Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
27 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

ภาพชนบทไทยสมัยก่อน

ภาพชนบทไทยสมัยก่อน คาดว่าเป็นภาพถ่ายในราว ปี พ.ศ. 2480-2490


ภาพที่ 1



ภาพที่ 2



ภาพที่ 3


ภาพที่ 4



ภาพที่ 5



ภาพที่ 6



ภาพที่ 7



ภาพที่ 8



ภาพที่ 9



ภาพที่ 10





 

Create Date : 27 มิถุนายน 2552
58 comments
Last Update : 27 มิถุนายน 2552 20:56:08 น.
Counter : 8168 Pageviews.

 

เสน่ห์ของภาพขาวดำ กับเรื่องราวที่แสนคลาสสิค...

แม้จะไม่รู้ว่าถ่ายที่ไหน แต่มีจุดที่ผมสังเกตเห็นและคิดว่าน่าสนใจอยู่สองจุด

จุดแรกคือในรูปที่ 4 และ 5

จะเห็นเกวียนเทียมควาย ที่เราแทบไม่เห็นกันในยุค 30-40 ปีที่ผ่านมา

เพราะโดยทั่วไป ชาวบ้านจะใช้วัวเทียมเกวียน เกวียนที่จะใช้ควายเทียมได้นั้น ต้องมีขนาดใหญ่กว่าเกวียนทั่วไป เกวียนเทียมควายนี้ จะบรรทุกของได้มากกว่าเกวียนเทียมวัว เพราะควายแข็งแรงกว่าวัว แต่ความอดทนสู้วัวไม่ได้

เกวียนเทียมควายจึงมักใช้เป็นเกวียนบรรทุกสิ่งของ มากกว่าเกวียนโดยสาร ใช้ขนข้าวของที่มีน้ำหนักมาก แต่ในระยะทางไม่ไกลนัก (เพราะควายต้องพักให้นอนแช่ปลักบ่อย ๆ )

อีกภาพคือภาพสถานีรถไฟ แม้จะดูไม่ออกว่าเป็นสถานีใหญ่ระดับชุมทางหรือไม่ แต่ก็มีข้อคิดว่า

ครั้งหนึ่ง ความเจริญของบ้านเมืองในประเทศไทย จะขยายไปตามแนวสองข้างทางรถไฟ อันเป็นเส้นทางคมนาคมหลัก รองลงมือคือตามแม่น้ำลำคลอง

แต่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 เป็นต้นมา มีการตัดถนนหนทางให้รถยนต์แล่นสัญจรได้อย่างสะดวกสบาย ถนนสายแรกที่รัฐบาลอเมริกันมาช่วยสร้างให้เมืองไทย คือ ถนนสายมิตรภาพ จากสระบุรี ถึง นครราชสีมา

เป็นถนนสายยุทธศาสตร์เพื่อลำเลียงอาวุธให้ทหารอเมริกันไปรบกับเวียตนาม ตอนสร้างเสร็จใหม่ ๆ ผู้คนตื่นเต้นกันมาก ถึงกับมีคำพูดคุยกันว่า ถ้าขับรถตามถนนสายมิตรภาพเส้นนี้ ตักน้ำใส่แก้ววางไว้ในรถน้ำจะไม่หกกระเซ็นออกมาสักนิด เพราะเป็นถนนที่ราบเรียบได้มาตรฐาน

ตั้งแต่นั้น และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ถนนราดยางหลายร้อยหลายพันเส้น ถูกตัดเชื่อมเมืองใหญ่น้อยจนมีลักษณะคล้ายตารางหมากรุก

เหตุผลของเรื่องนี้มีสองส่วน ส่วนแรกเป็นเหตุผลทางยุทธศาสตร์ ในสมัยที่ทางการต่อสู้กับพลพรรคของคอมมิวนิสต์ภายในประเทศ เส้นทางยุทธศาสตร์เหล่านี้ใช้ลำเลียงอาวุธเพื่อสู้รบกับคอมมิวนิสต์ และใช้แบ่งแยกพื้นที่ยึดครองของคอมมิวนิสต์เป็นเหตุผลทางการเมืองและการทหาร

อีกเหตุผลหนึ่ง คือเหตุผลด้านเศรษฐกิจ การขยายตัวทางเศรษฐกิจขนานใหญ่ ก็ต้องการเส้นทางในการขนวัตถุดิบและสินค้า แต่เส้นทางรถไฟที่มีอยู่เดิม แทบจะไม่ได้รับการขยับขยายเปิดเส้นทางใหม่ให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นเลย อาจเป็นเพราะการขยายเส้นทางรถไฟ ใช้เงินทุนมหาศาลกว่าเส้นทางรถยนต์

ผลที่ตามมาคือ แหล่งความเจริญของบ้านเมือง ที่เดิมเคยเกาะเกี่ยวอยู่สองข้างแนวทางรถไฟ ค่อย ๆ เสื่อมถอยด้อยความสำคัญลง

ความเจริญย้ายทำเล ไปอิงสองข้างทางหลวงแผ่นดินเสียสิ้น ที่ดินสองข้างทางรถไฟที่เคยแพง ก็ลดน้อยด้อยค่าลง สวนทางกับราคาที่ดินสองข้างทางหลวง ที่นับวันแพงขึ้น

เป็นการเปลี่ยนแปลงวิถีทางเศรษฐกิจ ที่เราสามารถเห็นเป็นรูปธรรมได้ชัดเจนที่สุดประการหนึ่ง

เมื่อตัดถนนตัดมากขึ้น รถราก็แล่นกันได้สะดวกสบายขึ้น ผู้คนก็หันมาใช้รถยนต์กันมากขึ้น ซื้อหารถยนต์ไว้ใช้สอยส่วนตัวมากขึ้นไปด้วย

ผลที่ตามมาคือ ราคาน้ำมันที่ขึ้นและลงอย่างผันผวน ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไปอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้...

พอว่ามาถึงเรื่องราคาน้ำมัน ที่นับวันแพงขึ้นทุกที ทำให้ต้องย้อนกลับไปคิดถึงการพัฒนาการขนส่งระบบรางกันอีกครั้ง ถ้าคิดแล้วทำได้จริง ๆ จัง ๆ น่าจะเป็นผลดี

อะไรอาจจะพลิกกลับไปสู่ยุคเมื่อ 40-50 ปีที่แล้วอีก

ก็อาจเป็นได้...

 

โดย: ลุงแว่น 27 มิถุนายน 2552 12:58:18 น.  

 

ยังไม่เกิดเลยค่ะ
บ้านเมืองสมัยก่อนดูเงียบสงบดีนะคะ

 

โดย: Yolanrita 27 มิถุนายน 2552 13:04:45 น.  

 

เวลาดูภาพเก่าๆ

มักจะเห็นผู้ชายสวมกางเกงสีขาว

อย่างในภาพที่ 7

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรนะคะ


 

โดย: หยุ่ยยุ้ย 27 มิถุนายน 2552 16:02:51 น.  

 

ความเห็นของคุณลุงแว่นนับว่าล้ำค่ามาก ให้มุมมองแต่ละ
ภาพที่ละเอียดลึดซึ้ง ราวกับว่าภาพถ่ายเหล่านี้ที่นิ่งสงบ
มานานเริ่มพูดได้

เมื่อคุณลุงแว่นได้เริ่มต้นแล้ว หวังว่าภาพเหล่านี้จะได้พูด
อะไรต่อไป...

สำหรับที่คุณยุ้ยถามถึงคนนุ่งกางเกงขาวนั้นผมเข้าใจว่า
ผู้ชายคนนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเทียมเกวียน
น่าจะเป็นคนกรุงที่แต่งชุดไปเที่ยวชมธรรมชาติ
ในยุคนั้นครับ

 

โดย: Insignia_Museum 27 มิถุนายน 2552 19:26:47 น.  

 

ชอบรูปถ่ายเก่าๆมากค่ะ......สวยมากๆ...รูปทะเลคิดถึงปริศนากะท่านชายพจน์....หุหุ...........พอมีสะสมอยู่บ้างเหมือนกัน...วันหลังจะสแกนมาอวด...เป็นภาพกรุงเทพในช่วง200ปีที่ผ่านมา.......
บล็อกและความคิดของคุณInsignia_Museumน่าสนใจมากๆค่ะ

 

โดย: popang (popang ) 27 มิถุนายน 2552 20:34:07 น.  

 

ดูภาพขาวดำ ในอดีต ก็ทำให้นึกถึงอดึต โดยเฉพาะสถานีรถไฟ สมัยเด็กๆไปไหนก็อาศัยรถไฟตลอด คุ้นเคยกับมันมากค่ะ เห็นภาพสถานีแล้วได้กลิ่นไอและบรรยากาศตอนนั้นเลยค่ะ กลิ่นของรถไฟยังติดอยู่ตรงปลายจมูกค่ะ

เดี๊ยนยังมีภาพเก่าซึ่งเป็นหนังอยู่ชุดนึงค่ะ เป็นหนังที่ถ่ายไว้เมื่อกว่าห้าสิบปีมาแล้ว ครอบครัวของเดี๊ยนเป็นครอบครัวใหญ่ ทำธุระกิจหลายอย่าง โรงหนังเป็นหนึ่งในนั้น เวลามีหนังใหญ่มาฉายก็จะต้องมีการแห่โฆษณาค่ะ จำไม่ได้แล้วเรื่องอะไร แต่หนังที่ถ่ายทำไว้ เป็นการโฆษณาหนังอีกทีอยากให้คุณ IM ได้ดูจัง เป็นม้วนเทปแล้วลูกสาวเอาไปทำเป็นวีซีดีไว้ ไม่รู้ว่าถ้าก๊อปใหม่จะดูได้ชัดไม๊ ถ้าแผ่นยังดีก๊อปได้ชัดจะส่งมาให้ดูค่ะ ขอค้างไว้ก่อนน่ะคะ

 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 27 มิถุนายน 2552 21:23:08 น.  

 

ชอบมากเลยค่ะ เป็นภาพที่หาดูได้ยากเพราะคงเก่ามาก..ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ ขอบคุณที่นำมาให้ชมกันนะคะ

 

โดย: Suessapple 27 มิถุนายน 2552 22:07:30 น.  

 

ชอบดูรูปเก่าๆเหมือนกันค่ะ
ที่บ้านมีหลายกล่องเลยค่ะ(กล่องนมวัวแดงชนิด 8 กล่อง)
ชอบเอามาดูแล้วก็นึกเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
ถ้าอันไหนไม่รู้ก็จะถามแม่
ว่าที่ไหน รูปใครๆ ทำไรกัน
บางรูป....มันมากกว่าที่ไหน ใคร เมื่อไหร่
เพราะมันมีเรื่องราวมากมายเชื่อมโยงขยายออกไป
บางรูป คนภายในเราเคยได้ยินแต่ชื่อ
ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นตัวจริง
เราก็ได้เห็นในรูปนี่แหละค่ะ
ปล.ชอบทรงผม กับความปราณีตของการตกแต่งภาพ
ของช่างภาพในอดีตมากค่ะ...
มันสวยๆ จนจับใจ

 

โดย: mutcha_nu 27 มิถุนายน 2552 22:18:14 น.  

 

สวยเหลือเกิน...โดยเฉพาะรูปหน้าสถานีรถไฟ...ชอบมากๆค่ะ

แวะมาบอกว่าคิดถึง สบายดีนะค๊า

 

โดย: Why England 27 มิถุนายน 2552 22:29:02 น.  

 

เก่ามากๆเลยค่ะ...
เห็นควายเทียมเกวียนแล้วนึกถึงสมัยก่อนจังเลยค่ะ
ภาพสถานีรถไฟก็สวย

 

โดย: Fullgold 27 มิถุนายน 2552 23:20:51 น.  

 

ดีมากครับคุณอินไซน์ ที่เอาภาพเก่า ๆ มาให้ดูเพื่อระลึกถึงอดีตเก่า ๆ ได้ย้อนกลับไปทบทวนความเป็นชนบทไทย

ดูภาพพวกนี้แล้ว ทำใหลุงคิดว่า เราหรือลุงเองก็คนหนึ่งในสมัยห้าสิบปีที่แล้ว ที่อยากจะให้ชนบท บ้านเดิม(ที่นครศรีธรรมราชที่ลุงเกิด) มีการพัฒนาขึ้นเป็นเมือง และบ้านเดิที่ลุงอยู่ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนจากดงหญ้า ป่ารกเป็นเมือง ถนนดินกลายเป็นถนนราดยาง และถนนสี่เลนในที่สุด รอบ ๆ บ้านกลายเป็นตลาดหมดสิ้น

ปัจจุบันบ้านเดิมที่เกิดของลุงกลายเป็นเมือง น้องชายของลุง ที่ยังรักษามรดกเดิม ตกอยู่ในวงล้อมของห้องแถวและประตูรั้วเหล็กที่สร้างขึ้นมาขังตัวเอง

โชคดีที่ลุงมาได้ภรรยาที่ปะทิว ชุมพร และรอบ ๆ บ้านยังมีความเป็นชนบทอยู่ จึงทำให้มีความสุขแบบพอเพียงอยู่พอสมควรในขณะนี้

แต่ถ้าคุณอินไซน์อยากจะไปดูชนบท หรือดูเมืองไทยเมื่อห้าสิบปีที่แล้ว ตอนนี้ในลาวที่หลวงพระบางยังพอมีให้ดูครับ

 

โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) 27 มิถุนายน 2552 23:33:36 น.  

 

สวัสดีครับเข้ามาดูรูปเก่าๆ
ถึงจะเป็นคนรุ่นใหม่ อยู่เมืองกรุง
รูปควายกับเกวียน ส่วนใหญ่เคยเห็นแต่ในฉาก ในหนัง ในรูปหรือของจริงไม่เคยเห็นครับ
รูปสถานีรถไฟ ก็โบราณจริงครับ สังเกตจากการแต่งกาย
เรืองถนนมิตรภาพนี่ สมัยก่อนพ่อผมก็เล่าให้ฟังแบบเดียวกันเลยครับ เรื่องเอาน้อยใส่แก้วไว้แล้วน้ำไม่หก เพราะอเมริกันสร้าง

 

โดย: dj booboo 28 มิถุนายน 2552 3:00:49 น.  

 

หวัดดีค่ะ มาช้านึงวัน เพราะติดภารกิจ


วันนี้รีบมาแต่เช้าเลยค่ะ...

รูปเซตนี้ขลังจริงๆค่ะ ดูแล้ว โลกสมัยก่อนเหมือนไม่มีสีจริงๆ

ไม่ว่า น้ำ ฟ้า ป่า เขา ทุกอย่างหม่นมัว เหงา และบริสุทธิ์

ให้ความรู้สึกเหมือนคนละโลกกะปัจจุบัน

ขาวดำ...คลาสสิกสุดๆ ต่อให้ฟิล์มขาวดำยุคนี้ ก็ถ่ายแล้วไม่ได้อารมณ์เหมือนยุคนั้นค่ะ

ขอบคุณภาพชุดดีๆมีค่า ที่หามาแบ่งปันนะคะ


 

โดย: นักล่าน้ำตก 28 มิถุนายน 2552 6:49:51 น.  

 

ภาพบน ๆ ทำให้นึกถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกแล้วค่ะ มีสถูปอยู่ใกล้ ๆ บ้านคน

สถานีรถไฟถึงแม้ว่าจะหน้าตาเหมือนถอดกันมาแทบจะทุก ๆ ที่ แต่ภาพนี้เหมือนที่อยุธยามาก ๆ ค่ะ

เห็นทะเลแล้วนึกภาพออกเลยว่า ฟ้าจะแจ่ม ทะเลจะเป็นสีคราม เสียงคลื่นจะซัดสาดขนาดไหน

คิดถึงเมืองไทย

 

โดย: Oops! a daisy 28 มิถุนายน 2552 8:55:25 น.  

 

ชอบภาพที่ 9 และ ภาพที่ 10 มากกว่าภาพอื่นค่ะ
ดู contrust กันดี..
1.สงบ
2.แปรปรวน
เหมือนอารมณ์คน...คนเดียวกัน

 

โดย: เริงฤดีนะ 28 มิถุนายน 2552 15:38:05 น.  

 

นัทสบายดีค๊า..ขอบคุณมากๆนะค๊ะ ที่แวะไปทักทายกัน...เมื่อไหร่จะได้ดูรูปของกิน ของเล่นสมัยก่อนๆมั่งน๊า

แอบเรียกร้อง...

 

โดย: Why England 28 มิถุนายน 2552 17:25:39 น.  

 

 

โดย: เกศสุริยง 28 มิถุนายน 2552 20:45:28 น.  

 

สวัสดียามค่ำๆวันอาทิตย์ค่ะ

 

โดย: Suessapple 28 มิถุนายน 2552 21:21:08 น.  

 

ขอบคุณค่ะ...

ดูภาพเก่าๆแล้วทำให้นึกย้อยถึงตอนเป็นเด็กๆเลยนะคะ...

เวลาเห็นภาพเก่าๆทีไร..แม้ว่าภาพนั้นจะรู้จักหรือไม่รู้จัก
ก็ตามแต่จ๊อกจะชอบจินตนาการให้ตัวเราเข้าไปอยู่ในนั้น
ทุกทีเพราะรู้สึกว่ามันคุ้นๆและชอบบรรยากาศแบบนั้น
อยากเข้าไปอยู่ในยุคสมัยนั้นจังค่ะ

ขอบคุณภาพอันทรงคุณค่านะคะ

 

โดย: คนชุมแสง 28 มิถุนายน 2552 22:58:49 น.  

 



หวัดดีค่ะคุณอิม
มินชอบภาพทะเลจังเลย
อยากหลุดเข้าไปอยู่ในภาพนั้นจังค่ะ
คงจะมีความสุขสงบ สดชื่นดีนะมินว่า
ปล.ไม่ได้เข้ามาทักทายหลายวันเลยค่ะ
อาทิตย์ที่แล้ว หัวฟูทั้งอาทิตย์เลยอ่ะ

 

โดย: มินทิวา 29 มิถุนายน 2552 5:29:54 น.  

 

วันนี้ภาพโหลดได้ไม่ครบค่ะ ได้ดูแค่สองภาพเอง
เน็ตช้ามากวันนี้ เมื่อวานด้วยว่าจะมาช่วยเฉลยภาพเมื่อคราวที่แล้ว
ส่งไปให้แม่ดู แกว่าเป็นพิษณุโลกค่ะ ตรงนั้นเรียกว่า "สบน่าน" ต.จอมทอง อ.เมือง พิษณุโลก
เป็นบริเวณที่แม่น้ำน่านกับแม่น้ำแควน้อยมาสบกัน ส่วนวัดที่เห็นนั้นคือวัดเกาะแก้ว
มีภาพปัจจุบันเมื่อสักสองปีก่อนมาฝากแต่คนละมุมกัน เห็นอะไรไม่มาก เพราะไปช่วงน้ำล้นตลิ่งพอดี
ตอนนี้ทำเป็นเรือนแพ และตลาดน้ำค่ะ







เดี๋ยวจะแวะกลับมาดูภาพรำลึกสมัยกิดเป็นไอ้ขวัญอีเรียมอีกทีนะคะ

 

โดย: ปลายแปรง 29 มิถุนายน 2552 10:48:03 น.  

 

เห็นภาพที่ 9 แล้ว นึกถึงภาพถ่ายของตัวเองตอนเด็ก
ยุคนั้นมีภาพสีแล้วค่ะ แต่ยังแพง และเป็นสิ่งเก๋ไก๋มากถ้าหากได้ถ่ายภาพสี

มีรูปขาวดำ ริมทะเล ตอนนั้นยังเด็กมาก
ถ่ายกับน้องและลูกพี่ลูกน้องรุ่นเดียวกัน
ข้างๆมีม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ แม่และน้าเตรียมขนม ของว่างมาให้
รู้สึกว่าทะเลเงียบสงบเหมือนในภาพเลยค่ะ

ชอบรูปสถานีรถไฟด้วยค่ะ
ดูเหมือนมีผู้คนเดินทางไม่กี่กลุ่ม ไม่พลุกพล่านแออัดเหมือนทุกวันนี้

 

โดย: HoneyLemonSoda 29 มิถุนายน 2552 10:56:53 น.  

 

เห็นรูป วิวเก่าๆแบบนี้ แล้ว คิดถึงความหลังทุกทีเลยครับ เขาว่าคนพอมีอายุ มากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะชอบมาดู มาพดถึงเรื่องราว เก่าๆเล่าสู่กันฟัง เพราะ เรามีสิ่งนั้น ในขณะที่เมื่ออายุยังน้อย เราไม่มี

บ้านผมเองก็อยู่ชนบท แต่เสียดายที่สมัยนั้น ผมไม่มีกำลังพอที่จะมีกล้องถ่ายรูป เลยบันทึกไว้แต่เพียงภาพถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก ติดใบสุทธิเท่านั้น

ภาพถ่าย จะมีคุณค่าต่อผู้คนทุกยุค ทุกสมัยแหละครับ อยู่ที่ว่าเราจะดูอะไรจากภาพนั้น
บางคนดูว่าตนเอง หล่อใหม สวยใหม บางคนก็ดูว่า สมัยนั้นเขาแต่งตัวกันอย่างไร ทรงผมแบบใหน
หรือบางคนก็ดูว่า สภาพแวดล้อมในรูป เปลี่ยนไปมากน้อย แค่ใหนแล้ว

สำหรับผม ผมชอบดูภาพผู้คนสมัยนั้นครับ ชอบดูว่า เขาแต่งตัวกันอย่างไร
ที่ว่าโป๊นั้น แค่ใหนกัน ครับ
ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

 

โดย: ทวีศักดิ ถาวรรัตน์ (คนตาพิการ ) 29 มิถุนายน 2552 11:55:38 น.  

 

วันนี้ได้รับการเฉลยภาพวัดจากบล็อกที่แล้วครับ (ภาพที่ 1-2) น่าจะเป็นจากผู้ชมทางบ้าน คือ

วัดมณีชลขัณฑ์ จ.ลพบุรี เดิมชื่อวัด "เกาะแก้ว" เป็นชื่อเดียวกับที่คุณปลายแปรงให้ข้อมูลครับ

ความสำคัญของภาพนี้มีอยู่สองประการคือเขื่อนรอบวัดก่ออิฐคล้ายรูปเรือสำเภาที่เห็นหัวเรียวแหลมข้างคอสะพาน ในปัจจุบันไม่เหลือให้เห็นแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบันทึกไว้ใน "ระยะทางเสด็จประพาส มณฑลอยุธยา เมื่อปีขาล พ.ศ. 2421" ว่า รอบวัดนั้นลงเขื่อนอิฐทั้งสิ้น เขื่อนนี้เจ้าพระยายมราชได้ลงคราวก่อนครั้งหนึ่ง แล้วไม่อยู่ครั้งนี้ลงอยู่ได้ ที่ลึก 3 -4 ศอกก็มี ที่ถึง 7 - 8 ศอกก็มี สะพานไม้ข้ามร่องน้ำบางขาม ด้านทิศตะวันตกของเกาะแก้วเพื่อเชื่อมต่อกับตลิ่งอีกฟากของลำน้ำ สะพานดังกล่าวนี้ปัจจุบันคือสะพานคอนกรีตของทางหลวงสายลพบุรี - สิงห์บุรี

(ข้อมูลจากสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี จังหวัดลพบุรี)

 

โดย: Insignia_Museum 29 มิถุนายน 2552 12:00:49 น.  

 

มาอ่านคำเฉลย

ขอบคุณมากนะคะ ได้กระจ่างซะที

....................

ป.ล.เมือคืนอัพบล็อกใหม่ค่ะ เล็กๆ ...แก้ง่วง

 

โดย: นักล่าน้ำตก 29 มิถุนายน 2552 12:08:52 น.  

 

+ โอ้! ภาพเหล่านี้ ก่อนผมเกิดหลายสิบปีเลยครับพี่ IM เห็นแล้วอยากกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในอดีตจัง ดูสงบ ไม่วุ่นวายดีอ่ะครับผม

+ แต่ก็ทำให้คิดถึงอนาคตนะครับว่าอีกสัก 50 ปี ร้อยปีข้างหน้า บ้านเมืองจะเปลี่ยนไปอีกขนาดไหน ถึงตอนนั้นเด็กๆ ยุคนั้นที่เห็นภาพปัจจุบันของบ้านเมืองยุคเราในตอนนี้ก็อาจหัวเราะเหมือนกันก็เป็นได้

+ ก็คงมีแต่ชายทะเลมังครับที่ดูไม่ค่อยจะเปลี่ยนไป (แต่กลัวว่าอีกหน่อยจะเปลี่ยนจัง ตอนที่น้ำทะเลมีระดับสูงขึ้นกว่าตอนนี้อ่ะครับผม )

 

โดย: บลูยอชท์ 29 มิถุนายน 2552 14:20:00 น.  

 





เอาหาดสวยๆและยังสะอาด..เพราะเป็นด้านหน้า
ของหมู่บ้านชาวประมงเกาะนาคาใหญ่ จ.ภูเก็ต

 

โดย: เริงฤดีนะ 29 มิถุนายน 2552 21:41:25 น.  

 

มาอ่านคำเฉลยของภาพคราวที่แล้วค่ะ
เก่งจังเลยให้ข้อมูลเยอะดีจัง

 

โดย: Fullgold 29 มิถุนายน 2552 22:53:43 น.  

 

Photobucket


ไม่อยู่หนึ่งอาทิตย์ค่ะ ไปส่งลูกสาว เจอกันวันจันทร์ค่ะ

รักษาสุขภาพนะคะ

 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 30 มิถุนายน 2552 0:28:48 น.  

 

ตามมาจากบล็อกของปลายแปรงครับ

เห็นภาพเหล่านี้แล้วทำให้คิดถึงวัยเยาว์ และคิดย้อนไปไกลถึงสมัยคุณพ่อคุณแม่ยังหนุ่มยังสาวครับ

ยามได้เห็นภาพคนตัวจิ๋ว ๆ ในภาพขาวดำ ก็มักจะทำให้รู้สึกเหงาเศร้าอยู่ในหัวใจเสมอ ไม่รู้ว่ามีใครเป็นแบบนี้บ้าง

 

โดย: http://yutthachaibodin.wordpress.com/ IP: 119.31.36.58 30 มิถุนายน 2552 8:51:51 น.  

 

ภาพชนบทไทย

ว่าไปแล้ว ไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหร่นะคะ...

ส่วนใหญ่ความเปลี่ยนแปลง เกิดกับเมืองใหญ่ๆแบบเราตามไม่ทันมากกว่า

กรุงเทพนี่ เปลี่ยนทุกปี...

อยู่ทุกวัน ยังตามไม่ค่อยทันเลยค่ะ ถนนเอย ตึกรามเอย

 

โดย: นักล่าน้ำตก 30 มิถุนายน 2552 11:40:44 น.  

 

เห็นแล้วนึกถึงสมัยไปค่ายอาสาสมัยเรียนเมื่อสิบกว่าปีก่อน

โดยเฉพาะภาพเกวียนเทียมควาย จำได้ว่ามีค่ายหนึ่งที่กาญจน์ ชาวบ้านมีอาชีพเสริมโดยการทำไม้เถื่อนเขาใช้ควายชักลากไม้ออกจากป่า ซึ่งผมได้มีโอกาสตามเขาไปชักลากไม้ด้วย และถามว่าทำไมไม่ใช้วัว เขาบอกว่าวัวมันเดินในป่าแบบควายไม่เก่ง แต่ควายมันขี้ร้อนทำงานได้ไม่นานก็ต้องปล่อยให้ไปนอนพักแช่ปลัก

ได้อยู่ใกล้ๆ ตอนควายทำงาน เห็นควายตัวผู้ที่ไม่ตอน ตัวหใหญ่ล่ำสัน แต่ตาขวางมองคนแปลกหน้าแบบไม่ไว้ใจ ควายตัวเมียสีหน้าท่าทางอ่อนโยนกว่ามาก และจึงรู้ว่าควายฉลาดมาก ฟังคำสั่งและทำตามได้ไป ซ้าย ขวา ยอ(หยุด) แต่ที่แย่คือเหลือบ-ริ้น ตอมควายไม่หยุด และลามมากัดคนด้วย ต้องรับยาเส้นจากลุงเจ้าของควายมามวนจุดเป่าควันไล่แมลงที่มาตอมตัวเรา

เอ่อ ภาพที่ 7 สถานนีรถไฟ ใช่สถานีหัวหินไหมครับ

 

โดย: bite25 30 มิถุนายน 2552 12:32:31 น.  

 

ภาพที่ 7 คล้ายกับสถานนีรถไฟหัวหินที่ปรับปรุงใหม่
แต่ยังไม่มั่นใจครับ

 

โดย: Insignia_Museum 30 มิถุนายน 2552 22:13:45 น.  

 

หายไปไหนน๊อ....สงสัยงานยุ่งแฮะ

 

โดย: Why England 1 กรกฎาคม 2552 4:04:31 น.  

 

ทุกภาพมีเรื่องราวเลยนะคะเนี่ย ชอบจังค่ะ
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันที่ดีๆแบบนี้ ดูแล้วเหมือนตัวเองกลับสู่อดีตเลยนะคะเนี่ย ฮี่ๆ

 

โดย: sansook 1 กรกฎาคม 2552 14:41:31 น.  

 

สวัสดีค่ะ...
มารั้งท้าย หวังว่ายังคงทันได้ชมภาพขาวดำที่เจ้าของคอมเม้นท์เกิดไม่ทันนะคะ
ตัวเองไม่มีความรู้เรื่องภาพค่ะ..แต่ก็สังเกตทุกครั้งเหมือนกันว่าทำไมภาพขาว-ดำ ที่เก่าเก็บ
มักมีรอยด่างๆ สีส้มๆ แดงๆ น้ำตาลๆ บนภาพเสมอ..เป็นเพราะความเสื่อมของภาพตามกาลเวลา
หรือเป็นเพราะการเปลี่ยนสภาพของน้ำยาเคมีบางตัว...อยากทราบเหมือนกันค่ะ

ไม่รู้สิ..ตัวเองมักโหยหาบรรยากาศแบบนี้ แบบในรูปถ่าย ไม่อยากให้โลกหมุนไวเกินไปนัก
อยากเห็นต้นไม้เขียวๆ ป่ารกทึบ และทางเกวียนที่สองข้างทางมีพุ่มไม้เตี้ยๆ ขึ้นอยู่ทั่วไป
ยังหลงไหลกลิ่นหอมแปลกๆ ของดิน กลิ่นหญ้าแห้ง กลิ่นดอกไม้ป่า..
อยากเดินหาลูกไม้ เก็บอาหารป่า เห็ด หญ้า..ฯลฯ

คนแก่มักนั่งรำลึกถึงความหลัง....ใช่ไหมคะ?

 

โดย: กลีบดอกโมก 1 กรกฎาคม 2552 15:22:46 น.  

 

ภาพที่ 3 นี่ ให้อารมณ์หนังผีไทยๆนะคะ

น่ากลัวดีเหมือนกัน...


 

โดย: นักล่าน้ำตก 1 กรกฎาคม 2552 18:12:19 น.  

 

รูปขาวดำ เสน่ห์แรงเสมอ
ยิ่งขึ้นสนิม ซีเปีย
ยิ่งคลาสสิค
ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม
ชอบรูปที่สถานีรถไฟที่สุด
แมนมาก

 

โดย: สัญจร ดาวส่องทาง 1 กรกฎาคม 2552 20:46:28 น.  

 

 

โดย: เกศสุริยง 2 กรกฎาคม 2552 0:24:39 น.  

 

หวัดดีค่ะ คุณ IM หายไปไหนหลายวันเลยคะเนี่ย สบายดีรึป่าวเอ่ย

มีคำถามมาถามคุณ IM ว่า ชื่อล็อกอิน Insignia Museum เนี่ย มันมีที่มาจากอะไรคะ จากของที่สะสมรึว่าไง

ว่าง ๆ มาไขข้อข้องใจกันหน่อยนะคะ

 

โดย: Oops! a daisy 2 กรกฎาคม 2552 10:39:51 น.  

 

มีน้ำตกมาใหม่ ค่ะ

สวย ใส แต่ไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไหร่

แวะไปนะคะ...

 

โดย: นักล่าน้ำตก 2 กรกฎาคม 2552 15:03:47 น.  

 

ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะคุณim
อยากรู้จังว่าภาพที่๙คือชายหาดที่ไหนคะ...คิดถึงนะคะ

สวัสดียามค่ำ ขอให้มีความสุขอยู่ร่ำไป เกศสุริยง

 

โดย: เกศสุริยง 2 กรกฎาคม 2552 21:28:52 น.  

 

ภาพชายทะเลนั้น

ยังไม่แน่ใจว่าเป็นที่ไหนครับ

 

โดย: Insignia_Museum 2 กรกฎาคม 2552 21:43:40 น.  

 



ตามมาดูต่อค่ะ
เอาภาพสถานีรถไฟหัวหินมาฝากด้วย

 

โดย: Fullgold 2 กรกฎาคม 2552 22:00:37 น.  

 

เป็นแบบเมื่อก่อนก็ดีนะ

บ้านควาย IR COLORFULL
แสงดีมากเลยวันนี้ กดมาใหม่ :)

 

โดย: noitpituk 2 กรกฎาคม 2552 22:03:57 น.  

 

เข้ามาหวัดดีคุณ IM ตอนก่อนจะเข้านอนค่ะ ที่นี่จะเที่ยงคืนแล้ว

ขอบคุณที่เข้ามาเล่าถึงที่มาของชื่อล็อกอินนะคะ ตอนป้าเดซี่เห็นชื่อล็อกอินคุณ IM แรก ๆ ยังรู้สึกเลยว่า ชื่อเท่ห์ แล้วก็บ่งบอกรสนิยมของตัวเองดีเหลือเกิน

เข้าใจว่า คลองโรงหมู (ใช่ปะคะ) เป็นชื่อสถานที่แถว ๆ ดำเนินสะดวกรึป่าวเอ่ย

อิอิ จะปล่อยไก่หมดเล้ากันก็คราวนี้แหละ

 

โดย: Oops! a daisy 2 กรกฎาคม 2552 22:56:52 น.  

 

ใช่ครับ คลองโรงหมู (klongrongmoo) เป็นคลองคลอง
หนึ่งที่ดำเนินสะดวก อยู่ที่หน้าบ้านในวัยเด็กครับ

 

โดย: Insignia_Museum 3 กรกฎาคม 2552 5:51:56 น.  

 

สวัสดีค๊า...ยังไม่อัพบล๊อกใหม่แสดงว่าค่อนข้างยุ่ง...ดีจังที่ได้เห็นรูปสวยๆเพิ่มเติมจากเพื่อนๆ โดยเฉพาะรูปบ้านควาย สวยเหลือเกิน..
มีความสุขมากๆนะค๊า และก็ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันค่ะ

 

โดย: Why England 3 กรกฎาคม 2552 14:50:07 น.  

 

แวะมาดูค่ะ.....เกิดไม่ทันบรรยากาศเหล่านี้นะคะ แต่ก็เคยเห็นภาพเก่า ๆ ของพ่อบ้าง แต่ภาพขาวดำนี่ให้ความรู้สึกอมตะดีจริง ๆ นะคะ แต่จะถ่ายให้ดีทำได้ยากกว่าภาพสี เดี๋ยวนี้Photoshop ทำได้ทุกอย่างแต่ก็เลียนแบบยาก หรือทดแทนกันไม่ได้เนอะ

 

โดย: อันต้า 3 กรกฎาคม 2552 15:40:38 น.  

 

 

โดย: nathanon 3 กรกฎาคม 2552 16:48:17 น.  

 

ภาพที่ 2น่าจะเป็นภูเก็ต ถ่ายจากด้านสะพานหิน ที่เห็นข้างหลังคือเขาโต๊ะแซะ

 

โดย: เด็กใต้ IP: 202.12.73.4 17 กรกฎาคม 2552 18:15:50 น.  

 

ผมเกิด 2489 ยังละอ่อนเหลือเกินกับภาพเหล่านี้....63 ปี แล้ว..เหมือนเมื่อวาน..มีภาพอีกมาก ซ่อมอยู่ในเวปไซท์..ต่างชาติ... ช่วยกันหาๆ ไว้นะครับ มิตรภาพ สงครามเวียดนาม นำมาซึ่งความสูญเสียด้านวัฒนธรรมในใจไทยมากมาย...แต่ก็ทันสมัยนะครับ...

 

โดย: sak IP: 114.128.121.211 24 กรกฎาคม 2552 11:39:13 น.  

 

เคยอยู่คลองโรงหมูค่ะ

 

โดย: เด็กวิกเก่าดำเนินฯ IP: 125.27.179.72 27 กรกฎาคม 2552 14:22:58 น.  

 

ขอบคุณดำเนิน
เกี้ยมอี่ ไฉล้วน ข้าวเเห้งเป็ด กว๋ยเตี๋ยว
อร่อยมากๆ

 

โดย: ไผ่ IP: 202.149.25.241 8 กันยายน 2552 0:38:09 น.  

 

ภาพ 9 คลับคล้ายคลับคลาน่าจะเป็นชายหาดแหลมสมิหลา สงขลา หรือเปล่าครับ ดขอโทษด้วยครับ

 

โดย: เล็ก IP: 118.173.185.193 21 กันยายน 2552 23:28:06 น.  

 

ชอบทุกภาพเลยค่ะ สวยที่สุดเย้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

โดย: เกลียดการรอคอย IP: 10.2.6.100, 122.154.37.4 11 พฤศจิกายน 2552 11:33:57 น.  

 

เเรร่

 

โดย: รนี่ท ม IP: 10.2.6.100, 122.154.37.4 11 พฤศจิกายน 2552 11:36:10 น.  

 

เหนพาบเก่าก็นึกถึงอดีตขึ้นมาเลยครับตั่งแต่เด็กจนโตจนแก่แล้วเหมือนเพิ่งผ่านไปไม่นานเลยนะคับอีกสัก100ปีต่อไปจะเปงยังไงหนอคงไม่มีวันได้เหงแล้วล่ะครับว่าจะเปงเช่นไร อิอิ

 

โดย: 2500 IP: 192.168.10.114, 124.120.115.71 18 สิงหาคม 2553 12:41:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.