที่นั่งแล้วนะคะ...ขอเวลาชั้นอีกซักครู่ค่ะ”

เธอยืนอึ้งพูดไม่ออกด้วนความดีใจและโล่งใจสุดๆ “ ขอบคุณพระเจ้า และพี่อึนยีด้วยค่ะ!!!”

ภายในเครื่องบินซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังโตเกียว
ฮวางโบพูดกับตัวเอง ”ชั้นกำลังไปหาเธอ...ไม่ต้องห่วงเรื่องที่จะมารับชั้นที่สนามบินหรอกนะ...ชั้นสามารถหาทางไปที่โรงแรมได้ด้วยตัวเอง

”นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วสินะที่ชั้นขึ้นเครื่องบินไปหาเธอ...ไม่เคยมีซักครั้งที่ชั้นจะไม่ตื่นเต้นและรู้สึกปั่นป่วนอยู่ในท้องตลอดเวลา...”

”ในครั้งแรก ชั้นค่อนข้างจะระมัดระวังสงวนท่าทีมากกว่าที่จะคาดหวังอะไรจากเธอ...ชั้นไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำให้ใจของชั้นมันสั่นอยู่ภายในนั้นคืออะไรกันแน่...เพราะว่าตอนนั้นชั้นรู้สึกกลัวมาก...”

“ชั้นคิดว่าชั้นต้องการจะยึดติดกับความกลัวนั้นเอาไว้...เพราะชั้นกลัวว่าเธอจะลืมชั้นไปแล้ว....ชั้นได้แต่รู้สึกขอบคุณ ที่ชั้นสามารถไปหาเธอได้ก็เพราะรายการเรียลลิตี้โชว์...”

“สำหรับตอนนี้...ชั้นกำลังเดินทางไปหาเธอโดยปราศจากความกลัวหรือการระมัดระวังสงวนท่าทีใดๆทั้งสิ้น...ชั้นก็แค่อยากจะอยู่กับเธอเท่านั้น...”

”ชั้นรู้สึกขอบคุณที่ชั้นสามารถไปหาเธอ...ซึ่งเป็นฝ่ายที่มาหาชั้นทุกๆคืนโดยตลอด...ถึงแม้ว่าเธอจะหลับสนิทเป็นตายหลังจากที่เจอหน้าชั้นได้ไม่กี่นาที...แต่ยังไงการที่ชั้นได้เห็นเธอนอนอยู่ข้างๆ...ทำให้ชั้นรู้สึกขอบคุณ...และเสียใจในเวลาเดียวกัน...”

“ชั้นเสียใจที่ชั้นไม่สามารถจะทำให้เธอมีความสุขได้อย่างเต็มที่ก็เพราะความทะเยอทะยานส่วนตัวของชั้น...ชั้นเสียใจที่ชั้นไม่สามารถจะช่วยเธอได้ในตอนนี้...”

“แต่ถึงอย่างไร...ชั้นก็ยึดติดกับเธอราวกับคนโง่...เพราะชั้นเชื่อว่าชั้นได้ให้พลังความแข็งแกร่งกับเธอเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน...เช่นเดียวกับที่เธอได้มอบความสุขให้แก่ชั้นมากยิ่งขึ้นเวลาที่เธออยู่กับชั้น...”

“เราสองคนต่างเติมเต็มซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง....เมื่อพวกเราอยู่ด้วยกัน...ฮวางโบ เฮจุงที่ปราศจากคิมฮยอนจุงอยู่เคียงข้างก็เหมือนกับ...มีเพียงครึ่งคนเท่านั้น....”

”ซารางเฮ ชิลลางผู้น่ารักและแสนดีของชั้น...”

ที่โตเกียว
ฮยอนจุงกำลังทานอาหารค่ำช่วงดึกอยู่กับสมาชิกวง SS501 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับโรงแรมที่พักของพวกเขา ระหว่างนั้นชายหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเข็คดูด้วยท่าทางกระวนกระวาย

“นี่คุณมาไม่ได้จริงๆหรือฮะ? แล้วนี่ผมยังติดต่อคุณทางโทรศัพท์ไม่ได้อีกน่ะ....T_T” เขาคิดในใจพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างแรง

ยองแซงถามขึ้นมาว่า “นายอิ่มแล้วเหรอ?”

“หา? อืม..ใช่ อิ่มแล้วล่ะ” ลีดเดอร์พูดพลางมองดูโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น

แก้มป่องถามด้วยความห่วงใย “นี่นายเป็นอะไรไปรึเปล่าน่ะ?”

“ชั้นสบายดี ไม่มีไรหรอก” เขาตอบออกไป แต่ในใจมันกลับว้าวุ่นปั่นปวนจนบอกไม่ถูก.

แล้วจู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น แต่เบอร์ที่ขึ้นบนหน้าจอกลับเป็นสายที่ไม่เขาไม่รู้จัก เขาเอียงคอมองดูเบอร์บนหน้าจออย่างุนงงพร้อมกับนึกในใจว่า <ใครกันนะที่โทรมาตอนนี้...? > และยังคงจ้องดูโทรศัพท์อยู่อย่างนั้นโดยไม่รับสาย

ยองแซงเห็นเข้าจึงถาม “นายจะไม่รับสายเหรอ?”

ฮยอนจุงส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับชูโทรศัพท์ให้ส่อง “ชั้นไม่รู้จักอ่ะ เบอร์แปลกๆ ใครก็ไม่รู้”

“งั้นเหรอ? “ ว่าแล้วยองแซงก็ยื่นหน้าเพื่อดูที่หน้าจอแล้วบอกว่า..”ดูเหมือนสายนี้จะโทรมาจากในประเทศญี่ปุ่นนะ?”

“ญี่ปุ่น? ที่นี่อ่ะนะ? “

“นายก็รับสายซะสิ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นใครน่ะ”

ลีดเดอร์ลังเลเล็กน้อยก่อนตัดสินใจกดรับสาย “โมชิโมชิ สวัสดีครับ” (ในภาษาญี่ปุ่น)...?

ที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะก่อนมีเสียงพูดตอบมาว่า...”อืมม...นี่ชั้นเองน่ะ?”

น้ำเสียงของเขายิ่งตื่นเต้นดีใจที่ปลายสายคือคนที่เขารอมานาน “บูอินหรือฮะ?”

“ใช่จ้ะ”

“คุณอยู่ที่ไหนฮะ?”

“ที่โรงแรมน่ะจ้ะ”

“โรงแรม?” ชายหนุ่มรีบชำเลืองมองดูผู้จัดการก่อนจะถามด้วยเสียงที่เบาๆลงว่า “โรงแรมไหนฮะ?”

“นิว โอตานิจ้ะ”

เขายิ้มกว้างจนแทบเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่ “ งั้น..คุณก็อยู่ที่นี่แล้วสิฮะ?”

ฮวางโบหายใจออกมาเฮือกใหญ่ราวกับโล่งอกแล้วตอบไปว่า “ชั้นคิดว่าชั้นจะตายไปซะแล้ว หลังจากที่พยายามดิ้นรนมาหาเธอที่นี่น่ะ”

“ว่าแต่ มันเกิดอะไรขึ้นกับโทรศัพท์ของคุณฮะ?” เขาอดถามไม่ได้ในเมื่อเขาพยายามติดต่อเธอมาครึ่งค่อนวัน มันทำให้วันทั้งวันไม่เป็นอันทำอะไรทั้งสิ้น

“ชั้นรีบมากน่ะจ้ะ...ชั้นก็เลยไม่มีเวลาขอเปิดบริการโรมมิ่งน่ะ”

“อืมม...โอเคฮะ....อีกไม่นานผมใกล้จะกลับแล้วล่ะ ไม่สิ..ผมกลับเดี๋ยวนี้เลยดีกว่า...ผมจะไปหาคุณที่นั่นภายในอีกไม่อึดใจ รอผมอยู่ที่นั่นน่ะฮะ!”

ทันทีที่วางสาย เขาหันไปพูดกับพี่ผู้จัดการ

“ผมจะขอตัวกลับตอนนี้เลยนะฮะ” พูดจบพลางหยิบแจ็คเก็ตและหมวกอำพรางใบโปรดเพื่อเตรียมตัวกลับ

พี่ผู้จัดการได้ยินก็ถามทันทีว่า “อะไรนะ อิ่มแล้วเหรอ? นายเหนื่อยมากจนต้องรีบกลับขนาดนี้เลยรึ?”

“ฮะพี่ ผมว่าคืนนี้ผมคงจะรีบเข้านอนเร็วซักหน่อย ไม่ไหวจะเพลียฮะ” ฮยอนจุงตอบโดยไม่มองหน้า

“โอเค” พี่ผู้จัดการตอบเขาและหันหน้าไปพูดกับเมมเบอร์ทั้ง 4 ว่า “พวกนายก็ควรจะรีบเข้านอนเหมือนกันนะ”

จุนเบบี้แย้งว่า “ขอเวลาให้พวกเรานั่งเล่นตรงนี้ต่อไปอีกหน่อยไม่ได้หรือฮะ? แล้วอีกสักแปล๊บ พวกเราก็จะตามกลับไปที่โรงแรมฮะ”

“ขออีกซักชั่วโมงนึงแล้วกันนะฮะพี่” ม้ามินรีบช่วยต่อรองทันที

ลีดเดอร์ช่วยขอร้องพี่ผู้จัดการอีกแรงหนึ่งว่า “ปล่อยให้พวกเขาสนุกกันต่อไปอีกหน่อยเถอะฮะ วันนี้พวกเราก้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”

จากนั้นเขาก็หันกลับไปบอกกับ 4 หนุ่มว่า “เฮ้ พวกนายสนุกกันต่อได้แต่อย่าให้ดึกเกินไปนักล่ะ พรุ่งนั้ยังมีงานรอพวกเราอยู่อีกเพียบน่ะ”

จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นจากโต๊ะพร้อมกับแอบเหล่ยองแซงนิดๆ เขากระซิบบอกกับยองแซง “ชั้นขอคุยอะไรกับนายข้างนอกแป๊บนึงได้มั้ย?”

“...? “ <คุยอะไร ท่าทางงานจะเข้าชั้นอีกแล้วซิน่ะ>

ที่ด้านนอกร้านอาหาร
ลีดเดอร์เริ่มเกริ่น “ก่อนอื่น ชั้นต้องขอโทษนายน่ะ ที่ชั้นคอยกวนนายอยู่เรื่อย ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อนายเป็นผู้ช่วยพระเอกอย่างชั้น ก็ควรจะช่วยให้ตลอดเข้าใจชั้นด้วยน่ะ”

ยองแซงพูดด้วยความเหนื่อยหน่าย “นี่นาย คิดว่าชั้นไม่มีชีวิตส่วนตัวเหมือนคนอื่นบ้างรึไง เอะอะอะไรก็ชั้น ทำไมนายไม่ไปให้คนอื่นเป็นผู้ช่วยพระเอกมั่ง ฮึ”

“แต่ว่าชั้นอยากให้นายเป็นนี่นา แล้วอีกอย่างตอนนี้นายก็ไม่มีธุระอะไรเร่งด่วนนี่นา” ฮยอนจุงทักท้วง

ยองแซงว่า “นี่. ฟังน่ะ ชั้นก็มีเพื่อนเหมือนกันนะ ชั้นก็อยากไปสังสรรค์ส่องสาวตามภาษาของชั้นบ้างสิ แล้วนี่อะไร ทำไมนายคอยแต่จะเอาชั้นไปเกี่ยวกับเรื่องของนายอยู่เรื่อย มันเรื่องบ้าบออะไรเนี่ย”

“ใม่เอาน่า นายต้องช่วยพวกเราให้ตลอดด้วยสิ นายเคยให้สัญญาเอาไว้แล้วนี่นา ใช่ป่ะ ชั้นจำได้น่ะ”

“แต่ทำไมชั้นถึงต้องให้นายยืมโทรศัพท์ด้วยล่ะ ฮึ?”

“แล้วนายจะให้ชั้นทำยังไงล่ะ? ในเมื่อบูอินไม่ได้เปิดโรมมิ่งโทรศัพท์ของเธอเอาไว้อ่ะ”...

“ฮาาา...อะไรกันนักกันหนาเนี่ย “<.ให้ตายเหอะโรบิ้น ให้ดิ้นเหอะโรเบิรต์ ทำไมต้องเป็นช้านนนด้วยน่ะ>

ฮยอนจุงแบมือออกมาแล้วรีบพูดทันที “รีบๆหน่อยแล้วส่งโทรศัพท์ของนายมาซะดีๆ เธอกำลังรอชั้นอยู่ที่โรงแรมคนเดียว”

“ทำไมนายถึงได้...เป็นไอ้ตัวแสบขนาดนี้(วะ)”

ลีดเดอร์อมยิ้มพร้อมกับพูดว่า “อย่าเหวี่ยงไปหน่อยเลยน่า เอางี้ละกันเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ชั้นจะตั้งชื่อลูกคนแรกของเราว่า “ยองแซง”…เลยนะ โอเคป่ะ”

“อะไรนะ? นายจะเอาชื่อชั้นไปตั้งชื่อลูกคนแรกของนาย แล้วนายจะไม่จับเขามาตีทุกวันแลยเหรอ ฮึ?” ยองแซงว่า

สีหน้าของลีดเดอร์เริ่มเปลี่ยนเป็นจริงจังพร้อมกับพูดอย่างไม่ค่อยพอใจว่า “พูดอย่างงั้นได้ไง ทำไมชั้นถึงต้องตีลูกของตัวเองด้วยล่ะ ในเมื่อลูกชั้นเขาออกจะน่ารัก พ่อก็หล่อ แม่ก็สวย ดังนั้น นายก็จงภูมิใจไว้ด้วยน่ะ โอเคน่ะ ชั้นไปล่ะ?”

ที่โรงแรมนิว โอตานิ
ฮวางโบกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวที่ล๊อบบี้และจ้องมองไปที่บริเวณทางเข้า ในชั่วขณะที่เธอก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือนั้น เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าถี่ๆเหมือนคนกำลังวิ่งเข้ามาใกล้ และทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าฮยอนจุงสามีสุดที่รักยืนยิ้มเผล่อยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว

หญิงสาวหัวใจแทบจะหยุดเต้นไปชั่วครู่ด้วยความดีใจและตื่นเต้นสุดๆ...!

คุณสามีซึ่งยืนยิ้มจนเห็นฟันทักทายว่า “ยินดีต้อนรับสู่มหานครของญี่ปุ่นฮะ”.

“เธอต้องชมชั้นให้หนักๆเลยนะ งานนี้”เธอเอ่ยขึ้นทันที

“คนดีของผม คุณทำได้ดีมากเลยฮะ เดี๋ยวผมมีรางวัลให้น่ะฮะ”

หญิงสาวค่อยๆยิ้มออกมาอย่างช้าๆพร้อมกัยบอกว่า “เธอต้องรับรู้เอาไว้เลยนะว่า...ชั้นได้ทุ่มเททำอย่างดีที่สุด....เพื่อที่จะได้มาถึงที่นี่อ่ะ...”

ชายหนุ่มพยักหน้าพร้อมกับถามว่า “นี่อย่าบอกน่ะว่าคุณลงทุน...นอนขวางประตูทางออกขึ้นเครื่องจริงๆอ่ะ?”

“หุหุ” หญิงสาวกัดริมฝีปากเพื่อพยายามกลั้นหัวเราะสุดฤทธิ์ก่อนตอบไปว่า “ที่จริงแล้ว...ชั้นไม่สามารถจะทำอย่างที่เธอบอกได้เพราะว่ามีคนจำชั้นได้เพียบเลยน่ะ”

“งั้น...คุณวิ่งไปด้วย...ตอนที่อยู่บนเครื่องบินรึเปล่าฮะ?”

หญิงสาวได้แต่ยิ้มและส่ายหน้าเมื่อได้ฟังมุข 4-D ของคุณสามี...

“ถ้างั้น...จริงๆแล้วคุณทำอะไรลงไปมั่งฮะ ลองบอกผมหน่อยซิ?”

หญิงสาวไม่ตอบ <ชั้นก็วิ่งพล่านไปทั่วตลอดทั้งวันนี้เลยไงล่ะ...ตอนนี้ชั้นแทบจะหายใจไม่ออกแล้วน่ะ...>

“หืมม..ว่าไงล่ะฮะ?” ชายหนุ่มถามย้ำเมื่อไม่ได้มีคำตอบใดๆจากภรรยา

และแล้วตาของฮวางโบก็ค่อยๆหรี่ลงช้าๆและก็วูบไปในที่สุด.....

“...!!!” <คุณเป็นอะไรไปน่ะ บูอิน>

โปรดติดตาม คู่รักผักกาดหอมรีมิกซ์ ตอนต่อไป

ประเดิมลงบ้านหลังใหม่น่ะคะ บ้านที่พวกเรามีส่วนร่วมทำมันขึ้นมา
ยาย(นาจา)




 

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2553
9 comments
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2553 20:46:56 น.
Counter : 1059 Pageviews.

 

อ่านกี่ครั้งก็ยังน่ารักเสมออะ ชอบ น่ารักกับความรักของเขาทั้ง 2อะ

 

โดย: teelak IP: 223.205.245.180 1 ธันวาคม 2553 22:25:01 น.  

 

wowww โบสุดยอดจริงงงง น่ารักสุดด ยายก็รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

 

โดย: hunny IP: 119.46.144.66 14 ธันวาคม 2553 7:09:26 น.  

 

happy birthday na ka ^-^

ขอให้มีความสุขมากๆ เงินทองไหลมาเทมา ร่างกายแข็งแรง และได้เป็นที่รักของทุกๆคนนะคะ

 

โดย: Sugar lip 21 ธันวาคม 2553 1:02:54 น.  

 

สุขสันต์วันเกิด ขอให้พบกับสิ่งดีๆ ในชีวิตนะค่ะ


 

โดย: brackleyvee 21 ธันวาคม 2553 5:52:57 น.  

 



ขออวยพร วันเกิด อธิษฐานจิต
ขอให้สิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ ในทั่วหล้า
ปกป้องเธอ พ้นจาก ภัยนานา
มีความสุข สมปรารถนา ทุกประการ

สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดนะค่ะ









 

โดย: KeRiDa 21 ธันวาคม 2553 7:48:02 น.  

 

สุขสันต์วันเกิด ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ


 

โดย: ter_pt 21 ธันวาคม 2553 9:15:29 น.  

 

>



สุขสันต์วันเกิด จ้า

พรใดที่เป็นของชาวโลก

สุขใดที่ช่วงโชติของชาวสวรรค์

รักใดที่อมตะและนิรันดร์

ขอรักนั้นและพรนั้น จงเป็นของ จขบ. จ้า

 

โดย: หน่อยอิง 21 ธันวาคม 2553 12:04:01 น.  

 


ป้าเชิญนางฟ้า...มาอวยพรวันเกิดค่ะ
ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ คนที่ดีมีจิตใจดี
และเหตุการณ์ดีๆรวมทั้ง...
ความรักที่ดีที่สุดในชีวิตนะคะ
หวังว่าคงจะไม่ช้าไปนะคะ
*********
*******
*****
***
*



 

โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 21 ธันวาคม 2553 21:25:46 น.  

 

Photobucket

 

โดย: pinkyrose 21 ธันวาคม 2553 22:05:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.